อันอันชะงักไปชั่วครู่เมื่อเห็นใบหน้าคุ้นตาที่เธอเจอสัปดาห์ละครั้ง เธอแทบจะกลืนน้ำลายไม่ลง แต่ก็พยายามยิ้มตามมารยาทของลูกสาวเจ้าของร้านที่ดี (แม้ในใจจะร้อง “โลกมันกลมเกินไปแล้ววว!” ก็ตาม)
ภูผาเงยหน้าขึ้นสบตาเธอแว่บหนึ่ง ก่อนเอ่ยเสียงเรียบแต่ติดนุ่ม
“ขนมเปี๊ยะต้นหอม เกี๊ยวทอดซอสเห็ดทรัฟเฟิล แล้วก็บะหมี่แห้งราดซอสเสฉวนครับ”
พูดจบก็เงียบไป ไม่ได้เปิดเมนูด้วยซ้ำ ราวกับจำได้ขึ้นใจว่าร้านนี้ขายอะไรอร่อยบ้าง
ส่วนพี่โชคที่นั่งข้าง ๆ ก็ยิ้มพลางเปิดเมนูสั่งเสริม “งั้นผมเอาเกี๊ยวนึ่งกับข้าวผัดหมูทอดครับ”
อันอันรีบจดออเดอร์พร้อมทวนเสียงสดใส
“สรุปว่ามีขนมเปี๊ยะต้นหอม เกี๊ยวทอดซอสเห็ดทรัฟเฟิล บะหมี่แห้งราดซอสเสฉวน เกี๊ยวนึ่ง แล้วก็ข้าวผัดหมูทอดนะคะ ส่วนเครื่องดื่มมีชามะลิยูซุกับชาอู่หลงลิ้นจี่นะคะ เดี๋ยวอันรีบให้ทางครัวจัดให้ด่วนเลยค่ะ!”
พูดจบเธอรีบหมุนตัวเข้าไปในครัว ยื่นใบออเดอร์ให้ลูกจ้าง พร้อมตะโกนเสียงใส
“โต๊ะในสุดค่า ด่วนเลยนะ!”
จากนั้นก็เทชาจีนเย็นใส่ถ้วยเซรามิกสองแก้ว แล้วรีบยกไปเสิร์ฟอย่างคล่องแคล่ว
“ระหว่างรออาหาร จิบชาจีนไปก่อนนะคะ ถ้าอยากได้อะไรเพิ่ม เรียกอันได้เลยค่ะ~”
เธอยิ้มหวานส่งให้ ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับไปยังเคาน์เตอร์อย่างรวดเร็ว
ภูผายกแก้วชาขึ้นจิบเบา ๆ กลิ่นหอมของชาจีนแตะจมูกอย่างคุ้นเคย เขาเหลือบตามองตามแผ่นหลังของหญิงสาวที่เดินไปประจำที่เคาน์เตอร์
ไม่อยากจะเชื่อเลย...ร้านโปรดที่เขาแวะมากินบ่อย ๆ จะเป็นร้านของครอบครัวยัยเตี้ยตาโตนี่เอง
เขายิ้มบาง ๆ กับตัวเองอย่างห้ามไม่อยู่
“วันนี้ไม่ได้แต่งหน้า...แต่ก็ดูสดใสดีนี่นา”
สายตาเขายังคงมองตามเธอไปเรื่อย ๆ
แปลกจริง... เมื่อวานยังเถียงกันในรายการจนคนดูแทบปวดกราม แต่พอมาเจอกันอีกทีในร้านเล็ก ๆ แห่งนี้ ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงรู้สึกเหมือนเจอคนคุ้นเคยที่คิดถึงก็ไม่รู้
หัวใจเขากลับรู้สึก...อุ่นอย่างบอกไม่ถูก
หลังจากทานอาหารเสร็จเรียบร้อย โชคก็ลุกขึ้นเดินมาที่เคาน์เตอร์เพื่อชำระค่าอาหาร ส่วนภูผายังนั่งอยู่ที่โต๊ะ ค่อย ๆ สวมหน้ากากอนามัยและแว่นกันแดดกลับอย่างเรียบร้อย ก่อนจะเดินออกจากร้านไปอย่างเงียบ ๆ (แต่ดูเท่จนลูกค้าสาวโต๊ะข้าง ๆ เหลียวตามกันเป็นแถว)
“แล้วเจอกันวันศุกร์หน้านะครับ น้องอัน~”
โชคพูดพร้อมรอยยิ้มสดใส “ซันเขาได้รับสคริปต์เทปหน้าแล้ว พี่กำชับให้ท่องจนขึ้นใจเลย รับรองไม่มีเหตุการณ์ประหลาดใจอีกแน่นอนครับ!”
อันอันยกมือไหว้พลางยิ้มหวาน “แล้วพบกันค่ะ พี่โชค~ แต่…”
เธอทำตาเป็นประกาย ก่อนหัวเราะคิก “อันว่าน่าจะมีเหตุการณ์ประหลาดใจแน่ ๆ ค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า~”
เสียงหัวเราะใส ๆ ของเธอดังตามหลังพี่โชคที่กำลังเดินออกจากร้านไป
และถ้าภูผาได้ยิน…เขาคงยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยแน่ ๆ เพราะคำว่า “เหตุการณ์ประหลาดใจ” จากปากของยัยเตี้ยตาโตนั่น มักจะหมายถึงอะไรบางอย่างที่เขาเองก็ไม่เคยคาดเดาได้เลยจริง ๆ
...
ศุกร์หรรษา (สำหรับอันอัน) ก็เวียนกลับมาอีกครั้ง!
แสงไฟบนเวทีค่อย ๆ สว่างขึ้น เสียงดนตรีประกอบแนวเทพนิยายดังคลอเบา ๆ ทั่วสตูดิโอ
กล้องแพนไปยังหญิงสาวในชุดฟูฟ่องระยิบระยับราวเจ้าหญิงในนิทาน
“สวัสดีค่า~ ท่านผู้ชม ดิฉัน...ซินเดอเรลล่าอันอันค่ะ!”
เธอกล่าวเสียงใส พลางหมุนตัวช้า ๆ ให้กระโปรงพองลอยอย่างน่ารัก พร้อมรอยยิ้มสดใสที่ทำให้เสียงปรบมือดังสนั่นทั่วสตูฯ
“และ...เจ้าชายขี่ม้าขาวของเรา...คุณซันซันค่า!”
เสียงหัวเราะระเบิดขึ้นแทบจะทันทีที่ภูผาเดินออกมาจากหลังเวที เพราะ “เจ้าชายภูผา” ของเรา มีม้ากระดาษครอบช่วงเอวไว้ทั้งตัว!
แถมม้ากระดาษตัวนั้นยังขยับตามจังหวะขาได้จริง ๆ หูม้าเด้ง ๆ หางสะบัดเป็นประกายกลิตเตอร์วิบวับสะท้อนแสงไฟจนตาพร่า
อันอันเห็นภาพนั้นก็กลั้นขำแทบไม่อยู่ “วันนี้...คุณภูผาพาม้าคู่ใจมาออกเวทีด้วยนะคะ~”
ภูผาเหลือบมองเธอเล็กน้อยก่อนหันหน้ากลับไปข้างหน้า สายตานิ่งเรียบ เสียงขรึมเอ่ยขึ้นช้า ๆ
“คุณอันอัน...อยู่ไหนครับ?”
เขาหันมองไปรอบเวทีอย่างตั้งใจ ทำท่าเหมือนมองไม่เห็นหญิงสาวข้างตัวอย่างจงใจสุด ๆ
อันอันทำตาโต ปากงอนนิด ๆ “อันอันอยู่ตรงนี้ค่ะ เจ้าชาย~”
เธอเขย่งตัวขึ้นพร้อมโบกมือให้ชายหนุ่มเห็นอย่างเอิกเกริก
ภูผาทำสีหน้าเหมือนเพิ่งเห็นเป้าหมายและก้มหน้าลงก่อนจะเอ่ยว่า “อ้อ...อยู่ตรงนี้เอง สวัสดีครับ คุณอันอัน~”
อันอันอ้าปากค้าง ตาโตอย่างตกตะลึงกับคำพูดนั้น
ในหัวเธอแทบจะมีเปลวไฟลุกพรึ่บขึ้นมาในทันที
อีตานี่! หาว่าฉันเตี้ยอีกแล้วใช่ไหม!?
เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ยังยิ้มหวานกลบเกลื่อนต่อหน้ากล้อง มือกำแน่นข้างลำตัวอย่างหมั่นเขี้ยวสุดฤทธิ์
รอดูเถอะคุณเจ้าชายขี่ม้ากระดาษ...เดี๋ยวซินเดอเรลล่าคนนี้จะหาทางเอาคืนให้สาสม!
เสียงหัวเราะของผู้ชมระเบิดขึ้นทันที ทีมงานหลังกล้องก็แอบขำกันคิกคัก
หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็ผลัดกันแซวกันไปมาตลอดรายการไม่เว้นจังหวะ
ทุกครั้งที่ภูผาขยับ เสียงกรอบแกรบ ๆ ของม้ากระดาษก็ดังขึ้นเป็นจังหวะประกอบ ทำเอาคนดูขำกลิ้งกันทั้งสตูฯ
อันอันพยายามพูดต่อทั้งที่ไหล่สั่นจากการกลั้นหัวเราะ ส่วนภูผาก็ทำหน้านิ่งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น...ยกเว้นหูที่เริ่มแดงเรื่อจนกล้องซูมจับได้พอดี
บรรยากาศบนเวทีเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของทั้งสองคน
จนเมื่อเทปจบลง ทั้งอันอันและภูผาก็หลุดหัวเราะออกมาพร้อมกัน
เหมือนจะรู้กันโดยไม่ต้องพูดว่า...
“คู่กัดประจำรายการ” ของวันนี้ ได้กลายเป็น “คู่ขวัญขวัญใจคนดู” ไปโดยสมบูรณ์แล้ว