เสียงครวญครางปนความเจ็บปวดดังทั่วทุกอณูของห้องสี่เหลี่ยม มาเบลน้ำตาไหลพราก เมื่อเขาสอดตัวตนเข้ามาในตัวพร้อมกับกดย้ำจนส่วนตรงนั้นของเราติดกัน เธอคิดว่าช่วงล่างเธอมันคงได้พังเอาก็วันนี้แล้วแหละ คนอะไรใหญ่อย่างกับขวดโค้ก
“อื้ออ บ เบา เบาหน่อย” เธอบอกเขาเสียงแผ่ว
“อย่าเกร็ง ยิ่งเกร็งจะยิ่งเจ็บ”
วาฟิกซ์ยิ้มชอบใจ มองหน้าเธอทีไรยิ่งภูมิใจที่เขาได้มาเจอเธอ การได้จูบคนที่ดูอ่อนโยนไร้เดียงสาเป็นครั้งแรก มันเป็นอะไรที่โคตรฟิน ยิ่งไปกว่านั้นเขายังได้เป็นคนแรกของเธออีกต่างหาก
นี่ถือว่าเขาเห็นใจแล้วก็สงสารเธอมากแล้วนะ เพราะเขาค่อยๆจับยัดและขยับสะโพกเข้าออกอย่างช้าๆ ไม่ได้เร่งรีบและรุนแรงอะไรเลย
“นมเธอแม่ง...” โคตรใหญ่
ยิ่งมองก็ยิ่งหลง ยิ่งอยากจับอยากดูด อยากบีบจนมันเป็นรอยมือเขาไปเลย ว่าแล้วก็ไม่รอช้า รีบเอื้อมมือไปเฟ้นเค้นยังหน้าอกอวบอูมของเธออย่างบ้าคลั่ง จากนั้นก็แลบลิ้นเลียไปยังปานป้านสีชมพูอ่อนอย่างคนหิวโหย
แม้ปากเขาจะยุ่งอยู่กับการดูดนมเธอสลับข้างไปมา ช่วงล่างเขาก็ยังคงกระแทกสะโพกสอบเข้าใส่ไม่ยั้งเช่นเดียวกัน
“อ๊ะ อื้อออ ค คุณ มันแปลก”
“แปลกยังไง”
“...” มันเจ็บ มันจุก มันเป็นความรู้สึกเหมือนกำลังปวดฉี่
มาเบลไม่กล้าพูดออกมา เพราะเธอเขินอายเขาที่เพิ่งจะได้เจอกันครั้งแรก เธออยากจะบอกให้เขาลุกออกไปก่อน เพราะตอนนี้เธอกำลังอยากจะฉี่แตกออกมาเหลือเกิน
“อ่าส์ ไม่ไหวแล้วเบล”
ร่างสูงเชิดหน้าขึ้น จับรวบเรียวขาเธอทั้งสองข้างด้วยแขนที่แข็งแกร่ง จากนั้นก็สาดสะโพกสอบเข้าใส่เธอจนเธอตัวโยน และสุดท้ายทั้งเขาและเธอก็พากันเกร็งกระตุกถี่รัว
หมอวาได้ปลดปล่อยน้ำในกายสีขาวขุ่นออกจากตัวจนสมองขาวโพน รวมถึงหญิงสาวตัวเล็กที่นอนอยู่ใต้ร่างเขาด้วย เธอเองก็รู้สึกแปลกจนหูอื้อไปหมด
มาเบลคิดว่ามันจบแล้ว เธอจะได้เป็นอิสระจากห้องนี้และเขาสักที ทว่าดวงตากลมโตกลับต้องเบิกโพรงกว้างขึ้นอีกครั้ง เมื่อร่างสูงถอดถอนตัวตนของเขาออก และคว้าเอาถุงคอนดอมอันใหม่ขึ้นมาฉีก พร้อมกับสวมใส่มันอีกครั้ง
“อ อีก รอบเหรอคะ”
“คิดว่าแค่นี้ฉันจะพอเหรอ”
“ต แต่ น หนู”
“ทำไม?” อึกอักอยู่ได้ เป็นอะไรก็พูดดิวะ
“หนูจุกค่ะ เจ็บด้วย TT”
มาเบลเบ้ใบหน้าใส่คนที่กำลังเตรียมพร้อมจะเริ่มบทรักร้อนนั้นอีกครั้ง เห็นหน้าเธอแล้วเขาก็อยากจะใจอ่อน ทว่าความต้องการของเขามันดันมีมากกว่าความใจดี
“สนเหรอ? ฉันจ่ายให้เธอไปตั้งเยอะนะ น้ำเดียวสองแสน แพงไป”
“แต่คุณไม่ได้ตกลงกับหนูก่อนนี่คะ” หาข้ออ้างมาพูดเพื่อให้เขาไม่ทำมัน
