ท้องได้ยังไง

1454 Words
ไม่รู้ทำไม พอคิดแบบนี้แล้วปักษ์รู้สึกเสียดายความดีงามของเธอ รู้สึกใจหายและผิดหวังอย่างบอกไม่ถูก “มีอะไรหรือเปล่าคะคุณปักษ์” เงยหน้ามาเห็นสายตาแปลก ๆ ของเขา เธอก็ชะงักไป “เปล่า ๆ ไม่มีอะไร ขอโทษด้วยครับที่อาจจะทำให้อึดอัด” “จริง ๆ ถ้าคุณปักษ์ไม่สะดวกก็เชิญได้เลยนะคะ ไม่ต้องห่วงดิฉันหรอกค่ะ ดิฉันเป็นพวกที่นั่งกินข้าวคนเดียวได้สบายมากค่ะ” เธอเอ่ยย้ำความคิดตัวเองอีกครั้ง ปักษ์ยิ้มน้อย ๆ “ไม่ต้องห่วง ผมยินดีมาก ๆ...แล้วนี่กำหนดคลอดเมื่อไหร่ครับ” เขาหาเรื่องชวนเธอคุย “หมอนัดวันที่เก้ากันยาค่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะมาเร็วกว่านั้นหรือเปล่า” “เก้ากันยา? วันเดียวกับแม่ผมเลย” เขาอุทานเสียงตื่นเต้น ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องตื่นเต้นขนาดนี้ พิงค์ลานนาเบิกตากว้าง “จริงเหรอคะเนี่ย เป็นเรื่องบังเอิญจริง ๆ ด้วย” ปักษ์คิดอย่างครึ้มใจว่า นี่ถ้าเด็กสองคนนี้เป็นหลานแท้ ๆ ของแม่ และแม่รู้ว่าเด็กมีกำหนดคลอดวันเดียวกับวันเกิดท่าน แม่ต้องปลื้มใจมากแน่ ๆ แต่ก็นั่นละ มันจะเป็นไปได้อย่างไรกันล่ะ “แล้วสุขภาพของคุณโอเคใช่มั้ย หมายถึงว่ามีเรื่องอะไรที่ต้องเป็นห่วงหรือต้องระมัดระวังพิเศษหรือเปล่า” “ไม่มีอะไรน่าห่วงค่ะ นอกจากต้องระมัดระวังไม่ให้กระทบกระเทือนพวกเขา” ตอนที่พูด เธอแตะหน้าท้องตัวเองเบามือ ปักษ์มองภาพนั้นด้วยหัวใจที่เต็มตื้น และเขาก็ชักหงุดหงิดตัวเองที่ดันรู้สึกอะไรแบบนี้กับพี่สาวของคู่หมั้นมากขึ้นทุกที! “แสดงว่าคุณปิ๊งกับแฟนเป็นคนแข็งแรง” เขายิ้ม พิงค์ลานนาหลุบตาต่ำลง ไม่กล้าสบตาเขาอีกต่อไป ใช่! พ่อของลูกแข็งแรงมาก เสียงโทรศัพท์มือถือของปักษ์ดังขึ้น จากไปรยานั่นเอง ชายหนุ่มแจ้งพิกัดร้านใหม่ให้น้องสาวทราบ ไม่นาน ฝ่ายนั้นก็มาถึง หลังจากทักทายกันแล้ว ไปรยาก็สั่งอาหารบ้าง จากนั้นจึงเอ่ยถาม “คุณปิ๊งไม่ทานเนื้อเหรอคะเนี่ย เหมือนพี่ขวัญเลยนะคะ เขาบอกว่าคนเป็นแฝดกันจะชอบทำอะไรเหมือน ๆ กันนี่คงจะจริงนะคะ” พิงค์ลานนาได้แต่ยิ้ม เพราะเธอไม่รู้เหมือนกันว่านอกจากหน้าตาแล้วเธอกับน้องสาวมีอะไรที่เหมือนกันอีกบ้าง อย่างเรื่องไม่กินเนื้อสัตว์ใหญ่ เธอก็ไม่เคยรู้ว่าขวัญระมิงค์ก็ไม่กิน หลังจากคุยกับดาราสาวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดาราสาวก็ขอตัวกลับไปทำงานต่อ ไม่นาน พิงค์ลานนาก็ขอตัวบ้าง “คุณปิ๊งมายังไงคะ ให้ปุ๊ไปส่งมั้ย” ไปรยาถามพิงค์ลานนาด้วยความอาทร “มาแท็กซี่ค่ะ ไม่ต้องไปส่งหรอกค่ะ บ้านดิฉันอยู่แค่นี้เอง” แล้วเธอก็ลุกขึ้น “แล้วจะรีบเขียนงานให้นะคะคุณปุ๊...สวัสดีค่ะคุณปักษ์” ตอนท้ายเธอพนมมือไหว้ลาเขา จากนั้นจึงหมุนตัวเดินออกจากร้านกาแฟไป สองพี่น้องมองตามแผ่นหลังบอบบางนั้นจนเธอเดินลับหายไปจากสายตา “ปุ๊ว่าไง” คนพี่ถามความเห็นขึ้นก่อน “ปุ๊ว่าก็ไม่เหมือนพี่ขวัญคนที่ดูแลพี่ปักษ์ตอนนั้นซะทีเดียวนะคะ พี่ขวัญคนที่ดูแลพี่ปักษ์ เรียบร้อย อ่อนหวานกว่านี้ แต่คุณปิ๊งดูห้าวกว่า พูดจาก็โผงผางกว่า พี่ปักษ์ล่ะคะ คิดว่ายังไง” “พี่รู้สึกว่าเธอกำลังพยายามไม่เป็นตัวของตัวเอง” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างใจคิด ตลอดระยะเวลาที่ทานข้าวจนย้ายมาร้านกาแฟ พิงค์ลานนาดูแปลกแปร่งไปในความรู้สึกของเขา “พี่ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเธอพยายามจะซ่อนตัวตนจากเราเพราะเรื่องที่เรากำลังสงสัยหรือเธอมีเหตุผลอย่างอื่น แต่พี่สัมผัสได้ว่า เธอไม่สบายใจนักเวลาอยู่ต่อหน้าพวกเรา” “เป็นไปได้มั้ยคะว่าเธอรู้ว่าเรากำลังพยายามทำอะไร” ปักษ์พยักหน้า “พี่ว่าเธอรู้” “แล้วทีนี้ เราจะทำยังไงต่อไปคะ” “มีอีกหลายวิธีที่จะพิสูจน์ความจริง ไม่ต้องห่วงหรอก พี่ต้องรู้ความจริงเรื่องนี้ให้ได้...” น้องสาวพยักหน้ารับทราบ ก่อนเอ่ย “พี่ปักษ์จะกลับเลยหรือเปล่า ปุ๊ว่าจะเดินดูของหน่อย” “เดี๋ยวพี่เดินเป็นเพื่อน” “ขอบคุณค่ะ จ่ายให้ด้วยจะดีมากค่ะ” น้องสาวยิ้มประจบ ปักษ์ยกมะเหงกให้ครั้งหนึ่ง แต่ที่สุดก็พยักหน้าว่าจะเป็นอย่างที่น้องต้องการ ไปรยายิ้มแป้น “พี่ชายปุ๊น่ารักที่ซู้ดดดเลย ขอบคุณนะคะ เออ...ว่าแต่ ไม่นัดเจอพี่ขวัญเหรอคะวันนี้” “ตอนเย็นขวัญเขามีปาร์ตี้กับเพื่อน ๆ เห็นว่างานอำลาอะไรซักอย่างนี่แหละ ตอนนี้เขาเลยไปเตรียมตัว เอ๊ะ...” ตอนท้ายปักษ์อุทานเมื่อมองไปนอกร้าน ไปรยามองตาม แต่เธอก็ไม่รู้ว่าพี่ชายแปลกใจเรื่องอะไร “มีอะไรเหรอคะ” “นั่น สามีของของคุณปิ๊ง” ปักษ์พยักหน้าไปที่ชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งกำลังเดินจับมือกับผู้หญิงอีกคน “อ้าว แล้วทำไม...” ปักษ์ลุกขึ้นแล้วก้าวพรวด ๆ ไปหาชายผู้นั้นทันทีด้วยท่าทีไม่พอใจอย่างหนัก “เดี๋ยว! พี่ปักษ์” คนเป็นน้องวิ่งตามไปด้วยความตกใจและไม่เข้าใจว่าพี่ชายกำลังจะทำอะไร ทางด้านปักษ์ เขาก้าวไปหยุดตรงหน้าแดนซึ่งกำลังเดินมากับณดา สองหนุ่มสาวชะงัก เงยหน้ามองเขาด้วยสีหน้าแปลกใจ แต่เมื่อเห็นว่าไม่ใช่คนรู้จัก ทั้งคู่ก็ทำท่าจะเบี่ยงไปทางอื่น แต่ปักษ์ก็ยังก้าวตามไปขวางไว้ “เอ๊ะ มีอะไรหรือเปล่าครับ” “คุณทำแบบนี้ได้ยังไง คุณปล่อยให้เมียท้องของคุณไปไหนมาไหนคนเดียว แต่ตัวคุณมาควงผู้หญิงอีกคนหน้าตาเฉยเนี่ยนะ ทำได้ไงวะ” ปักษ์กระชากเสียงถามด้วยห่วงความรู้สึกของพิงค์ลานนาเหลือเกินนัก แดนกับณดาหันมองหน้ากันด้วยความตกใจและงงงัน “นี่คุณพูดอะไร” แดนถามขึ้นอีกด้วยความไม่แน่ใจอะไรสักอย่าง “ไม่ต้องมาตีหน้าซื่อทำเป็นไม่รู้เรื่องหรอก...ขอโทษนะคุณผู้หญิง แต่ผู้ชายคนนี้มีเมียแล้ว และเมียของเขาก็กำลังท้องอยู่ด้วย ผมว่าคุณเลิกยุ่งกับเขาเถอะ” ตอนท้ายเขาหันไปทางณดาที่ตอนนี้หน้าซีดเป็นไก่ต้มแล้ว “แดน...นี่มันอะไร” เธอหันไปถามคนรัก “เค้าไม่มีคนอื่นนะ...” แดนปฏิเสธเสียงแน่นหนัก จากนั้นจึงหันมาทางปักษ์อีกครั้ง สีหน้าแววตาของเขาบ่งบอกความโมโหผสมไม่เข้าใจ “นี่คุณ! ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร และกำลังเล่นอะไรอยู่นะ แต่ผมไม่ได้มีเมียที่ไหนอีก” พูดพลางแดนก็จับแขนคนรักเอาไว้แน่น “เค้าไม่มีใครจริง ๆ นะ เค้ามีณดาคนเดียว” “แล้วทำไมผู้ชายคนนี้ถึงพูดแบบนี้ล่ะคะ...เอางี้ คุณมีหลักฐานว่าแฟนของฉันมีเมียอีกคนหรือเปล่า” ณดาพยายามตั้งสติ ไม่เชื่อคำของชายแปลกหน้าง่าย ๆ ไม่หึงตะพึดตะพือ “ตัวผมนี่ละเป็นหลักฐาน เพราะเมื่อวานผมเห็นเขาไปรับเมียของเขาอยู่เลย” แดนกับณดามองหน้ากันอีกครั้ง “เมื่อวาน? บ้าไปแล้ว เมื่อวานผมไม่ได้ไปรับใครที่ไหนเลยนอกจากเพื่อนของผม” “แต่ผมเห็นกับตาตอนคุณไปรับคุณปิ๊งที่หน้าบริษัทผม” “ปิ๊ง?” แดนทวนชื่อนั้น สีหน้าเขายิ่งงงหนัก เช่นเดียวกับณดา “ใช่ คราวนี้คุณจะแก้ตัวว่ายังไง” คราวนี้ณดายิ้มออก “ถ้าปิ๊งที่คุณพูดถึงคือพิงค์ลานนาล่ะก็ นั่นเป็นเพื่อนของเราทั้งสองคนค่ะ ไม่ใช่ภรรยาของแดน ที่สำคัญ ปิ๊งไม่ได้ท้องนี่คะ ปิ๊งยังไม่มีแฟน จะท้องได้ยังไง” “เอ๊ะ ทำไมว่าไม่ได้ท้อง ก็ผมเห็นเขาถือยาบำรุงครรภ์” รอบนี้สองเพื่อนรักของพิงค์ลานนาหันสบตากันอีกครั้ง ตระหนกตกใจยิ่งกว่าเมื่อครู่อีก “ว่าไงนะคะ! ยาบำรุงครรภ์เหรอ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD