🔐 แค่ใครสักคน “ไม่หายไป” ‧₊˚ ୨୧ ˚₊‧

1931 Words
“ช่วงสอบปลายภาค” 📖 พริมและคีย์ต่างก็มีโลกของตัวเองให้ต้องจัดการ แต่ก็ยังอยู่ข้างกันเสมอในแบบที่ไม่ต้องเอะอะ หวือหวา 💛 บางที การซัพพอร์ตกันไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ แค่ใครสักคน “ไม่หายไป” ไหนก็พอ และแอบใส่ขนมไว้ในกระเป๋าอีกฝ่าย ก็เพียงพอแล้วสำหรับความรักในแบบที่โตพอ 🎋 ⸻ ✦ “ในวันที่ต่างคนต่างวุ่นวาย..แค่ยังอยู่ด้วยกันแบบเงียบ ๆ ก็พอแล้ว”🌸 ⸻ 📚 สัปดาห์สอบปลายภาค – คณะอักษร บนโต๊ะไม้ยาวใต้หอสมุดกลาง 🪴 พริมวรานั่งทบทวนศัพท์จีนด้วยท่าทางที่คุ้นเคย ข้างตัวมีแฟลชการ์ดปึกใหญ่ 📑 แก้วน้ำสีชมพูที่เขียนด้วยลายมือว่า “พักสายตาด้วยนะ” 🍸🫙 และซองคุกกี้โฮมเมดที่ห่อด้วยกระดาษโน้ต 🍪 “ไม่มีคำตอบไหนสำคัญไปกว่า ‘ใจเธอที่ไม่หมดแรง’” ลายมือคีย์, เขียนด้วยปากกาน้ำเงินธรรมดา 📝 มะลินั่งฝั่งตรงข้าม มองเพื่อนสาวด้วยสายตาแซว ๆ “กลายเป็นว่าหนังสือสอบกลิ่นหอมเลยสิเนี่ย” พริมหลุดหัวเราะเบา ๆ “เขาคงกลัวหนูลืมกินข้าวอีกมั้ง” ⸻ 🛠️ ตึกเวิร์กช็อป – ช่วงค่ำ คีย์นั่งทบทวนวงจรในโปรเจกต์จบ แว่นตาใสสะท้อนแสงไฟจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ หน้าจอคอมพิวเตอร์โชว์แผนผังการเดินสายไฟซับซ้อน ข้างตัวมีซองเล็ก ๆ ที่เขาหยิบขึ้นมาดูอีกครั้ง เป็นแฟลชการ์ดศัพท์จีนชุดเล็ก ที่พริมเขียนให้เขาอ่านเล่น ๆ แม้เขาจะไม่สอบวิชานี้เลย “คำนี้อ่านว่า xīn แปลว่า ‘หัวใจ’ และหนูก็แนบมาให้เผื่อพี่จะท่องเวลาว่าง…” เขายิ้มบาง ๆ ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แล้วเก็บมันลงในกระเป๋าเสื้อช็อปข้างหน้าอก ⸻ 🕓 อีกไม่กี่วันถัดมา – หน้าอาคารเรียนรวม พริมเดินออกมาจากห้องสอบ หน้าตาเหมือนคนโดนดูดพลัง เธอก้มหน้าพลางพูดกับตัวเองว่า.. “ใครบอกว่าภาษาจีนคือความรัก..ไม่ใช่ค่ะ มันคือสงคราม” ขณะเธอกำลังเดินไปอย่างหมดแรง มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากทางข้างหลัง “สงครามก็ต้องมีทหารพยุงสิ” พริมเงยหน้า เห็นคีย์ยืนอยู่พร้อมถุงผ้าสีเขียวที่มีขวดนมถั่วเหลืองกับข้าวกล่อง “กินก่อน อย่าบ่น” เขายื่นของให้แล้วพูดสั้น ๆ “แล้วพี่ล่ะ…สอบเป็นยังไงบ้าง?” “ไม่หลับใน คาห้องก็ถือว่ารอดแล้ว” ⸻ 🍃 เวลาผ่านไป – บนบันไดริมสนามหญ้า ทั้งคู่มานั่งกินข้าวกล่องด้วยกันตรงมุมที่ไม่มีใคร เงียบ ๆ สงบ และมีลมเย็นพัดลอดเข้ามาใต้ต้นหูกวาง เย็นสบาย พริมเปิดข้าวกล่องแล้วหัวเราะ “นี่มันหมูผัดน้ำมันงา…ที่หนูเคยเผลอพูดว่าอยากกินตอนตีหนึ่ง” นิ คีย์ไม่ตอบ แค่ยักไหล่เบา ๆ “จำไว้เฉย ๆ” เธอมองเขานิ่ง ๆ แล้วพูดเบา ๆ ว่า.. “ขอบคุณนะคะ…ที่ยังอยู่ตรงนี้ แม้พวกเราจะไม่มีเวลาพูดกันเยอะเหมือนเดิม” เขาหันมามองเธอ ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ แต่จริงใจ “ไม่ต้องพูดเยอะทุกวันก็ได้ แค่รู้ว่า…เธอยังอยู่ในแต่ละวันของฉัน แค่นั้นก็พอแล้ว” ⸻ 📌 หลังจากกินเสร็จ พริมยื่นมือไปแตะแขนเขาเบา ๆ “หนูไม่แน่ใจว่าจะได้เกรดอะไรจากวิชานี้ แต่จากพี่…หนูคงได้ A+ ไปตั้งแต่วันแรกที่ได้รู้จักแล้วมั้ง” คีย์หัวเราะเบา ๆ “ไม่ต้องแซว เดี๋ยวโดนหักคะแนน” “แล้วถ้าหนูขอเก็บคะแนนเพิ่มล่ะคะ?” เขาหันมามองเธอ “เธอจะขอยังไง?” พริมยิ้มซน ๆ ก่อนจะยื่นนิ้วก้อยไปแตะนิ้วเขาเบา ๆ “ขอให้พี่อยู่ตรงนี้…ไปจนจบเทอมหน้า เทอมต่อไป แล้วก็…จนกว่าเราจะไม่มีคำว่าสอบอีกแล้ว” คีย์เกี่ยวกลับ ไม่ได้พูดอะไร แต่ก็ไม่ปล่อยมือเลยแม้จะหมดบทสนทนาแล้ว เพราะความรักบางครั้ง ก็ไม่ต้องมีคำบรรยาย แค่ยัง “อยู่ข้างกัน” ในวันที่ทุกอย่างวุ่นวาย…ก็พอแล้ว ⸻ ✦ “คนบางคน…ไม่ได้เดินเข้ามาเพื่อทักทาย แต่เพื่อวางหมาก” ⸻ ☁️ ช่วงบ่ายวันศุกร์ – ใต้ตึกกิจกรรม พริมกับมะลิแวะมานั่งกินไอศกรีมกันหลังสอบเสร็จ อากาศร้อน ๆ กับเสียงเพลงจากโทรศัพท์ของร้านข้าง ๆ ช่วยให้บรรยากาศดูเบาใจ “พรุ่งนี้ไปงานอาสากันไหม” มะลิถามพลางตักไอศกรีม “ไปสิ หนูลงชื่อไว้แล้ว…ค่ายที่ไปปลูกต้นไม้กับช่วยเด็กในชุมชนใช่ไหม” “อือ ไปกันทั้งรุ่นนั่นแหละ แต่ได้ข่าวว่าคนมาร่วมงานเยอะมาก…อาจมีพวกรุ่นพี่คณะอื่นมาด้วย” ⸻ 🧃 ตอนนั้นเอง – เสียงหนึ่งดังขึ้นจากข้างหลัง “ถ้างั้น…เราก็จะได้เจอกันอีกใช่ไหมครับ?” พริมชะงัก เสียงนั้นคุ้นหู และเมื่อเธอหันไป ก็พบว่า.. อาเล็ก – Alek Tawanthon ยืนอยู่ตรงมุมร่มไม้ มือถือแก้วน้ำเย็น เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มสุภาพแบบที่คนทั่วไปอาจรู้สึกว่าเป็นมิตร แต่เธอกลับรู้สึกหนาวแปลก ๆ ที่ต้นคอ “สวัสดีครับ พริม..น้องสาวของเพื่อนผม” เขาเน้นคำนั้นเบา ๆ เหมือนจะ “ขยายสถานะ” ที่ทำให้เขาเข้ามาหาเธอได้ โดยไม่ดูน่าสงสัย ⸻ 🍂 บทสนทนาระหว่างคนที่มีความหลัง “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ” พริมพยายามรักษาน้ำเสียงให้ปกติ “ครับ…แต่ผมติดตามเธอผ่านข่าวบ้าง” “ชีวิตในมหา’ลัยเป็นยังไงบ้าง?” พริมยิ้ม “เรียบ ๆ ดีค่ะ” Alek หัวเราะในลำคอ “ดูจะ ‘เรียบ’ มาก จนคนบางคนหายไปจากสื่อเลยนะ” เขาหันไปมองมะลิ ก่อนจะพูดเบา ๆ ว่า.. “ขอคุยกับน้องพริมแป๊บหนึ่งได้ไหมครับ?” มะลิเงียบไป พริมเป็นฝ่ายพยักหน้าให้ ได้คะ พริมพูดกับมะลิว่า.. “ไม่เป็นไร เดี๋ยวตามไปนะ” ⸻ 🌫️ ด้านข้างของตึก – บทสนทนาเงียบ ๆ “พี่มีธุระอะไรคะ?” พริมถามตรง ๆ Alek ยกยิ้มนิดหนึ่ง “เธอเปลี่ยนไปนะพริม…แต่ก็ยังพูดตรงเหมือนเดิม” เธอไม่ตอบ เขาก้าวเข้ามาใกล้เล็กน้อย “ฉันแค่อยากเตือนเธอ…ว่าเวลาคบกับใคร อย่าเพิ่งคิดว่า ‘ความเงียบ’ คือความปลอดภัยเสมอไป” พริมขมวดคิ้ว “พี่หมายถึงอะไร?” Alek ยกมือขึ้น ปลายนิ้วแตะซองแฟลชการ์ดใบเล็กในมือเธอ “ของขวัญน่ารักดีนะ…จาก ‘คนเงียบ ๆ’ ที่อยู่ในโลกเสียงดังมากกว่าที่เธอคิด” ⸻ 📌 พริมยืนนิ่ง มือของเธอกำซองแฟลชการ์ดแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว “ถ้าพี่จะพูดถึงพี่คีย์…พูดตรง ๆ เลยก็ได้ค่ะ” Alek ยิ้ม แต่แววตาเย็นกว่าคำพูด “ฉันไม่ได้พูดถึงเขา…แต่พูดถึงโลกที่เขาเคยอยู่” “แล้วก็อยากให้เธอเตรียมใจไว้ ว่าบางที ‘อดีตของใครบางคน’ อาจจะตามเธอกลับมาก่อนที่เธอจะรู้ตัว” เขาหันหลังกลับ ทิ้งเธอไว้กับลมเย็นที่พัดสวน ค่ายอาสา - ช่วงเวลาที่พริมกับคีย์ได้อยู่ใกล้กันแบบไม่มีตึกเรียน ไม่มีโปรเจกต์ หรือหนังสือสอบคั่นกลาง ขณะเดียวกัน “เงา” ที่ตามมาอย่างเงียบ ๆ ก็เริ่มโผล่ให้เห็นทีละเสี้ยว ⸻ ✦ “ถ้าโลกของพี่จะมีอะไรที่อันตราย หนูก็อยากอยู่ให้ใกล้…มากพอจะช่วยกันวิ่งหนี” ⸻ ☀️ เช้าวันเสาร์ – จุดนัดพบหน้ามหาวิทยาลัย “แปะป้ายชื่อด้วยนะคะทุกคน~!” เสียงรุ่นพี่ประสานงานค่ายตะโกนพลางแจกเทปกาว พริมยืนรัดเชือกรองเท้าอยู่ริมทางเท้า เธอสวมเสื้อยืดค่ายตัวโคร่ง หมวกแก๊ปสีน้ำตาล และเป้ใบเล็กที่ดูพร้อมลุย แต่ไม่เท่ากับคนที่เดินเข้ามาใกล้…ในสภาพชุดช็อปสีซีดและใบหน้าขรึมคุ้นตา “พี่คีย์!” พริมเงยหน้าขึ้น ยิ้มเต็มที่ “หนูนึกว่าพี่ไม่มาแล้วนะคะ รุ่นพี่บอกว่าวิศวะมาแค่สองคน” คีย์ยักไหล่ “อีกคนเขาป่วย เลยส่งฉันมาแทน” “แสดงว่า…ฟ้าส่งพี่มาแล้วล่ะค่ะ” พริมพูดยิ้ม ๆ แล้วหยิบสติ๊กเกอร์ชื่อยื่นให้ “หนูเขียนชื่อให้พี่เองเลยนะ ‘คีย์ วิศวะคนเงียบแต่ใจดี’” คีย์รับไว้ มุมปากยกขึ้นนิด ๆ ก่อนจะแปะลงบนหน้าอกเสื้อโดยไม่พูดอะไร แค่หันไปหยิบกระเป๋าเป้ของพริมขึ้นมาแบกแทนโดยไม่ต้องขอ ⸻ 🚌 ระหว่างนั่งรถ – ถนนสายชนบท เสียงเครื่องยนต์พาเพื่อนร่วมค่ายนั่งสลับพูดคุย หัวเราะ และหลับกันระหว่างทาง พริมเอนศีรษะพิงกระจกมองท้องฟ้า ก่อนจะหันไปกระซิบเบา ๆ กับคีย์ที่นั่งข้าง ๆ “บางทีหนูก็คิดนะ ถ้าโลกนี้ไม่มีข่าวลือ ไม่มีคนตามถ่าย ไม่มีคำว่า ‘ลูกชายมาเฟีย’ พี่คงเป็นแค่คนธรรมดาที่น่ารักคนหนึ่งในกลุ่มอาสา” คีย์ไม่ได้ตอบทันที เขามองออกไปนอกหน้าต่างบ้าง เสียงลมหวิวลอดเข้ามา “แล้วถ้าโลกมันไม่เคยเงียบขนาดนั้นล่ะ?” “พี่เลยเลือกจะมีแค่เธอ…ไว้ให้ใจมันได้เงียบบ้าง” พริมเงียบไปเล็กน้อย ก่อนจะพูดเสียงแผ่ว “งั้นหนูจะเป็นที่เงียบของพี่ให้นะคะ แต่ถ้าต้องวิ่งหนีอะไรอีก…หนูขอวิ่งด้วย” ⸻ 🌿 สายวันเดียวกัน – หมู่บ้านอาสา ค่ายตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเล็ก ๆ รอบข้างมีบ้านไม้เรียงเป็นกลุ่ม บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงเด็ก วิ่งเล่น เสียงครูชุมชน และกลิ่นอาหารพื้นบ้าน พริมอยู่กลุ่มกิจกรรมเด็ก คีย์อยู่กลุ่มซ่อมอุปกรณ์เรียน กับทีมช่าง แต่ทุกช่วงพัก พริมจะโผล่มาให้เห็นเงา และทุกครั้งที่เธอยื่นน้ำให้ คีย์ก็รับไป…โดยไม่เคยถามว่ารู้ได้ไงว่าเขาหิวน้ำตอนนั้นพอดี ⸻ 🌘 ค่ำวันนั้น – บริเวณกองไฟ ทุกคนล้อมรอบกองไฟกลางลาน เสียงกีตาร์โปร่งคลอเบา ๆ ขณะเพื่อนร่วมค่ายสลับเล่าเรื่องผีอย่างสนุกสนาน พริมซบไหล่คีย์อยู่เงียบ ๆ เขาไม่ได้เล่นกีตาร์ ไม่ได้เล่าเรื่อง ไม่ได้ส่งเสียง แต่แค่เขาอยู่ตรงนี้ — เธอก็รู้สึกว่าคืนนี้ปลอดภัย …จนกระทั่ง สายตาของคีย์เหลือบไปเห็น “บางอย่าง” ที่มุมมืดหลังต้นไม้ ชายสองคนยืนคุยโทรศัพท์ มือถือของคนหนึ่งส่องแสงวาบเหมือนถ่ายอะไรบางอย่าง เขาขมวดคิ้ว พริมรู้ทันทีจากท่าทางนั้น “มีอะไรเหรอคะ” “…เดี๋ยวพี่มา” ⸻ 📌 คีย์เดินหายเข้าไปในเงาไม้ หลังจากนั้นสิบห้านาที เขากลับมา พร้อมท่าทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พริมสังเกตว่า…ปลายนิ้วเขาเปื้อนดิน และในมือเขามีกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ขยำอยู่แน่น “เขาเป็นใคร?” เธอกระซิบเบา ๆ คีย์ไม่ตอบ แค่ยื่นเสื้อคลุมของเขาให้เธอสวมเพิ่ม ก่อนลุกขึ้นพูดกับรุ่นพี่กลุ่มอาสา “คืนนี้ช่วยรักษาความปลอดภัยให้เด็กผู้หญิงอยู่ห้องเดียวกันให้แน่นหนาหน่อยนะครับ ผมขอนอนเวรเฝ้าด้านนอกสลับกับพี่อีกคน” ⸻ “แม้จะเงียบแค่ไหน…บางอย่างก็เริ่มไล่ตามมาแล้ว” ꒰␥•ᴗ•␥ ꒱⊹。ꕤ˚₊⊹
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD