ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสองหลังจากที่พวกเราทั้งหมดเดินทางมาถึงเกาะเสม็ดก็แยกย้ายกันเข้าพักประจำห้องของตัวเอง คนโปรดนอนกับคนเก่ง กรุณาก็นอนกับคนดี ส่วนพลอยไพลินไม่ต้องพูดถึงจองห้องใหญ่สุดที่จุได้สี่คน
ท่ามกลางแสงแดดร้อนระอุในช่วงบ่ายหลังจากเก็บของเสร็จคนโปรดก็เดินออกมานอกบ้านเพื่อชื่นชมบรรยากาศรอบๆ แต่ก็ได้เพียงครู่เดียวเท่านั้น เพราะแดดร้อนจนร่างกายของเขาแทบจะเผาไหม้เสียให้ได้
“อย่าออกไป”
“ทำไมคะ?”
“แดดมันร้อนเดี๋ยวก็ไหม้หมดหรอก”
“แต่ณาอยากออกไปเดินเล่น” เธอมีท่าทางตื่นเต้นราวกับเพิ่งเคยมาทะเลครั้งแรกสร้างความแปลกใจให้คนโปรดที่ยืนมองอยู่ไม่น้อย
“มันร้อน”
“ไม่เป็นไรค่ะ ณาทาครีมกันแดดแล้ว ใส่เสื้อกันแดดด้วย แถมมีร่มอีกต่างหาก” เธอสาธยายทุกอย่างที่มีให้คนโปรดฟัง นั่นยิ่งทำให้เขานิ่งพูดอะไรไม่ออกไปเลย
กรุณาจ้องมองใบหน้าหล่อของคนตรงหน้านิ่ง เธออุตส่าห์เตรียมตัวอย่างดีก่อนจะลงมา ทำไมเขาต้องห้ามเธอด้วยนี่เป็นครั้งแรกที่คนอย่างกรุณาได้มาเที่ยวทะเล ด้วยความที่บ้านไม่ได้มีฐานะอะไรขนาดนั้น บ้านของเธอแค่พอมีพอกิน พ่อบวชเป็นพระอยู่ที่วัด ส่วนแม่ก็เป็นแม่ชีตามพ่อไปติดๆ แล้วเธอก็มีพี่ชายหนึ่งคนอาศัยอยู่กับยายที่ต่างจังหวัด นานๆ ทีเราถึงจะได้เจอกัน
เธอฝันมาเสมอว่าจะต้องได้มาทะเลสักครั้งในชีวิต หลังจากที่เก็บภาพตามนิตยสารมานานในที่สุดวันนี้ความฝันของเธอก็เป็นจริง ได้มาเที่ยวทะเลวันนี้เธอตั้งใจจะสำรวจเกาะแห่งนี้ให้ทั่ว ถึงแม้ก่อนหน้าเธอจะชวนคนดีแล้วแต่ก็ถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยแต่ไม่เป็นไรเธอไปคนเดียวก็ได้อยู่
“พี่โปรดไปหาไรกินกันเก่งหิว”
“ไม่เอาร้อน”
“แต่เก่งหิวอะพี่ ไปแป๊บเดียวเอง…แล้วนี่จะไปไหนเหรอพี่ณา”
“ไปเดินเล่นนะ ขอตัวนะ”
“เดี๋ยวสิ เก่งไปด้วยกำลังหิวพอดี”
“จะทำอะไรไอ้เก่ง”
“ทำคะแนนไงพี่”
“นี่มึงชอบจริงๆ”
“เปล่าอะ แค่ขำๆ เล่นเอาสนุกนะพี่ ว่าแต่พี่โปรดไม่สนใจเล่นหน่อยเหรอ ไหนบอกว่าเธอดูน่าค้นหาไง”
“ว่าจะเปลี่ยนใจแล้วล่ะ เห็นคนดีห่วงเพื่อนแบบนั้นแล้วไม่อยากทำ”
“ก็อย่าให้พี่คนดีรู้สิ”
“หึ!” คนโปรดละสายตาจากน้องชายมองไปยังแผ่นหลังบางที่กำลังเดินออกไปจากบ้าน
ระหว่างที่เดินทางมาเขาสังเกตเห็นว่าน้องสาวมีท่าทางเป็นห่วงเป็นใยเธอ เขาจึงคิดว่าจะไม่ทำอะไรเพราะกลัวจะทำให้น้องสาวเสียใจ แต่คิดอีกทีถ้าเขากับน้องชายทำเรื่องนี้ลับๆ แบบนั้นน้องสาวของเขาก็จะไม่รู้
“พี่ณารอเก่งด้วย”
“ไหนบอกว่าหิวทำไมไม่เดินไปทางร้านอาหารล่ะ” กรุณาเอ่ยถามขึ้น ทางที่เธอเดินไปกับทางที่มีอาหารขายมันคนละทางกัน เธอเลือกมาทางนี้เพราะเห็นจากในรีวิวว่ามีจุดสวยงามอยู่ก็เลยเดินมา
“เก่งไปกับพี่ก่อนก็ได้ เก่งไม่มีร่มอะแดดมันร้อนมากเลย พี่ไม่ร้อนเหรอ” น้ำเสียงอ้อนแบบฉบับคนเก่งที่ตกผู้หญิงมานักต่อนัก เขายกมันมาใช้กับเธอ ทว่ากรุณากลับมองเขานิ่งไม่มีปฏิกิริยาเขินอายอะไรแสดงออกมา
“เก่งเอาร่มไปก็ได้พี่มีเสื้อ เอาไปสิ”
“ห๊ะ!”คนเก่งที่ลงทุนใช้เสียงสองกลับถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย หรือเธอเป็นพวกตายด้านหรือไม่ชอบผู้ชายขี้อ้อน ลองเล่นบทโหดหน่อยเป็นไง
“รีบเดินไปสิ ชมวิวเสร็จจะได้ไปหาอะไรกินต่อ” เสียงของคนโปรดดังขึ้นจากด้านหลังดับฝันของน้องชายที่กำลังจะเล่นบทโหดอย่างที่นึกเอาไว้จนหมดสิ้น ร่มคันเล็กถูกพี่ชายฉกชิงไปถือ ก่อนจะเดินนำออกไปปล่อยให้เขามองตามตาปริบๆ
“หึ! ร้ายนักนะพี่โปรด” คนเก่งบ่นพึมพำมองตามแผ่นหลังพี่ชายที่เดินห่างออกไป เขารีบสาวเท้าวิ่งตามไปอยู่ใต้ร่มคันเล็ก จะว่าไปอากาศก็ร้อนจริงๆ แค่ยืนอยู่แป๊บเดียวรู้สึกร่างกายกำลังจะเผาไหม้
หมับ!
กรุณาหยุดฝีเท้าในตอนที่เธอกำลังถ่ายรูปและชมวิวอันสวยงามผ่านเลนส์ของมือถือ คนตัวเล็กถูกคว้าเอวคอดให้หันมาเผชิญหน้ากับชายหนุ่มร่างสูง
“ระวังหน่อยสิตกลงไปศพไม่สวยนะ”
“ขอบ…ขอบคุณค่ะ” กรุณายกมือขึ้นจับเสื้อยืดตัวโคร่งของคนโปรดเอาไว้ เมื่อเธอรับรู้ได้ว่าเขาช่วยเธอไว้ไม่ให้ตกจากโขดหินสูง
“ลงไปได้แล้ว บนนี้อันตราย เธอไม่ระวังตกลงไปตายเดี๋ยวจะมาโทษฉันทีหลัง”
“ณาไม่ทำแบบนั้นหรอกค่ะ พี่อุตส่าห์ช่วยณาเอาไว้แท้ๆ”
“ถ้าสำนึกบุญคุณก็ลงไป”
“ค่ะ”
“โอเครึเปล่าข้างบนนะ”คนเก่งตะโกนถามขึ้นมาจากด้านล่างของโขดหิน ด้วยความหิวและอากาศที่ร้อนทำให้เขาเลือกที่จะนั่งรออยู่ข้างล่างแทน
“ไม่มีอะไรกำลังจะลงไป”
“รีบๆ หน่อยได้มั้ย เก่งหิวจะเดินลงไปจับปลาในทะเลมาสวบแล้วนะ”
“บ่นจังว่ะ แล้วทำไมมึงไม่ไปหาของกิน”
“ก็เก่งอยากพาพี่ณามาเดินเล่นก่อน”
“หึ!” คนโปรดส่ายหน้าให้น้องชาย
“ถ้าอย่างนั้นเราไปหาอะไรกินก่อนก็ได้ค่ะ” กรุณาบอกอย่างเกรงใจ ทั้งที่เธอไม่ได้ขอให้พวกเขามาด้วย แต่กลับเป็นเธอที่รู้สึกเกร็งไปหมด
คนโปรดเบือนสายตามองท่าทางของคนตัวเล็กนิดหน่อย ก่อนที่มือหนาจะหยิบเอาบุหรี่ขึ้นมาเพื่อสูบแต่ก็โดนคนตัวเล็กว่าให้เสียก่อน
“ห้ามสูบนะคะ”
“ทำไม! แพ้?”
