บทที่ 10

1416 Words
“อย่านะไอ้ช้าง เดี๋ยวเสียของหมด” นั่นเป็นเสียงของเจ๊ที่ช่วยให้เธอรอดมาได้หวุดหวิด “เอาอย่างนี้ดีมั้ยคะเจ๊ ให้นวลกล่อมน้องเขาเอง” “เอางั้นก็ได้ แต่เจ๊ให้แค่ห้านาทีนะ เดี๋ยวจะรออยู่ข้างนอกนี่แหละ นังหนูมันยอมเมื่อไรก็เรียก เจ๊เองก็ไม่ชอบบังคับใจใคร แต่รายนี้ไม่ได้เพราะแม่มันเอาเงินไปแล้วด้วย” “พี่นวลช่วยหนูด้วยนะ” พอทั้งเจ๊และชายฉกรรจ์อีกสองคนออกไป เธอก็รีบเกาะแขนขอร้องพี่เนื้อนวลทันที ตอนนี้ลืมไปเสียสนิทว่าตนเองมาที่นี่เพราะอยากรู้เรื่องอะไร “ก็ไหนฟ้าบอกพี่ว่าไม่กลัวยังไงล่ะ” “หนูไม่ได้กลัวนะคะ แต่หนูไม่ใช่คนที่ชื่อฟ้าจริงๆ” “ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ แล้วถ้าอย่างนั้นหนูจะบอกพี่ว่าเจ๊เข้าใจผิดเลยเอาตัวหนูมาแทนเด็กที่ชื่อฟ้างั้นเหรอ” ญาติกาพยักหน้าหงึกหงักถี่ๆ “ถึงพี่จะเชื่อ แต่อีกสามคนข้างนอกคงไม่เชื่อหรอก และพี่ก็ช่วยอะไรหนูไม่ได้ นอกจากจะบอกให้หนูทำใจซะ แล้วก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด อย่างน้อยก็เพื่อแม่ของหนู” ที่เนื้อนวลกล้าพูดเช่นนี้เพราะทำงานอยู่ที่นี่กับเจ๊มาหลายปี เจ๊ไม่เคยบังคับฝืนใจใคร ส่วนแบ่งก็เป็นธรรมไม่เคยเอาเปรียบพวกเธอ เจ๊ออกจะใจดีเกินไปด้วยซ้ำ เวลาใครมีเรื่องเดือดร้อนก็ยื่นมือเข้าไปช่วยทุกที ไม่เช่นนั้นที่นี่คงไม่อยู่มาได้นับสิบๆ ปี ตามความคิดของเธอ เด็กคนนี้เจ๊ก็คงไม่ได้บังคับมาหรอก ถึงแม่ของเด็กจะเป็นฝ่ายเอามาขาย แต่ถ้าเด็กไม่เต็มใจหรือถูกบังคับทุบตีมา เจ๊ก็ไม่มีทางเอาอีกเช่นกัน ปากบอกว่าเชื่อแต่สุดท้ายเนื้อนวลก็ยังปักใจเชื่อว่าเธอคือเด็กที่ชื่อฟ้าลูกแม่ฝนอยู่นั่นเอง “หนูเป็น... เป็นน้องพี่สิงห์คบ มาที่นี่เพราะอยากเจอพี่เนื้อนวลค่ะ อยากรู้ว่าคนที่นายสิงห์... เอ่อ พี่สิงห์กำลังคบหาอยู่เป็นคนแบบไหน พี่ก็น่าจะรู้จักพี่ชายหนูดี รายนั้นไม่มีทางปริปากหรือเล่าอะไรให้ฟังแน่ ยิ่งพี่เนื้อนวลมีอาชีพแบบนี้ด้วย… ขอโทษนะคะที่ต้องพูดตรงๆ หนูหรือคนที่บ้านเราไม่มีใครดูถูกใครเพราะอาชีพที่ทำ หนูแค่เป็นห่วงพี่ชายน่ะค่ะ” พูดไปแล้วก็ให้สะท้อนใจ ถึงเธอจะโกหกแต่ก็ไม่ได้ทั้งหมด แม้เพิ่งจะได้เจอได้พูดคุยกันไม่นานแต่เนื้อนวลดูไม่ใช่คนเลวร้ายเลยสักนิด จินตภาพที่เธอคิดไว้ว่าเจ้าหล่อนอาจเป็นผู้หญิงร้ายๆ ชอบยั่วยวนและปอกลอกผู้ชายอย่างที่เห็นในละครหรือฟังคนอื่นๆ พูดกันมาดูผิดแผกไปหมด หญิงสาวดูจะไม่ใกล้เคียงกับสิ่งที่หวังเลยสักนิด แถมออกจะเป็นคนจิตใจดีมากคนหนึ่งด้วยซ้ำ นั่นหมายความว่าหากนายสิงห์รักชอบพี่เนื้อนวลถึงขั้นคิดจริงจัง เธอจะเอาอะไรไปขัดขวางได้ นอกจากถอยออกมาและทำใจซะ ซึ่งเธอก็ไม่มีวันทำได้เช่นกัน “น้องจะเล่นอะไรคะ เท่าที่พี่รู้มาสิงห์ไม่มีน้อง” ชายหนุ่มเป็นเด็กกำพร้า ถูกเจ้าของลัดทาคนเก่ารับเลี้ยงตั้งแต่แบเบาะ “เรามีพ่อแม่บุญธรรมคนเดียวกันน่ะค่ะ ถ้าพี่นวลไม่เชื่อหนูลองโทรไปถามพี่สิงห์ดูก็ได้ แต่ตอนนี้พี่ต้องช่วยหนูก่อนนะคะ” ระหว่างที่เนื้อนวลกำลังชั่งใจว่าควรจะเอายังไงดี ก็ถูกขัดจังหวะอีกครั้งจากสามชีวิตด้านนอก และคราวนี้ทั้งเจ๊และสองหนุ่มไม่ยอมให้เวลาอีกแล้ว “เดี๋ยวค่ะเจ๊” “ไม่ต้องมาขอร้องแทนเลย นวลชอบใจอ่อนกับเด็กใหม่ทุกที” เจ๊หันไปพยักพเยิดหน้าให้สองชายฉกรรจ์เพื่อสั่งให้พาสาวน้อยออกไปได้แล้ว “ไม่นะ ปล่อยนะโว้ย !” ทำไมผู้ชายถึงได้มีแรงมากกว่าผู้หญิงหลายเท่าด้วย ขนาดเธอไม่ใช่พวกผอมแห้งแรงน้อยหรือสาวน้อยเรียบร้อยอ่อนปวกเปียกยังดิ้นไม่หลุดเลย... ต้องบอกว่าแรงเธอทั้งตัวยังทำพวกเขากระดิกไม่ได้เลยด้วยซ้ำ “ถ้าฤทธิ์เดชมากนักฉันจะไปเอาเงินคืนจากแม่หนู แต่ดูท่าคงเหลือไม่เท่าเดิมแน่ แล้วถ้าฉันได้เงินที่จ่ายไปไม่ครบ แถมหนูก็ยังมาเกเรไม่ยอมทำงาน ต่อให้แม่หนูจะหนีหายไปกบดานที่ไหนรับรองว่าฉันจะต้องตามตัวเจอแน่ๆ แล้วหนูพอจะเดาออกใช่มั้ยว่าหลังจากนั้นฉันจะทำยังไงกับแม่หนูและหนูบ้าง” ญาติกาลดอาการดิ้นรนลงเมื่อได้ฟังขำขู่ ก็ไม่รู้ว่าเจ๊แกจะทำจริงมั้ย แต่เธอไม่อยากให้ใครมาเดือดร้อนเพราะเธอเป็นต้นเหตุ บางทียายหนูฟ้าลูกแม่ฝนอะไรนั่นอาจแค่พลัดหลงกับคนพวกนี้ หากเธอที่ตอนนี้ใครๆ ก็เข้าใจไปว่าเป็นเด็กชื่อฟ้าก่อเรื่องขึ้นมา คนที่รับเคราะห์คงไม่พ้นแม่เด็กนั่นเป็นแน่ “พี่นวลช่วยหนูด้วย อย่าปล่อยให้เขาเอาหนูไปขายนะคะ” สุดท้ายเธอก็ได้แต่ฝากความหวังไว้ที่หญิงสาวอีกคน ญาติกาเลือกที่จะเงียบก่อนและเดินตามเจ๊ไปดีๆ เธอจึงไม่ถูกล็อกตัวเอาไว้แล้ว แต่ขณะเดียวกันก็ยังสอดส่ายสายตาเพื่อหาทางหนีทีไล่อยู่ตลอด และทางออกเดียวที่เห็นอยู่ตอนนี้ก็คือหน้าประตูที่เธอเข้ามาแต่ผู้คนก็ช่างพลุกพล่านหนาแน่นเหลือเกิน แค่ออกตัววิ่งก็คงโดนรวบตัวเอาไว้ได้แล้ว “เด็กมันยังใหม่ ยังไงก็เห็นใจมันหน่อยนะเสี่ย” “ไม่ต้องห่วงๆ รับรองจะดูแลให้อย่างดีเลย” ชายที่เจ๊แกสนทนาอยู่ด้วยนี้เธอจำได้ว่าเจอเขาตอนอยู่หน้าร้าน ก็นึกสงสัยอยู่ว่าทำไมถึงได้มีคนเจาะจงจะซื้อตัวเธอในเวลาอันรวดเร็วแบบนี้ นี่จะเรียกเคราะห์ซ้ำกรรมซัด หรือสวรรค์ลงโทษในความเจ้ากี้เจ้าการไม่เข้าเรื่องของเธอดีกันแน่ “ไปกับเสี่ยเขานะฟ้า ปรนนิบัติเสี่ยให้ดี รับรองคนนี้ทิปหนัก” เธอยอมถูกจับจูงไปด้วยมือหนาสาก แม้จะรู้สึกขยะแขยงแต่ก็เตือนตัวเองให้อดทนเอาไว้ก่อน อยู่กันลำพังสองคนเมื่อไรเธอจะจระเข้ฟาดหางให้สลบเหมือดทีเดียว “ยิ่งมองพี่ก็ยิ่งถูกใจน้องฟ้า ขาว สวย อึ๋ม สเปกพี่จริงๆ นี่ถ้าพี่ไม่มีอีแก่ที่บ้านอยู่แล้วรับรองได้เลยว่าจะซื้อตัวหนูไปเป็นเมียเอาไว้เชยชมคนเดียวให้หนำใจ” พอเข้ามาในห้องได้ ตาเสี่ยชีกอนี่ก็เริ่มแทะโลมเธอทั้งสายตาและคำพูดเชียว ดีที่ยังไม่ได้ลงมือทำอะไร ไม่อย่างนั้นความอดทนของเธอต้องสิ้นสุดลงแน่ๆ “เริ่มกันเลยมั้ยจ๊ะฟ้าจ๋า” “ดะ... เดี๋ยวสิคะ หนูว่าเสี่ยไปอาบน้ำอาบท่าให้สบายตัวก่อนดีกว่ามั้ยคะ” “หนูฟ้ารังเกียจเสี่ยเหรอจ๊ะ” “อุ๊ย เปล่าเลยค่ะ หนูแค่อยากให้เสี่ยสบายเนื้อสบายตัวที่สุดต่างหาก เราจะได้มีความสุขด้วยกันมากๆ ยังไงล่ะคะ เดี๋ยวพอเสี่ยอาบแล้ว ฟ้าก็จะอาบเหมือนกันค่ะ” เธอใส่จริตจะก้านเต็มที่ และหวังว่ามันจะได้ผล “ถ้าอย่างนั้นเราก็อาบพร้อมกันเลยสิจ๊ะ จะมัวเสียเวลาทำไม” “โธ่เสี่ยขา ไม่ได้ยินที่เจ๊บอกเหรอคะว่าหนูยังใหม่ เพิ่งเคยทำงานนี้ครั้งแรกด้วย เสี่ยจะให้หนูอับอาย ไม่ให้เวลาหนูทำใจหน่อยเลยเหรอคะ” เธอมั่นใจว่าส่งสายตาหวานเชื่อมให้อีตาเสี่ยหัวงูนี่ หวังว่าเขาคงไม่เข้าใจไปว่าตาเธอขยิบเพราะเจ็บหรอกนะ “อะๆ ก็ได้จ้ะ พี่จะยอมปล่อยหนูฟ้าไปก่อนสักแป๊บนึงก็ได้”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD