⏳
“ความเงียบที่เต็มไปด้วยเสียงในใจ” ระหว่างการกลับบ้านด้วยกันครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์
ไม่มีคำสารภาพ ไม่มีคำแก้ตัว
มีแค่ลมเย็นของยามค่ำคืน พื้นที่แคบบนเบาะมอเตอร์ไซค์
และความรู้สึกว่า
แม้ไม่พูดอะไร…แต่เราก็ยังอยู่ข้างกันอยู่ดี
⸻
✦
“ถึงจะไม่พูดอะไร…แต่หัวใจก็ยังเต้นอยู่ในทิศทางเดียวกัน”
🌫️ ค่ำ – หน้าโกดังท่าเรือ
ลมทะเลพัดแรง
พริมยังยืนอยู่ที่เดิม
ในมือคือรูปถ่ายกับกระดาษโน้ตที่เธอไม่อยากอ่านต่อ
คีย์เดินเข้ามาเงียบ ๆ
ไม่พูดอะไร
ไม่พยายามอธิบาย
เขาแค่ยื่นหมวกกันน็อกใบหนึ่งให้เธอ
พริมรับไว้ช้า ๆ
สบตาเขาเพียงแวบเดียว
ก่อนสวมมันลงอย่างนิ่งเงียบ
⸻
🏍️ ระหว่างทางกลับ – บนมอเตอร์ไซค์
เขาขับไม่เร็ว
แต่มั่นคง
เธอกอดเสื้อเขาไว้หลวม ๆ จากด้านหลัง
ไม่มีใครพูดอะไรเลยตลอดทาง
แสงไฟริมถนนสาดผ่านหน้าพวกเขาเป็นจังหวะ ๆ
บางครั้งเธอเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
บางครั้งเขาก็เหลือบมองกระจกหลัง
เพื่อให้แน่ใจว่าเธอยังอยู่
เสียงเดียวที่ดังคือเสียงเครื่องยนต์
กับเสียงลมหายใจที่ไม่สม่ำเสมอของใครบางคน
อาจเป็นเธอ…หรืออาจเป็นเขา
⸻
🏙️ ถึงหน้าหอพัก – เวลา 21:58 น.
คีย์จอดรถช้า ๆ
ถอดหมวกของตัวเองออกก่อน แล้วหันไปหาเธอ
พริมยังไม่พูด
แค่ค่อย ๆ ถอดหมวกกันน็อกของตัวเอง
แล้วส่งคืนเขาช้า ๆ
ในจังหวะที่มือแตะกัน
ต่างฝ่ายต่างไม่ได้รีบผละออกเหมือนทุกครั้งก่อนหน้านี้
เขาเป็นฝ่ายพูดก่อน
เสียงเบามาก
จนแทบจะกลืนไปกับลมยามค่ำคืน
“ขอโทษ…ที่ทำให้เธอต้องมาเห็นเองทั้งหมด”
พริมเงยหน้าขึ้น
แววตาไม่ได้แข็ง ไม่ได้ร้องไห้
แต่…นิ่ง และอบอุ่นอย่างแปลกประหลาด
“พี่ไม่ต้องขอโทษค่ะ”
เธอพูดแค่นั้น
แล้วหันหลังเดินเข้าตึก
แต่ก่อนเข้าประตู
เธอหยุด
หันกลับมา
แล้วพูดช้า ๆ
“ถ้าพี่อยากให้หนูอยู่ในโลกที่ไม่มีอันตราย…”
“ก็ช่วยอยู่ในโลกนั้นด้วยกันกับหนู…สักวันนะคะ”
เธอไม่รอคำตอบ
แค่หายเข้าไปในตึกเงียบ ๆ
ทิ้งคีย์ไว้ข้างรถ — กับหมวกกันน็อกที่เขายังถือไว้แน่นในมือ
⸻
📌
คีย์กลับมาที่ห้อง ไม่เปิดไฟ
แค่หยิบนาฬิกาตั้งปลุกที่เขาเคยซ่อมไว้ออกมาวางบนโต๊ะ
🔐 วันนี้
เขาไม่ได้ตั้งปลุกไว้ที่เวลาเดิม
แต่เปลี่ยนไปตั้งไว้ที่ เวลา 07:30 น.
“บางที…พรุ่งนี้อาจเป็นวันที่ควรเริ่มต้นใหม่ก็ได้”
🌤️ ตอนเช้าด้วย “สายตาเพื่อนสนิท” ที่มองเห็นสิ่งที่เจ้าตัวอาจยังไม่รู้ตัว
เพื่อนของพริมจะไม่ซักถาม ไม่พูดแทรก
แต่เก็บทุกการเปลี่ยนแปลงไว้ในใจเงียบ ๆ
เพราะบางครั้ง “คนที่อยู่ใกล้ที่สุด”…
ไม่ใช่คนที่พูดมากที่สุด
แต่เป็นคนที่ เฝ้ามองและเฝ้ารอวันที่เธอจะเล่าด้วยตัวเอง
⸻
✦
“ถึงจะยังไม่พูดอะไร…แต่ฉันก็รู้ว่าเธอกำลังกลับมาเป็นตัวเองอีกครั้ง”
⸻
☀️ เช้า – หน้าคณะอักษร
“มะลิ” เพื่อนสนิทของพริม นั่งรออยู่ที่โต๊ะม้าหิน
พร้อมชานมเย็น 2 แก้ว กับแซนด์วิชไข่เจียวที่พริมชอบ
“เธอมาสายนิดหนึ่งแฮะ…”
มะลิบ่นเบา ๆ แต่ก็ยังยิ้มอยู่
ไม่ถึงสามนาที
เสียงรองเท้าผ้าใบเบา ๆ ก็ดังมาจากทางเดิน
พริมวราเดินมาในชุดนักศึกษาธรรมดา
ผูกผมครึ่งศีรษะหลวม ๆ
ไม่มีเมคอัพ ไม่มีเครื่องประดับ
แต่สิ่งที่ต่างไปคือ…
แววตาเธอกลับมา “นิ่งและอ่อนโยน” แบบที่หายไปหลายสัปดาห์
⸻
🍳 โต๊ะม้าหิน – บทสนทนาธรรมดา
“แซนด์วิชไข่เจียวของเธอ”
มะลิเลื่อนกล่องให้
“ขอบใจน้า~”
พริมพูดเสียงใสเล็ก ๆ พร้อมรอยยิ้มบาง
เธอกัดคำหนึ่ง แล้วจิบชานม
เงียบ
แต่นิ่งกว่าเดิม
มะลิสังเกตเห็นว่า…
มือของพริมมีรอยคราบฝุ่นจาง ๆ ที่เหมือนเพิ่งจับของเก่า
และกระเป๋าผ้าใบเดิมที่เคยห้อยตุ๊กตาเล็ก ๆ ตอนนี้ไม่มีอะไรเลย
⸻
“เมื่อคืน…เป็นยังไงบ้าง?”
มะลิถามเสียงเรียบ
แต่ไม่จ้องหน้าอีกฝ่าย
พริมเงียบไปครู่หนึ่ง
ก่อนจะตอบเบา ๆ
“เหนื่อยนิดหน่อย…แต่หนูว่า หนูโอเคแล้ว”
⸻
🌼 ช่องว่างที่เต็มไปด้วยความไว้ใจ
มะลิไม่ซัก ไม่คาดคั้น
เธอแค่พยักหน้าเบา ๆ
แล้วพูดขึ้นเรียบ ๆ เหมือนคุยเรื่องขนม
“เธอกลับมายิ้มแบบ ‘พริม’ อีกแล้วนะ”
“เมื่อคืนเจออะไร…ไม่ต้องเล่าตอนนี้ก็ได้
แต่ดีใจที่เห็นเธอกลับมา”
พริมเงียบ
ดวงตาเริ่มร้อนวาบ
แต่ยังฝืนยิ้มไว้
“ขอบคุณนะมะลิ”
⸻
📎 เวลา 08:05 น. – หน้าอาคารเรียน
ขณะทั้งสองจะลุกไปเรียน
พริมเห็นบางอย่างที่มุมประตู
คีย์ยืนอยู่ตรงนั้น ไกล ๆ
เหมือนไม่ได้ตั้งใจมาทัก
แต่แค่มองเธออยู่เงียบ ๆ
เมื่อสายตาเธอหันไปสบ
เขาก็ยกถุงใบหนึ่งขึ้นนิด ๆ
ก่อนจะวางไว้ที่ขอบรั้ว แล้วเดินจากไป
“เขาไม่ได้หายไปจากชีวิตหนูแล้วสินะ…”
พริมพึมพำเบา ๆ กับตัวเอง
ก่อนจะเดินไปหยิบถุงใบนั้นขึ้นมา
ข้างในมี “ข้าวกล่อง” กับโน้ตใบเล็ก ๆ ไม่มีชื่อ ไม่มีลายเซ็น
แค่ข้อความสั้น ๆ ว่า…
