EP.04 ค้างคืน

3869 Words
EP.04 ค้างคืน ไนน์ทำให้วันธรรมดาที่แสนน่าเบื่อของผมกลายเป็นวันที่พิเศษขึ้นมาเพียงเพราะเย็นนี้เราจะได้เจอกัน ไม่รู้ว่าไนน์จะตื่นเต้นไหม แต่ผมตื่นเต้นที่จะได้ไปหาเขา ได้นั่งกินข้าวเย็นกับไนน์ มองรอยยิ้มไนน์ แค่นี้ผมก็แทบอดทนรอให้ถึงเย็นไม่ไหว อยากกะพริบตาทีหนึ่งแล้วเวลาผ่านไปจนถึงตอนเลิกเรียนเลยได้ไหมเนี่ย “ไอ้พีช พี่ชมรมบาสฝากใบสมัครมาให้” “เมื่อวานก็มีพี่ชมรมฟุตบอลมาถาม มึงเลือกสักอันเถอะ ไม่งั้นเขาก็ตามตื๊อมึงไม่เลิก” ผมรับใบสมัครชมรมบาสจาก ‘การันต์’ มาเก็บใส่กระเป๋าไว้เงียบ ๆ ก่อนจะหันไปตอบ ‘ภูมิ’ ที่ทิ้งตัวนั่งบนโต๊ะเรียน “เขาขอให้กูกลับไปเล่นให้ทีมโรงเรียน แต่ปีนี้กูไม่อยากเล่นกีฬาแล้วว่ะ เหนื่อย อยากพัก” “ก็เลยเลือกชมรมศิลปะ?” พวกมันสองคนถึงกับถอนหายใจยาวพรืด เรื่องนี้เราคุยกันทุกวันเพราะในกลุ่มเหลือแค่ผมที่มีชมรมไม่ครบ ทุกคนต้องมีสองชมรมไว้ทำกิจกรรม การันต์ลงดนตรีกับแบตมินตัน ภูมิลงดนตรีกับเกษตร ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกมันถนัดทั้งสองคนนั่นแหละ แต่ผมน่ะลงชมรมศิลปะไปแล้วเพราะผมชอบวาดรูป แต่ไม่มีโอกาสได้เรียนรู้และให้เวลามันอย่างจริงจัง ผมเลยอยากทำ ส่วนอีกชมรมยังไม่ได้คิดเลย พอผมจะเลิกเล่นกีฬาพวกพี่เขาก็มาตื๊อ อาจารย์ก็เหมือนกัน พวกเขาไม่อยากให้ผมออกจากการเตะฟุตบอลเพราะผมพอจะมีฝีมืออยู่บ้าง เคยเป็นตัวจริงของทีมโรงเรียนมาสองปี ช่วงม.3 และ ม.4 แต่ปีนี้ผมตั้งใจไว้ว่าจะไม่เล่นกีฬาเพราะผมเหนื่อยที่ต้องคอยมาซ้อมตอนเย็นและวันหยุด บาสเกตบอลก็เหมือนกัน ผมเล่นเป็น เคยลงแข่งตอนกีฬาสีมาสามปี และทีมผมก็ชนะทั้งสามปีเลย พี่ชมรมบาสเลยอยากให้ผมไปช่วยเล่นทีมโรงเรียนอย่างจริงจัง แต่ก็นั่นแหละ ผมไม่อยากเล่นด้วยเหตุผลเดียวกัน ผมเหนื่อย ขี้เกียจด้วย หลังจากนั่งเล่นได้เพียงครู่เดียวอาจารย์ที่สอนวิชาถัดไปก็เข้ามาพอดี พวกเพื่อนผมเลยลงจากโต๊ะมานั่งบนเก้าอี้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย จากนั้นความสนใจทั้งหมดก็มุ่งไปที่เนื้อหาของวิชาดังกล่าวทันที เห็นผมแบบนี้ผมก็เรียนพอใช้ได้นะ ผมหัวไวแต่ติดนิสัยขี้เกียจมากไปหน่อยเท่านั้นเอง ครืด No.9 : ส่งรูปภาพถึงคุณ No.9 : ออกไปตลาดมา ซื้อของไว้ทำมื้อเย็นให้พีชเต็มเลย ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวสินะที่ตื่นเต้นสำหรับเย็นนี้ ไนน์เองคงตื่นเต้นไม่ต่างจากผม เมื่อคืนที่เราคุยกันอีกครั้งตอนก่อนนอน ไนน์บอกผมว่าไนน์ไม่เคยให้คนคุยคนไหนเข้ามาในห้องเลยสักคน เขาไม่อยากให้ใครเข้ามาเห็นงานอดิเรกของเขาที่เขาชอบประดิษฐ์ของใช้ เขาไม่อยากโดนตั้งคำถามและไม่อยากตอบคำถาม ผมฟังแล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ว่าการที่เขาชอบทำโน่นทำนี่มันจะมีปัญหาตรงไหน ผมทึ่งมากกว่าที่ไนน์สามารถทำของใช้ของตัวเองแบบที่ไม่เหมือนใครได้ แล้วเขาทำสวยด้วยนะ ผมเห็นกระเป๋าผ้าที่เขาสะพาย เคสโทรศัพท์ที่เขาใช้ กำไลข้อมือลูกปัดที่เขาใส่ ทุกอย่างมันดูดีออก ไนน์บอกว่าเขาเคยโดนใครสักคนบอกว่าการทำแบบนี้มันเสียเวลา ไร้สาระ ทั้งที่ซื้อมาใช้ยังจะง่ายกว่า เขาคงเสียความมั่นใจพอสมควรเลยกังวลว่าผมจะชอบไม่เหมือนเขา ซึ่งผมเน้นย้ำไปแล้วเมื่อคืนว่าไม่ต้องอาย ไม่ต้องพยายามทำอะไรเอาใจผมหรอก ผมมันคนง่าย ๆ อยู่แล้ว ไนน์ชอบอะไรก็ทำไปเลย ผมไม่ก้าวก่าย แล้วผมก็ชอบในสิ่งที่เขาทำด้วย ชื่นชมจากใจเลยเพราะผมใจไม่เย็นพอที่จะมานั่งทำอะไรแบบนี้ได้ และไม่ใช่ทุกคนจะมีความสามารถในการคิด ประดิษฐ์สิ่งของออกมาใช้เองได้อย่างเขา พอผมพูดไปเท่านั้นแหละ ไนน์เบนกล้องกวาดไปรอบห้องแล้วบอกผมว่าที่ผมเห็นน่ะเขาทำเองเกือบทั้งหมด อวดผมใหญ่ว่าเย็บผ้าปูที่นอนเอง ออกแบบผ้าห่มเอง ไหนจะที่คั่นหนังสือที่ทำจากดอกไม้แห้งของเขาอีกหลายชิ้น อ้อ มีเสื้อยืดด้วยนะ เขาวาดเองหลายลายเลย รวมถึงรองเท้าแตะ รองเท้าผ้าใบอีกที่ไนน์ซื้อมาแล้ววาดลวดลายลงไปเพื่อให้ไม่เหมือนคนอื่น ว้าว เก่งจังเลยตัวแค่เนี้ย... ไม่เห็นจะเป็นเรื่องน่าอายตรงไหนเลย สิ่งที่เขาชอบน่ะไม่แปลกหรอก จะแปลกก็คนที่ไนน์เคยคุยแต่ละคนน่ะมีปัญหาอะไรกับความชอบคนอื่นเอ่ย? การใช้ของที่ทำเองมันน่าอายตรงไหน น่าภูมิใจออก มันคือของแรร์ไอเทมที่ไม่ได้มีขายทั่วไปนะเว้ย ผมถือโอกาสขอให้เขาทำเคสโทรศัพท์มือถือให้ผมเลย ผมอยากใช้แบบไม่เหมือนใครบ้าง 15.00 น. เมื่อวิชาสุดท้ายสิ้นสุดลง ผมคว้ากระเป๋าขึ้นหลังเลยทันที สมุดกับหนังสือเก็บเรียบร้อยตั้งแต่ยังไม่หมดคาบ พร้อมเลิกเรียนมากเลยวันนี้ “เดี๋ยว ๆ มึงรีบไปไหนเนี่ยไอ้พีช นัดเด็กที่ไหนไว้อีกวะ” “คนนี้ไม่เด็ก” ผมตอบไอ้รันต์ไปส่ง ๆ ก่อนจะหันไปร่ำลาไอ้ภูมิอีกสองสามคำ จากนั้นก็เดินไปหยิบรองเท้าหน้าห้องแล้ววิ่งลงไปยังชั้นล่าง ที่รีบขนาดนี้ไม่ใช่อะไรหรอก ผมกดเรียกแกร็บแท็กซี่เอาไว้น่ะแล้วเขาใกล้ถึงเต็มทีผมจึงต้องรีบหน่อย ไม่อยากเสียเวลานั่งรถเมล์ วันนี้อยากเจอไนน์เร็ว ๆ ไม่กี่อึดใจผมก็พาตัวเองขึ้นรถแท็กซี่ได้สำเร็จ จุดหมายปลายทางคือหอของไนน์ ผมจำได้แม่นแม้จะเคยไปแค่ครั้งเดียว Peachhhhh : ออกไปแล้ว No.9 : ใกล้ถึงแล้วทักมาอีกทีนะ No.9 : ส่งรูปภาพถึงคุณ ไนน์ส่งรูปตัวเองมาให้ผม เขายิ้มหวานอีกแล้ว โหยยยย จะน่ารักไปถึงไหนวะคนเรา!! รู้ว่าผมชอบก็ส่งยิ้มมาให้บ่อยเลยนะ ใช้เวลาสักพักใหญ่กว่าผมจะมาถึงหอของไนน์ ค่าแท็กซี่สองร้อยกว่าบาทแน่ะ เยอะกว่าค่าขนมที่พ่อให้แต่ละวันอีก ผมว่าผมคงนั่งแท็กซี่มาหาเขาได้ไม่บ่อยนักหรอก วันไหนไม่มีเงินคงต้องนั่งรถเมล์แทน ประหยัดค่าใช้จ่ายแต่เสียเวลาเป็นบ้า กว่าจะถึงที่นี่ผมต้องนั่งรถเมล์สองสายเลยนะ ต่อด้วยรถตู้เข้ามาอีก Peachhhhh : ถึงแล้ว อยู่หน้าหอ ไนน์กดอ่านแต่ไม่ได้ตอบอะไรผมกลับมา และเพียงชั่วอึดใจคนที่ผมอยากเจอก็ปรากฏตัวขึ้น ไนน์เปิดประตูให้ผมด้วยรอยยิ้มสดใสเหมือนเดิม วันนี้เขาแต่งตัวสบาย ๆ เสื้อยืดสีขาวลายยีราฟพร้อมกับกางเกงสามส่วนสีดำ อ่า ถ้าให้ผมเดาเสื้อที่เขาใส่เขาคงจะวาดเองแน่เลย “นั่งรถเหนื่อยไหมเด็กกกก” “ไม่เหนื่อย จะขึ้นไปข้างบนได้ยัง?” “เป็นเด็กใจแตกเหรอ อยากจะเข้าห้องคนอื่นจังเลย” “ไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย หิวข้าวต่างหาก” “สายตาพีชน่ะนะ แพรวพราวมาก ไอ้เด็กเจ้าเล่ห์” “โห่ ไม่ทำอะไรหรอกกก สัญญาเลยเอ้า!!” ผมยื่นนิ้วก้อยของผมไปเกี่ยวกับนิ้วก้อยของเขาไว้เพื่อเชื่อมสัญญา เมื่อคืนผมหยอกไปนิดเดียวเองว่าจะไม่ทำอะไรถ้าไนน์ไม่เผลอ วันนี้เขาระแวงผมเฉยเลย โธ่ เพิ่งรู้จักกันไม่นานเองจะให้ผมทำอะไรล่ะ ในสายตาไนน์มองผมแพรวพราวขนาดนั้นเลยเหรอ แบบนี้ถ้าไนน์รู้ความจริงว่าผมยังสดยังซิงไนน์จะผิดหวังไหม? เราเดินเกี่ยวก้อยกันแบบนั้นจนกระทั่งมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องห้องหนึ่งของชั้นสอง ดีจังเลยเนอะได้ห้องชั้นสองจะได้ไม่ต้องลำบากขึ้นบันไดหลายชั้น หอไนน์ไม่มีลิฟต์ด้วย ประตูห้องถูกเปิดเข้าไป ไนน์ดันหลังผมให้เดินเข้าห้องก่อนที่เขาจะตามเข้ามา เราจัดการถอดรองเท้าไว้บนชั้นรองเท้าให้เรียบร้อย จากนั้นผมก็ทิ้งกระเป๋านักเรียนแล้วตรงดิ่งไปที่ตู้เสื้อผ้าของไนน์ทันที “เห้ย พีช! ทำอะไร?!” เสื้อของไนน์ที่แขวนอยู่ถูกผมหยิบออกมาดูทีละตัว ไนน์วาดเสื้อยืดเองทุกตัวเลย! บางลายน่ารัก บางลายเท่มาก ผมชอบงานศิลปะแบบนี้ “เสื้อมัดย้อมนี่ไนน์ทำเองไหม? สีหวานมาก สวยดี” “ทำเองหมดเลย พีชชอบเหรอ เอาไปสิเราให้” ไนน์เดินเข้ามาประชิดตัวผมแล้วหยิบข้าวของในตู้เสื้อผ้าอวดผมใหญ่เลย อวดตรงนี้เสร็จก็พาไปดูสีที่เขาใช้วาด อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เขาต้องใช้ ผมนี่ฟังเพลินเลย เป็นครั้งแรกก็ว่าได้ที่เราอยู่ใกล้ชิดกันแล้วไนน์ดูเป็นกันเองขนาดนี้ ตอนนี้ไนน์น่ารักมากเลย ไม่รู้ว่าเขาจะรู้ตัวไหม เขาพูดเก่งมาก พูดจาน่าฟังไปหมด “วันนี้ไนน์ยิ้มเก่งจัง ดีใจที่เรามาเหรอ?” “เปล่า ดีใจที่พีชชอบอะไรแบบนี้เหมือนเรา” “ชอบสิ ไนน์ทำสวยออก” “มันไม่ดูติงต๊องใช่ไหม? เราอยากภูมิใจกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามีน่ะ เราเลยใส่ใจที่จะออกแบบทุกอย่าง ชีวิตเราได้อะไรมาง่ายเกินไป บางอย่างมันง่ายจนไร้ค่า” “ไม่เอาไม่พูดเรื่องนี้แล้ว กินข้าวกันเถอะ เราหิว” ผมรีบตัดบทเมื่อไนน์มีท่าทีนึกคิดถึงเรื่องที่อยู่ในใจของเขา ไนน์เล่าให้ผมฟังว่าที่เขาชอบทำของทุกอย่างรอบตัวให้มันยุ่งยากเพราะอยากมีส่วนร่วมไปกับทุกสิ่งรอบตัว อยากภูมิใจกับตัวเอง มันมีเรื่องลึกกว่านั้นอีกน่าจะเกี่ยวกับเรื่องพ่อของเขา ไนน์ไม่เล่าให้ผมฟังละเอียดหรอก เขาบอกแค่ว่าพ่อเขาซื้อทุกอย่างที่มีราคาแพงให้เขา แบรนด์เนมทุกอย่าง แต่ไนน์กลับไม่ดีใจเลย ไม่เคยหยิบมาใช้ เพราะคนให้นั้นให้มาส่ง ๆ จนของเหล่านั้นมันไร้ค่าในสายตาไนน์ เขาเลือกที่จะใช้ของที่ตัวเองทำเองเพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าเขาก็มีความสามารถพอ เขาทำแล้วภูมิใจ ต่อให้ของจะมีราคาถูกแต่มันไม่ไร้ค่าเพราะไนน์ตั้งใจทำทุกชิ้นด้วยใจ ส่วนเรื่องพ่อของเขานั้นผมขอไม่ถามต่อแล้วกัน ไนน์เองก็ไม่ได้สะดวกที่จะพูดถึง... เมื่อบทสนทนาเกี่ยวกับงานศิลปะจบลง ไนน์เดินไปเอาโต๊ะญี่ปุ่นขนาดกำลังดีมากางไว้หน้าโซฟา คิดว่าคงเป็นที่กินข้าวประจำของเขา จากนั้นผมก็โดนกดไหล่ลงให้นั่งกับพื้น ไม่นานเมนูอาหารที่ไนน์ทำให้ก็ยกมาเสิร์ฟจนครบ “กะเพราเต้าหู้หมูสับ ไข่เจียวแหนม ปีกไก่ทอด สามอย่างนี้ของพีชนะ ส่วนต้มจืดห้ามกิน เราทำครั้งแรกมันไม่อร่อยอะ เดี๋ยวเรากินเอง” ได้ยินแบบนี้แล้วต่อมอยากรู้อยากลองของผมมันกระตุกยิก ๆ เลย ฉะนั้นอาหารอย่างแรกที่ผมจะตักเข้าปากก็คือต้มจืดนี่แหละ ผมใช้จังหวะที่ไนน์ตักไก่ทอดใส่จานให้ผมนั่นแหละเอื้อมมือใช้ช้อนตักน้ำต้มจืดมาชิม อ่า เค็มจริงด้วย... “ไม่เท่าไหร่หรอก กินได้” “ไม่เอาดิพีช เราไม่มั่นใจอะ พีชอย่ากินเลยนะ” “กินได้จริง ๆ ไนน์อุตส่าห์ทำให้ เราไม่กินได้ไง” ผมรู้ว่าเขาตั้งใจทำอาหารมื้อนี้ให้ผมแค่ไหน จึงไม่อยากให้เขารู้สึกเสียน้ำใจ ต่อให้มันจะไม่ได้อร่อยมากแต่ผมกินได้จริง ๆ นะ แค่หันมองหน้าเขาแล้วเขายิ้มให้ผมน่ะ อาหารตรงหน้ามันก็อร่อยขึ้นมาทุกอย่างแหละ “พีช...” ไนน์มองผมอย่างไม่เชื่อสายตาว่าผมสามารถกินต้มจืดรสเค็มของเขาได้ “ไนน์ป้อนเราดิ เดี๋ยวก็หวานขึ้น” “แน๊ พีชจีบเราอีกแล้วน้า” “จีบตอนนี้ก็คิดว่าติดนะ” “ก็คิดว่าติดเหมือนกัน” ผมไม่ชอบตัวเองตอนปากไวเลยว่ะ พอผมพลั้งปากพูดอะไรแบบนี้ออกไปแล้วชอบเขินทีหลัง มือไม้มันเกะกะไปหมด หยิบจับอะไรก็ไม่ถนัดเลยเนี่ย เกือบใช้ส้อมตักต้มจืดมาซดน้ำแล้วเรา ไนน์เองก็เขินหน้าแดงไปหมด เพิ่งเคยเห็นเขาเขินจนไม่เป็นตัวเองครั้งแรกเหมือนกัน ถึงขั้นมือไม้พันกันจะหยิบปีกไก่ทิ้งแล้วหยิบกระดูกมาแทะ มื้ออาหารมื้อนี้ก็ผ่านไปด้วยความวุ่นวายมือไม้ชนกันไม่หยุดหย่อน... 20.00 น. เพราะผมขอให้ไนน์วาดเสื้อให้ผมตัวหนึ่ง เขาเลยจำใจนั่งออกแบบโดยกำชับให้ผมนั่งรอเงียบ ๆ ห้ามเดินมาแอบดู ตัวผมนั่งดูทีวีอยู่ที่โซฟา จากนั่งก็กลายเป็นนอนแล้วเพราะไนน์ใช้เวลาของเขาอยู่และผมไม่อยากกวน เขาเลือกที่จะออกแบบใส่กระดาษก่อน ทำมาสามแบบแล้วให้ผมเลือกว่าชอบลายไหน จากนั้นจึงค่อยวาดลงบนเสื้อ ซึ่งเขาพิถีพิถันมาก ผมได้แต่นั่งมองเขาอยู่มุมนี้แล้วยกโทรศัพท์แอบถ่ายรูปเขาได้ตั้งหลายรูป ตอนที่ไนน์ตั้งใจทำอะไรเขาดูจริงจังมาก ไม่มีความสดใสร่าเริงอยู่บนใบหน้าเลย ยกเว้นตอนหันมาหาผมแล้วพบว่าผมนั่งมองเขาอยู่ เขาจะส่งยิ้มหวานมาให้ จากนั้นก็หันไปทำหน้าเคร่งขรึมต่อ เฮ้อ...ทำไมกันนะ ทำไมผมถึงมองเขาได้ไม่เบื่อเลย และเพราะไม่รู้ว่าไนน์ต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนกว่าเสื้อที่เขาทำให้ผมมันจะเสร็จ ผมเลยตั้งใจจะเอาหนังสือออกมาอ่านฆ่าเวลา เผื่อไนน์จะมองผมเป็นเด็กดีบ้าง ทั้งที่ปกติผมก็ไม่ค่อยอ่านหนังสือหลังเลิกเรียนหรอก อ่านทีเดียวตอนใกล้สอบเลย ทว่าเมื่อเปิดกระเป๋าก็เจอกับใบสมัครเข้าชมรมบาสเกตบอล อ่า ลองถามไนน์ดีกว่าว่าชอบอะไร ถ้าเขาชอบอันไหนผมจะเข้าชมรมนั้นแหละ “ไนน์ครับ” “หืม พีชพูดเพราะจัง เราตกใจนะเนี่ย” “บอลกับบาสไนน์ชอบอะไร?” “ไม่ชอบเลย เราไม่ชอบเล่นกีฬา เราชอบวาดรูป” “แล้วคิดว่าเราเตะบอลหรือเล่นบาสจะเท่กว่ากัน เอาที่ไนน์ชอบ” “ถ้าเป็นพีชเหรอ อืม...บาสไหม? เราว่าพีชเล่นบาสต้องเท่มากแน่ ๆ” “แต่ถ้าเล่นกีฬาจะมีเวลามาหาไนน์น้อยลงนะ” “ไม่เห็นเป็นไร เราไปหาพีชบ้างก็ได้นี่” ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ดูสายตา น้ำเสียง ท่าทีของไนน์ตอนนี้สิ เขาไม่ได้พูดเพื่อเอาใจผมหรอก แต่เขาคิดจะไปหาผมอย่างที่เขาพูดจริง ๆ ใจผมเต้นแรงจนผมต้องยกมือขึ้นลูบอกอยู่หลายที แบบนี้หมายความว่าต่อไปเราก็ยังจะได้เจอกันอีกน่ะสิ การได้อยู่ด้วยกันวันนี้ครั้งแรกมันดีใช่ไหม ไนน์ถึงเปิดใจให้ผมอีกหน่อยแล้ว ดีจัง ผมเองก็อยากได้รับโอกาสจากเขา “ไนน์ พรุ่งนี้ก็หยุดใช่ไหม?” “หยุดถึงวันมะรืนเลย ทำไมเหรอ?” “ขอค้างคืนด้วยดิ ข้างนอกฝนตกหนักอะ คงกลับบ้านไม่ได้” “เราเรียกแท็กซี่ให้ก็ได้” “ไม่เอา อยากนอนนี่” “พีชหมายถึงจะนอนเตียงเดียวกับเราเนี่ยนะ พีชชชช มันไวไปไหมเนี่ย” “ก็ไม่อยากกลับบ้านอะ อยากอยู่กับไนน์นานกว่านี้” ไนน์ถึงกับลุกขึ้นยืนพลางกอดอก แววตาเขาหรี่ลงมองผมราวกับกำลังจับผิด แต่ผมไม่มีอะไรให้จับผิดหรอกเพราะผมไม่ได้คิดจะทำอะไรไม่ดี ผมแค่อยากรู้จักเขามากขึ้น อยากอยู่ด้วยเฉย ๆ จะให้ผมนอนพื้นแล้วเขานอนเตียงก็ได้ผมไม่มีปัญหา ผมแค่อยากอยู่กับเขาข้ามวันบ้าง ได้เห็นเขานอน เห็นเขาตื่นในเช้าอีกวัน ผมคิดแค่นั้นจริง ๆ “พ่อพีชจะว่าเอานะ ไม่ดีหรอกมานอนค้างอ้างแรมกับคนอื่น” ถ้าไนน์ติดที่เรื่องพ่อ กลัวพ่อผมเป็นห่วงเหรอ ได้เลย ผมจะโทรหาพ่อเดี๋ยวนี้ [ว่าไงลูกชาย อยู่ไหนลูก พ่อกลับมาบ้านไม่เจอพีชเลย] “ผมขอนอนบ้านเพื่อนนะพ่อ” [โอเค แล้วจะกลับวันไหน?] “ไม่พรุ่งนี้ก็มะรืนแหละ” [ได้ ๆ ดูแลตัวเองด้วยลูก] เพราะผมรู้ว่าพ่อผมต้องไม่ว่าอะไร ผมจึงกล้าที่จะเปิดลำโพงตอนคุยกับพ่อให้ไนน์ได้ยินด้วย แล้วทีนี้เขาจะหาข้ออ้างอะไรมาไล่ผมกลับอีกนะ “เราไม่เคยนอนค้างคืนกับใครเลย มีคนคุยกี่คนก็ไม่เคยนะ” “ไนน์กลัวอะไร คิดว่าเราจะทำอะไร?” “เรากลัวความใกล้ชิดอะพีช พูดแบบผู้ใหญ่เลยนะ เรากลัวมันจะเกิดเรื่องอย่างว่านั่นแหละ ซึ่งถ้ามันเกิดขึ้นจริงคงไม่ดี พีชกับเราเพิ่งรู้จักกัน ยังไม่ได้คบกันด้วยซ้ำ แล้วพีชจะเบื่อหรือทิ้งเราไปวันไหนก็ไม่รู้ เราไม่อยากมีประสบการณ์แบบว่าเผลอไผลมีอะไรกับคนที่ไม่ใช่แฟน แล้วโดนเขาทิ้งน่ะ ไม่ชอบเลยแบบนั้น” “คิดมากไปแล้ว เรานอนพื้นก็ได้นะ ที่อยากนอนด้วยก็แค่อยากรู้จักไนน์มากขึ้น อยากเห็นว่าไนน์ทำอะไรบ้าง อยากเห็นไนน์นอนหลับ ตื่นเช้ามาเจอกัน กินข้าวด้วยกัน เราต้องการแค่นี้จริง ๆ เราก็ไม่เคยนอนค้างกับใครปะ ขอค้างกับไนน์คนแรกเหมือนกันแหละ” “ไม่ต้องมาทำหน้าอ้อนเลย เด็กใจแตกชัด ๆ บ้านช่องไม่ยอมกลับ อ้อนขอนอนกับคนอื่น” “อีกหน่อยไนน์ก็ไม่ใช่คนอื่นแล้วปะ รีบศึกษากันไว้ไม่ดีเหรอ?” “ทำมาเป็นพูด พีชยังไม่กล้าบอกเลยว่าจีบเรา ที่ทำอยู่นี่คืออะไร จีบก็บอกจีบดิเราจะได้ทำตัวถูก” “ใช่ จีบอยู่ ที่ไม่พูดเพราะรู้อยู่แล้วว่าไนน์รู้ แล้วเราก็ทำตัวไม่ถูกว่าต้องเริ่มต้นยังไง เราไม่เคยจีบใครมาก่อนอะ ที่ผ่านมามีแต่คนมาจีบ” ผมก็ไม่รู้ว่าเราเข้าสู่ช่วงเปิดใจและปะทะฝีปากกันแบบนี้ได้ยังไง ไนน์เริ่มประเด็นมาก่อนซึ่งผมตอบกลับได้หมด เขาเป็นคนตรงผมเองก็เหมือนกัน พูดตรงทุกคำไม่มีโกหก “ตกลงจีบนะ จะได้เปิดใจให้พีชคนเดียว ที่จริงก็หวังไว้สูงอยู่ อย่าทำให้เราผิดหวังก็แล้วกัน” “ไนน์หวังเพราะไนน์ชอบเราใช่ปะ? ชอบเด็กเหรอ?” “อืม ชอบ เด็กแถวนี้มันแสบ อยู่ด้วยแล้วสนุกดี” “เราก็ชอบ รุ่นพี่แถวนี้มันน่ารัก ยิ้มหวานดี นิสัยก็ดี อยู่ด้วยแล้วสนุกเหมือนกัน” จากนั้นเราก็หลุดหัวเราะเสียงดังออกมาทั้งคู่ ถามว่าเขินไหม ผมเขินนะแต่ก็ต้องทำหน้าตึงรักษามาดเอาไว้บ้าง กลัวรุ่นพี่แถวนี้จะได้ใจไปว่าเขาเป็นสาเหตุที่ทำให้ใจผมเต้นแรงจนแทบหลุดจากอก ที่ผมพูดออกไปว่าชอบเขาน่ะ ใจผมมันบอกแบบนั้นจริง ๆ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมพูดความรู้สึกของตัวเองออกไปโดยไม่เสแสร้ง ถ้าเทียบกับแฟนเก่าผมยอมรับว่าผมพูดไปตามบริบท คำพูดมันประดิษฐ์กันได้ทั้งนั้นถ้าจะให้ชัดเจนที่สุดคงต้องมองการกระทำ ซึ่งมันเป็นสาเหตุที่ทุกคนบอกเลิกผมไง ผมไม่เคยเสียเวลาชีวิตไปกับการตามใจแฟนเลย รู้ตัวว่านิสัยไม่ดีแต่นั่นอาจเป็นเพราะผมยังไม่เจอใครที่ทำให้ผมรู้สึกชอบจากใจจริง ทุกคนที่ผมเคยคบผมคาดหวังเหมือนกันว่าหากคบกันไปผมอาจจะรู้สึกชอบขึ้นมาบ้างก็ได้ แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้นเลย นอกจากพี่ไทม์ที่ทำให้ผมใจเต้นได้ในตอนนั้น ก็มาเจอไนน์นี่แหละที่พอจะแทนพี่ไทม์ได้ ผมชอบไนน์ว่ะ ชอบมากขึ้นทุกวัน อยากมีเขายิ้มให้ผมแบบนี้ไปอีกนาน ๆ เขาคือคนที่ต่อให้รู้จักกันได้ไม่นานแต่ผมสามารถเป็นตัวเองเมื่ออยู่กับเขาได้ เราไม่ต้องวางท่าให้กัน ไม่ต้องเก๊ก เขาก็เป็นเขา ผมก็เป็นผม แล้วความโชคดีคือเราเข้ากันได้มากกว่าที่ผมคาดคิดไว้อีก “พีชก็น่ารักดีออก ไม่เห็นน่าเบื่อเลย แฟนเก่าเลิกกับพีชเพราะพีชน่าเบื่อได้ไง” “ไม่งั้นของดีอย่างเราคงไม่ตกมาถึงไนน์หรอก คนพวกนั้นคงตาไม่ถึง” “กล้ามาก ยกให้ตัวเองเป็นของดีเลยเหรอ ฮ่า ๆ แต่ก็ดีแล้วที่ตกถึงเรา เพราะถ้าไม่มีพีชเข้ามาเราก็ไม่รู้ว่ามีคนที่เข้ากับเราได้ทุกอย่างอยู่บนโลกนี้ด้วย” “ไนน์เจ๋งจะตาย ทำเป็นทุกอย่าง ออกแบบอะไรก็สวย” “ก็มีแค่เด็กแถวนี้แหละที่ชม เฮ้อ ดีใจจัง” “ปกติไม่ชอบให้เรียกว่าเด็กนะ แต่ถ้าเป็นเด็กไนน์คนเดียวจะยอมให้เรียกก็ได้” “พีช พอยอมให้จีบแล้วเอาใหญ่เลยนะ” “เอาใหญ่ไม่ใหญ่เดี๋ยวคืนนี้ก็รู้ โดนแน่!” “กลับบ้านไปเลยไอ้เด็กบ้า!” “ล้อเล่น!!” การได้แกล้งหยอกไนน์นี่มันสนุกจังโว๊ยยยยย ผมไม่ได้หัวเราะสุดเสียงแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ ดีจังที่ผมก็ทำให้เขายิ้มได้ เขาก็ทำให้ผมหัวเราะออกมาได้เหมือนกัน END TALK
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD