รักนี้ที่รอคอย

Episode 5 วิธีลดหุ่นสำหรับนักเรียนมัธยม

Episode 5 วิธีลดหุ่นสำหรับนักเรียนมัธยม

ผ่านมากลางเทอมสองของภาคเรียน

" ฉันรู้สึกอึดอัดวะ "ตาพูด

" ฉันก็ด้วย " ฉันพูด

" เรามาลดกันไหม!! "

" ช่วงนี้ ฉันต้องเก็บออมเงินซื้อมือถือใหม่ด้วย งั้นมาอดอาหารกลางวันดีไหม " ฉันเสนอขึ้น

" ก็ดี จะได้เหลือเงินบ้าง " พรพูดสบทบ

" งั้นก็กินแค่ขนมละกัน ส่วนตอนเช้าพวกเราต่างทานอะไรมาจากบ้านเอง โอเคไหม "ตาพูด

ฉันคิดว่า ฉันต้องหิวแน่ๆแต่ไม่เป็นไรค่อยกลับไปกินที่บ้าน555 ฉันก็ไม่ได้คิดจริงจังว่ามันจะลดได้หรอก ก็พวกเรากินขนมกันนิ!!!! มันมีแป้งนะ แต่มันก็ประหยัดเงินแหละ...

" เริ่มวันนี้ละกัน " ฉันพูดต่อ

" เค"

เรียนจนถึงพักเที่ยง พวกเราทำตามที่พูดเมื่อเช้าไปเฉียดไปในโรงอาหารเลย แค่แวะไปซื้อขนมและน้ำ กลิ่นของอาหารโชยมาทำให้ท้องร้องเลย555

เมื่อวันที่1ทำได้ พวกเราก็ทำต่อๆไปจน1เดือนรู้สึกว่ามันเบาๆในร่างๆ

" ชั่งน้ำหนักดีกว่า "ฉันพูด

พวกเราสามคนเดินไปห้องพยาบาลมันจะมีตาชั่งดิจิตอลอยู่ ฉันขึ้นก่อนใครปรากฎว่าลดมาสองกิโลจาก54เหลือ52

" เย่ๆ 555 " ฉันดีใจสุดๆ ผู้หญิงทุกคนก็เป็นแบบฉันเชื่อสิเมื่อรู้ว่าน้ำหนักลด

พรก็ลดจาก56เหลือ54 ตาก็ลดจาก58เหลือ56 ฉันกะให้เหลือ49กิโล

เรียนอะไรเสร็จก็กลับบ้านและฉันก็พารถมาเองกับน้องชายชื่อวาย

" วันนี้แกขับนะ " ฉันบอกน้องชายฉันซึ่งอายุห่างกัน2ปี ฉันอยู่มอสี่ส่วนน้องอยู่ มอสอง เราสองคนไม่นั่งรถรับส่งแต่พารถมอไซค์มาเอง รถที่ไม่มีเกียร์ก็คือออโตเมติก

" เออ " วายตอบรับฉัน

ถึงบ้านฉันก็เข้าครัวก่อนเลยมันหิวอะ555 ขนมตอนเที่ยงไม่ค่อยอยู่ท้องยิ่งตอนเช้าฉันก็ไม่ค่อยกินอะไรไปด้วย แต่มันแปลกก็ทีฉันมากินหนักตอนเย็นแต่ทำไมน้ำหนักยังลด งง มาก....

( ใครที่เรียนอยู่ทำตามได้เลยนะ555 แต่ถ้าหิวไม่ไหวก็กินเถอะเดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้ง แต่นี่คืออ้างจากเรื่องจริง น้ำหนักลดจริงๆ )

ผ่านมาใกล้จะปิดเทอมอีกแล้ว พวกเรากำลังจะขึ้น มอห้ากันแล้ว ก่อนจะปิดเทอมก็ได้ชั่งน้ำหนักอีกครั้งลดมาแค่1กิโล ฉันเหลือ51

" เปิดเทอมคงอ้วนอีกแน่ กินนอนๆ " ตาพูด

" คงงั้น555 เจอกันเปิดเทอมนะ "

พอปิดเทอมพวกเราพูดคุยทางโทรศัพท์ออกจะบ่อยแต่ไม่ค่อยนัดเจอ ไม่ค่อยจะชวนไปไหนอยู่บ้านสะมากกว่า แค่ตอนมอสี่นะ มาดูตอนมอห้ากัน

❤️_____________❤️

นามปากกาม่านฟ้า

#อย่าเพิ่งเบื่อ จงอ่านต่อไปเพราะไรต์ตั้งใจแต่งมาก มันอิงเรื่องจริงมาเลย แต่ไม่ทุกส่วนไม่ทุกอย่างเพราะเรื่องจริงมีแค่ 20% ที่เหลือมโนจินตการขึ้นมา....