“เธอขี่รถคนเดียวตอนเช้าเสมอ” 🌻💚
เขาบอกตัวเองแบบนั้น..
ในขณะที่เขายืนอยู่หลังเสาไฟฟ้า..!
มือที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อช็อป “วิศวกรรมเครื่องกล” สีเทาอ่อนปักชื่อ “KIRUN” ตัวเล็ก ๆ
เขายืนนิ่ง..เฝ้ามองเธอคนนั้นโดยที่ไม่ได้เข้าไปทัก!
คิรัน กาญจนากุล - ปีสี่ วิศวกรรมเครื่องกล ผู้ไม่ค่อยพูดและไม่เคยคุยกับใคร
แต่กลับ “จำตารางเรียน” ของเด็กอักษรศาสตร์ ปีสามคนนั้นได้แม่นยิ่งกว่าตารางสอบตัวเอง
เขาไม่รู้ว่าเธอชื่ออะไรในตอนแรก..?
รู้แค่ว่าเธอจะซื้อขนมปังปิ้งที่ร้านป้าหน้าคณะทุกวันพุธ
และเคยใส่เสื้อสีน้ำเงินที่มีคำว่า..
“ไม่ใช่คนเก่ง แต่ตั้งใจรักให้เก่ง” แปะไว้ด้านหลัง
เขาไม่ได้ตั้งใจจะจำ..แต่มันติดหัวใจมาเฉย ๆ
จนกระทั่งเช้าวันนั้น..🌞
เสียง กึง! ดังขึ้นบนถนนหน้าคณะอักษรฯ
จักรยานของเธอล้ม - เหมือนโซ่รถจักรยานขาด หรือเบรกหลุด ไม่แน่ใจ..?
เด็กอักษรศาสตร์ร่างเล็กคนนั้นยืนงง ก้มดูล้อรถที่บิดผิดรูป เหมือนเลขแปดเลย
คีย์เดินเข้าไป โดยไม่พูดและไม่ถามอะไร
ก้มลงยอง ๆ หยิบประแจในกระเป๋าเสื้อ และเริ่มจัดการกับล้อหน้าที่หลุดเบ้าอย่างคล่องมือ
พริมวรา มองชายแปลกหน้าเงียบ ๆ ที่ไม่มองหน้าเธอเลย แม้สักนิด
เขาเพียงก้มหน้าทำงาน จนล้อกลับเข้าที่ได้
“ขอบคุณนะคะ..” เธอพูดเบา ๆ
เขาเงยหน้าขึ้นมอง
สบตาเธอเพียงวินาทีเดียว ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ ขรึม ๆ มากว่า
“ระวังลมยางข้างหลังด้วย มันรั่วช้า ๆ”
แล้วเขาก็เดินจากไป..!
ไม่บอกชื่อ ไม่ขอเบอร์
ไม่ทิ้งอะไรไว้..นอกจาก “ใจเธอ” ที่แอบสั่นเบา ๆ ตั้งแต่คำว่า “ระวัง”
⸻
ในขณะที่เขาเดินจากมา 👨🔧
มือของเขาจับซองกระดาษเล็ก ๆ ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อด้านใน
เป็นภาพถ่ายจากกล้อง CCTV — มุมสูงของทางเดินมหาวิทยาลัย
มีเธอในทุกใบ
เขากดลบมันออกอย่างเงียบ ๆ
ก่อนจะพึมพำในใจว่า..
“อย่าเพิ่งรู้จักฉันเลย..
ยังไม่ถึงเวลาที่เธอจะรู้ว่าฉันคือใคร”
⸻
📍🏁 จุดเริ่มต้นของ “แผนรักลับ”
ที่เขาวางไว้แนบเนียน
แต่ไม่รู้เลยว่า..คนอย่างเธออ่านใจเก่งกว่าอ่านหนังสือจีนโบราณซะอีก
“เขาช่วยซ่อมจักรยาน..แต่ใจฉันมันเริ่มรวน”
“ระวังลมยางข้างหลังด้วย มันรั่วช้า ๆ”
คำนั้นดังอยู่ในหัวของพริมจนเธอยืนเหม่ออยู่กับที่
ขณะที่ชายคนนั้น ใส่เสื้อช็อปวิศวะ
ปักชื่อ ‘คิรัน’ — เดินหายลับไปแบบไม่เหลียวหลังกลับมา
พริมกะพริบตาปริบ ๆ
แล้วค่อย ๆ ก้มดูล้อจักรยานของตัวเองที่ตอนนี้ดูปกติดี
จะว่าไป..เขารู้ได้ไงว่าลมรั่ว? แค่เห็นแวบเดียว?
“หรือเขาเป็นเทวดาประจำถนน?”
เธอบ่นเบา ๆ กับตัวเองก่อนจะหัวเราะแห้ง ๆ
⸻
พริมปั่นจักรยานไปจนถึงคณะ
ระหว่างทางสมองเธอเต็มไปด้วยคำถามไร้สาระ เช่น
– เขาชื่อเล่นว่าอะไรนะ
– ปกติเขาอยู่คณะไหน
– แล้วทำไมเขาต้องหล่อในจังหวะที่เราดูเหมือนลูกเป็ดเปียก?
⸻
☕ หน้าร้านกาแฟ (คาเฟ่เล็กหน้าคณะอักษรฯ)
“แก ๆ คนที่ช่วยซ่อมจักรยานให้ฉันเมื่อเช้า คือคนคณะไหนอะ?”
พริมวางแก้วกาแฟบนโต๊ะ
ขณะที่เพื่อนสนิทของเธอถาม
“ขิม” — เงยหน้าขึ้นจากโน้ตจีนโบราณ
“ไหน? เล่าอีกที”
“หล่อ…ขรึม…ไม่ยิ้ม…ใส่เสื้อช็อปสีเทา…ชื่อบนอกเสื้อคือ คิรัน”
พริมพูดเร็วเป็นชุด
ขิมพยักหน้าช้า ๆ ก่อนจะพูดเสียงนิ่ง ๆ ๆ ว่า..
“คณะวิศวะเครื่องกล ปีสี่…เคยมีข่าวลือว่าเขาเป็นลูกมาเฟียด้วยนะ”
“หา?! จริงเหรอ?”
เสียงพริมสูงขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ขณะที่มือยังถือแก้วกาแฟค้างไว้กลางอากาศ
“ลือกันแหละ แต่แกก็รู้ว่าพวกวิศวะชอบทำตัวลึกลับ
เงียบ ๆ แล้วเท่…เอาไว้จิ้นเป็นพระเอกนิยายกัน”
ขิมยักไหล่
“แสดงว่าเรากำลังตกหลุมกับดักสายคลั่งรักสายเงียบนะสิ…”
พริมพึมพำ
“หรือไม่ก็แกกำลังจะกลายเป็นนางเอกในนิยายวายร้ายเงียบที่ปลอมตัวมาใช้ชีวิตธรรมดา”
ทั้งสองหัวเราะกันเบา ๆ
ก่อนที่พริมจะกระซิบเหมือนพูดกับตัวเองมากกว่า
“แต่เขาซ่อมจักรยานให้โดยไม่ขออะไรเลยนะ…”
“…คนแบบนี้น่ากลัวที่สุดล่ะ เชื่อสิ” ขิมพูดอย่างจริงจัง
⸻
🌙 ค่ำคืนนั้น
บนโต๊ะไม้เล็ก ๆ ในห้องหอหญิง
พริมนั่งลงพร้อมสมุดจดรายวัน เธอเปิดหน้าเปล่าหนึ่งหน้า แล้วเขียนด้วยลายมือเรียบง่ายว่า..
“10 มีนาคม
ได้เจอผู้ชายที่เงียบที่สุด…แต่ทำให้ใจเราเต้นเสียงดังได้เฉยเลย”
เธอวางปากกา หัวเราะเบา ๆ แล้วหยิบมือถือมาเสิร์ช
“คิรัน วิศวะ มหาวิทยาลัย + กาแฟ”
…ไม่มีข้อมูล
มีแต่แฟนเพจเครื่องกลที่ดูไม่มีคนใช้งานเพจนี้แล้ว และมีแต่โพสต์เก่า ๆ ปี 2022
“นายปกปิดตัวตนเก่งจังนะ…” เธอพูดกับหน้าจอ
แล้วเธอก็เงียบไป
ก่อนจะยิ้มบาง ๆ เหมือนรู้ทันตัวเอง
“แต่ไม่เป็นไรหรอก…ฉันก็ไม่ได้อยากรู้จักทันทีเหมือนกัน”
“แค่ตอนหน้า…ขอให้ได้เจออีกก็พอ”
📌
ในมุมหนึ่งของห้องเงียบ ๆ
ชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งกอดเข่าบนเก้าอี้ไม้
โต๊ะเบื้องหน้ามีสมุดบันทึกสีน้ำตาลเก่า ๆ และไฟหัวเตียงสลัว ๆ
เขาเขียนบรรทัดเดียวลงในหน้าว่างของสมุดนั้น:
❝พริมวรา — 07.30 น. ขี่จักรยานคันเดิม หน้าเบเกอรี่
ครั้งแรกที่พูดกับเธอ: “ระวังลมยางข้างหลัง”
แผนเริ่มต้นแล้ว❞
“บังเอิญอีกครั้ง…ที่เธอไม่รู้เลยว่ามันไม่เคยบังเอิญ”
คาบเรียนภาษาจีนเบื้องต้นเต็มไปด้วยเสียงพึมพำเบา ๆ
พริมวรานั่งก้มหน้ากับชีทตัวอักษรจีนขนาดสิบพอยต์อย่างคร่ำเคร่ง ขณะที่ขิมนั่งข้าง ๆ ทำหน้าเอือม
“แกตั้งใจอะไรนักหนา ฉันเห็นอาจารย์ยังง่วงเลย” ขิมบ่น
“อาจารย์เพิ่งขอให้เราท่องคำว่า ***(yùjiàn) หมายถึง ‘บังเอิญเจอ’ นะเว้ย ฉันอิน”
“แกนี่…” ขิมถอนหายใจ “อินจนจะเปิดแผนที่หาคนชื่อคิรันได้อยู่แล้ว”
พริมเงียบ ไม่ตอบอะไร แต่ในหัวมีภาพตอนเขาหันมาสบตาครั้งนั้น…นิ่ง เรียบ แต่บางอย่างในดวงตาเขาทำให้เธอรู้สึกว่า มันไม่ใช่แค่คนผ่านมา
⸻
🍃 ระหว่างเดินไปห้องสมุด
พริมก้มหน้าพิมพ์แชทในกลุ่มโปรเจกต์
ขณะเดียวกัน เงาร่างสูงคนหนึ่งเดินสวนทางมาแบบเงียบ ๆ พร้อมถือแฟ้มเอกสารในมือ
และ…
ฟึ่บ!
แฟ้มใบนั้นหลุดจากมือชายหนุ่มพอดีกับที่พริมเดินผ่าน
กระดาษปลิวตกกระจายบนพื้นหน้าห้องสมุด
“อุ้ย! ขอโทษค่ะ!” เธอก้มลงช่วยเก็บอัตโนมัติ
ชายคนนั้นก้มลงเก็บด้วย มือเขาแตะปลายกระดาษแผ่นเดียวกันในวินาทีเดียวกับเธอ
พริมเงยหน้า แล้วนิ่ง
“คุณ…”
“…ขอบคุณ” เขาพูดสั้น ๆ ก่อนยิ้มบางแทบมองไม่ทัน
ป้ายชื่อที่คล้องคอเขาเขียนว่า
“คิรัน กาญจนากุล | วท.บ. วิศวกรรมเครื่องกล”
พริมยื่นกระดาษคืนให้
“คุณอยู่ปีสี่เหรอคะ?”
“อืม” เขาตอบสั้นอีกแล้ว
“วันนี้ไม่ซ่อมอะไรเหรอ?” เธอถามติดขำเล็กน้อย
เขาเงยหน้ามอง ก่อนตอบเรียบ ๆ
“ซ่อมอยู่ครับ…แต่คราวนี้ไม่ใช่ล้อจักรยาน”
“เป็นเรื่องเล็ก ๆ ของเครื่องคอมในห้องสมุด”
“โอ้ - ” พริมพยักหน้าเหมือนเข้าใจทุกอย่าง ทั้งที่ไม่เข้าใจเลยสักนิด
⸻
☕ คาเฟ่ช่วงเย็น (อีกครั้ง…)
“แกมันบ้า! บังเอิญแบบนี้ได้ไงวะ?” ขิมแทบสะบัดแก้วชานม
“ก็เขาทำแฟ้มหล่นจริง ๆ นี่นา…” พริมเสียงเบา แต่อมยิ้ม
“แกแน่ใจเหรอว่า ‘บังเอิญ’?” ขิมเลิกคิ้ว
“คนเงียบ ๆ แบบนั้น ถ้าเขาคิดจะเดินมาชน แกไม่มีทางรู้หรอกนะว่าเขาวางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว”
พริมชะงักนิดหน่อย
ใช่…มันก็แปลกดี
ทำไมเขาต้องมาทางนี้ ทำไมต้องหล่นแฟ้มตรงหน้าเธอ ทำไมทุกอย่างต้องเป๊ะขนาดนั้น?
“เขาดูมีจังหวะที่พอดี…เกินไปนิดอะ” เธอพึมพำเบา ๆ
“ก็บอกแล้ว…พวกวิศวะเงียบ ๆ น่ะอันตรายที่สุด”
⸻
🌙 ค่ำคืนนั้น
คิรันนั่งอยู่ในห้องเก่า ๆ ที่มีกลิ่นน้ำมันเครื่อง
ตรงหน้าคือแผนผังระบบคอมพิวเตอร์ของห้องสมุด วางข้างซองเบเกอรี่ร้านเดียวกับที่พริมชอบไป
เขาเขียนบันทึกต่อท้ายในสมุดเล่มเดิม:
❝บังเอิญที่เธอคิดว่าไม่ตั้งใจ = Step 2 สำเร็จ
เธอเริ่มจำชื่อฉันได้แล้ว
พรุ่งนี้ 12.40 น. ร้านกาแฟ - เธอจะอยู่ตรงโต๊ะขวาสุดริมกระจก
ฉันจะเดินผ่านแค่สามวินาที
แผนรักลับยังต้องเงียบต่อไป…จนกว่าเธอจะใจสั่นก่อนฉัน❞
———
พริม ที่เริ่ม “ใจสั่นแบบไม่รู้ตัว”
⸻
“ความรู้สึกที่ไม่ได้อยู่ในแผนการเรียน”
“อาจารย์บอกว่าเราจะมีพี่วิศวะมาช่วยสอนโปรเจกต์ข้ามคณะช่วงสัปดาห์นี้นะคะ”
เสียงอาจารย์สาวในคลาสภาษาจีนเบื้องต้นทำให้นักศึกษาปีสามจำนวนหนึ่งหันมองหน้ากันด้วยความงุนงง
“เขาจะมาช่วยดูการนำเสนอด้วยในฐานะทีมเทคนิค หวังว่าทุกกลุ่มจะได้แลกเปลี่ยนกันสนุก ๆ ค่ะ”
พริมคิดในใจ — ก็ดีสิ มีคนใหม่ ๆ มาช่วยดูเนื้อหาเทคโนโลยี
เธอไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่ง…
ประตูห้องเปิดออก
เสียงรองเท้าผ้าใบเบา ๆ ก้าวเข้ามา
แล้วเขาก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าโต๊ะอาจารย์
คิรัน กาญจนากุล
คนเดียวกับที่ซ่อมจักรยาน
คนเดียวกับที่แฟ้มหล่นต่อหน้าเธอ
และคนเดียวกับที่เดินผ่านร้านกาแฟเมื่อวานในระยะสามวินาทีเป๊ะ ๆ
⸻
“นี่คือพี่คิรันจากวิศวกรรมเครื่องกลค่ะ จะมาช่วยเป็นที่ปรึกษาเทคนิคระหว่างทำโปรเจกต์”
พริมเงียบ
ขิมที่นั่งข้าง ๆ ถลึงตาใส่เธออย่างแรง
“แก!!! จะบังเอิญอะไรขนาดนี้อีกวะ!!”
พริมก้มหน้า — พยายามไม่ยิ้ม…แต่หูร้อนจนเหมือนอบไอน้ำในหม้อชาบู
⸻
🧊 เวลาผ่านไป — เวิร์กช็อปกลุ่มย่อย
โต๊ะของพริมกำลังสรุปหัวข้อเสนอเกี่ยวกับการแปลสารทางเทคนิค
ขณะที่คิรันนั่งตรงข้ามเธอ เงียบ ๆ จดอะไรบางอย่างลงกระดาษอย่างเป็นระเบียบ
“เอ่อ…ตรงนี้ค่ะ ถ้าเราจะแปลคำว่า ‘ระบบเฝ้าระวัง’ ให้คนทั่วไปเข้าใจง่าย ๆ ในโปสเตอร์ ควรใช้คำว่า การเฝ้าระวังไหมคะ?” พริมถามตรง ๆ
คิรันเงยหน้าช้า ๆ
“การเฝ้าระวัง เหมาะครับ…แต่ถ้าอยากให้ฟังไม่ขู่เกินไป อาจใช้คำว่า การติดตาม”
“ขอบคุณค่ะ” เธอยิ้มให้แบบยิ้มจริง
เขาเงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนพูดต่อเบา ๆ
“พูดเก่งนะ”
“คะ?” เธอกะพริบตา
“เวลาเธออธิบายอะไร…ฟังแล้วเข้าใจง่าย”
“ฉันฟังอยู่ตลอดนั่นแหละ”
พริมชะงัก ใจเต้น ตึก ตักโดยไม่มีคำเตือนล่วงหน้า
“…ก็เพราะฉันชินกับการอธิบายให้แมวเข้าใจน่ะค่ะ”
เธอรีบแถ แล้วก็หันหน้าไปอีกทาง
ขิมที่นั่งข้าง ๆ กลั้นหัวเราะแทบตาย
⸻
🌇 เย็นวันนั้น ขณะเดินกลับ
“พี่คิรัน!”
เสียงจากนักศึกษาหญิงกลุ่มหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้หน้าคณะ
เขาพยักหน้าให้เงียบ ๆ
เดินตรงไปเรื่อย ๆ จนถึงจักรยานของใครบางคนที่จอดไว้หน้าตึก
เขาหยุด
ย่อตัวลงนิดหนึ่ง ตรวจลมยางหลัง
“ยังรั่วอยู่…”
เขาพึมพำ แล้วหยิบที่สูบลมเล็ก ๆ จากกระเป๋าเสื้อช็อป
จัดการสูบให้เบา ๆ แบบที่เจ้าของจักรยานไม่รู้ตัว
⸻
พริมเดินออกมาจากห้องเรียน แล้วหยุดกึกเมื่อเห็นจักรยานเธอยางแน่นเป๊ะ
เธอหันมองไปรอบ ๆ
ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น
แต่ในใจรู้ดีว่า…
นี่ไม่ใช่ลมยางที่ปาฏิหาริย์จัดให้
เธอยิ้มออกมาทั้งที่ไม่ได้เห็นเขา
แล้วพูดเบา ๆ กับจักรยานว่า
“ตกลง…ฉันต้องซ่อมหัวใจตัวเองทุกวันไหมนะ ถ้ามันสั่นทุกทีที่เจอเขาแบบนี้”
“แผน” ที่เขาวางไว้ กำลังสั่นคลอนเพราะความรู้สึกจริง ๆ ที่ควบคุมไม่ได้อีกต่อไป
゚𓇥 " 𖥧 𖧧 ˒˒ 𖦹꙳࡛࣪⋕