“จะตกลงหรือไม่ตกลง ขึ้นอยู่กับความพอใจของเจ้าของเงิน”
“ต แต่...อื้มมม” คำพูดมากมายถูกกลืนลงคอไปทันที เมื่อร่างสูงโน้มใบหน้าเข้ามาประกบจูบเพื่ออุดปากเธอซะ
พอเห็นเธอเคลิ้ม มือหนาก็จับเอาท่อนเอ็นสอดเข้าไปยังช่องทางรักของเธออีกครั้ง และครั้งนี้เขาก็ดันสะโพกเข้าใส่ตัวเธอจนสุดโคนในรอบเดียว
ผ่านไปค่อนคืน กว่าคนใจร้ายโรคจิตจะยอมปล่อยให้เธอได้พัก มาเบลก็แทบไม่เหลือแรงให้ก้าวขาลงจากเตียงแล้ว ยังดีที่เขายังมีความเป็นคนอยู่บ้าง หากว่าเขาเอาแต่ใจตัวเองกว่านี้อีกหน่อย เธอคงได้ตายอนาถสภาพศพไม่น่าดูแน่ๆ
สองวันต่อมา
มาเบลกลับมาทำงานตามปกติ หลังจากที่เธอขอลางานไปเพราะป่วย แต่พอกลับมาวันนี้ชีวิตเธอกลับยังคงไม่สงบสุขอยู่อีกเหมือนเดิม
“ไม่เอาแล้วค่ะ หนูไม่ไปแล้ว” รีบเดินหนีเจ๊แคทที่เอาแต่บอกให้เธอขึ้นไปรับลูกค้าคนเดิม
“คราวที่แล้วหนูยังไม่ได้เคลียร์กับเจ๊เลยนะ” หันมาพูดใส่อย่างงอนๆ
เมื่อวันก่อนเจ๊แคทมาสารภาพกับเธอ ว่าวันนั้นเจ๊เป็นคนตั้งใจหลอกให้เธอขึ้นไปหาหลานเขาเอง เพราะเห็นว่าเธอเป็นหญิงสาวน่ารักหน้าตาดี และนิสัยก็ดูเข้าตาสุดๆ มาเบลเป็นเด็กที่แคทรีนรักมากและดูแลเหมือนลูกสาวคนหนึ่ง อาจจะเป็นเพราะว่าเธอยังไม่มีลูกเลยสักคน ทั้งชีวิตเลี้ยงมาแต่หลานผู้ชายจนเบื่อ พอได้รู้จักมาเบลจึงถูกชะตาและอยากรับมาเป็นลูกสาวตัวเอง
“ใหญ่เกินหนูรับไม่ไหวหรอก”
“แต่ลูกค้าอยากได้เรานะเบล” ขอร้องแบบอ้อนวอน เพราะรำคาญไอ้หลานบ้ากาม ที่เอาแต่มากอดมาหอมขอร้องให้เธอเรียกมาเบลมาให้ทุกวัน ขนาดบอกว่าเธอป่วยมันก็ยังไม่ยอมหยุดพูด ชักเริ่มไม่แน่ใจ ว่าจริงๆแล้วมันเป็นหมอจิต หรือ โรคจิตกันแน่
“หนูไม่ไหวอ่ะเจ้ ของเขามันใหญ่เกิน นี่หนูก็เจ็บยังไม่หายเลย” ก้มหน้ามองของสงวนของตัวเอง วันนั้นหลังจากออกมาจากห้องได้ เธอก็ถูกไข้กินจนลุกไม่ขึ้นเลย
“เฮ้อ...งั้นเจ๊คงต้องทนรำคาญมันต่อไปสินะ”
ถามว่าเห็นใจไหม บอกเลยว่าไม่! เจ๊แคทต่างหากที่ต้องเห็นใจเธอ เพราะเธอถูกหลานเจ๊รังแกจนปวดเนื้อปวดตัวไปหมด แต่ถ้าพูดถึงว่าเงินที่เขาจ่ายมามันช่วยเธอได้ไหม ก็บอกเลยว่าเยอะ เธอสามารถเอาเงินนั่นไปจ่ายหนี้ที่ค้างและให้พ่อกับแม่ได้สบาย
หากใครสงสัยว่าเธอโกรธเจ๊แคทไหม ก็คงยอมรับตรงๆว่าโกรธ โกรธมาก หลอกเธอไปทรมานชัดๆ แต่ก็เข้าใจในความหวังดีของเจ๊ เพราะเจ๊พูดเสมอว่าอยากให้เธอรู้จักกับหลานตัวเอง แต่พอได้รู้จักแล้ว ก็ไม่อยากรู้จักเขาอีกเลย
คนอะไร อึดชะมัด!
รพ. พิสิฐจิรัช
“ไอ้สองมึงว่างไหมวะเย็นนี้”
เจ้าของชื่อละสายตาออกจากหน้าจอโทรศัพท์ขึ้นมามองเพื่อนร่วมที่ทำงาน ที่เข้ามานั่งในห้องพักเขาอย่างเบื่อหน่าย
“ว่าง มีไรวะ”
“กูว่าจะชวนพวกมึงไปนั่งดื่มกันหน่อย”
“ที่?”
“เมลโรสฯ” ร้านประจำ ไปจนได้เมมเบอร์ แต่ถึงไม่ไปบ่อยเขาก็ได้เมมเบอร์จากการเป็นหลานเจ้าของร้านอยู่แล้ว
“มึงเปลี่ยนร้านบ้างไม่ได้ไงวะ”
“ไม่เปลี่ยน กูจะปลอกลอกเงินพวกมึงให้ป้ากูเยอะๆ” ธุรกิจครอบครัว โทษทีนะเพื่อน
“ตกลงมึงว่างนะ กูได้ไปชวนไอ้ปรินต่อ”
ปัง!
ไม่รู้มันจะถามทำไม ในเมื่อมันถามเสร็จแล้วเดินออกไปจากห้องพักของเขาเลย โดยที่เขายังไม่ทันได้ตอบอะไรมันด้วยซ้ำ ไอ้วานี่มันเหมาะกับการเป็นจิตแพทย์จริงๆ แต่ความจริงมันควรจะให้หมอข้างๆห้องมันตรวจอาการมันบ้างก็ดีนะ สมาธิสั้นฉิบหาย!
แชตกลุ่ม : ไข่ 4 ฟองวางอยู่บนโต๊ะ
วาฟิกซ์ไวอากร้า: ไอ้ปรินโอเคนะ พวกมึงอะ @ไม่ใช่ฟันปลอม พี่เน้นฟันจริง @ไอ้ตี๋หิดสอง
ไอ้ตี๋หิดสอง: กูกำลังจะตอบ มึงอะรีบไปไหนไอ้ควาย!
ไม่ใช่ฟันปลอม พี่เน้นฟันจริง: โอเคอยู่แล้ว
ปรินสามขา พันรอบเอว: โอเคเหี้ยไรมึง มาถึงก็บังคับให้กูไปอย่างเดียว @วาฟิกซ์ไวอากร้า
ใครจะด่าจะว่ายังไงไม่รู้ รู้แค่ว่าวันนี้เขาต้องได้เจอเธออีกครั้งให้ได้
เสียดายนัก วันนั้นน่าจะขอคอนแทคเธอไว้ จะได้ไม่ต้องว้าวุ่นใจอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้
วาฟิกซ์เดินยิ้มร่ากลับห้องพักตัวเองอย่างคนสบายใจ เพราะเขาได้จัดการเตรียมแผนการทุกอย่างเอาไว้หมดแล้วเรียบร้อย ต่อให้เธอไม่ยอมเจอหน้าเขายังไง วันนี้เขาก็ต้องจัดการพาเธอมาคอนโดเขาให้ได้ ต่อให้ต้องฉุดก็ยอม ถึงยังไงซะสามน้ำคืนนั้นมันก็คงทำให้เธอใจอ่อนกับเขาได้บ้างล่ะ
สองแสนที่จ่ายไปไม่ใช่น้อยๆ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับขนหน้าแข้งร่วง เงินในบัญชีเขามีอีกเป็นสิบๆล้าน ให้เอาเงินมาล่อเธออีกเป็นล้านเขาก็ยินดี
นาฬิกาชี้เข้าที่เลขสิบ เป็นเวลาบ่งบอกว่าตอนนี้สี่ทุ่มแล้ว ถึงเวลาที่เขาได้นัดเอาไว้กับพวกมัน
หมอหนุ่มแต่งตัวโดยใส่เสื้อเชิ้ตดูดี คู่กับกางเกงสแลคดำขาขาว เซ็ตผมให้เป็นทรงพร้อมกับฉีดน้ำหอมซะฟุ้งจนตัวเองไอเพราะฉุนกลิ่น
แค่ก แค่ก!
“กูฉีดเยอะไปไหมวะ” มองหน้าตัวเองในกระจกพร้อมกับเอ่ยถาม
“งี้แหละดี เอาให้เธอได้กลิ่นจนเหลียวหลังมามองเลย”
แต่ถ้ากลิ่นยังทำให้เหลียวหลังได้ไม่พอ เดี๋ยวพี่จะทำให้น้องเหลียวหลังเป็นกวางน้อยคอยมองคนควบอยู่ด้านหลังเองนะน้องนะ