สองวันต่อมา
ปึก!
หนังสือสมัยเรียนที่เก็บไว้ในหีบ เพราะไม่ได้ใช้มานาน ถูกนำออกมาใหม่ในช่วงเช้าของอีกวัน
ปะการังอุตส่าห์ตื่นขึ้นมาก่อนเวลาปกติราวหนึ่งชั่วโมงก็เพื่อสิ่งนี้
" อยู่ไหนแล้วนะ"
ค้นหาดิกชันนารี ตัวแปรคำศัพท์ที่เธอไม่เคยสนใจหรือเห็นค่าของมันตั้งแต่ทีแรก ทว่าวันนี้กลับค้นหาแทบจะรื้อห้องนอนเพื่ออยากจะพึ่งใบบุญของมัน!
จนกระทั่งเจอในที่สุด หญิงสาวเผลอดีใจด้วยการยิ้มกว้าง ปัดๆ ตบๆ เคาะฝุ่นออกมา เอามันแนบอก ก่อนจะนำใส่กระเป๋าผ้าและหอบออกไป โดยไม่ลืมข้าวในปิ่นโต
" เดี๋ยวมานะแม่"
"ไหนว่าหิวข้าว "
" หิวแม่ แต่แม่กับพ่อกินก่อนเลย ไม่ต้องรอปะกา"
" อะไรของเอ็ง แม่เห็นเอ็งตื่นมาทำกับข้าวตั้งแต่ไก่โห่ นึกว่าจะหิวมาก แล้วนั่น ปิ่นโตจะเอาไปไหน "
"เอาน่าแม่ ฉันรีบ อย่าเพิ่งถาม"
" เอะ นังลูกคนนี้นี่ สงสัยจะเอาไปวัดมั้งพี่ "
ประโยคหลังหล่อนหันมาพูดกับสามี หลังเห็นปะกานั้นออกไปแล้วโดยที่ยังไม่ทันได้พูดจบ ทว่ากลับได้คำตอบที่ทำให้เธอเครียดหนักกว่าเก่า
" เหอะ! ตลกล่ะแม่บัว อย่างนังปะกาน่ะเรอะจะเข้าวัด หึๆ"
" อ่าวขำ นี่ก็ขำอีก เฮ้อ..."
ข้าวแดงแกงร้อนที่ว่า ไม่ได้นำไปวัดอย่างที่ยายบัวผันคิดบวกแต่อย่างใด ทว่ากลับถูกยกใส่ตะกร้าหน้ารถ กระเตงไปด้วยจักรยานคันเก่าเขรอะ มายังท้ายหมู่บ้าน เขตที่ไม่ค่อยมีใครพากันเข้ามา เว้นแต่วันไหนจะมาหาของป่ากัน
ปะการังในชุดสาวชาวเลเต็มร้อย ด้วยกางเกงขาก๊วยและเสื้อยืดสีขาว ห่อปากมาตลอดทางเพราะความหอบ นานทีจะได้ถีบจักรยานและนานครั้งจะมาไกลถึงเพียงนี้
" โอ๊ย จะไกลไปไหนเนี่ย ตอนเด็กๆ ไม่เห็นจะเหนื่อยเท่านี้เลย "
ที่สำคัญเธอบ่นพึมพำตลอดทางจนกระทั่งถึง จักรยานถูกนำมาจอดพิงไว้ที่เสา ก่อนเจ้าตัวจะเดินลงมาอย่างเก้ๆ กังๆ มาถึงตอนนี้ชักจะไม่มั่นใจซะแล้ว ว่าสิ่งที่ทำอยู่สมควรหรือเปล่า
"จะเข้าไปดีไหมนะปะกา..."
แต่แล้ว...
กลับต้องชะงักกลางคัน เมื่อได้ยินเสียงหวานของผู้หญิงคนหนึ่งในนั้น ที่พูดสอดออกมาเป็นภาษาอังกฤษ
" See you again "
และตามมาด้วยร่างของหล่อนทีหลัง แน่นอนเมื่อสบตาเข้ากับเธอ ถ้าจะไม่ทักทายกันคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเธอคือน้องสาวของภูผา ลูกคนกลางของผู้ใหญ่ ที่เคยเล่นสมัยเด็กๆ
" อ่าว ปะกามาทำอะไรที่นี่ "
คนถูกถามไม่ตอบเสียทีเดียว แต่กลับจ้องหน้าหล่อนเขม็งที่ถือวิสาสะมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าในขณะที่พูด
" เธอล่ะ มาทำอะไร "
" ฉันเหรอ~ พ่อให้เอาข้าวเช้ามาให้คุณเขาน่ะ "
" ข้าว? "
" ใช่ แถมสั่งให้ฉันมาดูแลคุณบ่อยๆ ด้วย จนกว่าเขาจะหายดี "
" ดูแล? " ปะกาถามย้ำ
เม้มปากเข้าหากันแน่น ราวกับกำลังย้อนคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน เรื่องที่เกี่ยวกับเงินก้อนโตมาจ้างผู้ใหญ่ หมอ และพ่อของเธอ ที่น่าจะเป็นเรื่องจริง การใช้เงินเขาซื้ออาหารมาปรนเปรอเขาคงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ที่แปลกทำไมเกสรถึงต้องเข้ามาเอี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย ทั้งที่ผู้ใหญ่พ่อของหล่อนหวงหล่อนอย่างกับไข่ในหินยังไงยังงั้น ก่อนจะสลัดความคิดนั้นเปลี่ยนสีหน้าไม่พอใจให้เป็นปกติ และฟังคนตรงหน้าพูด ด้วยท่าทางภูมิใจเสียเหลือเกินกับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายนี้ ภายหลัง
" ไม่ต้องงงหรอกปะกา พ่อฉันน่ะเป็นผู้ใหญ่ ใครจะไปใครจะมามันก็ต้องผ่านตาพ่อฉันก่อนอยู่แล้วจริงมั้ย? ฉัน..ในฐานะลูกสาวของเขา การทำแบบนี้มันเป็นเรื่องปกติ ว่าแต่เธอเถอะ เอาข้าวมาให้เขาเหมือนกันเหรอ "
ก่อนจะเลิ่กลั่กเล็กน้อยเร่งแอบปิ่นโตไว้ข้างหลัง เมื่อถูกทักท้วง เธอเชิ่ดหน้าขึ้น แสดงท่าทางไม่รู้ไม่ชี้
" เปล่า ฉันจะขึ้นเขาไปหาของป่าน่ะ ผ่านทางนี้พอดี ก็เลยแวะมาดู จะไปด้วยกันไหมล่ะ "
แสร้งถามกลับ พลางยิ้มอ่อนเมื่อเกสรส่ายหน้า
" ตามสบายเถอะจ้ะ "
เพราะรู้อยู่แล้วคนที่ไม่ชอบลำบากตรากตรำอย่างหล่อน การปฏิเสธคงไม่ใช่เรื่องยาก อย่างหล่อนคงไม่ยอมตากแดดให้ผิวตัวเองคล้ำเสียหรอก แค่เหงื่อไหลสักหยดสองหยดก็ขี้คล้านจะบ่นสองวันสามคืน!
"ถ้างั้น..ฉันเข้าไปดูเขาก่อนนะ เธอจะกลับแล้วใช่มั้ย งั้นโชคดี "
หญิงสาวใช้โอกาสตอนหล่อนเงียบ ตัดบทเสียดื้อๆ พลางปลีกตัวออกเดินผ่านด้านข้างหล่อนไป
ทำเกสรที่ยังพูดไม่ทันจบ ได้แต่อ้าปากพะงาบๆ ยืนบอกคนตัวเล็กกว่าจนลับตาเข้าไปข้างใน ก่อนจะเดินออกมาฉวยจักรยานตัวเอง แล้วปั่นออกไปในที่สุด
ปล่อยให้หญิงสาวซึ่งตัดสินใจเข้ามาแล้วยืนอยู่หลังบานประตูคนเดียวในทีแรก ถึงกับประหม่า ความใจกล้าบุ่มบ่ามเมื่อครู่นี้หายไปทันที เพียงเห็นร่างสูงที่กำลังจะตักข้าวเข้าปากถึงกับชะงัก เขาอยู่ในท่าอ้าปากถือช้อนค้าง แหงนหน้ามองเธอ
" เอ่อ..." ทำปะกาที่ประหม่ายิ่งพูดไม่ออก เธออ้ำอึ้ง " ฉะ..ฉัน ..พ่อให้ฉันเอาข้าวมาให้นายน่ะ"
และนั่นจึงทำให้คนยอมใครไม่เป็นอย่างเธอ ตัดสินใจทำสิ่งนี้ ทำเขางงหนักกว่าเก่า ทั้งไม่เข้าใจทั้งสีหน้าของเธอและคำพูดของเธอ เพราะเธอไม่ได้พูดเปล่า แต่กลับเดินดุ่มๆ มานั่งพับเพียบลงตรงหน้า และเก็บกับข้าวทั้งหมดที่เกสรเอามาปิดฝาไว้อย่างเดิม ไม่เว้นแม้กระทั่งช้อนในมือของเขา ก่อนจะเอาของตัวเองไปวางแทน แบบไม่พูดอะไรสักคำ จะมีก็แต่คิ้วที่ยักขึ้นรัวๆ ข้างเดียว และผ่ายมือเชื้อเชิญเป็นการสั่งให้เขานั้นกินต่อ
แน่นอนสายตาที่มองเธอสลับกับกับข้าวแล้วทำหน้าแหยนั้น มันทำให้เธอนึกหมั่นไส้
ปะกาเม้มปากแน่น เงียบไปอึดใจหนึ่ง ในขณะก้มลงมองจานข้าว จ้องนิ่งราวกับมันคือคนผิดที่มีเพียงไม่กี่อย่าง แต่เธออุตส่าห์ตื่นเช้าขึ้นมาทำ ก่อนจะกัดฟันพูดเสียงดัง เอ็นปูดขึ้นเต็มคอ
" ใช่สิ กับข้าวเขามันของดีๆ ทั้งนั้นนิ ใครจะอยากกินปลาสลิดเหมือนอย่างเมื่อคืนล่ะ เอามานี่.."
เตรียมจะเก็บเข้าชั้นอย่างเดิม
แต่แล้ว...
กลับถูกเขาแย่งคืนกลับไป พลางถอนหายใจพรืด มาถึงตอนนี้ แม้จะฟังภาษาของเธอไม่ออก และเขาก็ป่วยเสียจนอึดอัดเพราะจำตัวเองไม่ได้ ทว่าเพียงระยะเวลาสั้นๆไม่ถึงอาทิตย์ คนหัวไวเรียนรู้เร็วอย่างเขาก็พอจะรู้เธอเป็นคนยังไง
คูดัสกวาดตาไปยังกับข้าวตรงหน้า ที่ไม่รู้จักชื่อเลยสักอย่าง ก่อนจะดึงปลาสลิดตัวนึงยื่นออกมาให้เธอ พูดภาษาที่เธอไม่เข้าใจอีกครั้ง
" ผมจะกิน ถ้าคุณทำมันเหมือนเมื่อตอนนั้น "
" หาา "