ตอนที่ 1
ที่บ้านหลังใหญ่กลางหมู่บ้านซึ่งเป็นบ้านของนายหาญ ขุนเวียง นายก อบต,คนดังของอำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรีที่ใครๆรู้จักเพราะเป็นหัวคะแนนให้นักการเมืองคนดังของจังหวัดที่เป็นผู้หนุนหลังจึงเป็นที่ยำเกรงของชาวบ้าน แต่เขาก็ช่วยเหลือหางบมาช่วยเหลือชาวบ้านสร้างความเจริญให้พอๆกับที่งุบงิบงบประมาณของหลวงที่ช่วยเหลือมาเข้ากระเป๋าของตัวเองจึงทำให้มีฐานะดีและหน้าตาก็จัดว่าใช้ได้จึงมีสาวแก่แม่หม้ายสนใจเพราะนายหาญใจถึงและเปย์ไม่อั้นถ้าถูกใจทั้งที่มีภรรยาและลูกแล้ว
“พี่หาญจะไปไหนอีกล่ะนี่ก็ดึกแล้วนะ” รัศมีถามสามีที่มักจะออกจากบ้านดึกๆดื่นๆและกลับอีกทีก็ช่วงสายของอีกวันแม้จะรู้ว่าเขาไปหาผู้หญิง
“ฉันจะไปไหนมันก็เรื่องของฉันถามอยู่ได้ทุกวันน่ารำคาญ” นายหาญว่าภรรยาด้วยความรำคาญที่ถามทุกวันก็บ้านมันน่าเบื่ออย่างนี้ไงเขาก็ออกไปหาดูของสวยๆงามๆดีกว่า
“ฉันเป็นเมียของพี่นะทำไมจะถามไม่ได้ พี่จะออกไปหาผู้หญิงอีกแล้วใช่มั้ย” รัศมีตอบสามีที่ทำเหมือนกับว่าเธอไม่ใช่ภรรยาของเขาแต่ที่เธออดทนก็เพราะลูกชายคนเดียวที่กำลังโต
“ใช่,ฉันไปหาผู้หญิงแล้วเธอจะทำไม” นายหาญยอมรีบว่าออกไปหาผู้หญิงจริงใครมันจะไปมีอารมณ์กับภรรยากันล่ะ ดูสิหน้างี้มันแผล็บจนแทบจะเจียวไข่ได้จะสู้ผู้หญิงของเขาได้ยังไงน้องช้อยทั้งสวยหุ่นก็เซ็กซี่เร้าใจหอมไปทั้งตัว
“พี่มีเมียน้อยจริงๆใช่มั้ย” รัศมีถามสามีเธอไม่มีเรื่องอะไรจะเสียใจมากไปกว่านี้อีกแล้วหลังจากแต่งงานกับสามีมาสิบปีและมีลูกด้วยกันวัยแปดขวบหนึ่งคนและสามีก็เปลี่ยนไปตั้งแต่รับตำแหน่งนายก อบต.ได้หนึ่งปีตอนนั้นลูกชายอายุสองขวบทุกอย่างก็เปลี่ยนไปทั้งนิสัยใจคอของหาญที่วางอำนาจกับเธอแต่เขาก็เลี้ยงดูเธอกับลูกดีอยู่จึงทำให้เธออดทนเพราะลูกชาย
“ก็บอกว่าจริงไงวะ ทำไมมึงพูดไม่รู้เรื่องห๊านังหมี” นายหาญตะคอกภรรยาเสียงดังก้องห้องนอนด้วยความโมโหที่ทำให้เขาเสียเวลา
“พี่หาญทำไมพี่พูดแบบนี้” รัศมีอึ้งเมื่อสามีตะคอกเธอและยังพูดจาหยาบคายใส่เธอทุกครั้งที่เขาโมโห
“ทำไมกูจะพูดไม่ได้ล่ะปล่อยกูนะนังหมี” นายหาญพูดอย่างไม่สนใจว่าภรรยาจะเสียใจมากแค่ไหนแต่เขาต้องออกไปหาน้องช้อยสาวสวยวัยสิบเก้าที่เนื้อตัวอวบอิ่มนมโตโหนกใหญ่เอาแต่ละทีเขาแทบตายคาอกโตๆของเธอจึงสะบัดแขนให้หลุดจากการเกาะกุมของภรรยาอย่างแรงจนทำให้รัศมีที่จับแขนสาวมีไว้แน่นหลุดแล้วเซถลาล้มลงไปก้นกระแทกพื้นแล้วศีรษะโขกกับผนังห้องอย่างแรง
"โป้กก.."
“โอ้ยย,พี่หาญถ้าคืนนี้พี่ออกไปเราเลิกกัน” รัศมีพูดขึ้นโดยไม่สนใจว่าศีรษะของตัวเองจะเป็นยังไงทำให้หาญชะงักและโกรธภรรยาที่บอกว่าจะเลิกกับเขา
“มึงแน่ใจนะนังหมีที่จะเลิกกับกู” คนอย่างเขาไม่ง้ออยู่แล้วอยากเลิกก็เอาสิเขามีเงินมีบ้านหลังใหญ่มีรถหลายคันจะหาเมียใหม่ได้ไม่อยากหรอกหาญคิดด้วยความหงุดหงิด
“ถ้าคืนนี้พี่ออกไปจริงฉันจะเลิกกับพี่จริงและจะเอาลูกไปเลี้ยงเอง” รัศมีตัดสินใจทันทีเธอทนมานานแล้วไม่อยากให้ลูกชายอยู่ในสภาพแบบนี้ถึงครอบครัวของเธอไม่ได้ร่ำรวยแต่ถ้าทำมาหากินยังไงก็ไม่อดตายเธอยังมีวุฒิการศึกษาถึงแม้จะแค่อนุปริญญาแต่เธอคิดว่าสามารถเลี้ยงลูกได้และยังมีเงินเก็บจากการทำไร่ทำนาทำสวนและสามีให้ไว้ใช้จ่ายที่เธอเก็บหอมรอมริบไว้ให้ลูกชายมากพอที่จะส่งเสียลูกชายเรียนและเธอจะหางานทำไปด้วย
“มึงคิดว่าเลี้ยงลูกไหวก็เอาไปเลยถ้ามึงไปไม่รอดก็อย่าซมซานกับมาหากูล่ะ” นายหาญพูดจบก็เดินออกไปจากห้องทันทีและไม่คิดว่าภรรยาจะกล้าเลิกกับเขาจริงอาจจะพูดด้วยความโกรธและไม่สนใจว่าภรรยาจะเจ็บหรือเปล่า ตอนนี้ใจเขาอยู่ที่ห้องพักของน้องช้อยแล้ว
“พี่หาญกลับมาก่อน มาคุยกันให้รู้เรื่องนะ” รัศมีเรียกสามีที่เปิดประตูเดินลงบันไดไปอย่างรวดเร็วและขึ้นรถไปพร้อมกับลูกน้องคนสนิททั้งสองที่เป็นมือเป็นเท้าให้เขา
รัศมีมองตามหลังไฟท้ายรถของสามีจนหายออกไปจากประตูบ้านด้วยความเสียใจแต่ไม่มีน้ำตาสักหยดเพราะมันถึงที่สุดแล้วทุกเรื่องเธอทนได้ไม่ว่าจะทำงานบ้านทำสวนทำไร่งานหนักแค่ไหนก็ไม่เคยปริปากบ่นแต่เรื่องเดียวที่เธอทนไม่ได้คือเรื่องผู้หญิงและวันนี้สามียอมรับว่าเขามีเมียน้อยจริง
“ปราบยังไม่นอนอีกเหรอลูก” รัศมีถามลูกชายที่ยังนอนดูทีวีเพราะช่วงนี้ปิดเทอมจึงทำให้ ปราบ หรือเด็กชายกล้าหาญ ศรีเวียง วัยแปดขวบดูทีวีดึกได้
“ยังครับแม่หนังกำลังสนุกครับ” เด็กชายมัวแต่ดูทีวีจึงไม่รู้ว่าพ่อแม่ทะเลาะกัน
“ปราบ”
“ครับแม่”
“ถ้าแม่จะไปทำงานกับป้าเกื้อ ปราบจะไปกับแม่มั้ยลูก” รัศมีถามลูกชายเบาๆ
“แล้วพ่อไปกับเรามั้ยมั้ยครับแม่” กล้าหาญถามแม่และเลิกสนใจทีวี
“พ่อไม่ได้ไปกับเราหรอกลูก มีแค่แม่กับปราบเท่านั้น” รัศมีตอบลูกชายไม่มีใครอยากให้ลูกกำพร้าขาดพ่อขาดแม่แต่เธอทนไม่ไหวแล้วจริงๆ
“ทำไมพ่อไม่ไปกับเราครับแม่” ความเป็นเด็กทำให้กล้าหาญถามแม่ เด็กชายรู้ว่าพ่อกับแม่ทะเลาะกันบ่อยแต่เขาเป็นเด็กจึงไม่รู้ว่าพ่อแม่ทะเลาะกันเรื่องอะไรรู้แต่ว่าบ้านของเขาร่ำรวยพ่อเป็นนายกอบต,มีหน้ามีตาและเขาก็เรียนโรงเรียนชื่อดังในจังหวัด
“คือว่าแม่กับพ่อเราอยู่ด้วยกันไม่ได้จึงแยกกันอยู่แม่จะไปทำงานกับป้าเกื้อและอยากให้ปราบไปด้วย ปราบเข้าใจที่แม่พูดมั้ยลูก” รัศมีพยายามจะอธิบายให้ลูกชายวัยแปดขวบเข้าใจ
“พ่อกับแม่จะเลิกกันใช่มั้ยครับ” เด็กชายก็พอรู้ว่าพ่อแม่แยกกันอยู่ก็คือเลิกกันเพราะพ่อแม่ของเพื่อนในชั้นเรียนก็เลิกกันหลายคน
“จ้ะลูก..”
"ปราบจะไปอยู่กับแม่ครับ” เด็กชายตอบแม่เขาอยู่กับแม่มาตลอดไม่ว่าจะไปโรงเรียนแม่ก็ไปรับไปส่งนอกจากไม่มีเวลาจริงๆถึงจะให้ลูกน้องของพ่อไปรับส่วนพ่อก็เจอกันตอนกินอาหารเย็นหรือวันเสาร์อาทิตย์แต่แค่แป๊บๆเพราะท่านมีธุระและเพื่อนฝูงเยอะ
“ปราบจะไปอยู่กับแม่จริงๆใช่มั้ยลูก”
“ครับแม่ ปราบจะอยู่กับแม่ครับ” เด็กชายกล้าหาญยืนยันว่าจะอยู่กับแม่
“ขอบใจมากลูก แม่รักปราบมากถ้าไม่มีปราบแม่อยู่ไม่ได้จริงๆลูก” รัศมีกอดลูกชายแน่นด้วยความรักสุดหัวใจที่เธอสามารถตายแทนได้
จากนั้นสองแม่ลูกก็คุยกันก่อนเข้านอนเพราะพรุ่งนี้จะเป็นวันที่รัศมีจะตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะเดินหน้าต่อยังไงจะอยู่หรือไปหลังจากคิดถี่ถ้วนแล้วว่าจะปลดปล่อยตัวเองและสามีให้เป็นอิสระต่อกัน
เวลา 07.30น.
นายหาญกลับมาถึงบ้านก็เจอภรรยานั่งอยู่ที่โต้ะหน้าบ้านแต่ไม่เห็นลูกชายเขาจึงเดินผ่านไปเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าไปทำงาน
“เดี๋ยวสิพี่หาญ ฉันขอคุยสักสิบนาทีได้มั้ย” รัศมีพูดกับสามีที่จะเดินผ่านหน้าเธอเข้าบ้าน
“มีอะไร” หาญหยุดเดินแล้วถามภรรยา
“ฉันขอหย่ากับพี่แล้วจะอาลูกไปเลี้ยงเอง”
“หย่าเหรอ อวดดีนักก็เอาซี้นังหมีมึงอยากหย่ากูจะหย่าให้ไปอำเภอกันวันนี้เลยเป็นไง มีปัญญาเลี้ยงลูกก็เอาไปเลี้ยงเลย” จากอารมณ์ดีๆเข้าบ้านแล้วมาเจอภรรยางี่เง่าใส่ท้าหย่าเหย็งๆทำให้หาญโมโหในเมื่ออยากหย่าเขาก็จะหย่าให้และเอาลูกไปเลี้ยงเลยและคิดว่าไม่มีใครสนใจแม่หม้าย
“ดีค่ะ ฉันไม่อยากมีปัญหา” เธอพร้อมตั้งแต่ที่บอกสามีเมื่อคืนในเมื่อหมดใจแล้วจะอยู่ต่อทำไมทำทุกอย่างให้มันจบๆไป
“งั้นมึงจะรออะไรก็ไปสิวะ” หาญตะคอกภรรยาเสียงดัง
“พี่รอแป๊บฉันไปเอาเอกสารก่อน” รัศมีพูดจบก็ลุกขึ้นเดินไปเอาเอกสารที่เธอตรียมไว้สำหรับหย่ากับสามีและยื่นขอรับรองสิทธ์เลี้ยงดูลูกชายแต่เพียงผู้เดียวแล้วเดินทางไปอำเภอด้วยรถคนละคัน
“คุณหาญกับคุณรัศมีตัดสินใจดีแล้วเหรอครับ ผมว่าลองทบทวนดูอีกครั้งมั้ยครับ” นายอำเภอเป็นผู้มาไกล่เกลี่ยให้สองสามีภรรยาที่รู้จักมักคุ้นกันดีเพราะทำงานร่วมกันบ่อยส่วนรัศมีก็ออกงานช่วยเหลือชาวบ้านเวลามีงานหรือที่อำเภอ
“ฉันขอบคุณท่านนายอำเภอมากค่ะ แต่เราสองคนได้ตัดสินใจแล้วว่าจะยุติความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยาค่ะ” รัศมีตอบก่อนสามีเพราะกลัวเขาจะเปลี่ยนใจ
“ใช่ครับท่านนายอำเภอ เราสองคนจะหย่ากันครับ” หาญพูดประชดภรรยาหลังจากมาถึงอำเภอและนายอำเภอมาเป็นผู้จัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองพูดไกล่เกลี่ยระหว่างเขากับภรรยาจนทำให้เขาใจเย็นลงและเปลี่ยนใจไม่หย่าแต่ภรรยาชิงพูดก่อนทำให้เขาโมโหขึ้นมาอีกอยากหย่าก็หย่าไปเลยให้มันจบๆกันไป
“งั้นเชิญครับ” นายอำเภอพยักหน้าให้เจ้าหน้าที่นำเอกสารการหย่าให้สองสามีภรรยาเซ็นตามความต้องการของทั้งคู่ที่กำลังจะสิ้นสุดความเป็นสามีภรรยา
“นี่เป็นเอกสารที่ฉันขอเลี้ยงดูลูกแต่เพียงผู้เดียวค่ะ แต่ฉันไม่ได้ตัดสิทธ์ห้ามพ่อกับลูกเจอกันเพียงแต่ฉันขอเลี้ยงดูลูกด้วยตัวเองเท่านั้นค่ะ” รัศมียื่นเอกสารที่เธอเลี้ยงดูบุตรชายเอง
“คุณหาญตกลงตามที่คุณรัศมีต้องการมั้ยครับ”
“ครับท่านนายอำเภอ” หาญคิดว่าภรรยาจะอยู่ที่บ้านของพ่อแม่เธอจึงคิดว่ายังไงเขาก็ได้เจอลูกชายแน่นอนจึงตกลง
“งั้นคุณหาญเซ็นตรงนี้นะครับ”
หาญเซ็นเอกสารตามที่เจ้าหน้าที่บอกและมองภรรยานั่งเชิดหน้าไม่มองเขาทั้งที่นั่งใกล้กันในใจก็รู้สึกโหวงเหวงและคิดว่ารัศมีรักเขาคงไปไหนไม่รอดพอหายโกรธเดี๋ยวก็ซมซานกลับมาหาเขาเอง
“นี่เป็นเอกสารการหย่าที่แสดงว่าคุณหาญกับคุณรัศมีได้สิ้นสุดการเป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์และคุณรัศมีมีสิทธิ์เลี้ยงดูบุตรชายตามที่ได้ยื่นขอโดยคุณหาญเซ็นยินยอมรับเงื่อนไขเป็นอันเสร็จสมบูรณ์ครับ” นายอำเภอพูดกับอดีตสามีภรรยาที่สิ้นสุดลงของหาญกับรัศมี
“ขอบคุณค่ะท่านนายอำเภอ ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ” รัศมีไม่รอช้าขอตัวกลับบ้านทันทีเมื่อได้รับอิสระจากหาญก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องทำงานของท่านนายอำเภอ
“ขอบคุณครับท่านนายอำเภอมากครับ”
“ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวของคุณหาญแต่ผมอยากพูดในฐานะเพื่อนที่เรารู้จักสนิทสนมกันมานานว่าผมเสียใจที่ไม่สามารถห้ามคุณหาญกับคุณรัศมีหย่ากันได้” นายอำเภอก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงแต่เขาเสียใจที่หาญปล่อยคนดีอย่างรัศมีไป
“ผมก็เสียใจครับ แต่หมีเขาต้องการหย่าผมก็ทำตามเขารอให้ใจเย็นกว่านี้เดี๋ยวผมจะไปง้อเขาครับ” หาญตอบท่านนายอำเภอตามที่คิดไว้เพราะเขากับภรรยาทะเลาะกันบ่อยเรื่องที่เขาออกจากบ้านดึกๆและเรื่องผู้หญิงหากใจเย็นลงเขาค่อยไปง้อ
รัศมีขับรถกลับถึงบ้านก็เก็บของที่เหลือลงกระเป๋าเธอเอาแต่เสื้อผ้าของตัวเองกับลูกไปเท่าที่จำเป็นส่วนที่เหลือก็บอกให้คนงานมาเก็บเอาไปแบ่งกันใช้เพราะมีแต่เสื้อผ้าดีๆทั้งนั้น
“เราจะไปกันเลยเหรอครับแม่” เด็กชายกล้าหาญถามแม่เมื่อเห็นท่านเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋า
“ใช่ลูก ตอนนี้แม่หย่ากับพ่อของปราบแล้วจึงไม่มีสิทธิ์อยู่ที่นี่อีกต่อไป เดี๋ยวเราไปอยู่บ้านยายกันนะลูก” รัศมีบอกลูกชายที่ตอนนี้เธอเป็นผู้เลี้ยงดูแต่เพียงผู้เดียว
“ครับแม่” กล้าหาญก็เชื่อแม่เพราะเขาอยู่กับแม่มาตลอด
“เอี้ยดดด..”
เสียงรถแล่นเข้ามาจอดและเบรกเสียงดังถึงไม่บอกก็รู้ว่าเป็นเจ้าของบ้านหลังใหญ่หากเป็นลูกน้องขับจะไม่ขับเร็วและเบรกเสียงดังแบบนี้
“เธอจะไปจริงๆเหรอหมี” หาญเสียงอ่อนลงเมื่อเห็นภรรยากับลูกชายลากกระเป๋าเดินทางออกมาจากบ้าน
“เราหย่ากันแล้วฉันจะอยู่ที่นี่ได้ยังไง ฉันกับลูกจะกลับไปอยู่บ้านแม่” รัศมีตอบอดีตสามีที่เพิ่งหย่ากันไปไม่ถึงชั่วโมง
“ก็ได้ ถ้าเธอสบายใจเมื่อไหร่ก็กลับมาละกัน แกไม่อยากอยู่กับพ่อเหรอตาปราบ”
“ผมจะไปอยูกับแม่ครับ” กล้าหาญตอบพ่อที่ไม่มีเวลาให้เขาและมีแต่แม่ที่อยู่กับเขาตลอดเวลาไม่ว่าจะไปส่งโรงเรียน ไปดูเล่นกีฬาหรืองานโรงเรียนซึ่งแม่จะไปตลอดส่วนพ่อก็นับครั้งได้
“ตามใจแก หมีรอพี่แป๊บนะ” หาญบอกอดีตภรรยาเพื่อจะมอบค่าใช้จ่ายให้ในระหว่างที่เธอกลับไปอยู่บ้านเขารู้ว่ารัศมีก็มีเงินเก็บที่มาจากทำสวนทำไร่ทำนาหลังจากจ่ายคนงานและยังมีเงินที่เขามอบหมายให้เธอดูแลค่าใช้จ่ายในบ้านที่เขาเป็นคนรับผิดชอบและยังมีรถยนต์อีกคันที่เขาซื้อให้เมื่อห้าปีก่อนเพื่อขับรับส่งลูกชายไปโรงเรียนและไปธุระมันยังอยู่ในสภาพดีใช้อีกหลายปี
“ปราบไปรอแม่ที่รถนะลูก เต้ยพี่วานยกกระเป๋าไปใส่รถให้หน่อยสิจ้ะ” รัศมีวานลูกน้องของสามีที่ยืนอยู่หน้าประตู
“ครับพี่หมี” เต้ยมองภรรยาเจ้านายอย่างเห็นใจแต่พวกเขาทำอะไรไม่ได้เพราะเป็นเรื่องของสามีภรรยาก่อนจะยกกระเป๋าไว้ท้ายรถให้ภรรยาของเจ้านายก่อนจะเปิดประตูรถให้ลูกชายคนเดียวขึ้นไปนั่งรอแม่
“นี่เป็นค่าใช้จ่ายของหมีกับตาปราบนะถ้าไม่พอก็บอกพี่” หาญบอกภรรยาเบาๆเขาได้สติตอนที่เห็นอดีตภรรยากับลูกชายลากกระเป๋าเดินทางออกมาจากบ้านหัวใจของเขามันโหวงเหวงพิกล
“ไม่เป็นไรหรอกฉันยังพอมี” รัศมีมองเช็คในมือของสามีแล้วปฏิเสธทั้งที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ายอดเงินเท่าไหร่
“รับไปเถอะหมีเผื่อเธอจะพาลูกไปเที่ยวพักผ่อนให้สบายใจแล้วเราค่อยมาคุยกัน” หาญยัดเช็คใส่มืออดีตภรรยาก่อนจะเดินไปที่รถ “ไอ้เต้ยไอ้สงค์ไปได้แล้ววันนี้กูมีประชุม” หาญบอกลูกน้องทั้งสองแล้วขึ้นรถทำให้เต้ยรีบขึ้นรถขับออกไปจากบ้านหลังใหญ่ที่มีแต่คนงานในบ้าน
รัศมีมองตามอดีตสามีแล้วก้มมองเช็คในมือจำนวนหนึ่งล้านบาทที่สามีให้เธออย่างคาดไม่ถึงว่าเขาจะให้เธอเยอะมากขนาดนี้แม้จะรู้ว่าเงินของเขามาจากการรับเหมาสร้างสะพาน ถนนคอนกรีตและจิปาถะ หาญเป็นผู้ประมูลงานเองเกือบทั้งหมดแล้วเธอไม่ได้ยุ่งกับงานและเงินของเขานอกจากหาญจะให้ใช้เองไม่ขาดมือมีใช้จ่ายตามปกติ
“ก็ดีเหมือนกันเก็บเป็นค่าเทอมให้ลูก” รัศมีพับเช็คใส่กระเป๋าแล้วเดินไปที่รถแล้วขับออกไปจากบ้านหลังใหญ่เธอเพิ่งเข้าอยู่ได้แปดปีหลังจากแต่งงานกับหาญได้หนึ่งปีเขาก็ลงสมัครนายก อบต.เพราะมีคนสนับสนุนและสร้างบ้านเสร็จภายในปีนั้นพร้อมกับเธอคลอดลูกชายพอดี
เวลาผ่านไปหนึ่งเดือนที่รัศมีพาลูกชายกลับไปอยู่บ้านแม่อีกหมู่บ้านหนึ่งห่างกันประมาณสิบสามกิโลเมตรและอดีตสามีก็มาหาลูกชายสองครั้งแต่เธอยังได้ข่าวว่าเขาควงกับเจ้าหน้าที่สาว อบต.อย่างออกหน้าออกตาแต่เธอไม่สนใจ
“พ่อกลับก่อนนะปราบเอาไว้พ่อว่างจะมาหาใหม่นะ” หาญบอกลูกชายเมื่อไม่ได้รับความสนใจจากอดีตภรรยาที่พอเห็นเขาเธอก็เข้าไปในสวนผลไม้แทนที่จะมาคุยกับเขา
“ครับพ่อ” กล้าหาญตอบพ่อเบาๆมองตามพ่อที่เดินห่างออกไปด้วยท่าทางเฉยเมยก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาเล่นเกมต่อ
“แกจะอยู่แบบนี้อีกนานมั้ยนังหมี เล่นตัวเข้าไปเถอะเดี๋ยวไอ้หาญมันเอานังผู้หญิงคนนั้นจริงๆฉันจะสมน้ำหน้าแกให้ดู” รังสรรค์ว่าน้องสาวที่อวดดีหย่ากับผัวทั้งที่มีผัวรวยอยู่ดีกินดีสุขสบายแม้จะทำนาทำสวนก็มีคนงานให้ใช้สอยโดยไม่ต้องลงมือทำเอง
“ก็ช่างเขาสิพี่อ่ำ ที่ฉันหย่ากับเขาก็เพราะเรื่องผู้หญิงและคนนี้ไม่ใช่คนแรกด้วย เขาจะไปขึ้นเขาลงห้วยที่ไหนฉันไม่สนใจหรอก”
“แกมันโง่แทนที่จะนั่งกินนอนกินส่วนไอ้หาญมันจะไปเอาผู้หญิงคนอื่นก็ช่างหัวมันแกก็นอนกอดเงินดีกว่ามันเอาไปให้คนอื่นนะ” รังสรรค์ยังอดว่าน้องสาวไม่ได้
“ฉันยอมโง่แต่ฉันไม่ยอมเป็นควายให้เขาสนตะพาย พี่ไม่ต้องพูดถึงเขาให้ฉันได้ยินอีกนะเขาจะทำอะไรก็เรื่องของเขาไม่ต้องไปยุ่ง” เธอยอมโง่แต่ทนไม่ได้ที่เขามีผู้หญิงคนอื่น
“เออๆไม่ยุ่งก็ได้ แล้วแกจะอยู่อย่างนี้เหรอนังหมีเดียวไอ้ปราบหลานชายของฉันมันจะเข้าโรงเรียนแล้วแกจะทำยังไงจะเอาเงินที่ไหนส่งเสียมันล่ะ” รังสรรค์ถามน้องสาวถึงยังไงเขาก็ช่วยน้องสาวได้เพราะตัวเองไม่มีลูกแต่เคยมีเมียแต่อยู่ด้วยกันไม่ได้จึงเลิกกัน
“ฉันคุยกับพี่เกื้อไว้แล้วว่าจะไปทำงานที่โรงแรมด้วยแต่รอเขาเปิดรับสมัครก่อน ส่วนตาปราบฉันจะพาไปอยู่ด้วย” รัศมีตอบพี่ชายเพราะเธอไม่มีวันทิ้งลูกชายแน่
“แกให้ไอ้ปราบอยู่กับพี่ก็ได้นะหมี” รังสรรค์บอกน้องสาวยังไงกล้าหาญก็เป็นทายาทคนเดียวของครอบครัวสมบัติที่มีก็ต้องเป็นของหลานชายเพราะเขาไม่คิดจะมีเมียมีลูก
“ขอบคุณมากจ้ะพี่อ่ำ แต่ฉันของเลี้ยงลูกเองดีกว่า”
“ตามใจแกมีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกละกัน” รังสรรค์บอกน้องสาวคนเดียวของเขาที่บอกว่าจะไปทำงานโรงแรมกับญาติที่หัวหิน
“จ้ะพี่อ่ำ งั้นฉันไปทำกับข้าวก่อนนะ” รัศมีบอกพี่ชายแล้วเดินกลับบ้านวันนี้พ่อแม่ของเธอไปงานบุญบ้านญาติที่ต่างจังหวัดต้องค้าสามคืนทั้งบ้านจึงมีเธอ ลูกชายกับพี่ชายและคนงานอีกสองคนที่มารับจ้างเก็บมะพร้าวน้ำหอมในสวน
เวลาผ่านไปอีกหนึ่งเดือนที่รัศมีหย่ากับหาญตอนนี้เธอก็ได้ข่าวว่าเขาพาผู้หญิงที่ชื่อช้อยเข้าไปอยู่ในบ้านแต่ไม่ได้สนใจเพราะเธอกับลูกชายจะย้ายไปทำงานที่หัวหินหลังจากญาติสาวบอกว่ามีตำแหน่งแม่บ้านว่างอยู่ถ้าสนใจอยากทำก็จะขอทางผู้จัดการให้เพราะยังไม่มีตำแหน่งอื่นว่างเลย เธอจึงตัดสินใจไปทำงานกับญาติผู้พี่
“แม่ว่าแกลองไปทำงานก่อนดีมั้ยหมีแล้วค่อยกลับมารับหลานแม่ไปอยู่ด้วยไม่ดีเหรอ” นางสีพูดกับลูกสาวคนเล็กที่แต่งงานกับหาญหนุ่มกำพร้าพ่อแม่แต่สมบัติทั้งเงินทองเรือกสวนไร่นาไว้ให้มากมายหลายร้อยไร่ไว้ให้ทำมาหากินพอได้เป็นนายกอบต.ก็ยิ่งมีหน้ามีตามีฐานะร่ำรวยมีคนนับหน้าถือตาแต่ในเมื่ออยู่ด้วยกันไม่ได้แกก็แล้วแต่ลูกสาวยังดีที่ได้หลานชายมาอยู่ด้วยแม้แกจะไม่ได้ร่ำรวยแต่มีที่ดินทำสวนมะพร้าวน้ำหอมทำมาหากินได้ตลอดชีวิตหากไม่ฟุ่มเฟือย
“ฉันให้พี่เกื้อช่วยดูโรงเรียนให้ตาปราบแล้วจ้ะแม่ ส่วนเรื่องที่พักฉันก็เช่าบ้านทาวน์เฮาส์อยู่กับพี่เกื้อแล้วจ้ะ” รัศมีวางแผนไว้เรียบร้อยไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่พักเรื่องเรื่องงานและเรื่องเรียนของลูกชาย