เหมือนจริงเกินไป

1678 Words
มะนาว… “อื้ออ” ฉันจิกไหล่กว้างของคนตัวใหญ่แรง ๆ เมื่อเริ่มหายใจไม่ออก รสจูบหนักหน่วงราวกับจะกระชากวิญญาณให้ออกจากร่างทำเอาฉันต้องสูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ เมื่อได้รับอิสระ “พะเพทาย…” ทว่าพอตั้งสติได้ใบหน้าของคนที่คร่อมฉันอยู่ก็ทำให้ต้องเบิกตาโพรงด้วยความตกใจ “นี่นายจริง ๆ เหรอ!” ฉันร้องด้วยความตกใจเมื่อภาพตรงหน้านั้นชัดเจนกว่าจะเป็นเพียงความฝัน ไหนจะสัมผัสก่อนหน้านี้ที่เกิดขึ้นราวกับเป็นความจริงนั่นอีก “ถ้าไม่อยากเจ็บเหมือนวันนั้นก็อยู่เฉย ๆ” เสียงทุ้มเอ่ยบอกก่อนจะแยกขาทั้งสองข้างของฉันออกจากกันแล้วแทรกตัวเข้ามา “ดะเดี๋ยวก่อนเพทาย” ปึก! “อึก!” เสียงของฉันหายไปพร้อม ๆ กับความจุกที่เข้ามาแทนที่ แท่งเนื้อร้อนผ่าวของคนบนร่างแทรกเข้ามาไม่ยอมให้ฉันได้ตั้งตัวทำเอาฉันต้องนิ่วหน้าเพราะความจุก “นะ นายเข้ามาในบ้านฉันได้ยังไง” ปึก! เป็นอีกครั้งที่เสียงของฉันหายไปเมื่อคนบนร่างกระแทกช่วงล่างเข้ามาแรง ๆ จนเกิดเป็นความจุก “ออกไปจากตัวฉันนะ” “เธอตกลงกับฉันแล้วว่าจะนอนกับฉันทุกคืนจนกว่าฉันจะเบื่อเธอ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นหลังจากเงียบมานานก่อนจะเริ่มขยับสะโพกเข้าออกช้า ๆ เป็นจังหวะเนิบนาบ การกระทำของเขาทำให้ฉันที่นอนอยู่ใต้ร่างต้องหายใจหอบถี่ขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อสัมผัสเนิบนาบนั้นสร้างความเสียวซ่านให้ไม่น้อย “อะ อ๊าา” เสียงครางของฉันดังขึ้นเป็นระยะขณะที่สะโพกสอบนั้นบรรเลงจังหวะเชื่องช้าเข้ามา ฝ่ามือใหญ่สองข้างลูบไล้หน้าท้องและเนินอกฉันจนเกิดเป็นความรู้สึกเสียวซ่านก่อนจะเคล้นคลึงเนินเนื้อแรง ๆ จนรู้สึกเจ็บ “พะเพทาย อ๊าา” ริมฝีปากหนาที่ทาบจูบลงมาบนเนินอกอวบอิ่มทำให้ฉันต้องแอ่นอกขึ้นลงตามไปด้วย ความรู้สึกเสียวกระสันจากช่วงล่างเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกลายเป็นความทรมาน “ขยับเร็ว ๆ หน่อย” ฉันร้องบอกคนบนร่างเมื่ออยู่ ๆ ความต้องการของฉันก็เพิ่มมากขึ้น “ถ้าอยากทำเดี๋ยวฉันทำเอง ไม่ต้องมาสั่ง” หากแต่ประโยคที่ออกจากปากคนบนร่างก็ทำให้ฉันหงุดหงิดขึ้นมา “ถ้าจะมาทรมานกันเล่น ๆ ก็ออกไป รำคาญ!” ฉันตวาดเสียงดังก่อนจะปัดมือหนาออกจากเนินอกแล้วยกเท้าขึ้นมาถีบหน้าท้องแกร่งของคนที่ขยับตัวอยู่แรง ๆ ทว่ามือใหญ่ของคนบนร่างก็จับเรียวขาฉันขึ้นพาดไหล่เอาไว้ก่อนจะเร่งจังหวะให้เร็วและถี่ขึ้น ปึก! ปึก! ปึก! “อ๊ะ อ๊าา มะไม่ทำแบบนี้ อ๊าา” จังหวะหนักหน่วงที่กระหน่ำเข้ามาซ้ำ ๆ ทำให้ฉันร้องครางออกมาพร้อมกับจิกหมอนไว้แน่น “นะ นายยังไม่ตอบคำถามของฉันเลยนะว่าเข้ามาในบ้านฉันได้ยังไง อ๊าา” ราวกับคนบนร่างไม่อยากตอบอะไร ร่างใหญ่กว่ากระแทกแก่นกายเข้ามาซ้ำ ๆ จนเนินอกทั้งสองข้างนั้นกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะหนักหน่วง “ปะ ปวดขา…” ฉันร้องบอกเมื่ออยู่ในท่วงท่าที่ไม่สบายตัวนานเกินไป คนตัวใหญ่กว่าปล่อยขาฉันลงตามเดิมก่อนจะกระตุกแขนทั้งสองข้างของฉันจนต้องลุกนั่งบนตักแกร่ง “นายตอบฉันสักทีสิ ว่าเข้ามาในบ้านฉันได้ยังไง” “หายตัวเข้ามา” ทว่าคำตอบที่ได้จากเจ้าของตักกว้างก็ทำให้ฉันต้องชักสีหน้าใส่อย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะเป็นฝ่ายขยับเองเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าไม่ยอมทำอะไร “อย่ากวนประสาทได้ไหม” ฉันกระแทกเสียงใส่ขณะขยับสะโพกให้เร็วขึ้น มือใหญ่สองข้างเคล้นคลึงบั้นท้ายฉันแรง ๆ ขณะที่ฉันนั้นบดสะโพกเข้าหาตักกว้างเป็นจังหวะถี่ระรัวราวกับกระหายหา “ใครให้นายเข้ามา แม่ฉันเหรอ” ฉันถามต่อขณะจ้องมองใบหน้าคมคายไม่ละสายตา แต่จะว่าไปแล้วตอนฉันเข้ามาก็ไม่เจอแม่เลยนะ “ผีเจ้าที่บ้านเธออนุญาตให้ฉันเข้ามา” “เวรเอ้ย! นายตอบฉันดี ๆ ได้ไหม” ฉันกระแทกเสียงใส่ด้วยความหงุดหงิดก่อนจะผลักคนตรงหน้าให้นอนราบลงกับเตียง สะโพกผายเริ่มกระหน่ำจังหวะหนักหน่วงเข้าหาเจ้าของแท่งเนื้อร้อนด้วยความโมโหอีกครั้ง หากแต่ยิ่งเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นเท่าไหร่คนที่เป็นฝ่ายจุกจนร้องไม่ออกก็คือฉัน “ตอบไปแล้ว” เจ้าของใบหน้าคมคายพูดต่อขณะเคลื่อนมือใหญ่มาเคล้นคลึงเนินอกของฉันที่กระเพื่อมขึ้นลงไปด้วย จังหวะหนักหน่วงที่ฉันกระหน่ำเข้าหาคนร่างใหญ่ไม่ได้ทำให้คนใต้ร่างนั้นสะทกสะท้านแม้แต่น้อย ใบหน้าคมคายมีเหงื่อซึมออกมาประปรายหากแต่สีหน้ายังเรียบเฉยราวกับไม่รู้สึกอะไร “นายเบื่อฉันหรือยัง” ฉันเอ่ยถามขณะทิ้งตัวลงบนอกกว้างเมื่อหมดแรง นิ้วชี้เรียวยาวสะกิดตุ่มเนื้อน้อยบนอกแกร่งที่เริ่มแข็งเป็นไตไปมาเบา ๆ ก่อนจะทาบริมฝีปากลงไปบดจูบแรง ๆ และไม่ลืมที่จะฝังคมเขี้ยวลงไว้ด้วยหมั่นไส้ “ถามทำไม” เสียงเรียบถามกลับขณะที่มือใหญ่สองข้างลูบไล้แผ่นหลังฉันไปมาจนรู้สึกเสียววาบ รอยเขี้ยวที่ฝังลงบนอกแกร่งไม่ได้ทำให้ใบหน้าหล่อเหลานั้นบิดเบี้ยวเลยแม้แต่น้อยจนฉันแปลกใจ “อยากรู้เฉย ๆ ไม่มีอะไร” ฉันเงยหน้าขึ้นไปสบตากับเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาก่อนจะกรีดกรายนิ้วเรียวยาวไปมาตามกรอบหน้าทั้งที่ช่วงล่างของเรายังเชื่อมกันอยู่ และเหมือนกับว่าอาวุธร้ายของใครบางคนยังคงผงาดพร้อมรบตลอดเวลา “อยากให้ฉันเบื่อ?” คนใต้ร่างเอ่ยถามขณะที่ฝ่ามือใหญ่เคลื่อนจากแผ่นหลังลงต่ำไปเคล้นคลึงบั้นท้ายของฉัน “นายมีแฟนไหม” ฉันไม่ได้ตอบคำถามของคนใต้ร่างหากแต่เลือกถามอย่างอื่นแทน “ไม่มี” จะว่าไปแล้วฉันกับเขาเรายังไม่รู้จักกันเลย อย่างน้อยถ้าจะสนุกด้วยกันต่อไปก็น่าจะทำความรู้จักกันไว้สักหน่อย น่าแปลกที่คำตอบของเขาทำให้ฉันเค้นหัวเราะออกมาเพราะรู้ทัน “ปกติผู้ชายก็ตอบแบบนี้แหละ มีหรือไม่มีก็ตอบไม่มีไว้ก่อน” “ถ้าอยากให้ฉันมีก็มาเป็นแฟนฉัน” ทว่าประโยคถัดมาของคนใต้ร่างก็ทำให้ฉันชะงักไป “หมายความว่ายังไง นายอยากเป็นแฟนกับฉันเหรอ” “…” คนที่พลิกตัวฉันให้กลับมานอนใต้ร่างไม่ตอบอะไรหากแต่ซุกไซ้ใบหน้าไปมาตามซอกคอของฉันและฝังเขี้ยวลงจนรู้สึกเจ็บ “นายทำแบบนี้กับผู้หญิงบ่อยไหม ทั้งแบบวันไนท์สแตนด์แล้วก็ควงไว้กินต่อนาน ๆ เหมือนที่ทำกับฉันตอนนี้น่ะ” ฉันดันใบหน้าคมคายออกห่างจนเราสบตากันพร้อมกับถามในสิ่งที่ตัวเองสงสัยออกไป “ทำกับเธอแค่คนเดียว” “…มะ หมายความว่ายังไง” “ตอบไปแล้วจะเอาอะไรอีก” “นายก็ตอบความจริงมาสิ” “บอกว่าทำกับเธอแค่คนเดียว” “จะบอกว่าเพิ่งทำแบบนี้กับฉันเหรอ? งั้นนายก็…ครั้งแรกเหมือนฉันเหรอ?” ฉันถามกลับทั้งที่ใบหน้าตัวเองเริ่มเห่อร้อนขึ้นมา ไม่คิดไม่ฝันว่าคืนนั้นของเราทั้งคู่จะเป็นครั้งแรกของเราด้วยกัน “อือ” “เพราะแบบนี้นายก็เลยให้ฉันรับผิดชอบเหรอ” “จะขยับเองหรือจะให้ฉันขยับต่อ” คนถูกถามไม่ยอมตอบหากแต่เลือกที่จะถามอย่างอื่นแทน “ไม่ตอบก็ไม่ต้องตอบ แต่ขอถามอย่างนึงได้ไหม” “อะไร?” “บ้านนายอยู่ที่ไหน” “ตรงข้ามกับบ้านเพื่อนเธอ…มัดหมี่” “หืม? บ้านหลังนั้นไม่มีคนอยู่นี่นา นายเป็นเจ้าของบ้านหรอกเหรอ แล้วกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” “ถามมากจัง ไหนบอกจะถามแค่อย่างเดียวไง” “ตอบมาก่อนสิ นายเป็นเจ้าของบ้านหลังนั้นเหรอ” “เป็นผีเจ้าที่” “กวนตีนชะมัด” ปึก! “อึก!” พูดจบคนบนร่างก็กระหน่ำจังหวะหนัก ๆ เข้ามาจนฉันร้องไม่ออก ใบหน้าคมคายเริ่มมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเมื่อจังหวะหนักหน่วงนั้นถี่รัวขึ้น “อะ อ๊าา พะเพทายเบา ๆ หน่อยอ๊าา” “อ๊าสส” เสียงคำรามของคนบนร่างดังก้องห้องขณะที่เสียงเนื้อกระทบเนื้อก็ดังสนั่นแข่งกับเสียงร้องครางของฉัน จังหวะหนักหน่วงถี่ขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ช่วงล่างของฉันเริ่มเจ็บระบม แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นความเสียวซ่านที่แล่นผ่านช่วงล่างซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ทำให้ฉันรู้สึกดีจนไม่อยากให้หยุด เวลาต่อมา… “อื้ออ” ฉันบิดขี้เกียจไปมาเมื่อขยับตัวแล้วรู้สึกปวดระบมไปทั่วช่วงล่าง พอลืมตาขึ้นมาถึงรู้ว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ แน่นอนว่าฉันไม่ลืมที่จะสำรวจตัวเองและกวาดสายตามองไปรอบห้อง “ฝันเหรอ?” ฉันขมวดคิ้วเข้าหากันเป็นปมเมื่อเสื้อผ้าที่ฉันสวมใส่ไปสัมภาษณ์งานนั้นไม่มีรอยยับยู่ยี่ ยังสวมอยู่ตามเดิมเพราะกลับมาถึงห้องฉันก็ล้มตัวลงนอนเลย ไหนจะบานประตูหน้าต่างและข้าวของทุกอย่างในห้องก็อยู่ในสภาพปกติ “แล้วทำไมถึงรู้สึกเจ็บแล้วก็จุกล่ะ” ฉันลูบหน้าท้องตัวเองเบา ๆ เมื่ออยู่ ๆ ก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา น่าแปลกที่ฉันฝันถึงนายนั่นเป็นตุเป็นตะราวกับว่ามันเกิดขึ้นจริง แถมตอนนี้ยังรู้สึกคล้ายกับว่าเพิ่งทำแบบนั้นมาด้วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD