ตอนที่6

3306 Words
“หย๋าไม่ต้องเตรียมอะไรไปที่โน่นนะลูก แม่บี๋ย้ำนักย้ำหนาว่าเตรียมไว้ให้แล้ว” ท่านบอกเด็กในปกครองเพราะรู้ว่าลูกสาวของท่านรักหญิงสาวตรงหน้าเหมือนลูกคนหนึ่งยิ่งหลานสาวตัวดีของท่านก็สนิทติดกันเป็นตังเมคงจะเตรียมข้าวเตรียมของไว้ให้หมดแล้วถึงได้ย้ำกับท่าน “ค่ะแม่นาย หย๋าไปตั้งหลายวันคงคิดถึงแม่นายคิดถึงไร่มากแน่ๆค่ะ” หญิงสาวผู้ไม่เคยจากบ้านไปไกลขนาดนี้พูดเบาๆ “ก็คิดว่าไปทำงานสิลูก สิบวันนี่แป้บเดียวเอง” แม่นายพูดปลอบสาวสวยที่เห็นมาแต่อ้อนแต่ออกท่านไม่อยากให้มัสหยาหมกตัวอยู่แต่ในไร่อยากให้เจอใครสักคนที่ดีพอมองเห็นช้างเผือกเชือกนี้ว่าควรค่าจะนำไปประดับข้างกายแล้วมองตามหลังหลานสาวนอกไส้อย่างเอ็นดูแล้วจิบชาของท่านอย่างมีความสุข เมื่ออาบน้ำเสร็จมัสหยาก็ลงมากินอาหารเช้ากับแม่นายและคุยกันเรื่องข่าวเรื่องในไร่จิปาถะเหมือนทุกวันไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในไร่มัสหยาก็จะมาเล่าให้ท่านฟังเสมอ “สวัสดีค่ะแม่นาย” “สวัสดีครับแม่นาย” สองพี่น้องแห่งไร่ศรีภักดียกมือไหว้เจ้าของบ้านอย่างมีมารยาท “สวัสดีจ้ะพ่อพัน แม่ปรียา มากินข้าวเช้าด้วยกันลูก” “ขอบคุณครับแม่นาย ผมเรียบร้อยมาแล้วครับ” พันแสงบอกแม่นายอย่านอบน้อมแต่สายตามองสาวสวยตรงหน้าอย่างรักใคร่ไม่ปิดบัง “สวัสดีค่ะพี่พัน หวัดดีปรียา” มัสหยายกมือไหว้พี่ชายเพื่อนแล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่มโดยไม่ได้สนใจพันแสงที่มองเธอเลย วันนี้มัสหยาแต่งตัวน่ารักมากใส่กางเกงยีนส์สกินนี่สีเข้มเสื้อกล้ามตัวเล็กสีขาวทับด้วยเสื้อเชิ้ตสีฟ้าเข้มไม่ติดกระดุมแต่ผูกชายเสื้อตรงเอวคอดใส่รองเท้าผ้าใบคอนเวิร์สสีขาวตุ่นที่เจ้าของรักมากจนไม่ยอมซักถักเปียเดี่ยวดูทะมัดทะแมงสมกับเป็นสาวชาวไร่ยุคใหม่ “พี่พันจะไปด้วยหย๋าไม่ว่าอะไรนะ” สุปรียาถามเพื่อนอย่างเกรงใจเพราะเธอชวนมัสหยาไปกันสองคนแต่พี่ชายเธออยากไปด้วยอ้างนั่นอ้างนี่จนเธอต้องยอม “ดีสิเราจะได้มีคนขับรถให้ไงล่ะปรียา งั้นไปกันเลยนะเดี๋ยวจะสายหย๋าต้องซื้อของหลายอย่างเลย