Aurelia Grand Hotel
เสียงซุบซิบดังระงมไปทั่วห้องโถง แขกผู้มีเกียรติสวมชุดหรูหราต่างพากันหันหน้ามองไปยังจุดศูนย์กลางที่โรฮานยืนเคียงข้างมาเรีย บางสายตาเต็มไปด้วยความสงสัย บางสายตาแฝงแววดูแคลน และอีกหลายคู่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่แทบจะระเบิดออกมาเป็นข่าวเมาท์
“จริงหรือเปล่าคะ คุณโรฮาน? คุณนอกใจคู่หมั้นของตัวเอง แล้วกำลังคบหากับลูกน้องอยู่ใช่ไหมคะ?” เสียงนักข่าวสาวคนหนึ่งดังขึ้นอย่างรวดเร็ว เธอถือไมโครโฟนพร้อมเครื่องบันทึกเสียง พุ่งตรงเข้ามาด้วยท่าทางกระตือรือร้น สายตาทุกคู่หันมาจับจ้องที่โรฮานและมาเรียทันที
โรฮานไม่ได้ตอบ เขายืนนิ่งอย่างชายผู้ไม่เคยหวั่นไหวต่อแรงกดดันใดๆ แต่ในความนิ่งนั้น ดวงตาคมกริบกลับจับจ้องไปยังด้านหลังของหญิงสาวอีกคน...
หญิงสาวที่เพิ่งประกาศถอนหมั้นอย่างไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม พร้อมชูนิ้วกลางกลางงานราวกับตบหน้าเขาให้สังคมทั้งเมืองดู
แซนดี้...
โรฮานมองแผ่นหลังบางที่กำลังเดินออกไปอย่างไม่สนใจใคร ร่างสูงในชุดราตรีสะบัดผมสวยราวกับนางพญาที่ปฏิเสธจะถูกกักขัง
คนตัวโตที่ไม่เข้าใจเลยสักนิด เพราะไม่ว่าเขาจะเย็นชา จะเมินเฉย จะทำร้ายจิตใจเธอสักเพียงใด หญิงสาวคนนี้ก็ไม่เคยแม้แต่จะเอ่ยปากถอนหมั้นออกมาให้ได้ยินสักครั้ง เธอเคยเกาะติดเขาราวกับเงา ร้องไห้เสียใจแทบขาดใจทุกครั้งที่เขาผลักไส
แต่วันนี้...ทุกอย่างกลับแปลกไปหมด
ทั้งสายตาที่กล้าจ้องกลับอย่างไม่เกรงกลัว
ทั้งคำพูดหยาบคายที่กล้าเอ่ยต่อหน้าแขกนับร้อย
ทั้งท่าทีที่ยโสนั้นอีก...
“คุณโรฮาน จะไปไหนครับ!?” เสียงของอินทร์ มือขวาคนสนิทดังขึ้นทันทีที่เห็นเจ้านายกำลังก้าวฝ่าดงนักข่าวออกไปโดยไม่สนคำถามใดๆ ดวงตาคมแข็งกร้าวมีเพียงเป้าหมายเดียว... หญิงสาวที่เพิ่งชูนิ้วกลางใส่เขาต่อหน้าคนนับร้อย
.
.
ทางด้านแซนดี้ที่เดินออกมาจากห้องงานเลี้ยงอย่างสบายใจ ใบหน้าสวยแต้มรอยยิ้มกวนๆ แถมยังหัวเราะอย่างสะใจ
“ฮ่าๆๆ แม่งโคตรมันส์ แค่เห็นหน้าหล่อๆ ตอนเหวอของหมอนั่น ฉันก็คุ้มแล้ว!”
ภาพโรฮานยืนนิ่งอึ้งกลางงานยามที่เธอชูนิ้วกลางให้ยังติดตาอยู่ไม่หาย และยิ่งนึกก็ยิ่งสะใจ
หมับ!
“อ๊ะ!” แซนดี้สะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ๆ ก็ถูกใครบางคนกระชากแขนแรงจนตัวหมุน ครั้นหันกลับไปเจอใบหน้าหล่อเหลาแต่เต็มไปด้วยโทสะเข้มข้น หัวใจเธอก็แทบหยุดเต้น
“มานี่” เสียงทุ้มต่ำกดหนักดังชิดหู เย็นเยียบจนสั่นสะท้านไปถึงกระดูก
ร่างสูงของโรฮานลากเธอออกไปทันที ไม่สนเลยว่ารอบตัวจะยังมีแขกหรือสายตาใครกำลังจับจ้อง
“ไม่ไป! ปล่อยฉันนะ! ปล่อยยย!”
แซนดี้พยายามขืนตัวสุดแรง แต่แรงผู้หญิงตัวเล็กๆ จะไปสู้อะไรกับผู้ชายตัวโตแขนกำยำแบบเขาได้ เธอรู้ดีว่าถ้ายังดื้อดึงก็คงมีแต่จะหน้าคะมำ ล้มลงให้เจ็บตัวฟรีๆ
และใครกันจะกล้า...ทำให้ตัวละครเอกของเรื่องนี้เป็นแผลตั้งแต่ฉากแรก!?
สุดท้ายเธอจึงจำใจให้ลากไป ทั้งที่หัวใจยังเต้นโครมครามด้วยความโมโหและความตื่นเต้นประหลาดๆ ที่อธิบายไม่ถูก
โรฮานไม่เอ่ยอะไรอีก เขาเพียงลากเธอถูลู่ถูกังไปจนถึงห้องรับรองที่เงียบสงัด
ปัง!
ทันทีที่ประตูห้องปิดลงดัง โรฮานก็ไม่รอช้า มือใหญ่กระชากแขนเล็กของแซนดี้อย่างแรงแล้วผลักเธอไปชนกำแพงเย็นเฉียบ
“อึก!”
เสียงร้องเบาๆ หลุดจากเรียวปาก เมื่อแผ่นหลังบอบบางกระแทกเข้ากับผนังอย่างจัง ความเจ็บแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่าง ใบหน้าสวยบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด แต่ผู้ชายตรงหน้ากลับไม่แม้แต่จะเหลียวแล
ดวงตาคมเข้มวาวโรจน์ด้วยเปลวโทสะ เสียงทุ้มต่ำดังออกมาอย่างเกรี้ยวกราด
“เธอเป็นบ้าอะไร กินยาลืมเขย่าขวดรึไง! รู้ตัวไหมว่าพูดบ้าอะไรออกมา...ไม่ใช่แค่ฉันที่จะเสียหาย แต่เธอยังลากมาเรียมาเกี่ยวด้วย!”
แซนดี้หอบหายใจแรงๆ ก่อนจะแค่นหัวเราะเย็น เสียงหวานเปื้อนพิษสวนกลับไปทันที
“ใช่สิ! ฉันมันบ้า! ส่วนนาย ก็เป็นคนโง่ ไอ้ผู้ชายโง่ที่ไม่เคยเห็นอะไรนอกจากสิ่งที่ตัวเองอยากเห็น!”
“แซนดี้!” โรฮานคำรามชื่อเธอ ดวงตาแดงก่ำด้วยความกรุ่นโกรธที่ปะทุจนแทบจะระเบิด ร่างสูงโน้มเข้ามาใกล้ราวกับพร้อมจะบดขยี้เธอให้แหลกคามือ
แต่เธอกลับตะโกนสวนออกมาเสียงสั่นสะท้านจนห้องทั้งห้องสะเทือน
“เพราะนาย! เพราะความโง่ของนายไง! เรื่องมันถึงได้จบลงอย่างน่าอนาถแบบนั้น! ไอ้โง่! ไอ้ผู้ชายห่วยแตก! ต่อไปนี้เชิญไปเสวยสุขกับมาเรียให้พอใจ เพราะฉัน...ฉันจะหลีกทางให้เอง!” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความชิงชังทำให้โรฮานนิ่งงันไปชั่วขณะ ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ เขาไม่เคยได้ยินแซนดี้พูดกับเขาด้วยน้ำเสียงแบบนี้มาก่อน ทั้งเจ็บปวด ทั้งโกรธแค้น ราวกับเกลียดเขาจนไม่เหลือเศษเสี้ยวของความรัก
“เธอพูดเรื่องบ้าอะไรของเธอกันแน่แซนดี้!” เสียงทุ้มตะคอกกลับมาอย่างเดือดดาล ดวงตาคมกริบฉายแววสับสนรุนแรง
“แล้วทำไมถึงเอาแต่พูดว่าฉันนอกใจ! ห๊ะ!?”
คำถามนั้นทำให้ความเงียบเข้ามาปกคลุมห้องทันที...
แซนดี้นิ่งไป มองใบหน้าหล่อเหลาที่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ
ใช่สิ มันก็แน่อยู่แล้ว เพราะสิ่งที่เธอกล่าวหาทั้งหมด...มันยังไม่เกิดขึ้นจริง