ตอนที่ ๕ แฟน
“ฉันยังไม่แก่สักหน่อย พูดว่าแก่ก็ทำร้ายจิตใจกันเกินไป” เธอทำเสียงไม่พอใจ ที่เพื่อนสนิทบอกว่าเธอนั้นแก่ เธอหน้าเด็กเหมือนสาวอายุยี่สิบต้นๆ ร่างกายก็ยังเต่งตึงรูปร่างก็ไม่ต้องพูดถึงมันสมส่วน เอวบางร่างน้อยอยู่แล้ว
“ช่างเถอะ แล้วแม่แก้วกับพ่อโตรู้หรือยัง” เขาเปลี่ยนเรื่องถาม
“ยัง ฉันไม่รู้ว่าจะคบได้นานแค่ไหน ถ้าจริงจังคงต้องบอกแหละ แต่ตอนนี้ขอดูไปก่อน อีกอย่างลูกก็จะมาฉันยังจัดเวลาไม่ได้เลย”
“ไม่ใช่จะอยากกลับไปหาผัวเก่าหรอกนะ” คำพูดที่ไม่รักษาน้ำใจของโดนัทลูกปลาชินแล้ว “เงียบแบบนี้คือก็คิดสินะ”
“ก็ไม่หรอก แต่พอมองเห็นหน้าลูกก็คิดถึงครอบครัวที่เคยเป็นครอบครัวมาก่อน ถึงลูกจะบอกว่าไม่เป็นไรเข้าใจในสิ่งที่พ่อกับแม่เลือก แต่ก็คงจะเสียใจแต่ไม่กล้าพูดออกมา” ลูกปลาก้มหน้ายิ้ม
การตัดสินใจของเธอและสามีเป็นการไตร่ตรองอย่างดีแล้ว เมื่อทุกอย่างพยายามจนถึงที่สุดของคนทั้งสอง แล้วพยายามกันต่อไม่ไหวก็คงต้องหยุดแล้วปล่อยให้ทุกอย่างจบลง
ทุกคนต่างเจ็บปวด ไม่ใช่แค่เธอที่เจ็บปวดเจียนตาย สามีและลูกก็คงเจ็บปวดเช่นเดียวกัน ดีที่ทุกอย่างจบลงอย่างเข้าใจ เธอเคยคิดว่าหากวันหนึ่งครอบครัวที่แยกจากกลับมาอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง มันจะเป็นเช่นไร ความรู้สึกมีความสุขจะเกิดขึ้นไหม หรือว่า…มันจะเหลือเอาไว้เพียงความอึดอัดใจต่อกัน
“ทุกการจากลาย่อมเจ็บปวด คนที่เจ็บมากที่สุดก็คือเธอนะ ฉันก็หวังว่าจะไม่กลับไปช้ำใจอีกรอบ” เขาก็ทำได้เพียงให้กำลังใจแก่ลูกปลาเพียงเท่านั่น หากพวกเขาอยากกลับไปใช้ชีวิตร่วมกันอีกครั้ง นั้นก็ไม่ผิด
ลูกปลาเดินกลับมาที่ห้องทำงานของตนเอง เพื่อที่จะทำงานที่ค้างเอาไว้ในวันนั้น ถึงจะเคลียร์งานที่ทำไปมากแล้ว แต่ก็ยังมีงานเล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องตรวจสอบให้ละเอียด
เวลาผ่านไปโดนัทเข้ามาบอกว่าต้องกลับก่อนในเวลาสี่ทุ่มเพราะอาการแพ้ท้องของปลายฝนไม่ดีมากนัก จึงเหลือเพียงเธอเท่านั้นที่นั่งทำงานอยู่บนชั้นสอง
ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้น ลูกปลาเงยหน้าไปมองก่อนที่จะมองเห็นพนักงานชายเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม
“มีแขกมาขอพบครับ”
“แขก?” ลูกปลาขมวดคิ้วเข้าหากัน
“ผู้จัดการได้พาไปที่ห้องวีไอพีแล้วครับ ห้องสามครับ” เธอพยักหน้ารับรู้ก่อนที่จะวางมือจากเอกสารตรงหน้า
ลูกปลาเดินตรงมายังห้องวีไอพีสาม เธออยากรู้เหลือเกินว่าแขกที่มาหาเธอนั้นเป็นใคร หากจะบอกว่าเป็นคนรู้จักก็คงนัดมาก่อนแล้วแต่นี่กลับไม่ได้มีการนัดหมายล่วงหน้าก่อน
“เซอร์ไพรส์!!!” เสียงของเกสรดังขึ้น พร้อมกับน้องชายและเพื่อนๆ ของน้องชาย “ตกใจล่ะสิ ที่ฉันมาหาแกที่นี่” เธอเดินเข้ามาควงแขนแล้วดึงให้ลูกปลาไปนั่งด้วยกัน
“แกจะมาทำไมไม่บอก” เธอกระซิบถาม แล้วหันมองไปยังผู้ชายอีกคนที่เจอกันไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน “แกควรไปคลับไม่ใช่เหรอ”
“คลับก็อยากไป แต่มีผู้ชายมาด้วยนะซิเลยต้องมาผับแทน” เกสรกระซิบกลับ ใจจริงก็อยากไปดูผู้ชายหล่อๆ แล้วหิ้วกับห้องสักคนสองคน แต่ก็มากับน้องชายถึงได้เลือกมาที่ผับแทน
“วันนี้ฉันเลี้ยงเอง ถือว่าชดเชยวันนั้นที่ฉันหนีมาก่อน”
“ไม่ต้องๆ ก็แกมีงานสำคัญทำไม่ใช่เหรอ แล้วนี่ทำงานอยู่ไหม ฉันมากวนแกหรือเปล่า” เธอรีบถามเพื่อนรักทันทีว่ามารบกวนเวลาทำงานของลูกปลาหรือเปล่า
“ฉันกำลังเคลียร์งาน แล้วจะอยู่นานไหม”
“ไม่รู้สิ แกไปทำงานเถอะ แค่จะบอกว่ามาเที่ยวผับก็แค่นั้น ว่าแต่…มีเรื่องอะไรหรือเปล่า” เกสรมองเห็นสายตาของเพื่อนน้องชายที่มองมาทางลูกปลาก็อดสงสัยไม่ได้
“ไม่มีหรอก งั้นฉันไปทำงานต่อแล้วนะ มีอะไรโทรหาแล้วกัน” เธอลุกขึ้นแล้วรีบเดินออกจากห้องมา แต่ไม่รู้ว่ามีอีกคนเดินตามหลังมาติดๆ
“จะรีบไปไหนครับ” มาร์ชที่มองก้นของเธอในระหว่างที่กำลังเดินขึ้นบันได แน่นอนว่ากระโปรงที่ลูกปลาสวมนั้นไม่ได้สั้น แต่พอเขาอยู่ด้านล่างกลับมองเห็นชั้นในสีขาวของเธอ
“นายมาทำอะไรที่นี่ ไม่อยู่กับเพื่อนเหรอ” ลูกปลาหันกลับมามองในทันที สีหน้าของเธอไม่ชอบใจนักแล้วหันมองซ้ายขวากลัวว่าคนอื่นจะมาเห็นว่าเธอและเขาอยู่ด้วยกันสองคน
“ลืมอะไรหรือเปล่าครับ” มาร์ชเดินขึ้นมาหยุดยืนที่ตรงหน้าในขั้นบันไดที่ต่ำกว่า ทำให้เขาและเธอมีความสูงเกือบเท่ากัน “เรากำลังคบหาดูใจกันอยู่นะครับ” เขาไม่พูดเปล่ากลับถอดเสื้อคลุมหนังสีดำมาผูกเอาไว้ที่เอวของลูกปลา
“ทำอะไร?” เธอถามอย่างมึนงงกับพฤติกรรมของเขา
“ครั้งหน้าหัดระวังบ้าง” เขาโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ “ชั้นในวันนี้สวยดีนะครับ” มาร์ชยิ้มมุมปาก ส่วนอีกคนนั้นกำลังยกมือขึ้นฟาดลงมาที่ไหล่ของเขา แต่กลับถูกมือหนาจับเอาไว้ได้ทัน
“โรคจิตเหรอ แอบมองใต้กระโปรงผู้หญิง” ลูกปลาทำเสียงดุ เหมือนกำลังดุบุตรชาย
“โรคจิตที่ไหน มองของแฟนผมผิดอะไร มองของคนอื่นว่าไปอย่างนะครับ” เขายังทำหน้าตาย “จะไปทำงานไม่ใช่เหรอครับ”
“แล้วจะตามมาทำไม” เธอถามกลับเมื่ออีกคนตั้งท่าจะเดินตามขึ้นมาบนห้อง “กลับไปนั่งดื่มกับเพื่อนๆ เถอะ ถ้าฉันเสร็จงานเร็วเดี๋ยวจะลงไป” เธอหันหน้ามาคุยกับเขาอีกครั้ง
“ผมอยากอยู่กับพี่ รีบไปเถอะ” เขาเดินขึ้นมาด้านบนก่อนที่เจ้าของห้องจะเดินนำ ลูกปลาเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นคนดื้อรั้นจึงทำได้เพียงเดินตรงมายังห้องทำงานของตนเอง
“ห้องเล็กไปหรือเปล่าครับ” เขามองสำรวจห้องทำงานของเธอแล้วออกความคิดเห็น หากเปรียบเทียบห้องทำงานของลูกปลากับห้องทำงานของเขานั้นช่างห่างกันลิบลับ
“ห้องทำงานนะไม่ใช่คฤหาสน์สามสิบไร่ จะทำอะไรใหญ่โตก็แค่นั่งทำงาน” เธอหันมาทำเสียงดุใสคนตรงหน้า ทำให้มาร์ชหัวเราะในลำคอ แล้วเดินตรงไปยังโต๊ะทำงานที่เธอนั่งอยู่
“ก็ใช่ พี่พูดถูกครับ ให้ผมช่วยไหมจะได้รีบเสร็จ” เขาเดินอ้อมมายังเก้าอี้ของเธอ “เอกสารมากขนาดนี้คงไม่เสร็จง่ายๆ หรอกครับ”
“ใช่ไงถึงได้บอกว่าให้ลงไปนั่งดื่มกับเพื่อน อยู่กับฉันมันน่าเบื่อนะ” เธอเอ่ย แต่ไม่ทันไรคนที่อยู่ด้านข้างกลับโน้มใบหน้าลงมาหอมแก้มของเธอ “นายทำอะไรเนี่ย!!”
“ก็แค่หอมแก้มแฟนตัวเอง ผมให้พี่หอมคืน” เขาเอียงแก้มให้เธอหอม แต่ลูกปลากลับหันมองไปทางอื่น หัวใจมันกำลังเต้นเร็ว มันผิดปกติที่ควรจะเป็น
“ถ้าจะอยู่ด้วยก็ควรนั่งเงียบๆ ฉันจะทำงานห้ามรบกวน” เธอเอ่ยแล้วก้มหน้าดูเอกสารในมือ แต่เชื่อไหมว่าตอนนี้จิตใจไม่ได้จดจ่ออยู่ที่งาน คนที่ยืนอยู่ด้านข้างก็ยังคงโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ รับรู้ได้ถึงลมหายใจของเขา