ตอนที่ 3 เมาเหล้าหรือเมารัก

2488 Words
“นะคะคุณอา... นะคะ” เขมิกาก้าวเข้ามาใกล้ เสียงอ้อนเบาแผ่ว ศีรษะของเธอเอนซบลงบนไหล่กว้างที่เคยเป็นที่พักพิงมาตลอดชีวิต เธอไม่ได้คิดอะไรลึกซึ้ง แค่รู้ว่า...ถ้าอ้อนอีกนิด บางทีเขาอาจจะใจอ่อนเหมือนเคย แต่ครั้งนี้...กลับไม่เป็นแบบนั้น “ไม่... ยังไงก็ไม่” เสียงของธนาแข็งกว่าที่เธอเคยได้ยินมา และหนักแน่นพอจะตัดความหวังในอกของเธอให้ขาดสะบั้น “อาไม่แต่งกับคนที่อาไม่ได้รักหรอกนะ” เขาหยุดพูดชั่วอึดใจ ก่อนจะเติมถ้อยคำที่ทิ่มแทงเธอที่สุด “ยิ่งเป็นเมย์... ยิ่งไม่ควร” มือข้างหนึ่งของเขายกขึ้น ผลักหัวเล็ก ๆ ของเธอออกจากไหล่อย่างอ่อนโยนแต่เด็ดขาด “ต่อให้พ่อแม่เมย์อนุญาต...อาก็ไม่แต่ง” แล้วเขาก็หมุนตัวเดินออกจากห้องเสียงประตูกระทบกันเบา ๆ แต่ในใจเขมิกา มันดังราวกับเสียงระเบิดตู้ม!ทุกอย่างเหมือนแตกสลาย หญิงสาวยืนนิ่งอยู่กลางห้อง ราวกับถูกตรึงไว้กับพื้นที่ไม่มีใครมองเห็น แววตาที่เคยสดใสของเธอสั่นไหว “คุณอาไม่รักเมย์เลยเหรอ... ถึงขนาดนี้แล้ว...” เสียงนั้นเบามาก ราวกับเธอพูดกับตัวเอง แต่อารมณ์ในคำพูดนั้นกลับดังในอกเกินกว่าจะทำเฉย ๆไม่ให้ไม่รู้สึกได้ ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยมีใครปฏิเสธเธอ ไม่เคยมีใครผลักเธอออกไป ไม่เคยมีใครพูดว่า “ไม่รัก” …ชัดเจนขนาดนี้ เขมิกายกมือขึ้นแตะแก้มตัวเอง เปลือกตาเริ่มร้อนผ่าว รู้สึกได้ถึงบางอย่างที่คลออยู่ขอบตา เธอไม่เคยรู้ว่าการถูกปฏิเสธ มันเจ็บขนาดนี้ โดยเฉพาะ...จากคนที่เธอไว้ใจที่สุด แต่ไม่รู้เพราะอะไรเสียงในหัวใจเธอกลับตะโกนออกมาดังๆว่า “หนูไม่ยอมหรอกนะ ยังไงคุณอาก็ต้องเป็นของหนูเท่านั้น แม้ไม่ได้รักกันก็ตาม” เขมิกายกมือปาดน้ำตาเร็ว ๆสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะมองไปยังประตูที่เขาเพิ่งเดินจากไป “คุณอาไม่รักหนูตอนนี้...ไม่เป็นไร” “แต่หนูจะทำให้คุณอารักให้ได้” ติ๊ง! เสียงแจ้งเตือนจากแอพไลน์ดังขึ้นกลางดึก หน้าจอที่เคยดับสนิทสว่างวาบขึ้นพร้อมข้อความที่ทำให้เขาชะงัก (คุณอาธนาคะ เมย์เมา มารับเมย์หน่อย) ชื่อผู้ส่งเป็นชื่อเพื่อนของหลานสาวที่เขารู้จักดี ...แสดงว่าข้อความนี้เป็น “เรื่องจริง” แน่ ธนานั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง มือถือยังคาอยู่ในมือ ราวกับต้องใช้เวลาในการประมวลผล เมย์เมา...? นี่มันกี่โมงแล้ว? ทำไมถึงไปเมาได้? ในหัวเขามีแต่คำถามเต็มไปหมด แต่คำถามที่ดังที่สุดคือ...“เธอเป็นอะไรไปเหรอเมย์...” ภาพของหญิงสาวที่ยืนตาแดง ๆ อยู่กลางห้องยังติดตา คำถามสุดท้ายของเธอยังคาอยู่ในอกเขา “คุณอาไม่รักเมย์เลยเหรอ...” เขาคิดว่าเธอคงแค่เสียใจนิดหน่อย ไม่คิดว่าเธอจะหนีไปดื่ม จนเมาเสียสติ ธนาลุกขึ้น คว้ากุญแจรถและโทรศัพท์ทันที โดยไม่รู้ตัวเลยว่าเท้าที่ก้าวออกไปนั้น...เต็มไปด้วยความร้อนรน บาร์เล็ก ๆ ย่านทองหล่อ 00:47 น. รถคันหรูจอดเทียบหน้าร้านชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตสีเข้มก้าวลงมาอย่างเร่งรีบ ดวงตากวาดหาคนคุ้นเคยในทันที “คุณอา!” เสียงเรียกจากหญิงสาวในชุดเกาะอกแหวกอกลึก ไม่ใช่เขมิกา แต่คือเพื่อนเธอ “อยู่ไหน?” เขาถามสั้น ๆ เพื่อนสาวชี้ไปยังโต๊ะมุมในสุดของร้าน...และที่นั่น เขาเห็นเธอ เขมิกานั่งฟุบหน้าอยู่บนโต๊ะ ข้าง ๆ มีแก้วค็อกเทลวางอยู่สามใบ และอีกหนึ่งในมือน้อย ๆ ที่เธอกำลังถือหลวม ๆ ราวกับจะหลุด ใบหน้าที่เคยสดใสแดงจัดด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ เธอกำลังพูดพึมพำกับตัวเอง เสียงเบาจนจับใจความแทบไม่ได้ ธนาเดินตรงเข้าไปหา ดึงแก้วในมือเธอออก แล้วทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ “เมย์...” เขาเรียกเบา ๆ เธอหันมามองเขาช้า ๆ ดวงตาที่เคยสดใสตอนนี้ขุ่นมัวและพร่ามัว แต่เพียงแค่เห็นใบหน้าเขา...เธอก็ยิ้ม “คุณอา...มาแล้วเหรอคะ” เสียงหวานแผ่วเบา แต่ในใจเขากลับรู้สึกเหมือนโดนมีดเล่มเล็กๆกรีดช้า ๆ “หนูดีใจจังเลย...หนูรู้ว่าคุณอาต้องมา...” “คุณอาใจร้ายจังเลย...แต่ก็ยังมา...” เขาสูดหายใจลึก พยายามควบคุมสีหน้า ไม่ให้ความรู้สึกในอกมันแสดงออกมาง่าย ๆ “กลับบ้านเถอะเมย์” “อุ้มหนูหน่อย...ได้มั้ยคะ?” เสียงหวานเบาเหมือนลมหายใจ แฝงความอ้อนที่แม้จะดูไร้เหตุผล แต่ก็แทบต้านทานไม่ได้ในสถานการณ์แบบนี้ หญิงสาวไม่ได้รอคำตอบ แต่โผเข้าซุกอกกว้างทันทีอย่างไร้ซึ่งสติ กลิ่นแอลกอฮอล์อ่อน ๆ เจืออยู่ในลมหายใจที่เป่ารดอกของเขา ธนาเซไปเล็กน้อยด้วยแรงโถม แขนเรียวทั้งสองข้างของเธอโอบรอบเอวเขาแน่นราวกับเด็กหลงทางที่เจอคนคุ้นเคย ใบหน้าเล็ก ๆ ซบลงตรงหน้าอกของเขา ดวงตาฉ่ำวาวพร่าเลือน เปลือกตาสั่นไหวคล้ายกำลังจะหลับแต่ก็ยังฝืนลืมไว้ ริมฝีปากเอ่ยพึมพำเบา ๆ ใกล้หัวใจเขามากเกินไป “อย่าไล่หนูเลยนะคะ... คุณอา~~” ธนากัดฟันแน่น หยุดตัวเองไม่ให้ใช้มือกอดตอบ มือทั้งสองของเขากำไว้ข้างตัวจนเส้นเอ็นขึ้น ใจเขาเต้นแรง…ไม่ใช่เพราะเธอเมา แต่เพราะเขารู้ตัวว่า การจะผลักหล่อนออกไปตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องที่ดูยากเย็นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ทำไมเขมิกาถึงทำให้หัวใจของเขาไม่มั่นคงขนาดนี้นะ... เขาหลับตาแน่น พ่นลมหายใจหนัก ๆ “เมย์...อย่าทำแบบนี้เลย” “ก็คุณอาไม่สนใจเมย์เลย...” เสียงเธอเบา แต่หนักพอจะทำให้โลกของเขาโคลงเคลง “เมย์...” เขาเรียกชื่อเธออย่างหนักแน่นแต่แผ่วเบา “หยุดเพ้อเจ้อได้แล้ว กลับบ้านเดี๋ยวนี้เลย” ในรถ เงียบ... มีเพียงเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของหญิงสาวข้างกาย ที่ฟุบอยู่บนเบาะโดยศีรษะเอนมาซบที่ไหล่เขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ธนาขับรถโดยไม่พูดอะไร มือข้างหนึ่งจับพวงมาลัยแน่นกว่าปกติ สายตาเหลือบมองคนข้างตัวเป็นระยะ “เมาจริง ๆ...” “แล้วก็ดื้อเหมือนเดิม” เมื่อถึงหน้าคอนโด เขาเลื่อนรถเข้าไปจอดในช่องของตน ก่อนจะหันไปแตะไหล่เล็ก ๆ “เมย์ ๆตื่น...ถึงแล้ว” “อื้อ...” เธอขานเบา ๆ พลางขยับตัว ดวงตาพร่าเลือนลืมขึ้นมา ก่อนจะปรือลงอีกครั้ง “คุณอา...จะทิ้งหนูรึเปล่า” “ไม่มีใครทิ้งเมย์ทั้งนั้น” เขาตอบพลางถอนหายใจ ก่อนจะลุกจากรถ เดินอ้อมมาเปิดประตูฝั่งเธอ “ลุกไหวมั้ย?” เขมิกาส่ายหน้าเบา ๆ แล้วพึมพำ “ไม่อยากกลับบ้าน... พ่อกับแม่ต้องว่าแน่เลย” “ก็เลยพามานี่ไง” เขาพูดเสียงเครียดเล็กน้อยกับความดื้อของหญิงสาว ไม่กี่วินาทีต่อมา เธอก็รู้สึกตัวว่าตัวเองถูกรวบขึ้นมาแนบอก แขนของเขาสอดใต้ข้อพับและแผ่นหลังของเธออย่างอ่อนโยนแต่แข็งแรง ให้ความรู้สึกปลอดภัยทุกครั้งที่อยู่ในอ้อมกอดนี้ “คุณอาอุ้มหนูเหรอ...” เสียงเธอแผ่วเบาในลำคอ และรอยยิ้มนิด ๆ ก็ผุดขึ้น “หนูตัวเบาจะตาย ทำไมคุณอาทำเหมือนอุ้มหมีตัวโต” ธนาไม่ตอบ สีหน้าเขาดูขรึมจัดกว่าทุกครั้ง ไม่แม้แต่จะสบตาเธอ เขาเดินตรงไปยังลิฟต์ กดขึ้นชั้นบนสุดของคอนโดที่เขาอยู่คนเดียวเสมอมา ภายในห้องพัก คอนโดหรู ยามดึก ชายหนุ่มวางหญิงสาวลงบนเตียงนอนอย่างระมัดระวัง เขาหยิบผ้าห่มมาคลุมให้ และกำลังจะหันไปเตรียมน้ำเปล่าให้เธอดื่ม แต่แล้ว... “คุณอา...” เสียงเรียกเบา ๆ ทำให้เขาหยุดฝีเท้า เขาหันกลับไป เห็นเขมิกานอนตะแคง ดวงตากลมโตมองเขาอย่างเลื่อนลอยปนสับสน “คุณอา...ไม่รักเมย์จริง ๆ เหรอ?” ธนาชะงัก ในใจเหมือนถูกใครผลักลงเหว คำถามเดิม ซ้ำรอบที่สอง “หนูพยายามแล้วนะ...” เธอพึมพำต่อ “พยายามจะทำให้คุณอารักหนู...แต่คุณอาก็ยังใจแข็งอยู่ดี” เธอยิ้มบาง ๆ อย่างคนที่หมดแรง “คุณอา....หนูน่ะ อยากได้คุณอาเป็นสามีจริงๆนะคะ” แขนเล็กยกขึ้นคล้องคอของชายหนุ่ม ใบหน้าห่างกันเพียงน้อยนิด หล่อนไม่ใช่เด็กแล้ว เขมิกาคือหญิงสาววัยยี่สิบห้าปี หล่อนเป็นสาวสะพรั่งที่พร้อมไปหมดทุกด้าน ใจของชายหนุ่มเต้นรัว “คุณอา..เราจูบกันได้มั้ย...” “เมย์เมาแล้วนะ...เลิกบ้าซะที” ธนาพยายามแกะมือที่เหนียวเหมือนหนวดปลาหมึกออก “...จูบเมย์ก่อน แล้วเมย์จะปล่อย..” หญิงสาวยื่นข้อเสนอ ความเมาทำให้เธอใจกล้าหน้าด้าน มองเขาด้วยสายตาหวานฉ่ำจนแทบจะกลืนกินเข้าไป “เมย์...” “นะคะ แค่จูบเอง...” ปากแดงเรื่อด้วยฤทธิ์ของเหล้ายื่นเข้ามาหา ชายหนุ่มเริ่มหมดความอดทน “ได้...แค่จูบนะ..” เขาประคองใบหน้าเล็กไว้ก่อนจะค่อยๆประกบจูบ ทีแรกตั้งใจว่าแค่จุ๊บแตะ ๆให้หล่อนพอใจ แต่คนตัวเล็กไม่ยอม หล่อนโน้มกายเข้ามากอดเขาแน่นเพิ่มน้ำหนักจูบให้กดลึกมากขึ้น เลือดในกายของชายหนุ่มแล่นพล่าน ร้อนวูบวาบไปทั้งร่างแทบจะหายใจไม่ออก ผึ่ง! ความอดทนหมดลง เขาห้ามใจตัวเองไม่ไหวบดจูบแรงขึ้น เร่าร้อนมากขึ้น สองมือไม่รอช้าที่จะปลดเปลื้องอาภรณ์ออกไปทีล่ะชั้น ๆจนเกือบเปลือยทั้งร่าง “คุณอา....” เสียงครางชื่อราวกับกำลังยั่วเย้าให้เขายิ่งเพิ่มความร้อนพลุ่งพล่านที่มาจากแกนกลางของร่างกายให้เพิ่มมากขึ้น สมองและจิตสำนึกคล้ายจะหยุดทำงานชั่วคราว “เมย์....อย่าทำแบบนี้.....” ปากบอกไม่...แต่การกระทำของเขาหยุดไม่ได้แล้วจมูกโด่งจูบซุกไซ้ลงมาแถวซอกคอ ขบเบาๆที่ติ่งหู มือเรียวของหล่อนยกขึ้นลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของเขาอย่างเงอะงะ สติที่ยังเหลืออยู่เพียงน้อยนิดรับรู้ได้อย่างเดียวว่าเต็มใจตอบรับทุกการสัมผัสจากเขาอย่างเต็มอกเต็มใจ “ทำแบบนั้นเลยค่ะ...อืม...” สองเต้าถูกมือแกร่งบีบขยำจนเกิดรอยแดงตามรอยบีบบี้ ลูกเชอรี่สองลูกที่แสนเย้ายวนใจถูกเขาดูดเลีย บ้างก็ขบเบาๆสร้างความสยิวรัญจวนจนหญิงสาวต้องร้องครวญครางออกมาดัง ๆ “อืม...คุณอาขา~” “ไหนว่าไม่รัก....แต่คุณอาก็หิว..” “เมย์ทำให้อา ทนไม่ไหว..” ชายหนุ่มไต่จูบลงไปตรงหน้าท้องราบเรียบ กางเกงในแพนตี้ตัวจิ๋วสีดำยังคงปกปิดจุดสงวนเอาไว้อย่างมิดชิด “ถ้าคุณอาเป็นของเมย์แล้ว...อ๊า..ตรงนั้นเสียวเกินไปค่ะ...” เขาจูบลงบนเนินเนื้อสวาท...ทำให้กายสาวบิดเร่าไปมาด้วยความเสียวสุดขีด “เป็นแล้วยังไง..” “เราแต่งงานกันนะคะ คุณอาขา~” ธนาชะงักไปเมื่อได้ยินคำนั้น สติกลับมาในทันที เขารีบผละออกจากร่างเกือบเปลือยที่ขาวนวลเนียนอย่างพยายามหักห้ามใจจนถึงที่สุด หล่อนตั้งใจยั่วเขาและเขาก็กำลังจะตกหลุมพรางของหล่อน ..ถ้าไม่ใช่เพราะเขมิกาเผลอเอ่ยเรื่องแต่งงานออกมา ป่านนี้เขาคง... “ลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าเดี๋ยวนี้เลย!” เสียงห้าวดังลั่นห้องจนเขมิกาสะดุ้ง “อาจะพาไปส่งบ้าน” เขาพูดเสียงเข้ม ไม่แม้แต่จะสบตา “แล้วอย่าทำแบบนี้อีก เข้าใจมั้ย” “หนูทำอะไร…” เขมิกาถามเสียงเบา สับสนเจือปนความเจ็บอย่างไม่เข้าใจ เมื่อครู่เขายังพอใจอยู่เลยไม่ใช่เหรอ “หนูแค่…เต็มใจจะเป็นของคุณอา หนูไม่เสียใจเลยสักนิด” เธอพูดช้า ๆ ตรงๆอย่างไม่อ้อมค้อม ไม่เล่นบทเด็กแล้ว มีแต่ผู้หญิงคนหนึ่ง...ที่แค่ “อยากได้เขาใจจะขาด” แต่คำตอบของเขา กลับเหมือนมีดที่ทิ่มแทงลงมากลางอก “อย่าเอาตัวเข้าแลกแค่เพราะอยากแต่งงานกับอาจนตัวสั่น!” เสียงคำรามของเขาทำให้ห้องทั้งห้องสั่นสะเทือน แต่หัวใจของเขมิกาต่างหากที่สั่นสะเทือนกว่าใคร “มันน่าละอาย...เมย์!” เธอเงียบ แววตาที่เคยอ่อนโยน แปรเปลี่ยนเป็นแข็งกระด้างในพริบตา เธอลุกจากเตียงอย่างช้า ๆ ยืดหลังตรง แม้หัวใจจะเหมือนโดนกระชากออกไปทั้งดวง แต่เธอจะไม่ร้องไห้ให้เขาเห็น “งั้นหนูขอโทษนะคะ...” เธอเหมือนจะโต้แย้งแต่ยอมรับว่าอยากได้เขาจริงๆ “หนูไม่ได้เอาตัวเข้าแลก ” เธอใส่เสื้อผ้าและหยิบกระเป๋ากับรองเท้ามาถือไว้ในมือ “คุณอาไม่ต้องพาไปส่งหรอกค่ะ หนูไปเองได้” ธนานิ่ง อึ้งไปกับคำพูดของเธอ เขารู้...ว่าเธอไม่ได้แค่งอน แต่เธอเจ็บจริงจากคำพูดของเขา เขาคนนี้ที่เคยเป็นดั่งเซฟโซนของเธอ ที่ ๆปลอดภัยยามเธอต้องการหลบจากโลกภายนอกที่วุ่นวายนั้น เธอหมุนตัวจะเดินไปที่ประตู แต่เขากลับยืนขวางไว้ มือของเขาเอื้อมไปจับที่แขนเธอแน่นกว่าทุกครั้ง จนเธอสะดุ้ง “ปล่อยค่ะ” “เดี๋ยวอาไปส่ง” “ไม่ต้อง หนูจะไปหาเจ้าบ่าวของหนู หนูจะไปนัดบอดแล้วลากเขาขึ้นเตียงซะ!” คำพูดของเขมิกาทำเขาอารมณ์ที่แค่ขุ่นมั่วแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธขึ้นมาในทันที “งั้นก็เชิญ! ถ้าจะร่านขนาดนั้น”เขาสบถออกมาอย่างไม่ตั้งใจ ทำเอาหญิงสาวสะอึก ก่อนจะนิ่งอึ้งไปไม่ตอบโต้อะไรเขาอีกและก้าวขาออกไปจากห้องในทันที ธนายกมือขึ้นเสยผมตอนนี้เขากลายเป็นฝ่ายหัวเสียซะเอง เมื่อเขมิกาเดินออกพ้นประตูไปเขาก็ปิดประตูทันที ปัง! “เออ ให้มันได้แบบนี้ เดี๋ยวเขมิกาจะหาให้หล่อกว่าคุณอาเลยคอยดู...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD