“นะคะคุณอา... นะคะ”
เขมิกาก้าวเข้ามาใกล้ เสียงอ้อนเบาแผ่ว
ศีรษะของเธอเอนซบลงบนไหล่กว้างที่เคยเป็นที่พักพิงมาตลอดชีวิต
เธอไม่ได้คิดอะไรลึกซึ้ง แค่รู้ว่า...ถ้าอ้อนอีกนิด บางทีเขาอาจจะใจอ่อนเหมือนเคย
แต่ครั้งนี้...กลับไม่เป็นแบบนั้น
“ไม่... ยังไงก็ไม่”
เสียงของธนาแข็งกว่าที่เธอเคยได้ยินมา
และหนักแน่นพอจะตัดความหวังในอกของเธอให้ขาดสะบั้น
“อาไม่แต่งกับคนที่อาไม่ได้รักหรอกนะ”
เขาหยุดพูดชั่วอึดใจ ก่อนจะเติมถ้อยคำที่ทิ่มแทงเธอที่สุด
“ยิ่งเป็นเมย์... ยิ่งไม่ควร”
มือข้างหนึ่งของเขายกขึ้น
ผลักหัวเล็ก ๆ ของเธอออกจากไหล่อย่างอ่อนโยนแต่เด็ดขาด
“ต่อให้พ่อแม่เมย์อนุญาต...อาก็ไม่แต่ง”
แล้วเขาก็หมุนตัวเดินออกจากห้องเสียงประตูกระทบกันเบา ๆ แต่ในใจเขมิกา มันดังราวกับเสียงระเบิดตู้ม!ทุกอย่างเหมือนแตกสลาย
หญิงสาวยืนนิ่งอยู่กลางห้อง ราวกับถูกตรึงไว้กับพื้นที่ไม่มีใครมองเห็น
แววตาที่เคยสดใสของเธอสั่นไหว
“คุณอาไม่รักเมย์เลยเหรอ... ถึงขนาดนี้แล้ว...”
เสียงนั้นเบามาก ราวกับเธอพูดกับตัวเอง
แต่อารมณ์ในคำพูดนั้นกลับดังในอกเกินกว่าจะทำเฉย ๆไม่ให้ไม่รู้สึกได้
ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยมีใครปฏิเสธเธอ
ไม่เคยมีใครผลักเธอออกไป
ไม่เคยมีใครพูดว่า “ไม่รัก” …ชัดเจนขนาดนี้
เขมิกายกมือขึ้นแตะแก้มตัวเอง
เปลือกตาเริ่มร้อนผ่าว รู้สึกได้ถึงบางอย่างที่คลออยู่ขอบตา
เธอไม่เคยรู้ว่าการถูกปฏิเสธ มันเจ็บขนาดนี้
โดยเฉพาะ...จากคนที่เธอไว้ใจที่สุด
แต่ไม่รู้เพราะอะไรเสียงในหัวใจเธอกลับตะโกนออกมาดังๆว่า
“หนูไม่ยอมหรอกนะ ยังไงคุณอาก็ต้องเป็นของหนูเท่านั้น แม้ไม่ได้รักกันก็ตาม”
เขมิกายกมือปาดน้ำตาเร็ว ๆสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะมองไปยังประตูที่เขาเพิ่งเดินจากไป
“คุณอาไม่รักหนูตอนนี้...ไม่เป็นไร”
“แต่หนูจะทำให้คุณอารักให้ได้”
ติ๊ง!
เสียงแจ้งเตือนจากแอพไลน์ดังขึ้นกลางดึก
หน้าจอที่เคยดับสนิทสว่างวาบขึ้นพร้อมข้อความที่ทำให้เขาชะงัก
(คุณอาธนาคะ เมย์เมา มารับเมย์หน่อย)
ชื่อผู้ส่งเป็นชื่อเพื่อนของหลานสาวที่เขารู้จักดี
...แสดงว่าข้อความนี้เป็น “เรื่องจริง” แน่
ธนานั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง มือถือยังคาอยู่ในมือ ราวกับต้องใช้เวลาในการประมวลผล
เมย์เมา...?
นี่มันกี่โมงแล้ว?
ทำไมถึงไปเมาได้?
ในหัวเขามีแต่คำถามเต็มไปหมด แต่คำถามที่ดังที่สุดคือ...“เธอเป็นอะไรไปเหรอเมย์...”
ภาพของหญิงสาวที่ยืนตาแดง ๆ อยู่กลางห้องยังติดตา
คำถามสุดท้ายของเธอยังคาอยู่ในอกเขา
“คุณอาไม่รักเมย์เลยเหรอ...”
เขาคิดว่าเธอคงแค่เสียใจนิดหน่อย ไม่คิดว่าเธอจะหนีไปดื่ม จนเมาเสียสติ
ธนาลุกขึ้น คว้ากุญแจรถและโทรศัพท์ทันที โดยไม่รู้ตัวเลยว่าเท้าที่ก้าวออกไปนั้น...เต็มไปด้วยความร้อนรน
บาร์เล็ก ๆ ย่านทองหล่อ
00:47 น.
รถคันหรูจอดเทียบหน้าร้านชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตสีเข้มก้าวลงมาอย่างเร่งรีบ ดวงตากวาดหาคนคุ้นเคยในทันที
“คุณอา!”
เสียงเรียกจากหญิงสาวในชุดเกาะอกแหวกอกลึก ไม่ใช่เขมิกา แต่คือเพื่อนเธอ
“อยู่ไหน?” เขาถามสั้น ๆ
เพื่อนสาวชี้ไปยังโต๊ะมุมในสุดของร้าน...และที่นั่น เขาเห็นเธอ
เขมิกานั่งฟุบหน้าอยู่บนโต๊ะ
ข้าง ๆ มีแก้วค็อกเทลวางอยู่สามใบ และอีกหนึ่งในมือน้อย ๆ ที่เธอกำลังถือหลวม ๆ ราวกับจะหลุด
ใบหน้าที่เคยสดใสแดงจัดด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ เธอกำลังพูดพึมพำกับตัวเอง เสียงเบาจนจับใจความแทบไม่ได้
ธนาเดินตรงเข้าไปหา ดึงแก้วในมือเธอออก แล้วทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ
“เมย์...” เขาเรียกเบา ๆ
เธอหันมามองเขาช้า ๆ ดวงตาที่เคยสดใสตอนนี้ขุ่นมัวและพร่ามัว
แต่เพียงแค่เห็นใบหน้าเขา...เธอก็ยิ้ม
“คุณอา...มาแล้วเหรอคะ”
เสียงหวานแผ่วเบา แต่ในใจเขากลับรู้สึกเหมือนโดนมีดเล่มเล็กๆกรีดช้า ๆ
“หนูดีใจจังเลย...หนูรู้ว่าคุณอาต้องมา...”
“คุณอาใจร้ายจังเลย...แต่ก็ยังมา...”
เขาสูดหายใจลึก พยายามควบคุมสีหน้า
ไม่ให้ความรู้สึกในอกมันแสดงออกมาง่าย ๆ
“กลับบ้านเถอะเมย์”
“อุ้มหนูหน่อย...ได้มั้ยคะ?”
เสียงหวานเบาเหมือนลมหายใจ
แฝงความอ้อนที่แม้จะดูไร้เหตุผล แต่ก็แทบต้านทานไม่ได้ในสถานการณ์แบบนี้
หญิงสาวไม่ได้รอคำตอบ
แต่โผเข้าซุกอกกว้างทันทีอย่างไร้ซึ่งสติ
กลิ่นแอลกอฮอล์อ่อน ๆ เจืออยู่ในลมหายใจที่เป่ารดอกของเขา
ธนาเซไปเล็กน้อยด้วยแรงโถม
แขนเรียวทั้งสองข้างของเธอโอบรอบเอวเขาแน่นราวกับเด็กหลงทางที่เจอคนคุ้นเคย
ใบหน้าเล็ก ๆ ซบลงตรงหน้าอกของเขา ดวงตาฉ่ำวาวพร่าเลือน
เปลือกตาสั่นไหวคล้ายกำลังจะหลับแต่ก็ยังฝืนลืมไว้
ริมฝีปากเอ่ยพึมพำเบา ๆ ใกล้หัวใจเขามากเกินไป
“อย่าไล่หนูเลยนะคะ... คุณอา~~”
ธนากัดฟันแน่น หยุดตัวเองไม่ให้ใช้มือกอดตอบ
มือทั้งสองของเขากำไว้ข้างตัวจนเส้นเอ็นขึ้น
ใจเขาเต้นแรง…ไม่ใช่เพราะเธอเมา
แต่เพราะเขารู้ตัวว่า การจะผลักหล่อนออกไปตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องที่ดูยากเย็นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
ทำไมเขมิกาถึงทำให้หัวใจของเขาไม่มั่นคงขนาดนี้นะ...
เขาหลับตาแน่น พ่นลมหายใจหนัก ๆ
“เมย์...อย่าทำแบบนี้เลย”
“ก็คุณอาไม่สนใจเมย์เลย...”
เสียงเธอเบา แต่หนักพอจะทำให้โลกของเขาโคลงเคลง
“เมย์...” เขาเรียกชื่อเธออย่างหนักแน่นแต่แผ่วเบา “หยุดเพ้อเจ้อได้แล้ว กลับบ้านเดี๋ยวนี้เลย”
ในรถ
เงียบ...
มีเพียงเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของหญิงสาวข้างกาย ที่ฟุบอยู่บนเบาะโดยศีรษะเอนมาซบที่ไหล่เขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ธนาขับรถโดยไม่พูดอะไร
มือข้างหนึ่งจับพวงมาลัยแน่นกว่าปกติ
สายตาเหลือบมองคนข้างตัวเป็นระยะ
“เมาจริง ๆ...”
“แล้วก็ดื้อเหมือนเดิม”
เมื่อถึงหน้าคอนโด เขาเลื่อนรถเข้าไปจอดในช่องของตน ก่อนจะหันไปแตะไหล่เล็ก ๆ
“เมย์ ๆตื่น...ถึงแล้ว”
“อื้อ...” เธอขานเบา ๆ พลางขยับตัว
ดวงตาพร่าเลือนลืมขึ้นมา ก่อนจะปรือลงอีกครั้ง
“คุณอา...จะทิ้งหนูรึเปล่า”
“ไม่มีใครทิ้งเมย์ทั้งนั้น” เขาตอบพลางถอนหายใจ
ก่อนจะลุกจากรถ เดินอ้อมมาเปิดประตูฝั่งเธอ
“ลุกไหวมั้ย?”
เขมิกาส่ายหน้าเบา ๆ แล้วพึมพำ
“ไม่อยากกลับบ้าน... พ่อกับแม่ต้องว่าแน่เลย”
“ก็เลยพามานี่ไง” เขาพูดเสียงเครียดเล็กน้อยกับความดื้อของหญิงสาว
ไม่กี่วินาทีต่อมา เธอก็รู้สึกตัวว่าตัวเองถูกรวบขึ้นมาแนบอก
แขนของเขาสอดใต้ข้อพับและแผ่นหลังของเธออย่างอ่อนโยนแต่แข็งแรง ให้ความรู้สึกปลอดภัยทุกครั้งที่อยู่ในอ้อมกอดนี้
“คุณอาอุ้มหนูเหรอ...”
เสียงเธอแผ่วเบาในลำคอ และรอยยิ้มนิด ๆ ก็ผุดขึ้น
“หนูตัวเบาจะตาย ทำไมคุณอาทำเหมือนอุ้มหมีตัวโต”
ธนาไม่ตอบ สีหน้าเขาดูขรึมจัดกว่าทุกครั้ง
ไม่แม้แต่จะสบตาเธอ
เขาเดินตรงไปยังลิฟต์ กดขึ้นชั้นบนสุดของคอนโดที่เขาอยู่คนเดียวเสมอมา
ภายในห้องพัก คอนโดหรู ยามดึก
ชายหนุ่มวางหญิงสาวลงบนเตียงนอนอย่างระมัดระวัง
เขาหยิบผ้าห่มมาคลุมให้ และกำลังจะหันไปเตรียมน้ำเปล่าให้เธอดื่ม
แต่แล้ว...
“คุณอา...”
เสียงเรียกเบา ๆ ทำให้เขาหยุดฝีเท้า
เขาหันกลับไป
เห็นเขมิกานอนตะแคง ดวงตากลมโตมองเขาอย่างเลื่อนลอยปนสับสน
“คุณอา...ไม่รักเมย์จริง ๆ เหรอ?”
ธนาชะงัก
ในใจเหมือนถูกใครผลักลงเหว
คำถามเดิม ซ้ำรอบที่สอง
“หนูพยายามแล้วนะ...” เธอพึมพำต่อ
“พยายามจะทำให้คุณอารักหนู...แต่คุณอาก็ยังใจแข็งอยู่ดี”
เธอยิ้มบาง ๆ อย่างคนที่หมดแรง
“คุณอา....หนูน่ะ อยากได้คุณอาเป็นสามีจริงๆนะคะ”
แขนเล็กยกขึ้นคล้องคอของชายหนุ่ม ใบหน้าห่างกันเพียงน้อยนิด หล่อนไม่ใช่เด็กแล้ว เขมิกาคือหญิงสาววัยยี่สิบห้าปี หล่อนเป็นสาวสะพรั่งที่พร้อมไปหมดทุกด้าน ใจของชายหนุ่มเต้นรัว
“คุณอา..เราจูบกันได้มั้ย...”
“เมย์เมาแล้วนะ...เลิกบ้าซะที”
ธนาพยายามแกะมือที่เหนียวเหมือนหนวดปลาหมึกออก
“...จูบเมย์ก่อน แล้วเมย์จะปล่อย..” หญิงสาวยื่นข้อเสนอ ความเมาทำให้เธอใจกล้าหน้าด้าน มองเขาด้วยสายตาหวานฉ่ำจนแทบจะกลืนกินเข้าไป
“เมย์...”
“นะคะ แค่จูบเอง...”
ปากแดงเรื่อด้วยฤทธิ์ของเหล้ายื่นเข้ามาหา ชายหนุ่มเริ่มหมดความอดทน
“ได้...แค่จูบนะ..”
เขาประคองใบหน้าเล็กไว้ก่อนจะค่อยๆประกบจูบ ทีแรกตั้งใจว่าแค่จุ๊บแตะ ๆให้หล่อนพอใจ แต่คนตัวเล็กไม่ยอม หล่อนโน้มกายเข้ามากอดเขาแน่นเพิ่มน้ำหนักจูบให้กดลึกมากขึ้น เลือดในกายของชายหนุ่มแล่นพล่าน ร้อนวูบวาบไปทั้งร่างแทบจะหายใจไม่ออก
ผึ่ง!
ความอดทนหมดลง
เขาห้ามใจตัวเองไม่ไหวบดจูบแรงขึ้น เร่าร้อนมากขึ้น สองมือไม่รอช้าที่จะปลดเปลื้องอาภรณ์ออกไปทีล่ะชั้น ๆจนเกือบเปลือยทั้งร่าง
“คุณอา....”
เสียงครางชื่อราวกับกำลังยั่วเย้าให้เขายิ่งเพิ่มความร้อนพลุ่งพล่านที่มาจากแกนกลางของร่างกายให้เพิ่มมากขึ้น สมองและจิตสำนึกคล้ายจะหยุดทำงานชั่วคราว
“เมย์....อย่าทำแบบนี้.....”
ปากบอกไม่...แต่การกระทำของเขาหยุดไม่ได้แล้วจมูกโด่งจูบซุกไซ้ลงมาแถวซอกคอ ขบเบาๆที่ติ่งหู มือเรียวของหล่อนยกขึ้นลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของเขาอย่างเงอะงะ สติที่ยังเหลืออยู่เพียงน้อยนิดรับรู้ได้อย่างเดียวว่าเต็มใจตอบรับทุกการสัมผัสจากเขาอย่างเต็มอกเต็มใจ
“ทำแบบนั้นเลยค่ะ...อืม...”
สองเต้าถูกมือแกร่งบีบขยำจนเกิดรอยแดงตามรอยบีบบี้ ลูกเชอรี่สองลูกที่แสนเย้ายวนใจถูกเขาดูดเลีย บ้างก็ขบเบาๆสร้างความสยิวรัญจวนจนหญิงสาวต้องร้องครวญครางออกมาดัง ๆ
“อืม...คุณอาขา~”
“ไหนว่าไม่รัก....แต่คุณอาก็หิว..”
“เมย์ทำให้อา ทนไม่ไหว..”
ชายหนุ่มไต่จูบลงไปตรงหน้าท้องราบเรียบ กางเกงในแพนตี้ตัวจิ๋วสีดำยังคงปกปิดจุดสงวนเอาไว้อย่างมิดชิด
“ถ้าคุณอาเป็นของเมย์แล้ว...อ๊า..ตรงนั้นเสียวเกินไปค่ะ...”
เขาจูบลงบนเนินเนื้อสวาท...ทำให้กายสาวบิดเร่าไปมาด้วยความเสียวสุดขีด
“เป็นแล้วยังไง..”
“เราแต่งงานกันนะคะ คุณอาขา~”
ธนาชะงักไปเมื่อได้ยินคำนั้น สติกลับมาในทันที เขารีบผละออกจากร่างเกือบเปลือยที่ขาวนวลเนียนอย่างพยายามหักห้ามใจจนถึงที่สุด หล่อนตั้งใจยั่วเขาและเขาก็กำลังจะตกหลุมพรางของหล่อน ..ถ้าไม่ใช่เพราะเขมิกาเผลอเอ่ยเรื่องแต่งงานออกมา ป่านนี้เขาคง...
“ลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าเดี๋ยวนี้เลย!”
เสียงห้าวดังลั่นห้องจนเขมิกาสะดุ้ง
“อาจะพาไปส่งบ้าน”
เขาพูดเสียงเข้ม ไม่แม้แต่จะสบตา
“แล้วอย่าทำแบบนี้อีก เข้าใจมั้ย”
“หนูทำอะไร…” เขมิกาถามเสียงเบา
สับสนเจือปนความเจ็บอย่างไม่เข้าใจ เมื่อครู่เขายังพอใจอยู่เลยไม่ใช่เหรอ
“หนูแค่…เต็มใจจะเป็นของคุณอา หนูไม่เสียใจเลยสักนิด”
เธอพูดช้า ๆ ตรงๆอย่างไม่อ้อมค้อม ไม่เล่นบทเด็กแล้ว
มีแต่ผู้หญิงคนหนึ่ง...ที่แค่ “อยากได้เขาใจจะขาด”
แต่คำตอบของเขา กลับเหมือนมีดที่ทิ่มแทงลงมากลางอก
“อย่าเอาตัวเข้าแลกแค่เพราะอยากแต่งงานกับอาจนตัวสั่น!”
เสียงคำรามของเขาทำให้ห้องทั้งห้องสั่นสะเทือน
แต่หัวใจของเขมิกาต่างหากที่สั่นสะเทือนกว่าใคร
“มันน่าละอาย...เมย์!”
เธอเงียบ
แววตาที่เคยอ่อนโยน แปรเปลี่ยนเป็นแข็งกระด้างในพริบตา
เธอลุกจากเตียงอย่างช้า ๆ ยืดหลังตรง
แม้หัวใจจะเหมือนโดนกระชากออกไปทั้งดวง
แต่เธอจะไม่ร้องไห้ให้เขาเห็น
“งั้นหนูขอโทษนะคะ...”
เธอเหมือนจะโต้แย้งแต่ยอมรับว่าอยากได้เขาจริงๆ
“หนูไม่ได้เอาตัวเข้าแลก ”
เธอใส่เสื้อผ้าและหยิบกระเป๋ากับรองเท้ามาถือไว้ในมือ
“คุณอาไม่ต้องพาไปส่งหรอกค่ะ หนูไปเองได้”
ธนานิ่ง อึ้งไปกับคำพูดของเธอ
เขารู้...ว่าเธอไม่ได้แค่งอน แต่เธอเจ็บจริงจากคำพูดของเขา เขาคนนี้ที่เคยเป็นดั่งเซฟโซนของเธอ ที่ ๆปลอดภัยยามเธอต้องการหลบจากโลกภายนอกที่วุ่นวายนั้น
เธอหมุนตัวจะเดินไปที่ประตู แต่เขากลับยืนขวางไว้
มือของเขาเอื้อมไปจับที่แขนเธอแน่นกว่าทุกครั้ง จนเธอสะดุ้ง
“ปล่อยค่ะ”
“เดี๋ยวอาไปส่ง”
“ไม่ต้อง หนูจะไปหาเจ้าบ่าวของหนู หนูจะไปนัดบอดแล้วลากเขาขึ้นเตียงซะ!”
คำพูดของเขมิกาทำเขาอารมณ์ที่แค่ขุ่นมั่วแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธขึ้นมาในทันที
“งั้นก็เชิญ! ถ้าจะร่านขนาดนั้น”เขาสบถออกมาอย่างไม่ตั้งใจ ทำเอาหญิงสาวสะอึก ก่อนจะนิ่งอึ้งไปไม่ตอบโต้อะไรเขาอีกและก้าวขาออกไปจากห้องในทันที
ธนายกมือขึ้นเสยผมตอนนี้เขากลายเป็นฝ่ายหัวเสียซะเอง เมื่อเขมิกาเดินออกพ้นประตูไปเขาก็ปิดประตูทันที
ปัง!
“เออ ให้มันได้แบบนี้ เดี๋ยวเขมิกาจะหาให้หล่อกว่าคุณอาเลยคอยดู...”