“ทำไมทำหน้าเซ็งงั้นล่ะ?”
เสียงนุ่มทุ้มต่ำเอ่ยถามอย่างห่วงใย ขณะมองหญิงสาวสวยหน้าหมวย ๆที่นั่งหน้าบึ้งอยู่ตรงโซฟาในห้องทำงานของเขา
เขารู้ดีว่าเธอไม่ได้มาหาเพราะเรื่องงานแน่นอน คนอย่างเมย์ เขมิกา ไม่มีทางเข้ามาในออฟฟิศด้วยท่าทีถอนหายใจรัว ๆขนาดนี้ หากไม่ใช่เพราะเจอเรื่องใหญ่เข้าจริง ๆ
“เฮ้อ...”
ถอนหายใจครั้งที่ห้าในรอบห้านาที ธนาหรี่ตามอง
“ฝากไว้เยอะหรือไง? ถอนเอา ๆ แบบนี้”
เขมิกาเงยหน้าขึ้นจากหมอนอิง ส่งสายตาค้อนใส่เขาทันที
“คุณอา...อย่ากวนได้มั้ย”
ชายหนุ่มยกมือขึ้นเป็นเชิงยอมแพ้ แต่ก็ยังคงยิ้มมุมปาก
“ไปนัดบอดมาใช่มั้ย?” เขาถามอีกครั้ง แววตาแพรวพราวเต็มไปด้วยความรู้ทัน
หญิงสาวทำปากยื่นทันที “คุณอาก็รู้อยู่แล้ว ยังจะถามอีก!”
เขมิกา หญิงสาววัยยี่สิบห้าผู้รักชีวิตสโลว์ไลฟ์แต่เกลียดการถูกบังคับ โวยเบา ๆ พลางเอนหลังพิงพนักโซฟา ราวกับเหนื่อยใจกับโลกใบนี้เหลือเกิน
“เลยมาหลบที่ออฟฟิศอา” เธอสารภาพเสียงเบา
ธนาไม่แปลกใจเลย...ช่วงนี้เขมิกาถูกพ่อกับแม่กดดันให้แต่งงานหนักขึ้นทุกที มีเดตบอดนัดใหม่มาแทบทุกสัปดาห์
เขาคือที่พึ่งสุดท้ายของเธอ
ธนา ชายหนุ่มวัยสามสิบห้า หน้าตาคมเข้มแบบไทยแท้ไม่มีผสมชาติอื่นแม้แต่เปอร์เซ็นเดียว เขาเป็นน้องชายต่างสายเลือดของบิดาเขมิกา แม้จะไม่ได้เป็นญาติแท้ ๆ แต่เขาก็โตมากับบ้านนี้ตั้งแต่เด็ก และสำหรับเขมิกา...เขาคือ “คุณอา” ที่ทั้ง
ห่วง ทั้งดุ ทั้งปลอบใจเธอได้ในทุกเรื่อง
“แล้วไง นัดคราวนี้เป็นยังไงล่ะ” เขาถามพลางเทน้ำใส่แก้วแล้วยื่นให้หญิงสาว
เขมิกาเบะปากทันทีเหมือนจะร้องไห้
“เหมือนเดิมนั่นแหละค่ะคุณอา บอสไฮโซหน้าตาดี พูดเพราะ แต่พอถามว่าทำงานบริษัทอะไร...”
เธอเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนสบตาเขาแล้วพูดชัดถ้อยชัดคำ
“...คุณอารู้มั้ย เขาตอบว่า ‘ไม่แน่ใจครับ จำไม่ได้ชื่อบริษัทอะไร’ แล้วก็หัวเราะแบบ...เหมือนภูมิใจอ่ะ!”
ธนากลั้นขำไม่อยู่ หลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ
“แล้วหนูจะเอาอะไรล่ะเมย์ จะให้หล่อ รวย ขยัน ทำงานจริงจัง ใส่สูท ดูแลบ้านได้ แถมรักเดียวใจเดียว มันก็ต้องหานานหน่อยสิ”
“หนูก็แค่ไม่อยากโดนยัดเยียดค่ะ!”
หญิงสาวตอบทันที
“อยากแต่งก็ต้องเลือกเองสิ ไม่ใช่ส่งๆมาให้ทุกอาทิตย์แบบนี้ หนูไม่ใช่เซเว่นนะคะคุณอา!”
ธนาหัวเราะอีกครั้ง เขารู้ว่าเธอเหนื่อยจริง แต่ก็ยังอดเอ็นดูไม่ได้
เธอเป็นเด็กที่เอาแต่ใจ แต่ไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อน เป็นคนที่รักความสะดวก แต่ก็ไม่เคยขี้เกียจในสิ่งที่รัก...แม้จะยังไม่เข้าใจว่ารักคืออะไรเลยก็ตาม
“แล้วสรุป...จะทำยังไงต่อ?”
“ไม่รู้ค่ะ...”
เสียงเขมิกาเบาลงอย่างน่าใจหาย
“พ่อแม่บอกว่าถ้าไม่ยอมดูแลธุรกิจ ก็ต้องแต่งงาน...ให้คนอื่นมาทำแทน หนูไม่อยากให้คนอื่นมาทำ หนูก็รักบริษัทนะ แต่หนู...หนูไม่พร้อม ถ้าพ่อกับแม่ไม่ใช่แค่ขู่ว่าจะตัดให้พ้นกองมรดก ”
ธนานิ่งเงียบไปพักใหญ่ ก่อนจะหันกลับไปทำงานที่ยังทำค้างอยู่ก่อนหน้า
“งั้นก็เข้าไปเรียนรู้ธุรกิจซะ ถ้าไม่อยากแต่งงานและไม่อยากถูกตัดออกจากมรดก”
ธนาเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่แฝงความเด็ดขาด ขณะมือยังพิมพ์งานไม่หยุด เขาไม่ได้แม้แต่หันมามองด้วยซ้ำ
เขมิกาเลิกคิ้ว แอบมองชื่นชมเขาเงียบๆ สายตาคู่กลมมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างคนที่กำลังค้นหาอะไรบางอย่าง...เขาดูจริงจัง ดูมั่นคง ดูเป็นผู้ใหญ่
วันนี้เขาใส่เสื้อเชิ้ตพอดีตัวพับแขนขึ้นนิด ๆ เวลานั่งทำงานจริงจังแบบนี้...ดูเท่แบบแปลก ๆ
“ไม่เอาค่ะ ไม่อยากทำงาน ฝีมือหนูไม่ได้เลย หนูโง่จะตาย”
เธอบ่นเสียงอ่อนทีเล่นทีจริง แอบทำตาละห้อยเผื่อจะทำให้เขายอมใจอ่อนช่วย
แต่เปล่าเลย...
“ตอนเรียนก็ออกจะฉลาด”
เขาตอบทันควัน เสียงนิ่งแต่เจือแววขำ
“โง่ หรือแค่ขี้เกียจ หรือเพราะว่าไม่อยากอยู่ในระบบงานบริษัทกันแน่ เอาดี ๆ”
เขมิกาสะอึก...รู้ทันเกินไปมั้ยคนนี้
“...อึ่ย คุณอาอะ”
“อย่าทำเสียงแบบนั้น เหมือนจะงอนแต่ไม่กล้างอน” ธนาพูดทั้งที่ยังจ้องหน้าจอ แถมยกแก้วน้ำขึ้นดื่มอย่างไม่ยี่หระเหมือนรู้ทันทุกจังหวะของหลานสาวตัวแสบ
เขมิกายิ้มมุมปาก
...เธอชักอยากจะแกล้งเขาอีกนิด
“แต่งกับหนูมั้ยล่ะ?”
เธอเอ่ยขึ้นลอย ๆ เสียงนุ่มนิ่ม แต่เจตนาไม่ลอยเลยสักนิด
ทันใดนั้น
แค่ก! แค่กกก!!
ธนาแทบจะพุ่งตัวพรวดจากเก้าอี้ น้ำในปากแทบพุ่งออกมาไม่ทันตั้งตัว เขารีบวางแก้วน้ำแล้วไอแทบขาดใจ
“ว่า...อะ อะไรนะ!?” เขาเงยหน้ามองเธอด้วยสายตาตกตะลึง ใบหน้าแดงซ่านเพราะสำลัก
เขมิกากลั้นหัวเราะสุดชีวิต แต่ก็ยังตีหน้าเฉยได้อย่างน่าเอ็นดู
“ก็แต่งงานไงคะ หนูไม่อยากแต่งกับใครก็ไม่รู้ แล้วคุณอาก็ดูเก่งกับเรื่องธุรกิจ เป็นที่พึ่ง หนูไว้ใจได้... หนูก็เลยคิดว่า ถ้าจะต้องแต่งงานให้จบ ๆ ไป...”
เธอพูดพลางยักไหล่เบา ๆ เหมือนไม่ได้คิดอะไรมาก
ธนาจ้องเธอนิ่งไปพักหนึ่ง แววตาที่เคยล้อเล่นค่อย ๆ เลือนหาย กลายเป็นจริงจังขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
“อย่าพูดแบบนี้ลอย ๆ นะเมย์...”
“ทำไมล่ะคะ?”
“เพราะถ้าอายอม...ก็บ้าแล้ว”
เขมิกาชะงักไปเพียงเสี้ยววินาที...หัวใจเธอเหมือนเต้นผิดจังหวะ
เสียงในห้องเงียบกริบ เหลือเพียงเสียงพัดลมจากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ยังทำงานต่อเนื่อง
เธอกำลังยิ้ม...ยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างคนที่คิดอะไรออก