EP.29 [ทำลาย]

1147 Words
“เปล่าค่ะ แค่กำลังคิดว่าจะทำกุ้งทอดกระเทียมดีไหม” ฉันพูดเสียงนิ่งขณะลอบมองสีหน้าของพี่ไรม์ไปด้วย และก็เห็นว่าคิ้วที่เลิกสูงอยู่นั้นเปลี่ยนมาขมวดเข้าหากัน ฉันลอบยิ้มนิด ๆ ก่อนจะเดินนำหน้าเขาไป “ฟองล้อเล่นค่ะ จะทำเมนูนั้นได้ยังไงในเมื่อพี่ไรม์เกลียดกระเทียมนี่คะ” “เหอะ ทำเป็นรู้ดีนักนะ” พี่ไรม์เข็นรถตามมาเดินข้างกัน ฉันหันมองคนสูงกว่าพลางขยับยิ้มบางให้เขาโดยไม่ตอบโต้อะไร และเห็นว่ามุมปากหนากำลังยกยิ้มเล็ก ๆ เช่นกัน อ่า... ฉันชอบบรรยากาศนี่จัง หากสงสัยว่าทำไมบรรยากาศระหว่างเรามันผิดแปลกไปจากก่อนหน้านี้ นั่นเพราะว่าเมื่อสามวันก่อนฉันได้ทำข้อตกลงอย่างหนึ่งกับพี่ไรม์เอาไว้เพื่อแลกกับการเจ็บตัวของฉัน ‘หนึ่งอาทิตย์ต่อจากนี้ พี่ไรม์ต้องกลับมาทานข้าวเย็นกับฟองทุกวัน ทำได้ไหมคะ?’ . . . อาหารหน้าตาน่าทานถูกจัดวางลงบนโต๊ะด้วยฝีมือของฉัน ส่วนพี่ไรม์ก็ไม่ได้อยู่เฉย เขากำลังหยิบแก้วน้ำสองใบจากเคาน์เตอร์บาร์เดินมาทางนี้ ฉันหลุบมองแก้วในมือเขาพลางลอบยิ้มนิด ๆ เมื่อวานตอนกลับจากซูเปอร์มาร์เก็ต ฉันบังเอิญเห็นแก้วน้ำลายสัตว์ต่าง ๆ วางขายอยู่ ฉันจึงเลือกลายเสือมาหนึ่งใบเพื่อเก็บไว้ให้พี่ไรม์ใช้ แต่ไม่คิดว่าพี่ไรม์จะหยิบแก้วอีกใบขึ้นมาด้วย และมันเป็นลายกระต่ายน้อยแสนน่ารัก เขาทำหน้านิ่ง ๆ ตอนหยิบแก้วลายเสือจากมือฉันเดินไปจ่ายเงิน นั่นทำให้ฉันคิดได้ว่าเขาจงใจซื้อแก้วใบนั้นมาให้ฉันใช้แน่ ๆ เสือกับกระต่ายเนี่ยนะ... ช่างเข้ากันอะไรอย่างนี้ บรื้น... “เอ๊ะ... ใครมากันคะ” ฉันหันมองตามเสียงเครื่องยนต์ที่แล่นมาจอดหน้าบ้านในยามเย็น รู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่จู่ ๆ มีแขกมาบ้านเวลานี้ ครู่ต่อมาก็ปรากฏร่างบางของแม่นารินที่ก้าวเข้ามาภายในบ้านด้วยสีหน้านิ่งสนิท ฉันยกมือไหว้ท่านอย่างเช่นทุกครั้ง แม้จะยังงุนงงกับการมาของท่านก็ตาม “สวัสดีค่ะแม่ริน...” เพี๊ยะ! ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบทันทีที่แม่นารินฟาดฝ่ามือใส่หน้าพี่ไรม์เต็มแรง ท่านไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรเลยสักนิด มาถึงก็ตรงเข้าใส่พี่ไรม์จนฉันยืนนิ่งค้างด้วยความตกใจ “ลูกไม่รักดี... แกกลับไปคบเพื่อนชั่ว ๆ พวกนั้นอีกแล้วใช่ไหม!!” ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แม่นารินกำลังพูดถึงเรื่องอะไร แล้วทำไมต้องโกรธพี่ไรม์ถึงขนาดตบตีกันด้วย ฉันได้ยินเสียงฮึในลำคอจากร่างสูงข้างตัว พี่ไรม์กำแก้วในมือแน่นจนฉันหวาดกลัวเหลือเกินว่ามันจะแตกคามือของเขา “แม่รินคะ... ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ” ฉันกลั้นใจเดินเข้าใกล้ทั้งสอง มือหนึ่งจับมือพี่ไรม์เบา ๆ เพื่อให้เขาคลายออกจากแก้วลายเสือในมือ พี่ไรม์เหลือบมองฉัน แววตาเย็นชาอย่างคนไร้ความรู้สึกฉายชัดในนั้น “ใจเย็นเหรอน้องฟอง จะให้แม่ใจเย็นได้ยังไงในเมื่อหนูตกอยู่ในอันตรายแบบนั้นก็เพราะเจ้าไรม์!” ฉันขมวดคิ้วพยายามปะติดปะต่อเรื่องราว แม่นารินกำลังหมายถึงเหตุการณ์เมื่อสามวันก่อนอย่างนั้นเหรอ? “ถ้าไม่ติดว่าแม่ต้องเข้าร่วมประชุมสำคัญที่นิวยอร์ค แม่คงบินกลับมาตั้งแต่เมื่อวันก่อนแล้ว ให้ตายสิ! ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้!” แม่นารินลูบหน้าตัวเองอย่างพยายามสงบสติอารมณ์ ท่านมองไปทางพี่ไรม์ด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว ฉันไม่เคยเห็นท่านในมุมนี้มาก่อน เพราะที่ผ่านมาแม่นารินมักใจดีและอ่อนโยนกับฉันเสมอ “ถ้าคุณพิพิธรู้เรื่องนี้จะต้องโกรธมากแน่ ๆ ทำไมแกถึงสิ้นคิดแบบนี้นะ!” “ฮึ...” ฉันได้ยินเสียงพี่ไรม์หัวเราะในลำคอคล้ายเย้ยหยัน สีหน้าเฉยชาของเขาไม่เปลี่ยนแปลง ฉันรีบรั้งมือหนาเบา ๆ เป็นเชิงเรียกสติเขา “เอ่อ... ถ้าเป็นเรื่องปะป๊า แม่รินไม่ต้องกังวลนะคะ ปะป๊าไม่ทราบเรื่องนี้หรอกค่ะ อีกอย่างฟองก็ไม่ได้เป็นอะไรเลยค่ะ แล้วมันก็เป็นเหตุสุดวิสัย พี่ไรม์ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเรื่องขึ้นนะคะ” ฉันอธิบายอย่างใจเย็น ตอนนี้พยายามใช้ตัวเองยืนกั้นกลางระหว่างทั้งสอง ขณะที่มือยังคงจับมือพี่ไรม์แน่น มือพี่ไรม์เย็นมาก ยังดีที่เขาไม่ได้สะบัดมือฉันออก “เกิดเรื่องขนาดนี้หนูยังจะปกป้องลูกชายตัวดีของแม่อีกเหรอ แกเห็นไหมไรม์! เห็นไหมว่าการกระทำสิ้นคิดของแกมันส่งผลยังไงบ้าง!” แม่นารินหันไปตวาดเสียงใส่พี่ไรม์ซึ่งเขาทำเพียงมองท่านตอบด้วยสายตาเย็นชา และมันเหมือนตัวจุดชนวนความกรุ่นโกรธของท่านให้ลุกโชนกว่าเดิม “แม่ขอสั่งให้แกเลิกคบกับเพื่อนเลว ๆ ของแกซะ อย่าให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าแม่ใจร้าย!” “...” พี่ไรม์ยืนนิ่งไม่ตอบรับ ไม่แม้แต่จะมองแม่นารินด้วยซ้ำ มือเขายังคงกำแน่นโดยมีมือฉันกุมไว้ด้วยความลืมตัว “แกรู้ใช่ไหมว่าถ้าฉันใจร้ายมันจะเป็นยังไง” ไม่รู้ว่าฉันคิดไปเองหรือเปล่า แต่แววตาที่แม่นารินใช้มองพี่ไรม์มันดูเย็นชามาก ฉันหันมองคนข้างกายที่ดึงมือออกจากมือฉัน เขาไม่แม้แต่จะมองมาทางฉันเลย ดวงตาเย็นชาไร้ความรู้สึกทอดมองผู้เป็นแม่ ก่อนจะขยับยิ้มหยัน “พะ พี่ไรม์...” ฉันเรียกรั้งเขาไว้เมื่อร่างสูงทำท่าจะเดินผละออกไป เขาชะงักเล็กน้อย ยกแก้วในมือที่ยังกำแน่นขึ้นมอง ก่อนจะ... เพล้ง! “ตาไรม์!!” “โทษที มันหลุดมือ” พูดจบเขาก็เดินออกจากบ้านไป ทิ้งฉันที่ยืนมองเศษแก้วบนพื้นด้วยความนิ่งงัน เมื่อครู่... พี่ไรม์จงใจปาแก้วใบนั้นลงพื้นใช่ไหม... ทำไมล่ะ? ในเมื่อเราซื้อแก้วลายเสือใบนั้นมาด้วยกันแท้ ๆ แล้วทำไมเขาต้องทำลายมันด้วย...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD