สำรวจ 1

1323 Words
“ยังมีปวดบ้าง แต่มิได้หนักหนาเจ้าค่ะ พี่ยี่หวาจะไปทำงานรึเจ้าคะ” ในความสงสัยวิธีการทำงานในหอนางโลม สิ่งสำคัญที่ต้องรู้คือวิธีการขึ้นรอบต่อครั้งในแต่ละวัน ‘หนิงชิงหงคนเดิมอาจไม่สนใจที่จะบริหารหอนางโลมของมารดา จึงไม่มีเรื่องเช่นนี้อยู่ในมโนสำนึก ต่างจากนาง...ผู้มาจากต่างภพที่ต้องการเรียนรู้มัน’ “ใช่แล้วล่ะ ยิ่งฉินอ้ายมาถูกซื้อตัวออกไปเช่นนี้ พี่ที่อยู่ในอันดับสองก็ยิ่งต้องกระตือรือร้นหน่อย ใหม่ๆ อาจจะเหนื่อยกาย” ทำหน้าเหนื่อย “เมื่อคืนนี้ก็ปวดเนื้อปวดตัวไปหมด หากไม่ได้ยาสมุนไพรชั้นดีของนายหญิง พวกเราทุกคนคงตื่นมาทำงานกันไม่ไหวเป็นแน่” “หอนางโลมปิดกันยามใดรึเจ้าคะ แล้วลูกค้าที่ยังไม่เสร็จกิจเล่า” ในความไม่รู้ หรือเจ้าของร่างเดิมไม่ได้บอกเพราะไม่สนใจ...มันต่างกันกับนางที่อยากรู้ไปเสียทุกเรื่อง จึงไม่พ้นต้องถาม ยี่หวามองหนิงชิงหงขึ้นลง ขึ้นลงอย่างแปลกใจ ก่อนหน้านี้นอกจากเรื่องความสนิทสนมคุ้นเคยของหนิงชิงหงและนางโลมทุกคน อีกฝ่ายไม่เคยถามเกี่ยวกับเรื่องบนเตียง อาจจะเพราะมันคล้ายกับการดูถูกหน้าที่การงานว่าเป็นงานขายเรือนร่าง อีกฝ่ายจึงไม่เคยถามมันออกมา ต่างจากครานี้ “ยามไฮ่ (22.00) ” หนิงชิงหงพยักหน้าหงึกหงัก “ขอให้โชคดี เฮงๆ เจ้าค่ะ” ^^ ยี่หวาทำหน้าแปลกใจ ก่อนจะเดินเข้าไปทางด้านหลังของหอนางโลมอย่างงุนงง วันต่อมา (06.30) หนิงชิงหงจัดการสภาพร่างกายตนเองจนแล้วเสร็จจึงรีบเดินออกไปจากเรือนเล็กทันที จุดมุ่งหมายคือด้านนอกของหอนางโลมเจี่ยเจียที่นางเข้าใจได้ว่าที่นี่เปิดให้บริการในยามซื่อ (09.00) แต่นั่นมิใช่ประเด็นเพราะตอนนี้นางอยากจะออกไปสำรวจพื้นที่ด้านนอกมากกว่า จำได้ว่าพื้นที่ทั้งหมดของหอนางโลมมีรั้วรอบขอบชิด แต่ไม่มีประตูหลัง สองขาบอบบางจึงเดินออกไปด้านข้างของหอนางโลมมุ่งหน้าสู่ประตูใหญ่ และก็เป็นอย่างที่คิดที่ด้านนอกของรั้วไม้นี้มีร้านรวงมากมายพาให้ตื่นตาตื่นใจ ด้านซ้ายมือเป็นร้านขายโจ๊กแบบนั่งทานและร้านอื่นๆ ยาวไปจนสุดถนน ฝั่งขวา (ฝั่งตรงข้าม) ก็ไม่น้อยหน้า สรุปได้ง่ายๆ ว่า หอนางโลมของมารดาอยู่ในแหล่งชุมชน ซึ่งมันดีมาก “ขายของทานเล่นจิปาถะและของใช้ส่วนตัวเหมือนตลาดนัดบ้านเราเลยแฮะ” นอกเหนือจากการลงทุนทำอะไรบางอย่างเป็นของตัวเองให้เร็วๆ การมองหาแนวทางที่ตัวเองชอบก่อนที่จะลงมือทำมันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่จำเป็น สองขาบอบบางภายใต้ชุดสตรีจีนเดินไปเรื่อยๆ แบบไม่ทุกข์ร้อนอะไรจนเจอเข้ากับหอนางโลมอีกที่หนึ่งซึ่งตั้งอยู่เกือบสุดทางเลี้ยว หอนางโลมแห่งนี้เปิดต้อนรับลูกค้าตั้งแต่เช้าตรู่ ‘หอนางโลมเม่ยตาน’ “จะบอกว่ามันดีหรือไม่ดีกันนะที่เปิดกันคนละด้าน หรือถ้าเปิดใกล้ๆ กันเหมือนผับในเมืองกรุง ลูกค้าก็ไม่ต้องเดินเลือกกันไกลรึเปล่า” สังเกตได้ว่าจำนวนของผู้ใช้บริการมีไม่มากนัก บวกกับทุกคนที่นี่คล้ายกับมองว่ามันคือเรื่องปกติที่หอนางโลมจะมีบุรุษเข้าออกขวักไขว่ ไม่แน่ว่าหนึ่งในนั้นอาจจะมีสามีของพวกนางที่กำลังนั่งขายของรวมอยู่ด้วย ‘ช่างเปิดกว้างให้เหล่าบุรุษได้มีสิทธิ์เลือกกันเสียจริง’ ด้วยความที่ไม่อยากตกเป็นเป้าสายตา หนิงชิงหงจึงเลือกหาร้านเพื่อนั่งทานอะไรรองท้อง และร้านนั้นก็คือร้านขายน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ “ท่านลุงเจ้าคะ ปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้ชุดหนึ่งเจ้าค่ะ” อันที่จริงแล้วนางไม่รู้เลยว่าในยุคสมัยนี้เขาจะเรียกอาหารชนิดไหนกัน อย่างไร รู้แค่เพียงตนคิดอย่างไหนก็จะพูดอย่างนั้น ‘ตามนิสัยเดิมไม่ใช่ตามนิสัยเจ้าของร่างที่เป็นแค่เด็กอายุสิบสี่ใกล้จะสิบห้าหนาว’ “ท่านลุงเจ้าคะ หอนางโลมเม่ยตาน ผู้ใดเป็นเจ้าของรึเจ้าคะ” หากจะคิดย้อนกลับไปถึงภาพจำเดิมที่อยู่ในหัวสมองของเจ้าของร่างแล้ว คล้ายกับว่าอยากให้ตัวนางผู้มาจากต่างภพได้รับรู้เกี่ยวกับหอนางโลมที่นางต้องมาอาศัยอยู่ ส่วนเรื่องนอกหอนางโลม…ก็เหมือนจะต้องมานับหนึ่งใหม่และมันไม่ใช่เรื่องสำคัญหรือเรื่องที่นางจะต้องกลัวว่าใครต่อใครแถวนี้จะรู้จักนางผู้เป็นบุตรสาวของหนิงเจี่ยเจีย “เป็นของนายท่านเนี่ยตงเล่อ สุดยอดพ่อค้าผู้ร่ำรวยที่สุดในเมืองหลวงอย่างไรเล่า เจ้ามาจากไหน ใยจึงมิรู้จัก” มองสตรีตัวน้อยขึ้นลง ขึ้นลงพลางนึกว่าเขาเคยเจออีกฝ่ายที่ไหน แต่ไม่ว่าจะนึกอย่างไรก็นึกไม่ออก ‘เนี่ยตงเล่องั้นรึ’ เรื่องจำได้หรือไม่ได้มิใช่ประเด็นที่นางจะสนใจมากไปกว่าการออกรับแขกของสตรีที่สวมชุดเปิดเผยเนื้อตัวตามอาชีพมากกว่าห้าคนด้านหน้า การแต่งตัวเป็นไปตามยุคสมัย ทรงผมเกล้าขึ้นสูง แต่งหน้าจัดจ้าน เมื่อเทียบกับตัวนาง ถ้าหากได้เป็นหนึ่งในสตรีขายเรือนร่างพวกนั้นคงต้องเปลี่ยนแปลงตนเองให้ดูดี มิใช่จัดเต็มไปตามกระแสสังคม เหมือนเช่นยามนี้ที่แม้ตัวนางจะออกแนวสตรีฉบับกระเป๋าเพราะยังโตไม่เต็มวัย นางก็ยังเลือกที่จะสวมชุดเสื้อผ้าพร้อมกับแต่งหน้าบางๆ ตามอายุ ‘เอาเป็นว่าทุกย่างก้าวที่เดินออกมาจากบ้าน หนุ่มๆ ต้องหันมองจนสุดถนนละกัน’ สตรีต่างภพดื่มน้ำเต้าหู้รองท้องจนอิ่ม ก่อนจะจ่ายเบี้ยให้ท่านลุงตามราคาหน้าร้าน การสังเกตดูลูกค้าที่ไปใช้บริการในหอนางโลมเม่ยตานมีน้อยกว่าห้าคน อาจเป็นเพราะยามนี้คือเวลาเช้าเกินไป บุรุษที่จะเข้ามาใช้บริการหากไม่เป็นบุรุษที่มีหน้าที่การงานที่ดีก็ต้องเป็นบุรุษที่ร่ำรวย อีกทั้งราคาซื้อสตรีแต่ละครั้ง…อืมมม “มันเท่าไหร่กันนะ” สองขาบอบบางเดินย้อนกลับไปยังหอนางโลมของมารดาโดยที่ขากลับนี้ นางเดินอีกฝั่งของถนนเพื่อหาซื้อของใช้กระจุกกระจิกติดมือกลับไปด้วย กิ๊บติดผมสีสันสวยงามจากร้านค้าหนึ่งดึงสายตาให้นางต้องวุ่นวายอยู่ตรงนั้นร่วมสองเค่อ (30นาที) โบขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ที่เหมาะสมกับช่วงวัยถูกซื้อใส่ห่อมากกว่าสิบชิ้น ต่างหูคู่เล็กอีกหลายคู่ ไม่นับรวมสีชาดทาริมฝีปากและของทุกอย่างที่เกี่ยวกับการแต่งหน้าทั้งหมด ในความเพลิดเพลินของสตรีร่างเล็กนั้นยังมีสายตาหลายคู่คอยมองตามอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นเป็นผู้มีอำนาจสูงส่งรวมอยู่ด้วย ‘รัชทายาทโจวเหวินหลง’ “เจ้าว่านางคือบุตรสาวเจ้าของหอนางโลมเจี่ยเจียงั้นรึ” “ขอรับ ‘หนิงชิงหง’ คือบุตรสาวที่เจ้าของหอนางโลมเจี่ยเจียรักมาก ข่าวว่ามีน้อยคนนักที่จดจำและพบเห็นนางเนื่องจากนางมิชอบออกมาพบปะกับผู้ใด อาจจะเป็นสตรีที่ชอบเก็บเนื้อเก็บตัวหรือไม่ก็อาจจะอับอายที่ตนมีมารดาขายเรือนร่าง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD