มะนาว…
“พะเพทายไม่ทำตรงนี้” ฉันร้องบอกเสียงสั่นพลางกวาดสายตาไปรอบ ๆ เพราะกลัวว่าจะมีคนผ่านมา แต่น่าแปลกที่นอกจากจะไม่ใครผ่านมาแล้วบรรยากาศบริเวณนี้ยังเงียบกริบทั้งที่ผู้คนด้านนอกนั้นเดินกันขวักไขว่ “พะเพทาย บอกว่าอย่าทำไงอื้ออ”
“เธอเป็นคนบอกฉันเองว่าจะนอนกับฉันทุกคืน หรือจะผิดสัญญา?” คนที่ผละออกจากเนินอกเอ่ยถามด้วยสีหน้าหงุดหงิด
“แล้วนายก็จะทำทุกคืนจริง ๆ หรือไง”
“ใช่” หากแต่คำตอบของคนตรงหน้าก็ทำให้ฉันต้องอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าเขาจะตอบออกมาแบบนี้และดูเหมือนว่าเขาไม่ได้พูดเล่นด้วย
“จะบ้าเหรอ นายเสพติดเซ็กส์หรือไงทำไมต้องทำทุกคืนด้วย”
“เข้าไปในรถ อย่าพูดมาก” คนถูกถามไม่ตอบอะไรหากแต่เปิดประตูรถคันที่ฉันยืนพิงอยู่ออกแล้วดันตัวฉันให้เข้าไปด้านใน
“ดะเดี๋ยวก่อน นี่รถนายเหรอ”
“อือ” คนถูกถามตอบกลับสั้น ๆ ก่อนจะกดศีรษะฉันลงแล้วดันตัวฉันให้เข้าไปด้านในโดยที่ขาทั้งสองข้างของฉันยังแตะอยู่ที่พื้น การกระทำต่อมาสร้างความตกใจให้ฉันไม่น้อยเมื่อชุดเดรสสีดำที่สวมอยู่ถูกคนด้านหลังถลกขึ้นเหนือเอวคอด
“อะ พะเพทายอย่าทำตรงนี้” ฉันร้องห้ามก่อนจะพยายามคลานเข้าไปในรถ หากแต่มือใหญ่ที่รั้งเอวฉันไว้ก็ไม่ยอมปล่อย แพนตี้ตัวน้อยถูกรูดลงจนถึงหัวเข่าก่อนที่อาวุธร้ายจะถูไถไปมาตามรอยแยกจนฉันสะดุ้งโหยง “เพทายอย่าทำตรงนี้ เดี๋ยวมีคนมาเห็น” คนด้านหลังไม่ได้สนใจในสิ่งที่ฉันพูดหากแต่กดหลังฉันลง แล้วค่อย ๆ แทรกอาวุธร้ายเข้ามาจนฉันต้องเม้มปากเข้าหากันแน่นเมื่อรู้สึกเจ็บ
“อยู่นิ่ง ๆ ได้ไหม” ปึก!
“อึก!” แรงกระแทกในคราวเดียวทำให้ฉันแทบร้องไม่ออก สัมผัสจุกเสียดช่องท้องทำให้ฉันเม้มปากเข้าหากันแน่นขณะที่มือทั้งสองข้างจิกเบาะรถเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
ปึก!
“อื้ออ” ขาทั้งสองข้างของฉันเริ่มสั่นระริกเมื่อจังหวะหนักหน่วงนั้นกระหน่ำลงมาอีกครั้ง สัมผัสเจ็บแปลบทว่ามีความเสียวซ่านแทรกอยู่ทำให้ฉันเริ่มสับสน คนด้านหลังเริ่มบรรเลงจังหวะเนินนาบสองสามครั้งก่อนจะเร่งจังหวะให้ถี่รัวขึ้น
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊าา”
“อ๊าสส”
เสียงคำรามของคนด้านหลังดังขึ้นสลับกับเสียงร้องครางของฉัน สะโพกสอบอัดแท่งเนื้อร้อนเข้ามาไม่ยั้งจนเกิดเป็นเสียงเนื้อกระทบกัน ขณะที่ขาทั้งสองข้างของฉันก็เริ่มอ่อนแรงเพราะยืนในท่วงท่าที่ไม่ถนัด
“พะเพทายอ๊าา” ฉันร้องครางออกมาเมื่อจังหวะสะโพกสอบนั้นถี่รัวขึ้นเรื่อย ๆ ขณะเดียวกันมือใหญ่ของคนด้านหลังก็บีบเคล้นบั้นท้ายฉันจนรู้สึกเจ็บ “อ๊ะ อ๊าา”
“อ๊าสส” เสียงครางกระเส่าของเราสองคนดังสนั่นทั่วบริเวณโรงจอดรถ น่าแปลกที่ตอนนี้ไม่มีใครผ่านมาทางนี้แม้แต่คนเดียวและไม่มีรถแล่นเข้าออกอย่างที่มันควรจะเป็น
“พะ พอแล้ว” ฉันร้องบอกเมื่อรู้สึกจุกจนทนไม่ไหว คนด้านหลังไม่เอ่ยอะไรหากแต่เลือกที่จะเร่งจังหวะให้หนักหน่วงและถี่ระรัวขึ้นเรื่อย ๆ มือใหญ่ข้างหนึ่งเคลื่อนไปเคล้นคลึงจุดกระสันเบื้องล่างขณะที่สะโพกสอบนั้นเร่งจังหวะถี่รัวขึ้นจนช่องทางคับแคบนั้นบีบรัดขึ้นเรื่อย ๆ “พะ เพทายอ๊าา” ความเสียวซ่านที่แล่นผ่านช่วงล่างซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะร้องครางออกมา จังหวะหนักหน่วงที่กระแทกกระทั้นเข้ามาทำให้รู้สึกเจ็บและเสียวในเวลาเดียวกัน
“พะ เพทายฉันไม่ไหวแล้ว อ๊าา”
“อ๊ะ อ๊าสส” เสียงคำรามดังขึ้นอีกครั้งขณะที่จังหวะหนัก ๆ นั้นกระแทกเข้ามาในคราวเดียวจนรู้สึกจุก ขาสองข้างที่สั่นระริกตอนนี้แทบทรุดลงกับพื้นหากไม่ได้คนด้านหลังประคองเอาไว้
“ฉะ ฉันไม่ไหวแล้ว” ฉันร้องบอกคนด้านหลังเมื่อถูกวงแขนแกร่งดันตัวเข้ามานั่งในรถ
“หลับซะ ฉันจะพาเธอกลับบ้าน” นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่ฉันได้ยินก่อนที่ทุกอย่างจะวูบไปทั้งที่ก่อนหน้านี้ฉันไม่รู้สึกง่วงเลยแม้แต่น้อย…
เวลาต่อมา…
ราวกับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงจอดรถนั้นเป็นเพียงความฝัน ฉันตื่นขึ้นมาอีกครั้งในห้องนอนของตัวเองและเสื้อผ้าที่สวมอยู่ก็เป็นชุดนอนด้วย ผมเผ้าและหน้าตาที่มีเครื่องสำอางแต่งแต้มไว้ก่อนหน้านั้นเกลี้ยงเกลาราวกับว่ามีคนช่วยอาบน้ำให้ “นายนั่นเปลี่ยนชุดให้เราเหรอ?” ฉันมองเสื้อผ้าที่ตัวเองสวมอยู่ก่อนจะสะบัดหัวไปมา น่าแปลกที่ฉันดื่มไปแค่นิดเดียวแต่หลับไม่รู้เรื่องเลย
พรึ่บ!
“นายยังไม่กลับไปอีกเหรอ?” ฉันหันไปถามคนที่เดินเข้ามาในห้องนอนและทิ้งตัวลงบนเตียงราวกับว่าที่นี่เป็นห้องของตัวเอง
“ขยับมานี่” คนถูกถามไม่ยอมอะไรหากแต่กระตุกแขนฉันจนเซถลาเข้าหาอกแกร่ง
“อะไร? นี่อย่าบอกนะว่าจะทำอีกน่ะ” ฉันรีบดีดตัวออกห่างเมื่อรู้ทันแต่คนตัวใหญ่กว่ากลับดันตัวฉันให้นอนราบกับเตียง ร่างใหญ่ขึ้นมาคร่อมเอาไว้ขณะที่มือทั้งสองข้างของฉันถูกกดลงแนบเตียงจนขยับไม่ได้ “ไม่เอานะ ฉันไม่อยากทำแล้ว”
“จะผิดสัญญาหรือไง เธอตกลงแล้วว่าจะนอนกับฉันทุกคืน” คนที่คร่อมอยู่เอ่ยบอก
“แต่นายก็ควรจะถามความสมัครใจฉันก่อนสิ ไม่ใช่ว่าอยากจะทำก็ทำเลย”
“เธอเป็นคนยื่นข้อเสนอให้ฉันเอง เพราะงั้นฉันก็ไม่จำเป็นต้องถามเธอ” เสียงทุ้มเอ่ยก่อนจะทาบริมฝีปากลงมาประกบจูบ มือใหญ่สองข้างที่กดข้อมือฉันไว้แน่นทำให้ฉันขยับตัวแทบไม่ได้ รสจูบรุนแรงทำเอาฉันต้องเบือนหน้าหนีเพราะรู้สึกเจ็บหากแต่คนบนร่างก็บดขยี้ลงมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่สนใจว่าฉันจะรู้สึกยังไง
“อื้ออ” ฉันดิ้นพล่านอยู่ใต้ร่างคนตัวใหญ่กว่าเมื่อริมฝีปากร้อนผละออกจากจูบแล้วเคลื่อนต่ำลงไปซุกไซ้ซอกคอแรง ๆ “มันเจ็บนะ!” ฉันร้องบอกพลางดันตัวคนบนร่างออกห่างเมื่อเห็นว่ามือใหญ่เริ่มชักรูดอาวุธร้ายสองสามครั้งราวกับเตรียมความพร้อมจะเข้ามา น่าแปลกที่ตอนนี้เรือนร่างของเราสองคนนั้นเปลือยเปล่า ฉันไม่รู้เลยว่าเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ถูกถอดออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ราวกับมีเวทย์มนต์ทำให้เสื้อผ้าของเราทั้งคู่นั้นหายไป…
“อ๊าา” ไม่ทันที่ฉันจะได้ตั้งตัว คนบนร่างก็แทรกอาวุธร้ายเข้ามาก่อนจะบรรเลงจังหวะเนิบนาบสองสามครั้งแล้วเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น ความเสียวซ่านจากช่วงล่างทำให้ฉันร้องครางออกมาขณะที่คนบนร่างเองก็คำรามเสียงดังจนกึกก้องห้อง “อ๊าา พะเพทายอ๊าา”
“อ๊าสส” เสียงครางกระเส่าของเราสองคนดังแข่งกันกับเสียงเครื่องปรับอากาศที่ทำงานอยู่ จังหวะหนักหน่วงที่ทะลวงเข้ามาถี่ ๆ ทำให้เนินอกทั้งสองข้างของฉันนั้นกระเพื่อมขึ้นลงเป็นจังหวะ แรงอัดกระแทกราวกับโกรธจัดกระหน่ำเข้ามาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนช่วงล่างฉันเริ่มระบม ไม่นานจังหวะดิบเถื่อนก็หยุดลงเมื่อความรู้สึกเสียวซ่านนั้นแล่นผ่านช่วงล่าง
ปึก! ปึก! ปึก!
“อ๊ะ พะเพทาย อ๊าา”
“อ๊าสส!”