ตกเย็นทุกคนก็ออกมาด้านนอกพร้อมจัดโต๊ะล้อมวงกันกินข้าวท่ามกลางลมทะเลที่พัดเข้ามา อากาศตอนนี้ผิดกับตอนเช้าอย่างลิบลับ
“เมื่อบ่ายไปเที่ยวไหนมาบ้างณา” คนดีเอ่ยถามขึ้นหลังเธอหลับเป็นตาย ตื่นมาอีกทีก็เห็นเพื่อนสนิทนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่มุมห้อง
“ไปตรงนี่เอง พอดีพี่โปรดกับเก่งเขาไปด้วยนะ ณาเกรงใจเลยไปไม่ไกลมากนัก”
“พี่โปรดกับไอ้เก่งเนี่ยนะ…ผีเข้ารึไง” คนดีเอ่ยถามขึ้นด้วยความตกใจ แต่ประโยคหลังเธอเลือกที่จะพูดเสียงเบาออกมาเพื่อนไม่ให้อีกฝ่ายได้ยิน
“ทำไมเหรอ พวกเขาไม่ชอบเที่ยวเหรอ”
“อย่างสองคนนั้นนะเหรอ ไม่คลับก็บาร์ ไม่บาร์ก็สนามแข็งรถ มีอยู่แค่นั้น เที่ยวธรรมชาติอย่าหวัง เราชวนจนปากจะฉีกถึงหูพวกเขายังไม่ยอมพามาเลย นี่ก็ไม่รู้ว่านึกคึกอะไรถึงตามมาด้วย”
“พวกเขาคงเป็นห่วงคนดีแหละ เป็นผู้หญิงมาเที่ยวแบบนี้”
“เหอะ! กลัวจะเล่นพิเรนทร์อะไรมากกว่า ณาก็ระวังไว้นะอย่าเข้าใกล้สองคนนั้นมากเกินไป โดยเฉพาะไอ้เก่ง”
“เข้าใจแล้วๆ ยกของกินไปกันเถอะพวกเขาคงหิวแย่แล้ว” สองมือบางยกถาดบาร์บีคิวที่เธอกับคนดีย่างเสร็จไปเสิร์ฟที่โต๊ะที่มีทุกคนนั่งอยู่
“กินอะไรดีแม่ชี เหล้าหน่อยมั้ย”
“ไม่เอาอะ เราไม่เคยกินเดี๋ยวเป็นภาระพริกกับคนดีเปล่าๆ”
“งั้นเอาน้ำส้มแล้วกัน นี่จ้า” พลอยไพลินคอยบริการเพื่อนอย่างดี
“ไม่ลองหน่อยเหรอครับ ถ้ากลัวเป็นภาระพี่พริกกับพี่คนดีมาเป็นภาระเก่งก็ได้นะ” คนเก่งว่าจบก็เลื่อนสายตาไปมองคนตัวเล็ก ซึ่งกำลังยกน้ำส้มเข้าปาก ก่อนเขาจะหัวเราะออกมาเบาๆ
“ว่าแต่พรุ่งนี้พี่อยากไปเที่ยวไหนมั้ย เก่งพาไปได้นะ”
“ไม่เป็นไรดีกว่าพี่เกรงใจนะ”
“เกรงใจทำไม เราไม่ใช่คนอื่นคนไกลกันสักหน่อย”
“กูไปห้องน้ำก่อนนะ” เสียงของคนดีดังขึ้นทำให้กรุณาที่นั่งอยู่ข้างๆ เงยหน้ามองตามเพื่อนสนิท
“ให้ณาไปเป็นเพื่อนมั้ย”
“ไม่เป็นไร ณานั่งกินต่อเถอะ”
ระหว่างที่ทุกคนกำลังคุยกันสนุก กรุณาก็รู้สึกเกร็งไม่น้อยจึงทำได้เพียงนั่งฟังพวกเขาคุยกันอย่างเงียบๆ หยิบเอาอาหารเข้าปากอยู่แบบนั้นเพราะไม่รู้ว่าต้องพูดคุยอะไรกับพวกเขา จนกระทั่งน้ำส้มในแก้วของเธอหมดจึงหันไปหาพลอยไพลิน แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะคุยสนุกอยู่ เธอจึงทำท่าจะลุกขึ้นแต่คนเก่งคว้าแก้วของเธอไปเสียก่อน
“เดี๋ยวเก่งเติมให้”
“ขอบคุณค่ะ” กรุณาเอ่ยขอบคุณแล้วหันไปสนใจบรรยากาศรอบๆ แทน
“เอาแก้วนี่ไป”
“เอาจริงดิพี่โปรด พี่เขาไม่เคยกินได้เมากันพอดี”
“แบบนั้นสิดี ไม่เคยได้ยินรึไงคนเราจะเผยธาตุแท้ตอนเมา กูอยากรู้เต็มทีแล้วว่าธาตุแท้ของยัยเฉิ่มเป็นไง”
“พี่มันร้ายกว่าเก่งจริงๆ สงสัยเก่งต้องขอวิชาบ้างแล้ว”
“เหอะ! ทำอย่างกับไม่เคยมอมเหล้าสาว”
“…” คนเก่งยกยิ้มให้ก่อนจะคว้าแก้วในมือของพี่ชายไปวางหน้าคนตัวเล็ก ท่ามกลางความสลัวที่สาดส่องมาทำให้กรุณาไม่ทันได้สังเกตว่าแก้วน้ำที่วางอยู่ตรงหน้าไม่ใช่แก้วน้ำส้มอย่างที่ควรจะเป็น เธอยกมันดื่มขึ้นอึกใหญ่พร้อมอาการสำลักออกมา
แค่ก แค่ก
“แม่ชีเป็นอะไร โอเคมั้ย”
“แค่สำลักนะ”
“เก่งทำน้ำไม่อร่อยเหรอ” คนเก่งทำหน้าตาใสซื่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมเขายังคะยั้นคะยอให้เธอดื่มต่อจนหมดแก้ว
“พี่ว่าน้ำมันแปลกๆ นะ”
“ก็น้ำส้มแหละ อร่อยใช่มั้ย เก่งทำสุดฝีมือเลยนะ”
“แน่ใจเหรอว่ามันคือน้ำส้ม”
“อุ๊ย! ตายจริงแก้วพี่อยู่นี่ นั่นแก้วเก่งแสดงว่าที่กินไปเมื่อกี้… เก่งขอโทษพี่ณาโอเคมั้ย”
“มีอะไรเก่ง ณาเป็นอะไร”
“พอดีเก่งยื่นแก้วสลับกับพี่ณาอะ พี่ณากินเหล้าเข้าไป”
“งั้นเดี๋ยวพี่พาแม่ชีไปนอนก่อนแล้วกัน”
“ม่ายย…เป็นไรพริก เดี๋ยวณาไปเอง” กรุณาเอ่ยบอกเสียงยาน แววตาเยิ้มเหมือนคนเมาที่ดื่มหนักแต่ความจริงเธอดื่มไปแค่แก้วเดียว
“เอาแบบนั้นเหรอ กลับห้องถูกแน่นะ”
“แน่” กรุณาเอ่ยบอกก่อนที่จะพาตัวเองลุกขึ้นเดินเข้าไปในบ้านตรงไปที่ห้องนอนของตัวเอง
“ตามเลยมั้ยพี่”
“เดี๋ยวกูไปดูเอง มึงรออยู่นี่แหละ” คนโปรดลุกขึ้นเดินตามกรุณาไปเงียบๆ
ด้านกรุณาตอนนี้ทุกอย่างเริ่มช้าลงเรื่อยๆ สองมือเดินจับฝาผนังไปเรื่อยเพื่อทรงตัวให้ไปถึงห้องนอน
“มึนชะมัด”
ใช่ว่ากรุณาจะไม่เคยดื่มเหล้าอย่างที่ทุกคนเข้าใจ เธอเคยดื่มมาบ้างแต่ผลลัพธ์ก็เป็นแบบนี้ทุกครั้ง แก้วเดียวจอดแถมหลังจากจอดเธอก็ชอบพูดมาก พูดไปเรื่อย และที่สำคัญอารมณ์ทางเพศของเธอก็พุ่งสูงราวกับเป็นคนละคนกับยัยเฉิ่มในตอนนี้
ถ้าถามว่าเธอรู้ได้ไงนะเหรอ ก็เธอทดลองมันด้วยตัวเองมาหลายครั้งหวังว่าจะได้เข้าสังคมเวลาเพื่อนสนิททั้งสองชวนไปไหน แต่ก็อย่างที่เห็นเธอไม่เคยดื่มมันได้เกินหนึ่งแก้วเลย
“เดินแบบนี้เมื่อไรจะถึง” คนโปรดเอ่ยถามคนตัวเล็กที่เดินไต่ฝาผนังราวกับตัวเองเป็นจิ้งจก เสียงเข้มของเขาทำให้คนเมาได้สติตวัดสายตาเยิ้มให้หันกลับมามองหาเจ้าของเสียง
หมับ!
คนโปรดยกมือขึ้นคว้าข้อมือบางกระชากเข้าหาตัวเองด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง คนตัวเล็กที่ถูกกระชากเบิกตาโตขึ้นด้วยความตกใจ
“ตามมา”
“พี่จะพาณาไปไหนคะ”
“นอน!” คนโปรดฉุดกระชากข้อมือบางให้เดินตามไปยังห้องนอนของตัวเอง โดยที่คนถูกกระชากไม่รู้ตัวเลยว่าเธอกำลังเดินเข้าไปในห้องที่ไม่ใช่ของตัวเอง
“ไม่เอายังไม่อยากนอน”
“ไม่อยากนอนแล้วจะทำอะไร หรือว่าเธออยาก…” คนโปรดหันตัวกลับมาปรายตามองใบหน้าสวยของคนตัวเล็กที่แดงระเรื่อเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ก่อนที่คำตอบของเธอจะทำให้เขารู้สึกผิดหวัง
“อยากดูดาวค่ะ”
“มืดขนาดนี้มีดาวที่ไหน ให้ฉันจับเธอทุ่มลงบนเตียงดูมั้ย รับรองดาวเต็มหัวแน่นอน”
“เจ็บมั้ยคะ?”
“อะไรเจ็บมั้ย”
“ก็พี่บอกจะทุ่มณาลงบนเตียงแล้วจะได้เห็นดาว เจ็บมั้ยคะ ถ้าเจ็บณาไม่ดูก็ได้ค่ะ”
“ลองดูมั้ยล่ะ”
“เบาๆได้มั้ยค่ะ ณาเจ็บ” กรุณาเอ่ยบอกเมื่อข้อมือเธอถูกกระชากแรงขึ้นเรื่อยๆ
“ถึงแล้ว” คนตัวเล็กถูกเหวี่ยงลงบนเตียงนุ่ม เขาไม่สนคำบอกเธอก่อนหน้าเลยด้วยซ้ำ มองคนที่นั่งอยู่บนเตียงด้วยสายตาเรียบนิ่ง
“ไม่เห็นจะมีดาวสักดวง พี่โกหกณาเหรอคะ” คนโดนทุ่มลงบนเตียงลุกขึ้นมาโวยวายหลังรู้ว่าตัวเองโดนอีกฝ่ายหลอก ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้เธอกล้าที่จะดุคนตรงหน้า ทั้งที่วันนี้ทั้งวันเธอเอาแต่กลัวเขา ยอมรับเลยว่าตอนนี้เธออยากจะด่าเขายิ่งกว่าอะไรดี แต่มีบางอย่างที่ดึงดูดเธออยู่จนไม่กล้าด่าออกไป