“เปล่าค่ะ แต่มันไม่ดีต่อธรรมชาติ แล้วถ้าพี่เกิดทิ้งก้นบุหรี่ไว้ที่ชายหาดก็จะเป็นขยะอีก ไหนจะเรื่องสุขภาพมันไม่ดีเลยนะคะ” กรุณาสวดคนโปรดยับจนเขาต้องรีบเก็บซองบุหรี่ใส่กระเป๋ากางเกงเหมือนเดินแล้วเดินออกไปด้วยความหงุดหงิด
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เหมือนเจอพี่คนดีเพิ่มอีกคนเลย” คนเก่งหัวเราะเย้ยพี่ชาย
“พี่พูดอะไรผิดเหรอ” กรุณาเอ่ยถามคนเก่งด้วยความประหม่า ยอมรับเลยว่าเธอกลัวพี่ชายของคนดีตั้งแต่แรกเห็น ทั้งท่าทางเย็นชา ใบหน้าเรียบนิ่ง ไหนจะคำพูดแต่คำที่ออกมาจากปากเขาอีก
“พี่ณาพูดไม่ผิดหรอก แต่พี่โปรดไม่ชอบคนขี้บ่นนะ แค่พี่คนดีคนเดียวก็ทำพวกเราหูชากันหมดแล้ว พี่โปรดเขาชอบพวกขี้อ้อน เก่งก็ชอบแบบนั้นนะ” คนเก่งเผยรอยยิ้มมีเลศนัยให้กรุณาที่ยืนอยู่ข้างกาย
“…” กรุณากัดริมฝีปากเข้าหากันแน่น ก่อนจะเดินตามหลังพวกเขาสองพี่น้องไปเงียบๆ จนถึงร้านอาหาร
“อยากกินอะไรก็สั่ง” เล่มเมนูถูกส่งให้กรุณาอย่างไม่เต็มใจ คนโปรดเลือกที่จะมองออกไปยังทะเลกว้างแทนโดยไม่สนใจสายตาของเธอที่มองเขาอยู่
“เดี๋ยวพี่โปรดก็หาย คงหิวแหละพี่ณาสั่งเลยอยากกินอะไร”
“…” กรุณาละสายตาจากคนเจ้าอารมณ์มาสนใจเมนูที่อยู่ในมือ อาหารหลายอย่างมีดูน่ากินมากแต่เมื่อเห็นราคาเธอได้แต่กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ บางอย่างมันแพงกว่าเงินที่ติดมาในกระเป๋าเธอเสียอีก
“พี่เอาข้าวไข่เจียวแล้วกัน”
“อะไรกัน พี่มาทะเลทั้งทีจะกินข้าวไข่เจียวทำไม มาเก่งสั่งเอง”
“แต่…” เมื่อเห็นว่าคนเก่งจัดแจงสั่งอาหารหลายอย่างด้วยตัวเอง เธอจึงทำได้เพียงนั่งเงียบๆ ไม่พูดอะไรต่อ
รอไม่นานอาหารทั้งหมดก็ถูกนำมาเสิร์ฟบนโต๊ะ กรุณามองอาหารทุกจานด้วยความตื่นตาไม่กล้าแม้แต่จะตักอะไรมาวางในจาน จนคนเก่งเห็นอาการเกร็งๆ จึงตักอาหารมาใส่จานเธอแทน
“ขอบคุณค่ะ”
“กินเยอะๆ ครับ เมื่อเช้าเก่งเห็นพี่กินน้อย อาหารที่จุดพักคงไม่ถูกปากสิท่า เหมือนเก่งเลย”
“พี่แค่ไม่ค่อยหิวนะ”
ตลอดเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงเต็ม มีแต่เสียงของคนเก่งที่พยายามชวนกรุณาคุย แต่ไม่ว่าเขาจะพูดประโยคยาวแค่ไหนเธอก็มักจะตอบเขาเพียงสั้นๆ เท่านั้น