**“วันนี้เธอคงเหนื่อยจากเมื่อวานมาก
เลยอยากให้เธอได้กินของอุ่น ๆ ก่อนเริ่มวันใหม่”**
⸻
📌
พริมกอดถุงข้าวไว้แน่น
เหมือนถืออะไรบางอย่างที่เบา…แต่ถ่วงน้ำหนักในใจเธอไว้ไม่ให้หล่นอีกแล้ว
มะลิมองเธออยู่เงียบ ๆ
ก่อนจะพูดเบา ๆ กับตัวเอง
“ไม่ต้องเล่าหรอกพริม…
แค่มองตาเธอก็รู้แล้วว่า ‘เขา’ คือคนที่เธอยังเลือกอยู่…”
✦
“วันที่ผมเผลอรักเธอ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเรียกมันว่ารักได้อย่างไร”
⸻
⏳ [Flashback : 9 เดือนก่อน] – ภาคเรียนฤดูร้อน
🌥️ ห้องเวิร์กช็อปวิศวะเงียบสนิทในยามเย็น
คิรันกำลังขันน็อตตัวสุดท้ายของต้นแบบมอเตอร์ตัวจิ๋ว
เสียงโลหะแตะกันแว่วเบา คล้ายจังหวะหัวใจของคนที่แสร้งทำเป็นไม่สนใจอะไรนอกจากงานตรงหน้า
ติ๋ง …ติ๋ง … ติ๋ง
หยดเหงื่อร่วงลงบนแผ่นวงจรพอดี
เขาถอดเสื้อช็อปพาดเก้าอี้ แล้วเดินไปล้างหน้าที่อ่างหลังตึก
ทันทีที่เปิดประตูสู่ทางเดินด้านในตึกอักษร (คั่นตรงมุมระเบียงสองคณะ)
เสียงอ่านบทกวีจีนกังวานใสก็ลอยมาแผ่ว ๆ
“*******,*******…”
“ภูผามีไม้ ไม้มีแขนง ข้ามีรักแต่เจ้า เจ้าหาได้รู้ไม่…”
เสียงนั้นคุ้นหู
เพราะช่วงหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ เขาแอบ “เฝ้าสังเกต” เจ้าของเสียงซ้อมท่องศัพท์ทุกเย็นที่โต๊ะหินข้างบันได เธออ่านวนจนคำจีนโบราณกลายเป็นเพลงกล่อมยามพลบแดด
วันนี้คีย์ไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง
แค่เผลอยืนนิ่ง เมื่อเห็น พริมวรา ยื่นกิ่งดอกจามจุรีให้รุ่นน้องปีหนึ่งพลางอธิบายโครงสร้างประโยคจีนอย่างใจเย็น
รุ่นน้องคนนั้นยิ้มกว้าง ร้องออกมาว่า..
“พี่พริมใจดีจัง! อ่านเสียงใสน่าฟังสุด ๆ เลยค่ะ”
พรมนั้นหัวเราะ
แก้มแดงเพราะแดดและความเขิน
มือหนึ่งจับชีท — อีกมือปัดเศษเกสรที่ปลิวใส่ผมตัวเองอย่างเงอะงะ
คีย์ยืนนิ่งตรงมุมกำแพง
หัวใจเต้นผิดจังหวะเป็นครั้งแรกนับจากวันที่แม่จากไป
“ไม่น่าเชื่อเลย…แค่เสียงอ่านกลอน จะทำให้เครื่องมือในมือฉันสั่นได้”
เขาดึงมือถือเก่าออกมา เปิดโหมดบันทึกเสียงโดยไม่รู้ตัว
เก็บท่อนกวีจีนแผ่วเบานั้นไว้
แล้วรีบซ่อนมันในโฟลเดอร์ที่ตั้งชื่อ “โครงการ_BatSensor” เพื่อไม่ให้ใครสังเกต
ทันทีที่เธอกลับโต๊ะ พริมเงยหน้ามาเจอสายตาเขาโดยบังเอิญ
เธอเลิกคิ้ว ยิ้มให้ พลางถามเสียงใส
“พี่คิรัน! มาเดินแถวนี้ได้ไงคะ?”
เขาอึกอัก พยายามคว้าเหตุผลจากอากาศ
“…เดิน…ดูทางลม — จะทดสอบแรงสั่นสะเทือน”
(คำโกหกที่ฟังดูกวนประสาทเสียเอง)
พริมยิ้มกว้างกว่าเดิม
“สู้ ๆ นะคะพี่งานวิศวะ หนูไม่เก่งฟิสิกส์แต่เอาใจช่วยค้าบบ”
(เธอยกมือทำสัญลักษณ์ “V” แบบน่าเอ็นดู)
เขาหันหลังกลับด้วยใบหน้าเรียบเฉย
แต่ปลายนิ้วยังสั่นเล็ก ๆ เหมือนยังจับไขควงไม่มั่น
และในไฟล์เสียงยาว 32 วินาทีที่เพิ่งบันทึก เขาเลือกตั้งชื่อใหม่ว่า การทดสอบหัวใจ_01.mp3
⸻
🧉 3 วันต่อมา – ในร้านกาแฟประจำ
คีย์เข้าคิวซื้อชาเขียว 🥤
เมื่อพริมเดินเข้ามาต่อท้าย เขาหลบสายตาแต่ได้ยินเธอบ่นพึมพำ
“อยากกินข้าวโพดชีสยืด🍿 แต่เงินหมดในบัตรแล้ว”
เขาเลือกลบคำสั่งชาเขียว เพิ่มเมนูนั้นโดยไม่ให้เธอรู้ แล้วออกจากร้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
(วันนั้นข้าวโพดชีสยืดหนึ่งกล่องปรากฏบนโต๊ะเธอ พร้อมโน้ตดินสอเขียนว่า “อย่าลืมเป่าให้หายร้อนก่อนกิน” — เธอไม่เคยรู้ว่าเขาเป็นคนวาง)
คืนนั้นเขานอนหลับไม่ลง
เปิดไฟล์ การทดสอบหัวใจ_01 วนซ้ำไปมาระหว่างต่อวงจร
จังหวะท่อนสุดท้ายที่เธออ่านว่า “****เจ้าหาได้รู้ไม่”
คือจังหวะที่เขาเงยหน้าจากแผ่น PCB แล้วบอกตัวเองเบา ๆ ว่า..
“มันคงไม่ใช่แค่การสังเกตอีกแล้ว…
ฉันอยากให้เธอ ‘รู้’ สักทีว่ามีคนฟังอยู่ในเงา”
นั่นเป็นคืนที่เขาเริ่มเขียน “แผนรักลับ” หน้าแรก
ไม่ใช่เพื่อจีบ…
แต่เพื่อ “ซ่อมโลกของตัวเอง” ด้วยเสียงหัวเราะของใครบางคนที่ไม่เคยเกี่ยวข้องกับปืน ลูกน้อง หรือคำสั่ง
⸻
⏳ กลับสู่ปัจจุบัน – เวลา 08:45 น.
ไฟล์เสียง การทดสอบหัวใจ_01 ยังคงอยู่ในมือถือเก่า
คีย์เปิดฟังอีกครั้งก่อนเข้าเวิร์กช็อปเช้านี้
เสียงจีนโบราณยังใสเหมือนเดิม
แต่หัวใจเขาเปลี่ยนไปแล้ว มันไม่กลัวจังหวะสะดุดอีกต่อไป
เขากด “แชร์” ไฟล์นั้นไปยังโทรศัพท์เครื่องหลัก
ก่อนพิมพ์ข้อความสั้น ๆ แนบไฟล์ส่งให้พริม:
“ไม่รู้เธอยังจำได้ไหมว่าเคยอ่านกลอนนี้หลังเลิกคลาส
แต่วันนั้น…ฉันรู้ตัวว่าชอบคนอ่าน ไม่ใช่แค่คำแปล”
เขาไม่ได้กดส่งทันที
นิ้วค้างอยู่ตรงปุ่ม “Send”
รอสายระฆังคาบแรกดังขึ้น
เสียงกังวานของระฆังทำให้เขากดส่งออกไป
เป็นครั้งแรกที่เขายอมปล่อยให้หัวใจพูดตรงกว่าแผน
⸻
📌
🍂 ไม่กี่นาทีต่อมา
บนหน้าจอของเขาปรากฏข้อความตอบกลับ
**พริม :
หนูอ่านไฟล์เสียงวนไปสามรอบแล้วค่ะ
…ไม่รู้จะเขินหรือจะร้องไห้ก่อนดี**
ขอบคุณที่ “ฟัง” โดยไม่ขอให้หนูเปลี่ยนอะไรเลย
ต่อให้โลกพี่ซับซ้อนแค่ไหน
หนูก็ยังอยากเป็นเสียงตรงนั้นให้พี่ฟังต่อไปนะคะ
🧡 ♬ 🎧
0:21 ──⊙──────── 2:52
↻ ◁ II ▷ ↺