ผลงานเมื่อแรกมาบริหาร คือการเปลี่ยนทีมยกแพ็ค ซึ่งพวกเขาหวังว่า..การนำเสนอโปรเจคใหม่นี้ จะไม่ทำให้พวกเขาลำบากมากขึ้น นั่นแค่ถ้าหากบอสไม่ติดใจใด ๆ ละนะ
" ... "
บอสของพวกเขาคงไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอกจริงมั้ย ?
" ... "
ทุกคนต่างเริ่มเลิกลั่กแล้ว เพราะเขาไม่พูดอะไร ธนกฤตเมื่อเห็นว่าตนเองกำลังแสดงสิ่งที่ไม่สมควร จึงได้พยายามผ่อนคลายให้ได้มาก แล้วสนใจสิ่งที่หัวหน้าฝ่ายการตลาดกำลังกล่าว " ว่ามาได้เลยคุณหลิน "
" เรื่องการเชิญนักเขียนร่วมงานค่ะ "
" ... " ชายหนุ่มจับจ้องหญิงวัยกลางคน เธอดูทะมัดทะแมง และตั้งใจทำงานมากคนหนึ่ง เขาคิ้วกระตุกเล็กน้อย ก่อนที่จะเผยรอยยิ้มบาง ๆ แล้วกล่าว " การขอร่วมงานกับนักเขียน ไม่ใช่อะไรที่จะเอามาพูดตรงที่ประชุม มันเป็นหน้าที่ที่มีฝ่ายจัดการอยู่แล้ว ? "
" ค่ะ "
" ... " เขาขมวดคิ้วเพราะสงสัย ?
" แต่บอสคะ นักเขียนคนนี้เราไม่สามารถติดต่ออะไรใด ๆได้เป็นการส่วนตัว นอกจากกล่องข้อความยูสเซอร์เนมของเธอ "
คงไม่ใช่ที่พึ่งขึ้นเป็นนักเขียนยอดนิยมคนนั้นหรอกนะ เพราะเขาเองก็พยายามดูข้อมูลของเธอเหมือนกัน เห็นว่าน่าสนใจดี
ถามว่าที่น่าสนใจเพราะฝีมือการเขียนเท่านั้นหรือ ไม่ใช่แน่นอน เพราะดันมีนักอ่านรีวิวชื่อดังเขียนโพสต์ประกาศตามหาอยู่นะสิ !
แล้วเขาเองก็ได้เข้าไปชมนิยายที่ว่าเมื่อเช้า
เป็นใครจะปล่อยผ่าน เพราะเธอเป็นนักเขียนชื่อดังในเว็บยอดนิยมเว็บอื่นที่ไม่เคยตีพิมพ์ ไม่มีอีบุ๊ค ไม่มีต้นสังกัด อีกทั้งยังไม่เคยเปิดตัวที่ไหนเลยด้วยซ้ำ นิยายเรื่องแรกกลับขึ้นท็อปหมวดแนวรักซึ้งกินใจ จนก้าวไปอยู่อันดับที่หนึ่งในสองสัปดาห์ และเรื่องนั้นก็ได้ลงตอนจบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นักอ่านในเว็บนั้นก็ตั้งหน้าตั้งตารอเรื่องต่อไป พวกเขาต่างก็คาดหวังว่าจะเห็นนักเขียนในดวงใจเปิดเรื่องใหม่ที่นั่น แต่เมื่อไม่กี่วันก่อน...
อยู่ ๆ ก็เปิดนิยายเรื่องใหม่ที่แอพพริเคชั่นบริษัทของเขา แบบนี้ใครมันจะปล่อยผ่านได้กัน ฐานแฟนคลับไม่ใช่น้อย ๆ
" ... "
ทุกคนจับจ้องความเคลื่อนไหวต่าง ๆ หรือปฏิกิริยาใดใดก็ตาม เพื่อคิดทางหนีทีไล่
" นักเขียนคนไหนที่ทำให้คุณเป็นกังวลมากขนาดนั้น ? " เขาถามด้วยความสงสัย ใช่คนเดียวกันกับที่เขาคิดเปล่า
ลี่หลินรู้สึกใจเต้นแรงอย่าง ๆไม่อาจควบคุม เธอยิ้มเจื่อนเล็กน้อยในตอนแรก ก่อนที่จะถูกแรงกระตุ้นบางอย่างผลักดัน เกิดความเงียบขึ้น บางคนถึงขนาดกลั้นหายใจ ถึงแม้พวกเขารู้สึกคล้ายยืนขอบเหว แต่ลี่หลินคือคนที่แทบจะเยี่ยมหน้าออกไปหาปล่องภูเขาไฟแล้ว
เธอสูดหายใจลึก ๆ นำความมั่นใจจากประสบการณ์ทำงานกว่ายี่สิบปี มาเป็นตัวกระตุ้นความกล้าแล้วพูดออกไป
" นักเขียนหน้าใหม่ ที่ชื่อ...โฉมงามแม่มดเจ้าเสน่ห์ "
ไม่ผิดจากที่คิด
!!!!!!
ทั้งห้องเงียบกริบ พูดออกไปแล้ว....
พิมพ์ลดาขยับเคลื่อนไหวเล็กน้อย นั่นคือการดันแว่นของเธอที่ตกลงมาบนปลายจมูกโด่งเล็ก ๆ ให้กลับขึ้นไปในตำแหน่งที่ดีดังเดิม จึงทำให้ชายหนุ่มตระหวัดหางตาดุใส่ กฤตถอนสายตาของตนเองออกจากยัยแว่นเจ้าปัญหา แล้วพยายามปั้นหน้าเป็นบอสผู้ใจดี ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าราวกับเทพบุตรก็ไม่ปาน
แต่อยู่ในร่างบอส เพราะงั้น...
แทนที่จะมีบรรยากาศที่ดูเหมือนใจดีอบอุ่น เลยเหมือนซาตานใช้ใบหน้าล่อลวงเพื่อจับลี่หลินเดินเข้าห้องเชือด
" มีเรื่องสำคัญกว่านี้มั้ย ? " เขากล่าวถามด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มนวล โดยไม่ได้คิดจะให้ลี่หลินได้อธิบายต่อ นั่นเพราะเห็นแวววูบไหวบาง ๆ จากดวงตาดำขลับคู่นั้นของเลขาตนเอง
วิธีการถามของเขา ไม่อาจทำให้ลี่หลินสั่นคลอน นักเขียนคนนี้ เธอคิดว่าคือเพชรที่ยังไม่เปล่งประกายเต็มที่ ถึงอย่างนั้น มันมีความเร่งด่วนเป็นอย่างมาก ถ้าไม่รีบคว้าตอนนี้ ...เธอเชื่อสัญชาตญาณของตนเองว่า มันต้องทำให้เธอเสียใจเป็นอย่างมากแน่ ๆ
" บอสคะ " เธอรั้งเขาอีกครั้ง
!!!
คะ..คุณลี่หลินกล้าหาญมาก
นี่คือการตกใจครั้งที่สองของพวกเขา สายตาทุกคนจับจ้องไปยังหญิงสาววัยสามสิบต้น ๆ เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ...อาจจะตกงานยกแพ็คกันจริง ๆ แต่เพื่อการเติบโตของบริษัท และเงินโบนัสปลายปี พวกเขาล้วนยอมร่วมหัวจมท้าย
" เอาละคุณหลิน ผมคิดว่าเรื่องนี้อาจจะเป็นหน้าที่ของคนอื่น..ไม่ใช่ผม " เขาอธิบาย ชายหนุ่มละสายตาจากลี่หลินแล้วหันมาเอ่ยกับเลขาของตนเอง " คุณพิมพ์ช่วยจัดการทีนะ "
ถ้าสามารถนำเธอมาช่วยโปรโมทแอพริเคชั่นได้ นิยายที่ดีเหล่านั้นน่าจะดึงดูดนักอ่านจากเว็บอื่นให้เข้ามาใช้บริการที่แอพบริษัทของเขาพัฒนา แต่ยังไงหน้าที่ติดต่อเจ้าตัว โดยขอใช้ข้อมูลที่นักเขียนกรอกเอาไว้ย่อมสามารถทำได้อยู่ เพราะนี่ก็เป็นเงื่อนไขที่ยังสามารถทำได้ก่อนตกลงสมัครใช้บริการ
" ค่ะ " เธอตอบรับสั้น ๆ แต่แทบจะยิ้มฉีกถึงหูไปแล้ว
เมื่อเห็นว่าไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่อีกต่อไปแล้ว ชายหนุ่มจึงเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
ในสายตาคนอื่น...คือชายหนุ่มท่าทางไม่สบอารมณ์ แล้วเดินออกไปอย่าโมโห โดยเฉพาะลี่หลิน ที่ดูห่อเหี่ยวกว่าทุกคนแต่ยังมีกำลังใจฮึดอยู่
ในสายตาของพิมพ์ลดา คือคนบ้านิยายคนหนึ่งเท่านั้นเอ๊งงง !
เธอถอนหายใจเบา ๆ กับการถูกโยนงานมาให้ ดูอย่างไรก็ไม่มีความยุติธรรม เธอคือเลขา..ที่ถูกใช้งานยิ่งกว่าเลขา อะไรคือการที่บอก ' คุณพิมพ์ช่วยจัดการทีนะ '
ทุกคนมองมาที่หญิงสาวด้วยความคาดหวัง
" คุณช่วยเรียบเรียงข้อมูล แล้วทำแบบนำเสนอที่ชัดเจนกว่านี้ ดิฉันสามารถนำไปวางบนโต๊ะของบอสได้พรุ่งนี้เช้าเพื่อขออนุมัติการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว " หญิงสาวเอ่ยกับคุณลี่หลินอย่างเป็นการเป็นงาน
นั่นจึงทำให้ดวงตาของลี่หลินส่องประกาย
น้องพิมพ์ของพวกเธอดีสุด !
เวลาเลิกงาน
พิมพ์ลดาสแกนนิ้วมือเลิกงาน แบบเดียวกันกับพนักงานทุกคนของกฤนวนิชย์ ถึงแม้จะมีเหตุผลการละเว้น แต่ถึงอย่างนั้น การมีหลักฐานเข้าออกที่ชัดเจน แสดงการทำงานที่ถูกต้อง ก็เป็นการป้องกันตนเองต่อการถูกพูดถึงในทางไม่ดี...ของบอสตัวเองได้