พิงค์ลานนาไปถึงห้างสรรพสินค้าที่ไปรยานัดก่อนเวลา เพราะห้างอยู่ใกล้บ้านเธอ เธอเดาว่าคนนัดคงอยากอำนวยความสะดวกให้เธอซึ่งเป็นคนท้องนั่นแหละ แล้วตัวเองก็ยอมขับรถไกลเอง
นี่แหละ เสน่ห์และความน่ารักอย่างหนึ่งของไปรยา รวมถึงปักษ์ด้วย สองพี่น้องจะมีความละเอียดอ่อนและช่างใส่ใจคนอื่นเสมอ เธอถึงรู้สึกอบอุ่นตลอดเวลาที่ต้องสวมบทขวัญระมิงค์ดูแลปักษ์ เพราะทุกคนในบ้านคอยดูแลเธออย่างดี และให้เกียรติเธอเป็นอย่างมาก
ระหว่างที่ไปรยายังไม่มา พิงค์ลานนาก็เดินดูนั่นดูนี่ไปพลาง ๆ จนกระทั่งมาถึงร้านขายและให้เช่าชุดวิวาห์ หญิงสาวก็เผลอแหงนมองชุดที่อยู่บนตัวหุ่นหน้าร้านนิ่งนาน
เป็นชุดเจ้าสาวสีขาว คอวี ไหล่ปาด ตัวชุดทำจากผ้าตาข่ายกลิตเตอร์ ตกแต่งด้วยลูกไม้ทั้งชุด ตัวกระโปรงเป็นทรงแคบแล้วลากยาวเป็นหางปลา
มองแล้ว เธอก็ได้แต่ยิ้มเศร้า ไม่รู้เธอจะมีโอกาสได้ใส่ชุดเจ้าสาวเหมือนคนอื่น ๆ หรือเปล่า ในเมื่อดันมีลูกก่อนเสียแล้ว จะมีผู้ชายคนนั้นสำหรับเธอหรือเปล่านะ ผู้ชายที่ไม่สนอดีต และรักลูกของเธออย่างจริงใจ
“ทำไมมายืนดูชุดคนเดียวล่ะคุณ แฟนคุณไปไหนเสียล่ะ” เสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นใกล้ ๆ พิงค์ลานนาหันไปมอง แล้วก็พบว่าเป็นคนที่เธอไม่รู้จัก แต่เมื่อรวมกับคำถามนั้นแล้ว ก็แปลว่าคนคนนี้รู้จักคู่แฝดของเธอ
ส่วนชายหนุ่ม ซึ่งเป็นคนเดียวกับคนที่อยู่บนเตียงกับขวัญระมิงค์เมื่อวันก่อน เขากวาดตามองหญิงสาวด้วยความแปลกใจ ครั้นเห็นว่าส่วนท้องของเธอนูนขึ้นมาเล็กน้อย ซ้ำเธอก็อยู่ในชุดเหมือนชุดคลุมท้อง เขาก็อุทานแปลกใจ
“เฮ้ย ไม่เจอกันแค่วันเดียว นี่คุณท้องแล้วเหรอ เมื่อวานยังท้องแฟบอยู่เลยนี่”
“ดิฉันไม่ใช่คนที่คุณรู้จักหรอกค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” แล้วเธอก็ผละออกจากตรงนั้น อีกฝ่ายก้าวตามมาดึงข้อมือเธอเอาไว้แล้วก้มหน้ามาถามเสียงเยาะระคนสมเพช
“ว่าแต่เด็กในท้องเป็นลูกใครล่ะ”
หญิงสาวเงยหน้ามองเขาด้วยความตกใจ “ถามแบบนี้หมายความว่าไง”
ชายหนุ่มหัวเราะอย่างเห็นขัน “ไม่ต้องมาตีหน้าซื่อถามคำถามแบบนี้กับผมเลย ไอ้บทหน้าซื่อไร้เดียงสาน่ะ มันไม่เข้ากับคุณหรอกขวัญ”
“ขอโทษนะคะ ขอตัวค่ะ” เธอกระชากแขนออกจากการเกาะกุมของเขา
“ทำไมล่ะ กลัวผัวคุณจะได้ยินเหรอ เฮอะ! ไม่ต้องกลัวหรอก หมอนั่นยังตาบอดอยู่ แถมหูก็หนวกด้วย” พิงค์ลานนาเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเพราะไม่อาจทนฟังคำพูดแบบนี้ได้อีกแล้ว แต่อีกคนก็ยังก้าวตามไม่ลดละ
“คืนนี้มาเจอกันที่เก่าเวลาเดิมมั้ยล่ะ มาทิ้งทวนก่อนเราจะแยกย้ายกันไปมีชีวิตของตัวเองไง ผมรับรองว่าจะเลือกท่าที่ไม่อันตรายต่อเด็ก” ตอนท้ายมีเสียงหัวเราะเชิงหยอกเย้ามาด้วย พิงค์ลานนาชะงักเท้ากึกด้วยความตระหนกตกใจ และชาตั้งแต่หัวจรดเท้า
นี่เขาพูดอะไร!!! พูดแบบนี้หมายความว่า...
“คุณปิ๊ง” เสียงเรียกชื่อเธอจากปักษ์ดังขึ้น พิงค์ลานนาหันขวับไปมองด้วยความตกใจและไม่สบายใจ เขาได้ยินสิ่งที่ผู้ชายคนนั้นพูดหรือเปล่า???
“คุณปักษ์...มาได้ยังไงคะ” เธอถามเสียงตระหนกไม่ต่างจากสีหน้า
“ก็มาคุยงานไง” ตอนที่ตอบเธอ สายตาเขามองไปที่ชายหนุ่มคนนั้นด้วยความสงสัยซึ่งอีกฝ่ายก็ส่งยิ้มมาให้พลางค้อมศีรษะลงน้อย ๆ เป็นการทักทาย จากนั้นจึงหมุนตัวเดินเข้าร้านเช่าชุดวิวาห์ไป
“อ้อ แล้วคุณปุ๊ล่ะคะ” พิงค์ลานนาถามด้วยความสงสัย
“เรามารถคนละคันน่ะ ผมออกมาก่อน เลยมาถึงก่อน แต่ปุ๊น่าจะใกล้ถึงแล้วเหมือนกัน...แล้วนี่ มาดูชุดแต่งงานเหรอครับ” เขาถามยิ้ม ๆ
“เปล่าหรอกค่ะ เดินผ่านแล้วเห็นว่าสวยดี”
เขาพยักหน้ารับทราบ แล้วตาก็มองไปเห็นร้านขายเสื้อผ้าเด็กซึ่งตั้งอยู่ใกล้ ๆ กัน
“จะเข้าไปเลือกเสื้อผ้าไว้ให้ลูกมั้ยครับ เสื้อผ้าน่ารัก ๆ ทั้งนั้นเลย” เขาชี้มือไปที่ร้านดังกล่าว พิงค์ลานนามองตามสายตาเขา เห็นชุดเหล่านั้นแล้วก็นึกอยากจะเดินดูเหมือนกัน ถึงจะยังไม่รู้เพศของลูก แต่เธอก็นึกออกว่าลูกของเธอจะน่ารักขนาดไหนเวลาอยู่ในชุดพวกนี้
แล้วทั้งคู่ก็ก้าวเข้าไปในร้าน พนักงานยกมือไหว้และทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ไม่ทราบว่าน้องผู้หญิงหรือผู้ชายคะ”
“เอ่อ ยังไม่รู้เพศลูกเลยค่ะ”
“อ๋อ ถ้างั้นก็เชิญเดินดูก่อนได้เลยค่ะ” พนักงานมองทั้งคู่สลับกันไปมา “คุณพ่อคุณแม่เห่อลูกมากเลยนะคะ แบบนี้น้องต้องออกมาน่ารักสมกับความรักของคุณพ่อคุณแม่แน่ ๆ เลยค่ะ”
“เอ่อ...เปล่านะคะ...เราไม่ได้เป็นอะไรกัน”
พนักงานทำหน้าแปลกใจ ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ
“ยังไงก็ตามสบายนะคะ ดิฉันขอตัวไปดูลูกค้าทางนั้นก่อน” แล้วก็เดินไปต้อนรับลูกค้าอีกคนที่เพิ่งก้าวเข้ามา ปล่อยสองหนุ่มสาวมองหน้ากันไปมาด้วยสีหน้าแปลก ๆ แล้วก็เป็นปักษ์ที่หาเรื่องชวนคุยแก้เขิน
“ตามโบราณว่า ถ้าคุณแม่หน้าใส เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลแบบนี้ ผมว่าผู้หญิงชัวร์”
พิงค์ลานนายิ้ม
“ไม่แน่หรอกค่ะ อาจจะเป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่งก็ได้” เธอจำได้นะว่าเขาเคยบอกว่าอยากมีลูกผู้ชายคนหนึ่ง ผู้หญิงคนหนึ่ง
ทางด้านปักษ์ เขาคิดตามคำพูดนั้นแล้วก็เบิกตากว้าง
“แฝดเหรอครับเนี่ย”
“ใช่ค่ะ หมอบอกว่ามีหัวใจสองดวงเต้นอยู่ในนี้”
ได้ยินคำตอบนั้น ไม่รู้ทำไมเหมือนกันปักษ์ถึงได้ดีใจนัก ดีใจ ปลื้มใจและตื้นตันอย่างที่เขาก็ไม่เข้าใจตัวเอง
“เอ๊ะ คุณปักษ์ร้องไห้เหรอคะ” พิงค์ลานนาอุทานด้วยความตกใจและแปลกใจ ปักษ์รู้ตัวตอนนั้นเองว่าเขากำลังน้ำตาไหล ทำยังกับว่าเขาเป็นพ่อของเด็กกระนั้นแหละ!
“เอ่อ...ผมดีใจแทนคุณอาธนูน่ะครับ ที่จะมีหลานเอาไว้เชยชมแล้ว”
หญิงสาวก้มหน้าซ่อนแววตาเศร้าจากเขา ขณะที่เขาเอ่ยต่อ
“ส่วนคุณแม่ผมต้องรออีกนานเลยกว่าจะได้อุ้มหลานเหมือนคนอื่นเขา”
“งั้นก็รีบแต่งงานสิคะ ท่านจะได้สมหวัง”
ปักษ์หน้าเครียดไปเล็กน้อย ก่อนจะพูดไปเรื่องอื่น “จะเดินดูเสื้อผ้าต่อมั้ยครับ เดี๋ยวผมเดินเป็นเพื่อน”
“ไม่ต้องเดินเป็นเพื่อนหรอกค่ะ ถ้ามีธุระก็เชิญคุณปักษ์ตามสบาย แล้วเดี๋ยวเจอกันที่ร้านนะคะ” ร้านที่เธอว่าคือร้านอาหารที่ไปรยานัดไว้นั่นเอง และพอพูดจบ เธอก็เดินลึกเข้าไปในร้าน ไม่คิดว่าเขาจะตามมา แต่ปรากฏว่าเขาก้าวตามเธอเรื่อย ๆ เธอไปตรงไหนเขาก็ไปตรงนั้น พร้อมหัวใจของเขาที่มันฟู ๆ ในอกบอกไม่ถูก
พิงค์ลานนาเองก็ไม่ต่างจากเขา มันเป็นช่วงเวลาที่หัวใจเธอมีความสุขอย่างมิอาจปฏิเสธ ก่อนสำนึกแห่งความจริงจะเข้ามาซัดความสุขนั้นออกไป
เขาเป็นคนรักของน้องสาวเธอ!
หญิงสาวหยุดเดินแล้วหันไปมองเขา
“เราไปที่ร้านอาหารกันเถอะค่ะ ป่านนี้คุณปุ๊คงจะมาแล้ว” พูดจบ เธอก็เดินเร็ว ๆ ออกจากร้านตามความเคยชิน นั่นทำให้ไม่ทันระวัง ชนเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินสวนมา เธอทำท่าจะล้มลง แต่ปักษ์ที่เดินตามหลัง รีบก้าวไปประคองไว้ได้ทันด้วยความรู้สึกใจหายอย่างที่สุด นี่ถ้าเธอล้มลงไปแล้วกระทบกระเทือนถึงลูก เขาคงรู้สึกผิดอย่างมหันต์ที่ช่วยเธอไม่ทัน
“อุ๊บ ขอโทษค่ะ” หญิงสาวที่ชนเธอเอ่ยด้วยสีหน้าขอลุแก่โทษ “คุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่าคะ ฉันชนแรงมากเลย”
พิงค์ลานนาสั่นหน้า “ฉันไม่เป็นไรค่ะ”
“คุณไม่เป็นไรแน่นะคะ” อีกฝ่ายถามย้ำ ก่อนจะมองมือของชายหนุ่มที่ประคองเธอเอาไว้ยิ้ม ๆ แล้วก็อดแซวไม่ได้ “มีคุณพ่อคอยระวังหลังให้แบบนี้ จะเป็นอะไรได้ยังไงเนอะ”
‘คุณพ่อ’ กับ ‘คุณแม หันสบตากันอีกหน ก่อน ‘คุณแม่’ อ้าปากจะปฏิเสธ แต่คนพูดไม่อยู่ฟังแล้ว พอพูดจบก็เดินเข้าไปในร้าน ไปหาชายหนุ่มคนที่มาทักพิงค์ลานนาที่เดินตามดูทั้งคู่อยู่เงียบ ๆ มาก่อนหน้านี้แล้วนั่นเอง
ส่วนปักษ์ เมื่อรู้ตัวว่ามือของตัวเองอยู่ที่เอวและหลังของพี่สาวของคู่หมั้นก็รีบดึงออก แล้วถอยห่างเธอเล็กน้อย ในขณะที่สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความแปลกใจ มึนงง
นาทีที่มือเขาแตะเนื้อตัวของพิงค์ลานนา ความอบอุ่นบางอย่างก็ไหลเวียนจากกายเธอสู่ปลายนิ้วของเขาและมันก็แล่นเข้าสู่หัวใจ ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง แต่เป็นการเต้นแรงที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นใจและความสุขแสนประหลาด
ให้ตายสิ! เขารู้สึกแบบนี้กับเธออีกแล้ว!