สำหรับคูดัส รอยยิ้มของคนตรงหน้าในตอนนี้ ถึงจะไม่ได้กว้างเต็มที่แต่ก็ตราตรึงใจ เขาเพิ่งสังเกตเห็นว่าตรงมุมปากและใต้คางของเธอมีรอยบุ๋มสองจุด ซึ่งเป็นเสน่ห์สูงสุด และดึงดูดแรงเท่าที่เขาเจอมา
" ฉันก็ไม่รู้เหตุผลหรอกนะ เพราะอะไรฉันถึงอยากคุยกับนายมาก ทั้งที่ภาษาของนายมันยากแสนยาก แถมสมัยเรียน วิชานี้เป็นวิชาที่ฉันไม่ชอบเอาซะเลย ถึงเวลาทีไรนะ ฉันมักจะแอบหลับทุกที "
ยิ่งมีโอกาสได้มานั่งมองริมฝีปากชมพูระเรื่อ เป็นกระจับสวย เอิบอิ่มปานกลีบดอกกุหลาบขยับไปมา พร้อมภาษาที่เขาไม่เข้าใจแบบนี้ ก็ยิ่งแล้วใหญ่ นั่นคือสิ่งหนึ่งที่สามารถทำให้เขาเพลิดเพลินได้ราวกับถูกดึงดูดเข้าภวังค์อย่างที่ว่าจริงๆ
ชายหนุ่มเผลอยิ้ม ก่อนใช้จังหวะที่เธอก้มหน้าก้มตา ยื่นฝ่ามือไปทาบแก้มใส และเกลี่ยวนไปมาเบาๆ ราวกับนั้นเป็นของเล่น มันเหมือนเยลลี่หนุบหนับที่เด็กผู้หญิงมักชอบ
ในขณะเจ้าของก็ไม่ได้ห้าม เพราะเหมือนจะงุนงงต่อพฤติกรรมของเขา
" So beautiful.."
" หืม? " และยิ่งอึ้งกว่าเก่าก็ตอนเขาเอ่ยประโยคนี้ ที่เธอนั้นเข้าใจดี
" นายชมฉันเหรอ? "
" ชม? "
" เอ่อ.. คำที่นายพูดน่ะ มันแปลว่า ... สวย "
ชายหนุ่มยิ้มอ่อน ดวงตาเป็นประกาย ในขณะจ้องหน้าเธอไม่วางตา ซึ่งถ้าหากไม่มีเสียงนี้มาขัดจังหวะ เขาอาจจะได้จูบเธออีกรอบ
" ปะกา อยู่ในนั้นรึเปล่า "
ร่างสูงที่กำลังโน้มตัวเข้าไปใกล้ถึงกับชะงักกึก ก่อนผกามาศจะเป็นฝ่ายสะดุ้งและผละตัวออกด้วยความตกใจ เพราะนั่นคือเสียงของแม่เธอ
" แม่ "
ปรี่ไปเปิดประตูอย่างเร็วแบบไม่ต้องคิด นั่นทำคนซึ่งยืนอยู่เบื้องหลังรู้ทันทีเลยว่า ในใจหญิงสาวบริสุทธิ์ ไม่ได้มีอะไรซ่อนเร้น หรือคิดไม่ซื่อต่อใจตัวเอง ต่างกันโดยสิ้นเชิง เธอไร้เดียงสาเสียจนน่าถะนุถนอม
" มาทำอะไรที่นี่นานสองนาน "
บัวผันถาม สายตาแวบหนึ่งมองข้ามบุตรสาวมายังมาเฟียหนุ่ม ราวกับเริ่มไม่พอใจ หลังผกามาศ ออกไปยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้าแล้ว
" เอาข้าวมาให้เขากิน กับแลกเปลี่ยนภาษากันนิดหน่อยน่ะแม่ "
" แลกเปลี่ยน? "
" ใช่ ทำไมแม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นด้วยล่ะ "
ร่างบางขมวดคิ้ว หันมองไปตามสายตาของผู้เป็นแม่ ที่จ้องไปยังร่างสูงข้างหลัง สลับกับมองดูเธอ พลางลอบถอนหายใจ
" กับผู้ชายสองตัวสองเนี่ยนะปะกา "
" แล้วจะอยู่กับใครกี่คนล่ะ เขาก็ตัวคนเดียว ปะกาก็ไม่มีเพื่อน "
" แม่ไม่ได้หมายความอย่างนั้น..ฃ "
จบประโยคบัวผันแทบจะกุมขมับ หล่อนรู้ดีพูดกับลูกของตัวเอง อย่างไรก็ไม่มีค่า เธอจะแปลความสิ่งที่หล่อนกำลังคิดเป็นอย่างอื่น และหากสิ่งที่คิดอยู่ไม่เป็นความจริง มันจะกลายเป็นว่าคนที่ปากโพล่งพูดไม่คิดอย่างหล่อนจะถูกมองไม่ดี แถมรู้ด้วยว่าการถกเถียงกับปะการัง ไม่ต่างเลยกับการเทน้ำลงพื้นทราย
" ช่างเถอะ" บัวผันส่ายหน้า ก่อนจะยื่นมือไปตรงหน้าลูก " ไปกันเถอะ "
" จะไปไหนคะ "
" กลับบ้านไง วันนี้เราจะเข้าเมือง ลืมไปแล้วหรืออีกไม่กี่วันบ้านเราจะมีงานประจำปี ปะกามีชุดสวยๆ ใส่ซะที่ไหน "
" จริงด้วย "
หลังจบประโยคของคนเป็นแม่ เครื่องหน้าสะสวยที่ถูกยับยู่ยี่เป็นหน้าฉงนในทีแรกก็แปรเปลี่ยนเป็นตรงกันข้ามเลยทันที เธอระบายยิ้มกว้างซะจนตาหยี ก่อนจะหันกลับไปมองคนข้างหลัง และทำท่าดีใจราวกับเด็ก
" อีกไม่กี่วัน ที่หมู่บ้านจะจัดงานประจำปี ไว้ถึงวันนั้นฉันจะพานายไปด้วยนะ "
" หืม? "
แม้เขาจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอพูด แต่เห็นความสุขที่เผยออกมาผ่านรอยยิ้ม สำหรับเขาก็เพียงพอแล้ว
คูดัสยกยิ้มเพียงมุมปากตอบ พลางพยักหน้า
" ฉันไปก่อนนะ บ๊ายบาย~"
" bye "
ในขณะเดียวตรงข้ามกันอีกทวีปหนึ่ง ต่างกันเพียงเวลา ทางด้านของเหล่าอัลฟา ในห้องประชุมแอร์เย็นเฉียบที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด จำต้องลดอุณหภูมิลงมาให้ต่ำกว่าปกติหลายองศา เผื่อมันจะช่วยทำให้ความร้อนในใจบรรเทาไปได้บ้าง หลังได้ข่าวถึงเรื่องการตามหาตัวคูดัสที่ไม่ได้มีแค่พวกเขาหรือคนของตระกูลฝั่งทะเลทราย ทว่ากลับมีพวกอื่นด้วย แน่นอนศัตรูที่ต้องการจะเหยียบย่ำซ้ำเติมหลังล้ม มีแล้วหนึ่ง!
" ส่งลูกน้องไปสอดแนมบ่อยๆ ก็ใช่ว่าปลอดภัย ถึงจะอยู่ห่างจากตัวเขาเป็นกิโลก็เถอะ ยังไงตาเทพหรือชิบที่มีอยู่รอบๆ ก็ต้องแกะรอยตามเจอจนได้ไม่วันใดก็วันนึง "
ซันดรูเป็นคนอธิบาย เนื่องจากเป็นบุคคลเดียวที่เชี่ยวชาญด้านนี้ดีที่สุด ทว่าครั้งนี้เหมือนจะล้มเหลว เมื่อการสอดแนมนั้นเปี่ยมไปด้วยอุปสรรคมากมาย
" เมื่อถึงวันนั้นเกาะที่ว่าสวยสุดๆ ก็อาจจะเหลือแค่วิญญาณหินก็ได้ อย่าลืมว่าที่นั่น ไม่ได้มีระบบป้องกันอะไรมาก ไหนจะกฎหมายทางทะเล ที่สามารถเล่นงานดาฟอีก ขอแค่เจอตัว ถึงเรือจะไม่ได้ซื้อมาในชื่อของเขา แต่ก็ไม่ยากถ้าจะสืบ รับรองเละ "
" ตอนนี้เขาอยู่ยังไง "
เรกาโดละสายตาจากแฮกเกอร์ตรงหน้าไปยังลูกน้องของส่วนกลาง คนที่ถูกส่งไปเจรจาเมื่อหลายวันก่อนหลังฟังเขาจบ ทว่าคำตอบนั้นจะทำคนทั้งหมดในห้องถึงกับมองหน้ากันเองและแค่นหัวเราะ ราวกับนี่คือเรื่องตลก ซึ่งมันไม่ตลก!
" ลูกสาวชาวประมงครับ "
" เธอเป็นคนยังไง "
" ผมได้ยินมาว่าเธอเป็นคนมีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือคนอื่น แต่มีนิสัยทโมนเหมือนเด็กผู้ชาย และแก่นไปหน่อย เป็นคนเดียวหากถามชื่อเธอกับใครที่นั่น ไม่มีใครเลยครับที่จะไม่รู้จัก "
" เธอเป็นจุดเด่นของที่นั่นสินะ "
"ประมาณนั้นครับ "
" งานเข้าแล้วไง.."
" หึ สรรพนามเรียกแขกดีจริงๆ "
หลายวันต่อมา ...
ก่อนวันงานประจำปีหนึ่งวัน
" แม่ ชุดนี้ไม่เห็นปะกาจะใส่ได้เลย "
เสียงใสกังวานตะโกนร้องเรียกมาแต่ไกล ทำบัวผันที่กำลังพับใบตองถึงกับชะงัก หันมองลูกสาวที่ปรี่ออกมาจากห้องนอนด้วยชุดฮาวายสีฟ้าขาว ในขณะสายเดี่ยวเกี่ยวหัวบ่าได้เพียงข้างเดียว ส่วนอีกข้างหลุดลุ่ยลงมาเกือบจะเห็นเต้าหยุ่น หากมือของเธอไม่ยื้อเอาไว้
"ก็ผอมซะขนาดนั้น "
" ปะกาอยากตัดส่ายนี่ออกนิดหน่อย แม่ต้องเย็บใหม่ให้ปะกานะ "
" ตอนเย็นค่อยดูให้ ตอนนี้แม่ยังไม่ว่าง "
ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน เคลือบไปด้วยน้ำหล่อเลี้ยงโดยรอบ สมแล้วกับเป็นตาของสาวเอเชียที่ไม่เคยคิดร้ายกับใคร ละสายตาจากชุดที่สวมอยู่นั้นไปยังผู้เป็นแม่
" ทำไมปีนี้ทำเยอะจังล่ะ "
เธอดูจากใบตองที่กองกับเป็นตับ ยังไม่ถูกนำมาพับเป็นกระทงเพื่อใส่ห่อหมก ส่วนที่ทำเสร็จพร้อมเป็นภาชนะก็มากโขจนนับไม่ถ้วน
" บ้านอื่นเขาซื้อเหมาด้วย แม่ทำไปแจกด้วย รอบนี้พ่อได้ปูมาเยอะ "
" แค่คิดก็น้ำลายไหลแล้วแม่ "
ปะการังเอ่ย ถลาเข้าไปนั่งพับเพียบกะจะหยิบจับช่วย แต่กลับถูกบัวผันตีเบาๆ ตรงตักเสียก่อน
" นี่ ไม่ต้องมาวุ่นวายเลย ทำเป็นเหรอเราน่ะ ไปเปลี่ยนชุด..แล้วไปตัดใบกล้วยมาให้แม่เพิ่มจะดีกว่า"
"หาา ยังไม่พออีกเหรอแม่ ที่เห็นทำอยู่ก็เลี้ยงคนทั้งประเทศได้แล้ว "
ก่อนจะเผยยิ้มภายหลังเพราะคำประชดของลูก
" ว่าแต่พ่อไปไหน"
" ป่านนี้คงจะไปซ่อมเรือล่ะมั้ง แม่เองก็ไม่ทันได้เห็น ปะกา อย่าช้า แม่บอกให้ไปตัดใบตองให้แม่ "
" ก็ได้จ้ะ^^ "
เมื่อมีการเอ่ยปากเป็นครั้งที่สอง เธอจึงจำเป็นจะต้องลุกไป ตามคำวานขออย่างผู้เป็นแม่โดยง่าย หลังเปลี่ยนชุดที่สวมใส่เป็นเสื้อยืดกางเกงขายาวปกติ หยิบตะกร้าและมีด โดยไม่ลืมที่จะหยิบขนมห่อไปด้วย เพราะทางที่จะไปเป็นทางผ่านที่พักของคูดัสพอดี
แต่แล้ว...
ไม่ทันจะถึง เธอกลับเหลือบไปเห็นเรือลำนึง แล่นด้วยความเร็วออกไปซะก่อน ซึ่งจะไม่น่าสงสัยเลย ถ้าเรือลำนั้นไม่ใช่สปีดโบ๊ท ที่บนเกาะแห่งนี้ ไม่มีชาวประมงคนไหนมีไว้ครอบครอง
" เดี๋ยวนี้เขาปล่อยให้คนนอกเข้ามาได้ง่ายๆ กันเลยเหรอ "
เธอขมวดคิ้วพึมพำ มองตามเรือลำนั้นที่แล่นออกไปไกลจนลับตา