บทที่ 4.1 – สัมผัสหวาม (คุณเกียร์จะไม่ทนอีกต่อไป)

1090 Words
หลังจากทนกับภาพบาดตาบาดใจไม่ไหวเกียร์ก็กลับเข้าห้องพักด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวแทบฆ่าคนได้ เขาเปิดตู้เย็นหยิบเบียร์สี่ห้ากระป๋องออกมานั่งดื่ม สองขาเหยียดตรงตามความยาวของโซฟา ขณะที่มืออีกข้างคีบบุหรี่สูดควันขาวขุ่นเข้าปากแล้วปลดปล่อยลอยคลุ้งเต็มห้อง กลิ่นแอลกอฮอล์ผสมผสานกลิ่นควันบุหรี่คละเคล้ากับลมหายใจสะอาด สมองวนเวียนอยู่กับภาพที่เห็น พิมพ์ชนกในอ้อมกอดของศรุตยิ่งทำให้เลือดในกายร้อนรุ่ม ความอดทนอดกลั้นที่พยายามสั่งสมมาตลอดทั้งวันใกล้แตกพร่าเข้าไปทุกที รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของแม่นกน้อยหน้าหวานสะกิดหัวใจให้เจ็บๆ คันๆ เกียร์กระดกเบียร์ดื่มไม่ยั้งก่อนบีบกระป๋องของมันจนยับยู่ยี่ ดวงตาเริ่มพร่ามัว คืนนี้เขาดื่มไปเยอะเหลือเกิน เกียร์ยกมือก่ายหน้าผากเงยหน้าพิงคอกับพนักโซฟา นึกถึงเหตุการณ์ตอนพิมพ์ชนกจะล้มแล้วมีมือของศรุตมาโอบเอวไว้ กระตุ้นอารมณ์เดือดให้ลุกพรือขึ้นมาอีกครั้ง เขาลุกยืนเต็มความสูง ร่างกายโงนเงนเล็กน้อยเพราะมึนเมาจากฤทธิ์สุรา แต่กระนั้นก็ยังสามารถจัดระเบียบร่างกายให้ยืนหยัดอย่างมั่นคงได้ เกียร์ตัดสินใจไปหาตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาอยู่ไม่เป็นสุข อย่างไรก็ต้องเคลียร์ให้รู้เรื่อง ถ้าไม่ได้พูดกันวันนี้เขาต้องบ้าตายแน่ๆ! “สดชื่นจัง” พิมพ์ชนกยิ้มกว้างหลังอาบน้ำชำระล้างร่างกายจนหอมกรุ่น หญิงสาวหยิบชุดนอนลาตินบางเบาออกมาสวมใส่ หย่อนกายนั่งลงที่ปลายเตียงแล้วทาครีมบำรุงผิวอย่างอารมณ์ดี ก๊อก… ก๊อก… ก๊อก… “ใครคะ?” พิมพ์ชนกร้องถาม เธอชะงักมือที่ทาครีมบำรุงผิวแล้วลุกเดินไปที่หน้าประตู “ฉันเอง” เกียร์ตอบกลับมา เขายืนเท้าแขนพิงกรอบประตูส่วนมืออีกข้างก็เคาะเรียกคนด้านในรัวๆ “เปิดประตูยิหวา” เกียร์เริ่มหงุดหงิดเมื่อถูกปล่อยให้ยืนรอหลายนาที “ยิหวา… เปิดประตู!” “นี่มันก็ดึกมากแล้ว คุณเกียร์มีธุระอะไรไว้คุยกันพรุ่งนี้ดีกว่านะคะ ฉันง่วงนอนแล้ว” พิมพ์ชนกเอ่ยบอก เธอไม่มีทางเปิดประตูให้เขาเข้ามาแน่ ยามวิกาลเช่นนี้คนดีที่ไหนจะมาเที่ยวเคาะประตูห้องผู้หญิงแล้วกระชากเสียงออกคำสั่งแบบเขา เขาต้องไม่ได้มาดีเป็นแน่! เสียงเรียกจากด้านนอกเงียบไป สงสัยเขาคงกลับไปแล้ว “ว้าย!” พิมพ์ชนกกำลังจะก้าวขึ้นเตียงได้ยินเสียงไขกุญแจดังขึ้นก็รีบถลาไปดันประตูเอาไว้ เกียร์ผลักประตูทีเดียวร่างระหงก็ถอยหลังไปไกล กว่าจะตั้งหลักได้คนหน้ามึนก็ย่างกรายเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของห้องเสียแล้ว “คุณเกียร์ ออกไปเดี๋ยวนี้นะ” พิมพ์ชนกชี้นิ้วไล่ไม่ไว้หน้า เกียร์แสยะยิ้มร้ายขณะไล่ต้อนร่างบาง ท่าทีคุกคามดูน่ากลัวมากขึ้นเมื่อคนตรงหน้าเมามายไร้สติ “ออกไป!” เอ่ยปากไล่ซ้ำเมื่อเขาทำนิ่ง พิมพ์ชนกลนลานมองหาสิ่งของที่จะช่วยให้เธอหลุดพ้นจากผู้ชายนิสัยร้ายกาจ สายตาพุ่งเป้าไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง หล่อนถลาไปคว้าขวดน้ำหอมมาถือไว้ในมือ เกียร์เห็นเช่นนั้นก็หัวเราะลั่นห้อง “คิดเหรอว่าไอ้ขวดน้ำหอมกระจอกๆ จะหยุดฉันได้” เขาพูดยิ้มๆ แต่แววตาเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด “วางมันลงซะยิหวา!” เกียร์ออกคำสั่งเด็ดขาด เขาชี้หน้าเธอให้รู้ว่าไม่ควรลองดีกับเขา “ฉันจะไม่วางมันลงเด็ดขาด คุณต้องออกไปจากห้องนี้” พิมพ์ชนกส่ายหน้า กอบกำอาวุธในมือแน่น หารู้ไม่ว่าแววตาขลาดกลัวได้ทำการจุดเพลิงโทสะให้เกียร์โกรธจนหน้ามืดตามัว “ทำไม? ถ้าคนที่มาเคาะห้องเธอตอนนี้เป็นไอ้หน้าอ่อนนั่น เธอจะทำท่าทีรังเกียจมันเหมือนอย่างที่ทำกับฉันไหม!” เกียร์ตะคอกอย่างคนพาล เขาอดทนให้เธอเหยียบย่ำความรู้สึกมามากเกินพอแล้ว จากนี้เป็นต้นไปคือของจริง หล่อนจะได้รู้ว่าไม่ควรมาอวดดีกับคนอย่าง เกียร์ เรนโซ “คุณพูดบ้าอะไร ถ้าจะเข้ามาต่อว่าเรื่องรุต ขอบอกตรงนี้เลยว่าฉันบริสุทธิ์ใจ และรุตก็คือเพื่อน เราสองคนไม่มีใครคิดทุเรศๆ แบบคุณหรอก คนบ้า จิตใจสกปรก!” เพราะโกรธที่เขาอุกอาจเข้าหากลางดึก พิมพ์ชนกจึงต่อว่าชุดใหญ่ เล่นเอาความเครียดพุ่งเสียดขมับทั้งสองข้าง เกียร์กัดฟันกรอด พิมพ์ชนกเห็นประกายไฟดวงเล็กๆ ส่องประกายอยู่ในแววตาเสือร้ายคู่นั้น คนปากกล้าลอบกลืนน้ำลาย เธอพลาด… พลาดอย่างใหญ่หลวง ปล่อยให้ความโกรธอยู่เหนือสติ อยู่ดีไม่ว่าดีก็อาจหาญท้าทายผู้ชายร้ายกาจอย่างเขา “จิตใจสกปรกงั้นเหรอ?” เกียร์แค่นเสียงหัวเราะ ดุนลิ้นดันแก้มไปมา “แล้วอยากรู้ไหม ว่าผู้ชายจิตใจสกปรกมันจะทำยังไงกับผู้หญิงปากดี!” รอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลาไม่ได้ช่วยคลายความหวาดกลัวเลยสักนิด พิมพ์ชนกถอยหนีเท้าแกร่งที่สืบย่างเข้ามาเรื่อยๆ เขาจ้องเธอแล้วยิ้มเย็น ทำราวกับสตรีเบื้องหน้าคือเหยื่ออันโอชะ พิมพ์ชนกลนลานเดินหนีรอบห้อง พอสบโอกาสก็รีบวิ่งไปที่ประตู เพียงเสี้ยวความรู้สึกที่มือเรียวได้สัมผัสลูกบิดประตู หล่อนก็ถูกเกียร์กระชากปะทะอกแกร่ง “จะไปไหน ด่าเสร็จแล้วคิดจะหนีง่ายๆ หรือไง?!” “ปล่อยนะ ไม่งั้นฉันร้องบ้านแตกแน่!” ยังกล้าขู่ๆ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นรองหลายขุม เกียร์กระตุกยิ้มเหี้ยม ย่อตัวอุ้มร่างพยศขึ้นพาดบ่าพาเดินไปยังเตียงกว้าง เหวี่ยงแม่คนหน้าหวานลงบนที่นอนแสนนุ่มสุดแรง พิมพ์ชนกเจ็บจุกจนแทบลุกไม่ขึ้น แต่พอเห็นเขายืนปลดกระดุมอยู่ที่ปลายเตียงพร้อมก้าวเข้าหาอย่างช้าๆ เธอก็เริ่มลนลานเป็นหนูติดจั่น พยายามวาดขาลงอีกฝั่งแต่ผู้ชายร้ายกาจรู้ทัน ตามมากักร่างหอมละมุนให้อยู่ภายใต้วงแขนแกร่งแล้วจ้องตาคนใต้ร่างดุดัน “หมดเวลาของหนูน้อยผู้ร่าเริงแล้วที่รัก คราวนี้ถึงตาราชสีห์อย่างฉันบ้าง!” วาจาโอหังเคล้ากลิ่นสุราชวนน่าเวียนหัว พิมพ์ชนกพยายามผลักไสเขาออกแต่เรี่ยวแรงเท่ามดจะมีปัญญาไปต่อกรกับคนแข็งแกร่งได้อย่างไร
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD