“เริ่มจะเย็นแล้ว พวกเราลงไปด้านล่างกันดีกว่า มีเวลาเก็บภาพสวยงามอีกครึ่งชั่วโมงนะ” พี่ร๊อคทำลายบรรยากาศเงียบสงบขึ้นมาด้วยการเคาะนิ้วลงบนนาฬิกาข้อมือของตัวเอง “เราต้องรีบกลับเกาะก่อนค่ำ เพราะจะมีพายุเข้าคืนนี้ รีบกลับก่อนจะดีกว่าเผื่อเวลามันคลาดเคลื่อนด้วย”
“ถ้างั้นผมขอไปถ่ายรูปมุมนั้นก่อนนะ เดี๋ยวตามลงไป” แรมพ์ยกกล้องที่คล้องคอขึ้นกดชัตเตอร์ไปทางหน้าผาก่อนก้าวเท้าเดินไป พี่ร๊อคย้ำเตือนให้เขาระวังแล้วเตรียมตัวจะเดินกลับทางเดิม
“เอ่อ… ฟองขอยืนตรงนี้อีกนิดนะคะ เดี๋ยวฟองลงพร้อมแรมพ์ก็ได้ค่ะ”
“อืม… ระวังตัวด้วยล่ะ ทางมันชันมาก ห้ามลงคนเดียวเด็ดขาดเลยนะ” พี่ร๊อคย้ำเตือนฉันบ้าง สีหน้าเขาค่อนข้างกังวลกว่าตอนเตือนแรมพ์เสียอีก
หลังจากพี่ร๊อคเดินกลับลงไปด้านล่างก็เหลือเพียงฉันกับพี่ไรม์ที่ยังยืนอยู่ตรงนี้ ส่วนแรมพ์เดินหายไปทางหน้าผาซึ่งมีป่าไม้สูงบดบังอยู่ ฉันมองตามเขาไปด้วยความเป็นห่วง ตรงนั้นมันอันตรายมากเลยนะ
“ฮึ ห่วงมันนักก็เดินไปตามมันสิ” น้ำเสียงนิ่ง ๆ ติดหยันดังมาจากร่างสูงซึ่งยืนหันหลังอยู่ ฉันลอบมองเขาเล็กน้อย เขาไล่ฉันเพราะคงอยากจะยืนตรงนี้คนเดียวสินะ
“….” ฉันหมุนตัวเตรียมจะเดินไปทางแรมพ์ตามที่พี่ไรม์แนะนำ ตั้งใจจะไปชวนเขากลับลงด้านล่างด้วยกัน เพราะถ้าฉันลงคนเดียวมันจะอันตรายเกินไป ทางลาดชันแบบนั้นฉันขอไม่เสี่ยงดีกว่า หากทว่าเท้าก้าวเดินได้ไม่ถึงสามก้าวก็ต้องหยุดชะงักเพราะมือหนาที่ฉุดรั้งแขนข้างซ้ายของฉันเอาไว้ พอหันมองก็พบกับสายตาแสนขวางของพี่ไรม์ สีหน้าเขาดูไม่สบอารมณ์มาก ๆ ทั้งที่วิวสวยออกขนาดนี้ทำไมอารมณ์ไม่ดีขึ้นเลยล่ะ
“จะไปไหน?”
“เอ๊ะ… ก็ไปหาแรมพ์ไงคะ เมื่อกี้พี่ไรม์บอกให้ฟองไป…”
“เธอโง่หรือไง! ฉันบอกให้ไปเธอก็ไปเหรอ?!” เขาตวาดเสียงใส่ฉัน แม้มันจะไม่ดังมาก แต่ก็ทำฉันตกใจจนทำหน้าไม่ถูก
“ฟอง… ฟองขอโทษค่ะ ฟองก็แค่…”
“คิดว่าที่นี่เป็นที่แบบไหนกันวะ! จะเดินสุ่มสี่สุ่มห้าไปตกหน้าผาตายหรือไง น่ารำคาญฉิบ!” เขาบีบแขนฉันแน่นขึ้นตามแรงอารมณ์ ก่อนออกแรงดึงให้เดินตามเขาไป ฉันเหมือนตุ๊กตาที่ถูกลากไปตามทิศทางที่ร่างสูงนำพา สองคิ้วขมวดนิด ๆ เมื่อทางที่พี่ไรม์พาไปไม่ใช่ทางลงจากผา แต่มันเป็นอีกเส้นทางที่เลี้ยวอ้อมไปอีกด้าน
“พี่ไรม์จะพาฟองไปไหนคะ?”
“ตามมาเงียบ ๆ ไม่ต้องพูดมาก” เขาดุใส่ฉัน แต่ไม่ได้ใส่อารมณ์เหมือนก่อนหน้านี้ ฉันเดินตามร่างสูงมาเรื่อย ๆ โดยที่สองตาไม่ได้มองทางเลยสักนิด มันเอาแต่จับจ้องมือหนาสลับกับใบหน้าด้านข้างของเขา อยู่ ๆ ริมฝีปากบางก็ขยับยิ้มออกมา
ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ทำไมถึงยังยิ้มได้แม้จะถูกทำใจร้ายใส่แบบนี้นะ หรือฉันเป็นพวกนิยมความเจ็บปวดกันเนี่ย บ้าจริง…
ครู่ต่อมามือหนาก็ผละออกไปพร้อมสองเท้าหยุดเดิน ฉันดึงสติตัวเองกลับมาแล้วละสายตามองเบื้องหน้า วินาทีนั้นเหมือนหัวใจอันแห้งแล้งของฉันได้รับหยาดน้ำรดลงกลางใจ ความชุ่มชื่นอบอุ่นแล่นวาบเข้ามาพร้อมกับภาพตรงหน้าที่สุดจะบรรยายออกมาได้
“นี่มัน… สวยมาก” ฉันพูดได้แค่นั้นจริง ๆ ภาพของพระอาทิตย์สีส้มดวงใหญ่กำลังอัสดงกลางผืนน้ำทะเลสีครามมันสะกดสายตาฉันให้หยุดนิ่ง เนินผาฝั่งนู้นที่พี่ร๊อคพาขึ้นไปเป็นฝั่งทิศตะวันออกทำให้มองไม่เห็นพระอาทิตย์ตกน้ำ ต่างจากเนินผาตรงนี้ที่เป็นฝั่งตะวันตกจึงมองเห็นภาพสวยงามนั้นได้อย่างชัดเจน “พี่ไรม์เคยมาที่นี่เหรอคะ”
“ไม่เคย” ฉันหันมองร่างสูงข้างกายที่กำลังทอดสายตาไปทางทะเล ถ้าเขาไม่เคยมาที่นี่แล้วรู้ได้ยังไงว่าเนินผานี้สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ได้ล่ะ “ก็แค่เดา หลักการง่าย ๆ แค่คำนวณทิศกับมองหาเส้นทางตอนเดินขึ้นมาเท่านั้น”
อ้อ… ที่เขาเดินขึ้นมาคนสุดท้ายเพราะมัวแต่มองหาเส้นทางอื่น ๆ งั้นสินะ… น่าทึ่งแฮะ…
Rrr…
“ฮัลโหล” พี่ไรม์กดรับโทรศัพท์ ฉันขมวดคิ้วแปลกใจนิด ๆ ว่ามันมีสัญญาณด้วยเหรอ ก่อนหน้านี้ฉันลองหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปยังไม่มีสัญญาณขึ้นสักขีดเลย “ฮัลโหล ๆ ได้ยินไหม…. เออ… ไม่ค่อยได้ยินเลย… ตอนนี้อยู่เนินฝั่งตะวันตก… เออ ถ้ำนั้นนั่นแหละ… อะไรนะ?! เฮ้ย…. โหล ๆ”
ฉันหันมองพี่ไรม์อีกครั้งเมื่อน้ำเสียงของเขาฟังดูแปลก ๆ สีหน้ากังวลนั่นทำให้ฉันอดถามไม่ได้
“มีอะไรเหรอคะ?”
“สัญญาณหายไปแล้ว Shit!” เขาแทบจะขว้างโทรศัพท์ทิ้ง ฉันกะพริบตามองคนขี้หงุดหงิดสบถคำหยาบต่ออีกสองสามคำก่อนเขาจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงแล้วหันมองไปทางเดินกลับ สีหน้าหนักใจอย่างเห็นได้ชัด “รอตรงนี้ อย่าไปไหน เดี๋ยวฉันมา”
ฉันพยักหน้ารับและมองตามร่างสูงที่เดินลงจากเนินเขาไป เพิ่งสังเกตว่านอกจากเนินผาตรงนี้จะสวยกว่าเนินผาตรงนั้นแล้ว อากาศมันยังเย็นกว่าอีกด้วย ฉันกอดตัวเองพลางลูบต้นแขนเบา ๆ เพื่อไล่ความหนาว พระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าแล้ว เราควรจะกลับลงไปด้านล่างกันได้แล้วนะ แต่พี่ไรม์บอกให้ยืนรอตรงนี้ห้ามไปไหน ฉันก็ต้องยืนรอเขาต่อไป ว่าแต่… เขาไปทำอะไรของเขากันนะ
ห้านาทีต่อมาร่างสูงเดินกลับมาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ไม่สิ… มันนิ่งจนน่าขนลุกเลยล่ะ ดวงตาคมเข้มไร้ความรู้สึกของเขาเย็นเหยียบไปหมด
“เอ่อ… เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ พี่ไรม์เป็นอะ…”
“กลับไม่ได้แล้ว”
“…คะ?” ฉันทวนคำด้วยความไม่เข้าใจ พี่ไรม์หมายความว่ายังไงกัน ฉันงงไปหมดแล้ว
“ทางที่เราเดินมาเมื่อกี้ ตอนนี้น้ำมันขึ้นปิดทางเดินในถ้ำหมดแล้ว”
“…”
“เรากลับไปที่เรือไม่ได้แล้ว”