🌻🌼
ความรู้สึก “คลางแคลง” เบา ๆ ในใจพริม
เมื่อเธอเริ่มเห็นบางด้านของคีย์ที่เขาไม่เคยเปิดให้เธอเห็นเลย
ไม่ใช่เพราะเขาโกหก
แต่เพราะเขาเลือก “ไม่พูด”
⸻
✦
“หนูไม่กลัวความจริง…แต่กลัวแค่สิ่งที่พี่เลือกจะไม่เล่า”
⸻
🌘 เวลากลางคืน – ค่ายเงียบสงัด
เสียงจิ้งหรีดร้องแทนบทสนทนา
แสงไฟจากกระโจมค่ายเริ่มดับลงทีละดวง
ผู้เข้าร่วมหลายคนหลับแล้ว
แต่พริมยังนอนลืมตาอยู่ในห้องรวม
ใจเธอไม่สงบเหมือนทุกคืนที่ผ่านมา
เพราะแม้คีย์จะดูปกติ
แต่สิ่งที่เธอเห็นเมื่อคืนก่อน
– นิ้วเปื้อนดิน
– กระดาษขยำ
– สีหน้าเงียบเกินปกติ
มันทำให้เธอรู้ว่า…คืนนี้เขาอาจไม่ได้นอน
และเธอก็คิดไม่ผิด
⸻
🌑 เวลาตีหนึ่งกว่า – ลานหลังค่าย
พริมลุกจากเตียงอย่างเงียบที่สุด
สวมเสื้อคลุมตัวบาง เดินลัดเลาะผ่านแนวต้นไม้และสนามหญ้า
แสงไฟสลัวจากเสาไฟไม่กี่ต้นไม่อาจกลบ “ความตื่นเต้นประหลาด” ที่เริ่มก่อตัวในอก
จนกระทั่งเธอเห็นเขา
คีย์
ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ด้านหลังกองไม้เก่า
ไม่ได้อยู่คนเดียว
มีชายคนหนึ่งยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม
ไม่ได้ใส่เสื้อค่าย
ท่าทางดูคล่องแคล่วเกินกว่าจะเป็นอาสาสมัครธรรมดา
เสียงของคีย์เบามาก แต่ชัดพอในยามเงียบ
“ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องส่งใครมา”
ชายอีกคนตอบกลับทันที
เสียงแหบต่ำ
“แต่พ่อของนายไม่คิดแบบนั้น
คนของ Alek เริ่มเคลื่อนไหวใกล้ตัวเด็กคนนั้นแล้ว
พ่อไม่ไว้ใจนายหรอก คีย์”
⸻
🌒 มุมของพริม – หลังพุ่มไม้
ใจของเธอเต้นแรง
แต่เธอไม่กล้าขยับ
คำว่า “เด็กคนนั้น”
มันชัดเจนเกินไปว่า..หมายถึงเธอ
เสียงคีย์พูดต่อ
เรียบ เย็น จนน่ากลัวกว่าทุกครั้งที่เธอเคยเห็นเขา
“ถ้าเขาคิดจะแตะเธอ…ฉันจะจัดการเอง”
“ไม่ต้องให้ใครตาม ไม่ต้องมีอาวุธ ไม่ต้องมี ‘สั่ง’ อะไรทั้งนั้น”
ชายอีกคนหัวเราะเบา ๆ
“นายเริ่มอ่อนแอว่ะคีย์
เธอเปลี่ยนนายนะ รู้ตัวมั้ย?”
“…ถ้ามันแปลว่าฉันจะไม่เป็นสัตว์แบบพวกแกอีก ก็ยินดีเปลี่ยน”
⸻
🌫️ บรรยากาศเงียบลง – ชายแปลกหน้าเดินจากไป
คีย์ยืนอยู่คนเดียว
หันไปมองทางต้นไม้ด้านหนึ่ง…
ซึ่งตรงนั้น พริมกำลังยืนอยู่หลังพุ่มไม้ ร่างกายแข็งทื่อ
เธอพยายามถอยเท้า
แต่เท้าเธอเหยียบโดนกิ่งไม้
เสียง “กรอบ” ดังขึ้นในความเงียบ
คีย์หันขวับ
ดวงตาเขาเบิกขึ้นนิดหนึ่งเมื่อเห็นร่างบางของพริมค่อย ๆ ก้าวออกจากเงา
⸻
📌
“พริม…เธอมาได้ยังไง”
เสียงของเขาไม่ใช่ตำหนิ
แต่เต็มไปด้วย “อะไรบางอย่าง”
…ทั้งตกใจ ทั้งกลัว ทั้งเสียใจ
พริมไม่พูด
แค่ยืนมองเขานิ่ง ๆ
ในใจเต็มไปด้วยคำถาม
แต่เธอพูดแค่ประโยคเดียว
“พี่ไม่ต้องตอบตอนนี้ก็ได้ค่ะ”
“แต่ถ้าวันนึงพี่จะเดินหนีออกไปจากหนูอีก ช่วยบอกความจริงให้หนูก่อนก็พอ”
เธอหันหลังกลับ
ปล่อยให้เขายืนอยู่ท่ามกลางแสงไฟสีส้มสลัว
กับหัวใจของเขาเอง…ที่เริ่มไหวแบบที่ซ่อมยังไงก็ไม่ทัน
ย้อนอดีตไปยัง ฝั่งของ “วิโรจน์ กาญจนากุล”
พ่อของคีย์
ชายผู้ครองอำนาจในเครือข่ายใต้ดินอย่างสง่างามไร้เสียงปืน แต่เย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง
จะเผยให้เห็นว่า ความพยายามของคีย์ในการตัดขาด นั้นไม่เคยเป็นเรื่องง่าย เพราะสิ่งที่เขากำลังพยายามหนีออกมาไม่ใช่แค่อดีต แต่คือสายเลือด
⸻
✦
“อยากหนีไปไกลแค่ไหน…ก็ยังชื่อกาญจนากุลอยู่ดี”
⸻
🕯️ ย้อนอดีต – 8 ปีก่อน ในค่ำคืนหนึ่งของบ้านหลังใหญ่ริมแม่น้ำ
เสียงไวโอลินแผ่วเบาดังมาจากห้องโถง
เด็กชายวัยสิบสี่นั่งพิงกำแพง หายใจช้า ๆ ขณะในมือมีแผลจากการฝึกซ้อมยิงปืน
ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาช้า ๆ
เสียงรองเท้าหนังกระทบพื้นไม้สะท้อนกังวาน
ดวงตาสีดำเข้มดั่งน้ำหมึกจ้องลูกชายที่นั่งนิ่ง
“วิโรจน์ กาญจนากุล”
คนที่ไม่ต้องเอ่ยเสียงดัง…แต่ทุกคำพูดของเขา ก็คือคำสั่ง
“เจ็บเหรอ”
คีย์เด็กชายไม่ตอบ
แต่ยังคงก้มหน้ามองฝ่ามือตัวเอง
“จะเป็นหัวหน้าต่อจากพ่อได้ยังไง ถ้าเจ็บแค่นี้ยังทนไม่ได้”
คีย์เงยหน้าขึ้น
เสียงของเขานิ่งมากจนน่าประหลาดสำหรับเด็กวัยนั้น
“พี่ธามไม่ต้องฝึกแบบนี้นี่ครับ”
วิโรจน์หัวเราะเบา ๆ
“พี่ธามไม่ใช่สายเลือดฉัน
เขาเป็นลูกของแม่คนเก่า — ไม่ใช่ของฉันกับแม่แก”
เขาเดินมานั่งลงข้างลูกชาย
วางมือบนหัวไหล่ของคีย์
“มีแต่คนที่เกิดจากเลือดฉันเท่านั้น ที่จะสืบต่ออาณาจักรนี้ได้โดยไม่ต้องอธิบายอะไรให้ใครฟัง”
⸻
🥃 เวลาปัจจุบัน – บนห้องทำงานชั้นบนของอาคารเก่าแห่งหนึ่ง
วิโรจน์นั่งมองภาพข่าวในโทรศัพท์
ภาพลูกชายของเขาในชุดช็อป — ยืนยิ้มจาง ๆ อยู่ข้างหญิงสาวคนหนึ่งในค่ายอาสา
มือเขาวางแก้วเหล้าลง
ดวงตาไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ แต่เปล่งประกายบางอย่างเยียบเย็น
“มันเลือกทางเอง…แต่ลืมไปหรือเปล่าว่า ถนนทุกสายที่มันเดิน ยังเป็นของฉัน”
ชายข้างกายของเขาถามเสียงเบา
“จะให้คนของเราจัดการไหมครับท่าน?”
วิโรจน์ไม่ตอบทันที
เขาเพียงพูดเบา ๆ ขณะลุกขึ้นยืน
“เด็กคนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าตัวเองไม่เคยมีสิทธิ์ ‘ลาออกจากเลือด’”
“ส่งคนไปเตือน…อย่าให้ถึงขั้นทำลาย
แต่ถ้าเด็กผู้หญิงนั่นเริ่มทำให้เขา ‘กลายเป็นคนธรรมดา’ จริง ๆ…”
“…พวกเราต้องเป็นคนพาเขากลับมาเอง”
⸻
📌
ขณะที่พริมยังลังเลว่าจะเข้าใจอดีตของคีย์ได้มากแค่ไหน
คนที่ไม่เคยแม้แต่จะถามความรู้สึกของลูกชาย
ก็กำลัง “ปูทางเลือก” ไว้ให้เขากลับมาอยู่ในโลกเดิม…ไม่ว่าเจ้าตัวจะเต็มใจหรือไม่
เพราะสำหรับวิโรจน์
“เลือด” ไม่ใช่สิ่งที่เลือกได้
และ “ลูกชายคนเดียว” ของเขา ไม่มีวันกลายเป็นใครอื่น…
นอกจาก “ทายาทของเครือข่ายกาญจนากุล”
กลับมาค่ายอาสา — สถานที่ที่ควรจะสงบ อบอุ่น เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
แต่คืนนี้…กลับมีบางอย่าง “ผิดปกติ”
และเป็นครั้งแรกที่พริมเริ่มรู้สึกว่า..
คนที่เธอไว้ใจที่สุด กำลังพยายาม “ปกป้องเธอ” ด้วยความเงียบ…แต่กลับน่ากลัวกว่าเสียงปืน
⸻
✦
“ถ้าพี่ไม่พูด หนูก็จะเดินเข้าไปในความเงียบของพี่เอง”
⸻
🌤️ เช้าวันต่อมา – ลานกิจกรรม
แดดอ่อนส่องลงบนสนามหญ้า
กลิ่นข้าวต้มลอยมาแตะจมูกพร้อมเสียงเด็ก ๆ วิ่งเล่นกันข้างกระต๊อบไม้
ทุกอย่างดูปกติ…ยกเว้นสิ่งเล็ก ๆ ที่เปลี่ยนไป
คีย์เงียบกว่าเดิม
แม้สำหรับคนที่ชินกับความขรึมของเขาอย่างพริม ก็ยังรู้สึกว่าเงียบแบบนี้…ไม่ใช่ปกติ
“เมื่อคืนหนูขอโทษนะคะ”
พริมเอ่ยขณะยื่นกล่องนมถั่วเหลืองให้
“ที่แอบตามไป…แต่หนูแค่กลัวว่าพี่จะหายไปอีก”
คีย์รับกล่องนมมาเงียบ ๆ
มองเธอนิ่งครู่หนึ่ง ก่อนพูดสั้น ๆ
“ไม่หาย”
พริมยิ้มจาง ๆ
“แต่หนูอยากให้พี่ ‘อยู่’ ด้วย ไม่ใช่แค่ ‘ไม่หาย’ นะคะ”
เขาไม่ตอบ
เพียงแค่ก้มหน้าจิบกล่องนมช้า ๆ
แต่เธอสังเกตเห็นว่ามือเขาสั่นน้อย ๆ
⸻
🪵 เวลาผ่านไป – กลุ่มช่างประจำค่าย
คีย์กำลังซ่อมท่อส่งน้ำด้านหลังศูนย์เด็กเล็ก
เขาใช้ประแจขันน็อตด้วยความแม่นยำ
แต่ไม่ทันไร รุ่นพี่ฝ่ายกิจกรรมก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
“มีเด็กหาย!”
⸻
💨 เวลาต่อมา – รอบหมู่บ้าน
ทุกคนระดมกำลังออกตามหา
เด็กชายวัยเจ็ดขวบชื่อ “นัท” ที่ปกติวิ่งเล่นอยู่แถวสนาม ถูกแจ้งว่า “เดินออกไปไม่ไกล”
แต่หายตัวไปกว่า 40 นาทีแล้ว
“ไปทางป่าแน่ค่ะ หนูเห็นรองเท้าเขาหล่นอยู่ทางนั้น!”
เด็กผู้หญิงคนหนึ่งชี้ไปทางด้านหลังค่าย
⸻
🌲 ทางเข้าป่า – คีย์ลุกขึ้นก่อนใคร
พริมจะเดินตามไป แต่เขากลับพูดเสียงเย็น
“อย่าเพิ่งมาครับ…อยู่ตรงนี้ก่อน”
น้ำเสียงนั้นเหมือนขอร้อง…แต่แฝงด้วยคำสั่ง
พริมชะงัก
“พี่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นใช่ไหม?”
เขาไม่ตอบ
เพียงแต่เดินเข้าป่าไปอย่างรวดเร็ว พร้อมมือข้างหนึ่งที่แอบล้วงมีดพับเล่มเล็กในกระเป๋ากางเกง
⸻
🌓 ลึกเข้าไปในป่า
เสียงเด็กนัทร้องไห้เบา ๆ ดังอยู่ไม่ไกล
แต่ไม่ใช่เพียงเด็กกับต้นไม้ที่อยู่ตรงนั้น
มีชายคนหนึ่งในชุดลายพรางก้มอยู่กับเด็ก
เหมือนจะ “ช่วย” แต่การก้มต่ำเกินไป และการแตะต้องไม่จำเป็นหลายครั้ง
ทำให้สถานการณ์ดูผิดปกติ
คีย์ก้าวออกจากพุ่มไม้
“ปล่อย”
ชายคนนั้นชะงัก หันมามอง
แล้วแค่นหัวเราะ
“แค่เด็กหลง…ทำไมต้องจริงจัง”
คีย์ขยับข้อมือเล็กน้อย
เสียงมีดพับเปิดออกโดยไม่พูดอะไร
ดวงตาเขาเย็นจัด
“เพราะเขาไม่ใช่หมากต่อรอง”
⸻
📌
เมื่อคีย์พาเด็กนัทกลับมา
ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในป่า
แต่พริมเห็นแผลเล็ก ๆ บนมือของคีย์
และในดวงตาเขามีบางอย่าง…คล้ายคนที่เคยเดินผ่านความมืดมาไกลเกินกว่าจะอธิบายได้ด้วยคำพูด
“เด็กปลอดภัยแล้ว”
เขาบอกทุกคนแค่นั้น
แต่ตอนที่พริมเดินเข้าไปจับมือเขาเบา ๆ
เขากลับสะดุ้งนิดหนึ่ง เหมือนกลัวจะเปื้อนเธอด้วยอะไรบางอย่างที่ไม่ควรสัมผัส
พริมยิ้ม
ก่อนจะพูดเสียงเบา
“ไม่ต้องพูดก็ได้ค่ะ…แค่พี่อยู่ตรงนี้ หนูก็รู้แล้วว่าพี่พยายามปกป้องหนูยังไง”
พริมและคีย์ได้อยู่กันตามลำพังในช่วงคืนหลังเหตุการณ์เด็กหาย
เป็นคืนเงียบ
⸻
✦
“ถ้าโลกของพี่มันอันตราย หนูก็ขอเลือกจะเป็นคนที่พี่ต้องหันกลับมามองก่อนเสมอ”
⸻
🌒 ค่ำวันเดียวกัน – กระท่อมไม้หลังเล็กด้านหลังค่าย
หลังเหตุการณ์เด็กหาย
ผู้ประสานงานค่ายแยกกลุ่มให้อยู่กระจายตามบ้านพักชั่วคราว
บ้านพักหนึ่งถูกจัดไว้ให้ทีมซ่อมอุปกรณ์นอนพัก
แต่คืนนี้ ทุกคนถูกเรียกเข้าประชุมเวรยามกลางดึก
…ยกเว้น “คีย์” ที่เพิ่งกลับจากป่า และ “พริม” ที่อาสาเอาของมาส่ง
“พี่จะอยู่เฝ้าของใช่ไหมคะ?”
พริมถามขณะยื่นกล่องไฟฉายให้
คีย์พยักหน้า
“ไม่มีคนอยู่ตรงนี้เลยเหรอ”
“ไม่มีค่ะ รุ่นพี่ให้หนูเอาไฟฉายกับเสบียงมาส่งเฉย ๆ เดี๋ยวก็กลับ”
เธอพูด…แต่ไม่ยอมขยับไปไหน
คีย์มองเธออยู่นิ่ง ๆ
ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ
“กลัวว่าโลกของพี่จะกลืนเธอไปจริง ๆ แล้วใช่ไหม…”
พริมไม่ตอบ
เพียงแค่เดินเข้าไปใกล้ แล้ววางมือเบา ๆ บนหลังมือเขา
“กลัวค่ะ
แต่กลัวมากกว่าถ้าพี่ต้องยืนอยู่ในโลกนั้นคนเดียว”
ห้องไม้เล็ก ๆ มีเพียงแสงไฟจากหลอดฉายพกพา
แสงส้มจางสาดลงบนผ้าห่มที่ปูพื้น
เสียงของกลางคืนค่อย ๆ เลือนหายเมื่อคีย์โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้
ไม่มีคำพูด
มีเพียงลมหายใจอุ่น ๆ ที่แลกกันแบบเงียบงัน
มือของเขาลูบแผ่นหลังเธอเบา ๆ
ราวกับจะจดจำสัมผัสนี้ไว้ในใจ ก่อนต้องสูญเสียอีกครั้ง
“หนูยังอยู่ตรงนี้ค่ะ…”
พริมกระซิบขณะริมฝีปากแนบกับข้างคอเขา
“และจะไม่ไปไหน จนกว่าพี่จะเล่าให้หนูฟังทั้งหมด”
คีย์กอดเธอแน่น
เหมือนทั้งชีวิตพยายามหนีจากความรู้สึกนี้ แต่คืนนี้…เขาไม่หนีแล้ว
⸻
🌓 เวลาผ่านไป – หลังสัมผัสนั้น
พริมซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนเขา ใต้ผ้าห่มผืนเดียว
เงียบ
แต่น้ำตาเธอไหลออกมาจากมุมตาแบบไม่มีเสียง
“พี่จะเล่าความจริงให้ฟังไหมคะ…”
คีย์เงียบไปครู่หนึ่ง
ก่อนจะพูดช้า ๆ
“พ่อของพี่…ไม่เคยยอมรับว่าความรักคือสิ่งที่ปกป้องคนได้
สำหรับเขา มันคือจุดอ่อนที่ศัตรูใช้ฆ่าเราได้ง่ายที่สุด”
“แล้วพี่ล่ะคะ…”
พริมถามเสียงแผ่ว
“สำหรับพี่…หนูเป็นจุดอ่อนรึเปล่า?”
เขาเงยหน้ามามองเธอ
สบตานิ่ง
“ถ้าเธอเป็นจุดอ่อน ก็เป็นจุดที่พี่จะยอมให้เขาเจาะเข้ามา
เพราะต่อให้เสียไป พี่ก็ไม่อยากอยู่ในโลกที่ไม่มีเธออีกแล้ว”
⸻
💬 เช้าวันต่อมา – เงาแห่งอำนาจเริ่มมาเยือน
เอกสารฉบับหนึ่งถูกส่งมาถึงค่าย
ในนาม “ผู้สนับสนุนกิจกรรม” ที่ชื่อว่า
Tawanthon Group
Alek ปรากฏตัว
พร้อมรอยยิ้มใจดี และกระเช้าของฝากจาก “บริษัทแม่”
ขณะเดียวกัน
แผ่นกระดาษโน้ตอีกใบหนึ่งถูกยัดใต้ประตูห้องพักคีย์
ข้อความสั้น ๆ มีเพียงชื่อเดียวที่เขาไม่อยากเห็น
“ถ้าคนชื่อ พริมวรา ยังไม่ออกจากวงจรชีวิตของลูกชายคุณ
เราจะเป็นฝ่ายทำให้มันจบลงอย่างถาวร”
ลายเซ็นด้านล่างคือชื่อ…
วิโรจน์ กาญจนกุล
⸻
📌
พริมยังไม่รู้ว่าเธอกำลังเดินเข้าสู่สงครามที่ไม่มีควันปืน
แต่คีย์รู้ดีว่า นับจากนี้…ไม่มีที่ให้หลบอีกแล้ว
เพราะเขาต้องเลือกระหว่าง
“ผู้หญิงที่เขารัก”
กับ “ตระกูลที่ไม่เคยยอมให้ใครถอนชื่อออกไปจากสายเลือด”
〃∩ ∧_∧
⊂⌒( ´・ω・)
`ヽ_っ_/ ̄ ̄ ̄/
\/___/