บทที่ 2 -2/2

955 Words
อันอันหอบหายใจนิด ๆ แล้วหันไปมองภูผาที่ก็ยังยืนหน้าตายเหมือนรูปปั้นพระเอกซีรีส์ “อืม...ทำได้ดีมาก” เขาพูดเรียบ ๆ พร้อมพยักหน้าน้อย ๆ “พูดแทนผมได้หมดเลย อันที่จริง คุณเป็นพิธีกรคนเดียวก็ได้นะ” อันอันชะงัก หันมามองตาค้าง ทั้งเหนื่อย ทั้งขำ ทั้งอยากโยนไมค์ใส่หน้าเขา เธอยืนนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนพูดเสียงเรียบแต่แฝงแววโกรธไว้เต็มที่ “ฉันก็อยากเป็นพิธีกรคนเดียวนะคะ เพราะคุณแทบไม่ได้ทำอะไรเลย” สีหน้าของอันอันเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม รอยยิ้มจางหายไป เหลือเพียงแววตาที่มุ่งมั่น “ฉันไม่รู้หรอกว่าทำไมคุณถึงได้มาเป็นพิธีกรรายการนี้ แต่ในเมื่อคุณรับงานแล้ว ก็ช่วยมีความรับผิดชอบหน่อยเถอะ ทำให้สุดความสามารถ ไม่ใช่มายืนเฉย ๆ แบบนี้ ถ้าคุณไม่ตั้งใจจริง ก็ลาออกไปซะ จะได้เปิดโอกาสให้คนที่อยากทำจริง ๆ เข้ามาแทนคุณ” คำพูดนั้นออกจากปากเธอชัดถ้อยชัดคำ ก่อนอันอันสะบัดหน้าหมุนตัวเดินออกไป ทิ้งให้ชายหนุ่มยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่... แต่ในแววตานั้น...มีบางอย่างที่สั่นไหวขึ้นมาอย่างเงียบงัน … หลังจากเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว อันอันเดินขึ้นรถตู้ที่จอดรออยู่ด้านหน้าอย่างคนหมดแรง สีหน้าบูดบึ้งราวกับโดนแย่งกินของโปรดไปต่อหน้า “เก่งมากเลยจ้ะ อันอัน!” เจ๊หวานพูดเสียงสดใส พลางยื่นแก้วชาผลไม้เย็นเฉียบรสโปรดของหญิงสาวให้ “วันนี้พูดได้เยี่ยมมาก ถึงขั้นผู้กำกับยังชมไม่หยุดปากแน่ะ!” อันอันรับแก้วมา พลางถอนหายใจยาวเหยียด “ถ้าอีตาซันนั่นยังไม่ยอมท่องบทมาอีก เทปหน้าอันได้ตายแน่ ๆ เลยค่ะเจ๊! วันนี้พูดจนคอแห้ง เสียงแหบเหมือนเป็ดโดนจับว่ายน้ำทั้งวันแล้วนะ!” เจ๊หวานกลั้นหัวเราะ ก่อนตบไหล่เบา ๆ “ใจเย็นลูก เดี๋ยวเทปหน้าก็เข้าขากันมากขึ้นเอง” อันอันเบ้ปาก “เข้าขาเหรอคะ? ตอนนี้เข้าขาไม่ได้หรอกค่ะเจ๊ เข้ากันได้แค่ ‘ขัดหูขัดตา’ กันมากกว่า!” เธอพูดจบก็ซดชาผลไม้รวดเดียวหมดแก้ว แล้วเอนหัวพิงเบาะ ถอนหายใจอีกครั้งอย่างเหนื่อยหน่าย แต่ถึงอย่างนั้น แววตาของเธอก็ยังซ่อนรอยขบขันเล็ก ๆ เอาไว้...เหมือนจะรู้ตัวว่า ถึงจะหงุดหงิดยังไง...ใจเจ้ากรรมก็ยังเผลอสนใจชายหนุ่มนิ่งเฉยคนนั้นอยู่ดี ... “ฮัลโหล...เจ๊ ว่าไงคะ” อันอันรับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงงัวเงียสุดชีวิต เพราะสายจากเจ๊หวานโทรเข้ามาตอนแปดโมงเช้า ซึ่งสำหรับเธอ มันคือเวลา ตีห้าของคนธรรมดา! “อันอันนน! เมื่อกี้เจ๊เพิ่งวางสายจากผู้กำกับรายการเมื่อคืนนี้ แกชมใหญ่เลยว่าอันอันเก่งมากกกก~ เข้าขากับน้องซันซันสุด ๆ!” เสียงเจ๊หวานดังลั่นจนแทบทะลุลำโพง “แฟนคลับรายการก็ชมกันพรึ่บเลยนะ เข้าไปดูคอมเมนต์สิ เดี๋ยวเจ๊ส่งลิงก์ให้ แหม~ เจ๊อ่านแล้วปลื้มแทนเลย!” อันอันกระพริบตาปริบ ๆ พยายามประมวลผลคำว่า “เข้าขากันสุด ๆ” “หะ...ว่าไงนะคะเจ๊ เข้าขากันได้ดีเหรอ? ผู้กำกับเขาใช้ตาที่สามมองเหรอคะ?” “จะตาไหนก็ไม่สำคัญหรอก!” เจ๊หวานหัวเราะเสียงดัง “ฟีดแบ็คดีคือดี! เอาเป็นว่า...ทีมงานส่งสคริปต์เทปหน้ามาแล้วนะ เดี๋ยวเจ๊พิมพ์ส่งให้อันอ่านก่อนเลย เผื่อคราวนี้ต้องท่องบทของน้องซันซันเพิ่ม ฮ่าฮ่าฮ่า~” เสียงหัวเราะของเจ๊หวานดังลากยาว ก่อนวางสายไปแบบไม่เปิดโอกาสให้อันอันโต้ตอบ อันอันถือโทรศัพท์แนบหูอยู่อย่างนั้น เงียบไปสามวินาทีเต็ม ก่อนจะพึมพำออกมาเบา ๆ “เข้าขากันได้ดี... โอ๊ย!” หญิงสาวกุมขมับเหมือนจะปวดหัวตื๊บ ๆ แล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างแรงจนที่นอนยวบ “ถ้าแบบนั้นเรียกว่าเข้าขาได้ดีล่ะก็...” เธอบ่นพึมพำกับตัวเอง “สงสัยรายการนี้คงต้องชื่อ เพลงเพลินปวดใจ แทนแล้วละมั้ง!” เธอกลิ้งตัวไปมาบนเตียงอย่างหงุดหงิด ก่อนคว้าหมอนมากอดแน่น แล้วตะโกนใส่เบา ๆ “อีตาบ้า!!! หัดจำบทบ้างสิยะ!!!” “ติ๊ง!” เสียงแจ้งเตือนจากไลน์ดังขึ้น พร้อมชื่อ “เจ๊หวาน” ปรากฏอยู่บนหน้าจอ อันอันรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดู ทั้งที่ยังนอนแผ่บนเตียง ในข้อความมีลิงก์แนบมาพร้อมอีโมจิรูปหัวใจและข้อความจากเจ๊ว่า “นี่จ้ะ ลิงก์แฟนเพจรายการเมื่อคืน! เขาชมใหญ่เลย อันลองอ่านดูสิ~” หญิงสาวกดเข้าไปทันที ก่อนเลื่อนอ่านคอมเมนต์อย่างรวดเร็ว ‘555 พิธีกรคู่ขวัญหรือคู่ขวาน (วิ่งไล่เอาขวานจาม) กันแน่เนี่ย ต้องตามดูทุกสัปดาห์ซะแล้ว!’ ‘2ซัน2อัน พิธีกรคู่กัด ฮ่าฮ่าฮ่า’ ‘โอ๊ย ขำจนน้ำตาไหล ซันซันโดนอันอันพูดกลบหมดเลยมั้ง’ ‘อันอันพูดเก่งมาก ส่วนซันซันก็หล่อมาก พูดน้อย...ถนอมเสียงไว้ใช้ตอนสำคัญแน่ ๆ 😂’ อันอันอ่านไปก็กลอกตาไป “พูดน้อยถนอมเสียงเหรอ...โถ~ น่าจะเรียกว่า ถนอมคำพูดจนจะหมดอายุแล้ว!” เธอหัวเราะในลำคอปนหงุดหงิดเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างเสียไม่ได้ อย่างน้อยบทบาทพิธีกรที่เธออุตส่าห์ซ้อมมานาน ก็เริ่มเปล่งประกายให้เห็นบ้างแล้ว “ต่อให้พูดจนเสียงแหบเหมือนเป็ดเป็นหวัด แต่ถ้าแฟนคลับชอบ...ก็คุ้มละกัน!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD