ตอนที่ 6 ความอยากเอาชนะ

1399 Words
ร่างบางแทบจะหมดลมหายใจ เพราะเขาใช้ริมฝีปากหนาปิดปากเธอเอาไว้นานหลายนาที ลูกศรยังไม่เคยมีประสบการณ์ที่โชกโชนเธอยังไม่รู้วิธีหายใจขณะโดนจูบ หมอหนุ่มพยายามแทรกลิ้นร้อนให้เข้าไปฉกชิมน้ำหวานจากปากบาง แต่ลูกศรก็เม้มริมฝีปากเอาไว้แน่นไม่ยอมให้ถูกรุกราน ตฤณจึงต้องใช้วิธีกัดปากของเธอเบาๆจนเธอเผลอ “อ๊ะ…จ๊วบบ” ทันทีที่หญิงสาวเผลอปาก ตฤณไม่รอช้าที่จะส่งลิ้นร้อนๆเข้าไปในช่องปากของเธอทันที คนตัวเล็กพยายามดันลิ้นของเขาออก แต่กลับกลายเป็นว่าช่วยทำให้ตฤณเล่นบทจูบได้อย่างเมามัน เมื่อเห็นว่าเธอคาสายอยู่นานและตอนนี้คนในสายก็น่าจะได้ยินอะไรไปเยอะพอสมควร ชายหนุ่มจึงดึงมือถือของคนตัวเล็กออกและกดวางสายไป แต่ริมฝีปากก็ยังคงไม่ผละออกมา มือบางที่ตอนนี้เป็นอิสระเธอทั้งทุบทั้งตีเขาเพื่อให้ออกไป และพยายามบอกเขาว่าเธอไม่ไหวแล้วเหมือนอากาศกำลังจะหมด หมอหนุ่มรู้สึกได้ว่าคนตัวเล็กเริ่มอ่อนแรง ร่างของเธอกำลังจะร่วงเขาเลยรีบรับเอาไว้เสียก่อนพร้อมกับผละริมฝีปากออกมา หญิงสาวที่ต้องการออกซิเจนจึงได้แต่สูดลมหายใจเข้าเหมือนคนใกล้ตาย น้ำตาแห่งการโดนย่ำยีไหลออกมาที่หางตาอีกครั้ง คราวนี้เธอช้อนสายตามองคนตัวโตด้วยความโกรธและความขยะแขยง “ทำบ้าอะไรของคุณ” มือบางยกขึ้นมาปาดเอาคราบสกปรกออกอย่างแรง “เจอกันอีกครั้งเธอก็ยังคงเด็กเมื่อวานซืนอยู่ดี อายุแค่นี้ถึงขั้นผู้ชายชวนไปร้านเหล้า พี่ชายเธอมันไม่รู้จักดูแลน้องมันบ้างเลยหรือยังไง อย่างว่าขนาดน้องสาวมันยังไม่ดูแล สงสารคุณเพลงที่ต้องไปแต่งงานกับคนเลวๆ” เพี้ยะ…!! “หยุดด่าพี่ชายหนูสักที คุณมันก็ไม่ได้ดีไปกว่าเฮียศินักหรอก” ลูกศรว่าจบก็คว้ากระเป๋าที่ตกอยู่ที่พื้นแล้วรีบเดินออกจากคลินิกตฤณทันที แต่ยังไม่พื้นประตูหมอหนุ่มกลับเดินมารั้งข้อมือเธอเอาไว้เสียก่อน ร่างบางหันกลับไปกระแทกเข้าที่อกของเขาอย่างแรงจนเธอปวดร้าวที่ไหล่ซ้าย ไม่ว่าความเจ็บนี้มันจะอยู่ในระดับไหนแต่ก็ยังคงไม่เท่ากับระดับความโกรธและความขยะแขยงของเธอที่มันมีต่อเขาอีกแล้ว “จะไปไหนขึ้นรถอย่าดื้อให้มากได้ไหม คุณเพลงฝากให้ฉันไปส่งเธอ” พูดพลางกับลากคนตัวเล็กอ้อมมาที่ฝั่งที่นั่งข้างคนขับ แต่หญิงสาวก็ยังคงดิ้นและไม่ยอมจนหมอตฤณต้องขู่ “เงียบ!ถ้าเธอยังดิ้นอยู่แบบนี้ ฉันสามารถทำเธอในรถได้เลยนะ” “ทุเรศ!” “หึ” ปัง!… หมอตฤณเดินอ้อมเข้ามานั่งฝั่งคนขับ พลางมองไปทางคนตัวเล็กที่เอาแต่กอดอกนั่งหน้ามุ่ยไม่ยอมคาดเข็มขัด และเขาเองก็พึ่งนึกได้ว่าเมื่อกี้หัวของเธอกระแทกมา พอมองหน้าผากเธอชัดๆเพราะตอนนี้ไม่มีหน้าม้าปิดก็เห็นว่ามันยังโนอยู่ หมอหนุ่มขับรถเบนซ์หรูไปตามทางที่หญิงสาวเปิดนำเอาไว้ตั้งแต่แรก ระยะทางจากคลินิกของเขาไปบ้านของเธอใช้เวลาประมาณ 45 นาที ตฤณขับรถหรูไปตามทางเรื่อย ๆ เมื่อใช้เวลาจริงๆเพียงแค่ไม่ถึงสามสิบนาทีเท่านั้น อาจจะเพราะตอนนี้ดึกแล้วและไม่ค่อยมีรถระยะเวลาเลยอาจจะลดลงมากกว่าเดิม ชายหนุ่มส่งคนตัวเล็กเสร็จเรียบร้อย ก็รีบขับรถกลับคอนโดทันที เพราะวันนี้เขาเองก็ทำอะไรตั้งแต่เช้า แถมยังต้องมาสู้รบตบมือกับยัยแสบที่คอยจ้องจะกัดกับเขาตลอดเวลา รถเบนซ์หรูแล่นเข้ามาจอดภายในลานจอดรถของคอนโดหรูใจกลางเมือง ขาเรียวยาวลงจากรถเพื่อเดินไปหยุดอยู่หน้าลิฟต์ หมอหนุ่มรูปร่างดีอย่างเขาไม่ว่าใครเห็นต่างก็หลงเสน่ห์ ทว่ามีเพียงแค่คีตีกาเท่านั้นที่หมอหนุ่มคนนี้มอบหัวใจที่มันด้านชาให้ แต่เหมือนกับเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเพราะเธอดันกำลังจะแต่งงานกับคนที่ไม่คู่ควรเอาเสียเลย ตฤณยืนพิงผนังลิฟต์พลางหลับตาใช้ความคิดว่าจะทำยังไงดีที่จะได้ใจของผู้หญิงที่ทั้งสวยและโปรไฟล์ดีๆแบบคีตีกามาครอบครอง ความจริงมันจะไม่ยากถ้าเกิดว่าเขาแค่รอให้ทั้งคู่หย่ากันหากหมดสัญญาที่ทำร่วมกันไว้ แต่ถ้าเกิดว่าระหว่างที่ทั้งคู่แต่งงานใช้คำว่าสามีภรรยากันแล้วมันเกิดมีความรักก่อตัวขึ้นมา เท่ากับว่าเขาแทบจะหมดสิทธิ์ทุกอย่างแล้ว ติ๊งง...!! หมอตฤณล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงพร้อมกับหยิบสมาร์ทการ์ดขึ้นมาเพื่อจะปลดล็อคประตู ห้องของตฤณเป็นเหมือนเพนต์เฮาส์เพราะเป็นห้องชั้นบนสุดและยังเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตึกนี้อีกด้วย ทันทีที่เขาเดินเข้ามาในห้องของตัวเอง เสื้อเชิ้ตที่ใส่มาทั้งวันก็ถูกปลดกระดุมออกจนเผยให้เห็นทรวงอกที่มีกล้ามเป็นมัดๆ ตฤณหยิบบุหรี่ราคาแพงมาหนึ่งมวนพร้อมกับเดินออกไปยืนสูบตรงระเบียง บรรยากาศตอนกลางคืนแม้จะไม่ได้ดีมากเท่าไหร่ แต่ลมเย็นๆจากที่สูงก็ทำให้ทุกอย่างแลดูสงบได้ เส้นผมบางสั้นรองทรงปลิวไหวไปกับแรงลมในยามค่ำคืน ตฤณสูดควันที่เป็นสารก่อมะเร็งในร่างกายเข้าไปพร้อมกับค้างมันเอาไว้ประมาณสามวินาที ถึงได้พ่นมันออกมาเป็นควันสีขาว อาชีพหมออย่างเขารวมทั้งมีสถานะการเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของเจ้าของกิจการโรงแรมที่ใหญ่และหรูที่สุดในจังหวัดขอนแก่น Rrrr… ร่างสูงเดินกลับเข้ามายังโต๊ะกลางห้อง เพราะเสียงโทรศัพท์ดังขัดจังหวะทำให้หมอหนุ่มถึงขั้นหงุดหงิด มือหนาคว้าเอาเครื่องมือสื่อสารรูปทรงสี่เหลี่ยมขึ้นมาดูว่าใครที่เป็นคนโทรเข้ามา แต่เมื่อยิ่งเห็นว่าเป็นใครที่โทรเข้ามือหนารีบวางโทรศัพท์หน้าคว่ำลงทันที จะเป็นใครไปไม่ได้ที่ตฤณรู้สึกไม่อยากคุย นอกเสียจากคุณหญิงพรรณทิรา มารดาของเขาเอง ระยะนี้รู้สึกว่าแม่ของเขานั้นจะพยายามยัดเยียดตัวเขาเองให้เป็นคู่เดตกับลูกสาวบ้านอื่นๆไม่เว้นวัน และนี่ก็คงไม่พ้นเรื่องจะให้เขาไปนัดบอดดูตัวอีกตามเคย ร่างหนานอนแผ่หราอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ที่ตั้งสง่าอยู่ตรงกลางห้องนั่งเล่น แขนแกร่งถูกยกขึ้นมาวางทาบไว้บนหน้าผากนูน พลางคิดถึงหญิงสาวร่างเล็กที่กำลังนั่งวาดรูปด้วยความสุข ไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งตฤณไม่เคยมองคีตีกาเป็นผู้หญิงที่กำลังจะแต่งงานเลยสักครั้ง หลายครั้งที่ตัวเขาเองคอยเข้าไปเป็นที่ปรึกษาให้กับเธอ แต่สุดท้ายผลมันก็รู้อยู่แก่ใจคือเขาไม่สามารถครอบครองเธอได้ หรือว่าเขาอาจจะต้องกลายเป็นผู้ชายที่อยู่ในสถานะพี่ชายกันนะ เปลือกตาหนาปิดลงด้วยความเหนื่อยล้า และคืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่ตฤณหลับไปโดยที่ไม่ได้นอนบนเตียงและไม่ได้อาบน้ำ ก็ผู้ชายโสดนี่เนอะอยู่คนเดียวจะไปดูแลตัวเองมันทำไมนัก แต่ร่างสูงก็ไม่ได้นอนแบบนี้ไปทั้งคืนหรอกนะ เขาชอบสะดุ้งตื่นขึ้นมาช่วงเวลาตีหนึ่งตีสองทุกวัน เวลานั้นก็จะถือว่าเป็นเวลาที่เขาจะลุกไปอาบน้ำแล้วล้มตัวลงนอนที่เตียงอีกที แต่ที่ชอบที่สุดเห็นจะเป็นการนอนที่โซฟาตัวยาวตัวนี้มากกว่า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD