ไอด้านั่งอยู่หันหน้าไปอีกทางเมื่อชายหนุ่มออกรถ ในใจหล่อนอยากขอลงข้างทางเป็นที่สุด หล่อนไม่อยากจะนั่งอยู่ในนี้กับเขาเลย หล่อนเกลียดขี้หน้าผู้ชายคนนี้เป็นที่สุด สายตาหวานรีบมองทางเลี้ยวที่ชายหนุ่มขับไปคนละทางที่ไปบริษัทหล่อน
"นะ นี่คุณ นี่ไม่ใช่ทางไปบริษัทฉันนี่ คุณจะพาฉันไปไหน " เสียงหวานรีบตะโกนถามชายหนุ่มทันทีที่หล่อนรู้สึกผิดปกติ ในใจเริ่มรู้สึกไม่ดีขึ้นมาอีกครั้ง หล่อนไม่น่าหลงกลมาด้วยเลย
"นี่ ฉันบอกให้หยุดรถ อีตาบ้านี่ จะพาฉันไปไหน " เมื่อเห็นว่าไม่มีปฏิกิริยาใดๆ หล่อนจึงตะโกนถามเขาอีกครั้ง ดูเขาสิยังประคองพวงมาลัยรถเฉย รู้สึกว่าความเร็วนั้นไม่ได้ลดลงด้วยซ้ำ
"นี่คุณอัคคี ฉันถามไม่ได้ยินหรือไง หูหนวกหรือไงค่ะ " เสียงหวานนั้นเอ่ยขึ้นอีกครั้งหล่อนชักเหลืออด เมื่อเขาเอาแต่ยกยิ้มมุมปาก เขาจะพาหล่อนไปไหนเนี่ย คนบ้านี่ หล่อนยิ่งเป็นกังวลมากขึ้น เมื่อเห็นตึกที่อยู่ตรงหน้านี้หล่อนจำได้ มันเป็นคอนโดของเขา
"นี่"ปลั๊กๆ ๆ ๆ!!!!
"โอ้ย ไอด้า ผมเจ็บน่ะ" อัคคีร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อหญิงสาวทุบเข้าอย่างแรงที่ไหล่ของเขา
"เจ็บนะดีสิ ฉันอยากจะฆ่าคุณนัก คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม ฉันจะไปทำงาน"
"ผมอยากจะคุยกับคุณเรื่องคืนนั้น " อัคคีตั้งหลักสักพัก เขาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
"จะคุยเรื่องอะไร ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ "ไอด้าสะบัดหน้าหนีชายหนุ่มทันที หล่อนไม่อยากจะพูดอะไรทั้งนั้น เขาขืนใจหล่อนแล้วยังดูถูกหล่อน แบบนี้จะให้หล่อนคุยอะไร
"คุณไม่มี แต่ผมมี " อัคคีพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ เขาไม่เคยใจเย็นๆ กับผู้หญิงคนไหน อาจเป็นเพราะเขารู้สึกผิดที่ลากตัวหล่อนไปคืนนั้น
"แต่ฉันไม่อยากคุย ได้ยินมั๊ย " พาฉันออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้
"นี่ไอด้า อย่ามาทำให้อารมณ์เสียได้ไหม " อัคคีเริ่มหงุดหงิด เมื่อเห็นว่าเจ้าหล่อนเอาแต่ดื้อดึง ไม่ยอมฟังเขา
"ไม่ ๆ ๆ ฉันไม่อยากฟังอะไรจากคนเลวๆ หรอก ผู้ชายมักมาก เห็นแก่ตะ.... อุ๊บ!!! อื้ออ " เสียงนั้นขาดหายไปในทันทีที่ชายหนุ่มกดปิดมันอย่างรอดเร็ว ดวงตาหวานเบิกกว้างมากยิ่งขึ้น เมื่อเห็นว่าลิ้นร้ายกาจของเขาเข้าไปด้านในเสียแล้ว หญิงสาวพยายามหลีกหนี แต่หนีเท่าไรมันก็หนีไม่พ้น
"อื้อออ อ่อย อ๊ะ " ไอด้าเอ่ยด้วยเสียงอู้อี้ เมื่อปากสวยของหล่อนยังถูกประกบปิดอย่างแนบแน่นนั้น ชายหนุ่มบดเบียดริมฝีปากหล่อนอย่างหนักหน่วงคล้ายจะกำราบให้หล่อนหยุดที่เพื่อฟังเขา
"อืมมมมม......." อัคคีครางอย่างพอใจ เมื่อเขารู้สึกว่าหล่อนเริ่มสงบลงบ้างแล้ว ด้วยความช่ำชองประสบการณ์ที่มีของชายหนุ่ม ไม่นานนักลิ้นเล็กของไอด้าก็หยุดหนีเขาแล้วปล่อยให้เขากลืนกินมันอยู่อย่างนั้น มือสวยของหล่อนกำเสื้อเชิ๊ตของชายหนุ่มนั้นแน่นจนยับยู่ยี่ ตอนนี้สมองของหล่อนเริ่มมึนตื้อขึ้นมาเสียดื้อๆ
"อ๊ะ อ๊ะ " ร่างบางสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงความร้อนจากมือหนาที่ตอนนี้สอดเข้าไปในเสื้อเกาะอกสีดำของหล่อนนั้น เนื้ออวบหยุ่นของหล่อนถูกเขากอบกุมมันอย่างจัง ร่างบางดิ้นเร่าไปมาเพื่อจะขัดขืน หล่อนไม่อยากเชื่อว่าหล่อนเองจะหลงเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบของเขา
ตืดๆ ๆ ๆ!!!! ยังไม่ทันที่หล่อนจะเตลิดไปมากกว่านี้ เสียงมือถือเครื่องหรูของเขาก็ดังขึ้นขัดจังหว่ะ จ๊วบบบอ่า เสียงชายหนุ่มถอนจูบออกอย่างน่าเสียดาย
"ใครโทรมาว่ะ " เขาสบถออกมาพรางรีบกดปิดเครื่องทันทีที่เห็นรายชื่อสายเรียกเข้า ไอด้ารีบผละออกจากการเกาะกุมของเขาแล้วรีบติดกระดุมเสื้อคลุมนั้น เขาปลดมันตอนไหนหล่อนไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ หญิงสาวอาศัยจังหวะที่เขาเผลอจะเปิดประตูนั้นออก
แกร็ก!!!!
"อื้ออ ...." หล่อนร้องอย่างหัวเสีย เมื่อคนตัวโตรู้ทันแล้วกดเซ็ลทรัลล็อคอย่างรวดเร็ว
"จะหนีไปไหน ไอด้ามาคุยกันก่อน " อัคคีพูดด้วยเสียงที่อ่อนโยนกว่าตอนแรก เขาไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมเขาต้องทำถึงขนาดนี้
"ไม่อยากคุยแล้ว คนบ้า มาจูบฉันอีกแล้ว เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ " หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำตาคลอ เขาดูถูกหล่อนด้วยวิธีนี้อีกแล้ว
"ผมไม่ได้ตั้งใจ ก็คุณเอาแต่ด่าผมนี่ แล้วจะคุยกันรู้เรื่องไหม " เขาพูดเป็นเชิงขอร้อง ภายในรถนั้นไม่มีเสียงใดๆ ดังขึ้นมาอีก มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศในรถเท่านั้น
"มีอะไรจะพูดก็ว่ามา " หญิงสาวเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ เมื่อเห็นว่ามันเสียเวลามามากพอแล้ว หล่อนไม่ได้มองหน้าเขา สายตาหวานมองตรงไปยังหน้าคอนโดนั้น
"เรื่องคืนนั้นผมขอโทษ ผมเมามาก ผมคิดว่าคุณเป็นผู้หญิงอย่างว่า " เขาเอ่ยออกมาตามตรง อัคคีรู้สึกผิดจริงๆ ที่ทำกับหล่อนแบบนั้น
"หึ คงทำแบบนี้กับผู้หญิงหลายคนหล่ะสิ " ไอด้านึกถึงเรื่องคืนนั้นก็โมโหเขาขึ้นมาอีก หล่อนเกลียดผู้ชายมักมากแบบนี้เป็นที่สุด
"เอาเป็นว่า คุณจะเอายังไงก็ว่ามา"
"ฉันไม่เอายังไงหรอก เรื่องคืนนั้นฉันคิดว่าทำทานแล้วกัน และคุณก็อย่ามายุ่งกับฉันอีก " หญิงสาวเอ่ยขึ้น ทั้งๆ ที่ในใจรู้สึกเจ็บปวด ที่ถูกเขาย่ำยี แต่จะให้หล่อนทำยังไง ในเมื่อเรื่องมันผ่านไปแล้วและคนอย่างเขาจะให้ทำยังไง อย่างมากก็เงินฟาดหัวสักก้อนสองก้อน
อัคคีได้ฟังดังนั้นก็เริ่มอารมณ์เสีย อวดดี อวดเก่ง "หึ คุณแน่ใจนะว่าไม่เรียกร้องอะไร " เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงห้วนๆ
"ใช่ ฉันแน่ใจ ฉันไม่แคร์ เพราะของแบบนี้เขาไม่ถือกันแล้ว " อัคคีหันมามองหน้าคนพูดทันที ผู้หญิงสมัยนี้นี่ยังไง คงเห็นว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องปกติสินะ สายตาคมหรี่มองใบหน้าสวยที่เชิดขึ้นเอาย่างถือดี เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่เท้ายาวของเขาก็เหยียบคันเร่งออกมาจากตรงนั้นโดยเร็ว ในใจหงุดหงิดกับสิ่งที่ได้ยินหญิงสาวพูด แต่อย่างน้อยเขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาเล็กน้อย
หลังจากไอด้าลงจากรถหรูของเขานั้น หญิงสาวก็รีบเดินแกมวิ่งเข้าที่ทำงานอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่ว่าหล่อนกลัวสายหรอก แต่หล่อนอยากออกมาจากที่ตรงนั้นอย่างรวดเร็วที่สุด หล่อนรู้สึกเจ็บลึกๆ กับสิ่งที่ถูกกระตุ้นในวันนี้ เขากับหล่อนไม่น่าจะมาเจอกันอีกเลย มันทำให้ภาพที่หล่อนพยายามลืมนั้นผุดขึ้นมาใส่สมองหล่อนอีกครั้ง
"เอาวะ ไอด้า เราตัดสินใจดีแล้ว " หล่อนพูดกับตัวเองเบาๆ ทุกอย่างมันได้ผ่านพ้นไปแล้ว ขอเพียงเขาอย่ามายุ่งกับหล่อนอีกเป็นพอ หล่อนรีบสลัดคราบน้ำตาที่มันร่วงออกมาจากขอบตานั้นแล้วตั้งใจทำงานในทันที
อัคคีนั่งเขี่ยปากกาหมุนไปมาอยู่กับโต๊ะทำงานนั้น ในใจนึกถึงคำพูดของหญิงสาวที่ถือดีและดื้อรั้นคนนั้น เขาไม่อยากจะเชื่อว่าหล่อนจะไม่เรียกร้องอะไรจากเขาเลยแม้แต่น้อย แล้วแบบนี้เขาจะเอายังไงต่อดี ชายหนุ่มนึกในใจ
ตึ่งตึ่ง ๆ ๆ!!!! เสียงข้อความเด้งขึ้นหน้าจอมือถือ ทำให้อัคคีหยิบมันขึ้นมาดู ดวงตาคมจ้องตัวอักษรที่ปรากฏขึ้นนั้น มันเป็นข้อความจากน้องสาวต่างมารดาของแม่ไก่หลงของเขานั้น
มีนา:คุณไฟขา บ่ายนี้มารับมีนานะคะ
อัคคี: กี่โมงดีครับ
มีนา: ประมาณบ่ายสามค่ะ
อัคคี:ได้ครับยินดี
เมื่อเขาวางมือถือลง สายตาคมก็เหม่อมองอย่างเจ้าเล่ห์ ในเมื่อเจ้าหล่อนไม่อยากให้เขามายุ่งวุ่นวายกับหล่อน เขาก็จะยิ่งวุ่นวายมากขึ้น คนอย่างเขาไม่เคยถูกผู้หญิงปฏิเสธ มีแต่จะคุกเข่ามาขอนอนใต้ร่างเขาทั้งนั้น อัคคีลูบคางตัวเองเบาๆ เมื่อนึกถึงโพรงปากหวานที่นุ่มดุจใยไหมนั้น
หึ ไอด้า แม่ไก่หลงที่แสนจะหยิ่งผยอง ผมอยากจะรู้ว่าคุณจะทำยังไงในเมื่อผมยังวุ่นวายอยู่ที่บ้านคุณอย่างนี้ ......>>>>>