หย๋าไปก่อนนะคะแม่นาย” หญิงสาวตอบเพื่อนแล้วลุกขึ้นบอกแม่นายแล้วหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นมาสะพาย “ผมลานะครับแม่นาย” สองพี่น้องไหว้ลาแม่นาย “ขับรถดีๆนะพ่อพัน” อย่างน้อยท่านก็หายห่วงเมื่อพันแสงไปด้วยแต่คนของท่านจะรู้ไหมว่าหนุ่มไร่ศรีภักดีอยากเป็นมากกว่าพี่ชายหากตัดเรื่องเจ้าชู้ออกพันแสงก็เป็นคนดีและขยันคนหนึ่ง หนึ่งหนุ่มสองสาวขึ้นรถเสร็จพันแสงก็ขับออกไปจากไร่เข้าเมืองเชียงใหม่เพื่อพาสองสาวไปช้อปปิ้งและอาจจะทันดูหนังสักรอบก่อนกลับ “ใจคอหย๋าจะไม่บอกเราเรื่องจะไปอิตาลีเลยเหรอ” สุปรียาถามเพื่อนอย่างอนๆเธอรู้มาจากเขมรัฐเมื่อวานนี้ตอนที่เจอกันที่ร้านขายเครื่องมือทำการเกษตรในอำเภอ “ขอโทษนะปรียา หย๋ายุ่งๆอยู่ไม่ทันบอกน่ะ” หญิงสาวขอโทษเพื่อนเพราะเธอยุ่งกับเก็บลำใยล็อตสุดท้ายจึงทำให้ลืมบอกสุปรียา “จ้าแม่คนขยัน ปรียาอยากไปเที่ยวกับหย๋าจังเลยอ่ะ” “หย๋าไปดูงานที่ไร่ของเพื่อนแม่บี๋น่ะปรียาก็ไม่รู้ว่าจะมีเวลาไปเที่ยวหรือเปล่า” มัสหยาบอกเพื่อนเธอยังนึกไม่ออกเลยว่าจะเป็นยังไงเพราะเป็นครั้งแรกที่ไปต่างประเทศ “ไปนานหรือปล่าครับน้องหย๋า” พันแสงนั่งฟังอยู่นานถามน้องสาวคนสนิทที่นั่งอยู่ด้านหลังที่เขาแอบมองผ่านกระจกบ่อยๆ “สิบวันค่ะพี่พัน แม่บี๋เป็นคนจัดการทุกอย่างให้ค่ะ” สาวสวยตอบพี่ชายเพื่อนที่ทำหน้าที่ขับรถให้พวกเธอในวันนี้แล้วคุยกันเรื่องไร่เรื่องม้าจนถึงตัวเมืองเชียงใหม่ “พี่พันแวะไปที่ร้านนายไผ่ก่อนนะคะ” สุปรียาบอกพี่ชายเพราะเธอนัดเพื่อนไว้ว่าจะไปด้วยกัน นายไผ่หรือพงษ์พัฒน์ วัฒนากิตติ หนุ่มหล่อลูกชายเจ้าของรีสอร์ทชื่อดังที่อำเภอแม่ริมและเปิดร้านกาแฟอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าหรูเป็นเพื่อนสนิทของสองสาวมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยแล้วและเป็นเพื่อนรักกันจริงๆ “อ้าว พี่คิดว่าเราจะไปที่ห้างเลย” ชายหนุ่มไม่รู้ว่าน้องสาวนัดเพื่อนไว้เขาคิดว่าจะไปที่ห้างเลยจะได้ชวนมัสหยาดูหนังก่อนแล้วค่อยกลับมาซื้อของแต่คงผิดแผนแล้วล่ะ “ไปค่ะ,แต่แวะไปรับนายไผ่ก่อนค่ะ” สุปรียาสาวตอบพี่ชายก็เธอบอกแล้วว่าอย่ามาก็ไม่เชื่อแล้วเป็นไงล่ะนายไผ่มันยิ่งหวงเพื่อนอยู่ด้วยก็พี่พันของเธอเจ้าชู้ใช่ย่อยซะเมื่อไหร่มีสาวๆมาหาถึงไร่ไม่ซ้ำหน้ากันจึงทำให้นายไผ่คอยเป็นกันพันแสงออกจากมัสหยามาตลอด “พี่พันจะไปธุระก่อนก็ได้นะคะ แล้วตอนบ่ายก็มารับพวกเราที่ร้านนายไผ่ค่ะ” หญิงสาวไม่อยากให้เพื่อนรักกับพันแสงมีปัญหาจึงบอกชายหนุ่มให้เขาไปทำธุระของเขาก่อน “เอาอย่างนั้นก็ได้ครับน้องหย๋า งั้นพี่ไปส่งที่ร้านเพื่อนของเราแล้วบ่ายๆจะมารับนะปรียา” พันแสงไม่ขัดเพราะเขาก็ไม่อยากเจอหน้าเพื่อนน้องสาว เมื่อถึงร้านกาแฟของพงษ์พัฒน์สองสาวก็ลงจากรถแล้วขอบคุณพันแสงที่มาส่งแล้วเดินเข้าไปหาเพื่อนในร้าน “หวัดดียัยเด็กดอย วันนี้ว่าเหรอถึงพากันเข้าเมืองน่ะ” นายไผ่ทักทายเพื่อนรักทั้งสองที่เดินเข้ามาหาและหยอกเหย้าเล็กน้อย “หวัดดีย่ะ พ่อคนเมืองทำไมร้านแกมีแต่สาวๆอ่ะไผ่ ดูสิปรียาอุส่าห์จะมานั่งส่องหนุ่มๆสักหน่อยน่ะ เซ็งเลย” สุปรียามองไปรอบๆร้านกาแฟ เพื่อนของเธอเนื้อหอมจริงๆทั้งร้านมีแต่สาวๆหาหนุ่มๆได้ยากจริง “ก็คนมันหล่อน่ะสิแก นี่ๆไอ้หย๋าแกมาดูนี่สิหลานแม่นายของแกมีข่าวลงนิตยสารดังด้วยนะแก” พงษ์พัฒน์ยื่นนิตยสารหัวนอกให้มัสหยาดูรูปหนุ่มนักธุรกิจชื่อดังที่ประมูลเครื่องเพชรของแบนรด์ดังได้ในราคาสูงลิ่วยืนเคียงคู่นางแบบที่ใส่เครื่องเพชรชุดที่ชายหนุ่มประมูลได้ “ก็เรื่องของเขาสิ เงินแค่นี้ไม่กระเทือนเขาหรอกแก” มัสหยาดูแล้วเมินหน้าหนีไม่สนใจนิตยสารเล่มนั้นอีก “คนมีเงินทำอะไรก็ไม่น่าเกลียดหรอก ดูสิหย๋าเงินประมูลเขาเอาไปทำบุญด้วยนะมิน่าล่ะถึงได้หล่อเอารวยเอานะ” สุปรียาปลื้มลูเซียโนอยู่แล้วแม้ไม่เคยเจอจังๆแต่ก็แอบเห็นตอนเขามาเที่ยวไร่แม่นายแต่ก็นานมาแล้ว “พอแล้วปรียาแกไม่คอแห้งหรือไง หย๋าขอน้ำมะม่วงปั่นนะไผ่เร็วๆด้วย” เมื่อเห็นมะม่วงวางเรียงรายเต็มตู้จึงนึกอยากจะกิน “ฉันขอกีวี่ปั่นนะไผ่” ปรียาบอกเพื่อนแล้วก้มหน้าอ่านรายละเอียดข่าวของลูเซียโนแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนเจ้าของร้านหมั่นไส้เพื่อนรักที่ปลื้มหนุ่มหล่อแล้วนั่งคุยกันสักพักทั้งสามก็พากันไปกินข้าวกันที่ห้างหรูที่เดินไปไม่ถึงสองร้อยเมตรจากร้านกาแฟของพงษ์พัฒน์ “พวกแกจะกินอะไรดีล่ะ” ชายหนุ่มคนเดียวถามเพื่อนสาวทั้งสองเพราะเขากินอะไรก็ได้ “หย๋าอยากกินเอ็มเคได้ป่ะปรียา” เธอไม่ได้กินมานานแล้วปกติที่ไร่พี่แตงก็ทำสุกี้ บาร์บีคิว หรือหมูย่างเกาหลี ให้กินอยู่บ่อยๆ วันนี้เธออยากกินเป็ดเอ็มเคมากกว่า “แกบอกว่าอยากกินเป็ดเอ็มเคก็จบแล้วหย๋า ไปสิฉันก็อยากกินเหมือนกัน” พงษ์พัฒน์ผู้รู้ใจเพื่อนทั้งสองเป็นอย่างดีเดินนำไปทันที หนึ่งหนุ่มหล่อกับสองสาวสวยเดินไปด้วยกันจึงเป็นจุดสนใจ “นี่พวกแก ดูนั่นสิใครเอ่ย” พงษ์พัฒน์ชี้ไปในร้านกระเป๋าแบรนด์เนมชื่อดังให้เพื่อนทั้งสองดู “อ้าว พี่แสงนี่ มากับใครอ่ะไผ่” สุปรียาชะโงกหน้าเข้าไปดูก็เห็นจี้ดหรือจิดาภาเพื่อนสมัยเรียนของเธอที่ใช้เต้าไต่จนได้เป็นดาราตัวประกอบเล็กแต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีงานแสดงจึงมาเฉิดฉายที่บ้านเกิดเพราะอย่างน้อยก็อยู่ในสังคมไฮโซเชียงใหม่ก็พ่อแม่ของเธอเป็นเจ้าของโรงแรมชื่อดังในเชียงใหม่เหมือนกัน “ยัยจี้ดคู่กัดแกกับไอ้หย๋าไงล่ะ” พงษ์พัฒน์ตอบเพื่อนสาว “เฮ้ย มาเจอกันได้ยังไงวะ ไม่ได้การแล้วฉันจะไปกันพี่แสงก่อนพวกแกไปรอที่เอ็มเคเลยเดี๋ยวฉันตามไป” สุปรียาบอกเพื่อนทั้งสองเพื่อจะไปกันจิดาภาจากพี่ชาย “ไม่เอาน่าปรียา แกปล่อยพี่แสงไปเถอะน่ารู้อยู่ว่าพี่ชายแกก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันนะ” เพราะอย่างนี้ไงทำให้พงษ์พัฒน์ไม่ชอบพันแสงที่มาเกาะแกะกับมัสหยา ต่อหน้าก็ดีแต่ลับหลังควงสาวไม่ซ้ำหน้าเหมือนกัน “แต่ปรียาไม่ชอบยัยจี้ดอ่ะ” เธอบ่นไปจนถึงร้านเอ็มเคเมื่อถูกเพื่อนหิ้วปีกคนละข้างไม่ให้ไปยุ่งกับพี่ชาย “นั่งลงแล้วสั่งอาหารมากินจบนะปรียา” พงษ์พัฒน์บอกเพื่อนสาวที่ยังฮึดฮัดไม่พอใจพี่ชายที่ไปยุ่งกับคู่อริของเธอสมัยเรียน “โอเค งั้นเอานี่ นี่และนี่” เธอก็จิ้มลงตามที่ตัวเองชอบ “หย๋าเอาเป็ดย่างจานใหญ่ หมี่หยก เอาชุดใหญ่เลยมั้ยพวกแก” จากนั้นทั้งสามก็ลืมเรื่องพันแสงกับจิดาภาคู่อริเก่าของเธอกับมัสหยาเมื่ออาหารวางอยู่เต็มโต้ะต่างก็เลือกของที่ตัวเองชอบกินลงหม้อแล้วแย่งกันกินอย่างสนุกสนาน “โอ้ย ท้องหย๋าจะแตกแล้วอ่ะ อิ่มมากจริงๆ” สาวสวยน่ารักที่ตกเป็นเป้าสายตาของหนุ่มๆที่มากินเอ็มเคกับเพื่อนกับแฟนเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ลูบท้องตัวเองอย่างน่ารัก “นี่ไอ้หย๋าแกรักษามารยาทหน่อยได้มั้ย เป็นผู้หญิงมันไม่งามนะ” พงษ์พัฒน์ได้ทีอบรมเพื่อนสาวที่ไม่ค่อยเป็นกุลสตรีกับเขาเลยออกจะห้าวเกินไปแล้ว “ค่า คุณพ่อไผ่นู๋หย๋าจะจำไว้ค่า” มัสหยาตอบเพื่อหนุ่มที่ชี้หน้าเธอที่ล้อเลียนเขาที่ชอบทำตัวเหมือนพี่ชายที่ดูแลน้องๆมากกว่าเพื่อนแล้วไม่มีท่าทีชอบเธอหรือสุปรียาตอนแรกเธอยังนึกว่าเพื่อนเป็นสาวแตกแต่โดนนายไผ่งอนไปหลายวันเลยเหมือนกัน “แกก็เป็นซะอย่างนี้ ถ้าไปอยู่กับแม่เลี้ยงวันนาสักเดือนหนึ่งรับรองว่าแกเป็นกุลสตรีเต็มตัวแน่ไอ้หย๋า” เพื่อนหนุ่มพูดถึงแม่ตัวเองที่เข้มงวดขนาดเขาเป็นผู้ชายยังโดนเลยดีที่มีน้องสาวอีกสองคนและมาอยู่ที่ร้านจึงรอดตัว “แค่แม่นายกับยาย หย๋ายังโดนทุกวันเลยไม่ต้องถึงแม่วันหรอกไผ่” เธอพูดถึงแม่นายกับยายด้วยรอยยิ้มมัสหยาไม่เคยคิดน้อยใจโชคชะตาของเธอที่เกินมาอาภัพทั้งพ่อทั้งแม่ เธอมีตากับยายเป็นพ่อแม่และแม่นายแม่บี๋ลุงเรนทุกคนที่รักและหวังดีกับเธอ แต่ก็มีบ้างบางเวลาอยากเจอแม่เจอพ่อสักครั้งเพื่อจะถามว่ารักเธอบ้างไหมปล่อยให้เธอเกิดมาทำไมในเมื่อไม่สนใจเลี้ยงดูปกป้องดูแล “อิ่มกันแล้วใช่ไหมเราจะได้ไปช้อปปิ้งสักที วันนี้คงดูหนังไม่ทันแล้วล่ะ” สุปรียายกนาฬิกาขึ้นดูแล้วบอกเพื่อนทั้งสองก็มัวแต่เม้าท์มอยกัน “ไม่เป็นไรนี่นาเอาไว้คราวหน้าเราก็มาดูกันก็ได้ เออ ลืมบอกไปอาทิตย์หน้าหย๋าจะไปอิตาลีนะไผ่” หญิงสาวบอกเพื่อนรัก “จริงเหรอหย๋า แล้วแกไปกับใครไปทำไมไปนานมั้ย” พงพัษ์พัฒน์ถามหลายคำถามด้วยความอยากรู้ “ไปกับเขมน่ะ แม่นายให้ไปศึกษางานที่ไร่ของเพื่อนแม่บี๋ไปสิบวันเอง” หญิงสาวตอบเพื่อน “ค่อยยังชั่วที่แกมีลูกน้องไปด้วย อย่าลืมของฝากก็แล้วกัน” พงษ์พัฒน์ทวงของฝากตั้งแต่เพื่อนยังไม่ได้เตรียมตัวไปอิตาลี “โห,เกินไปแล้วนายไผ่ หย๋ายังไม่ได้ไปเลยถามหาของฝากเลยนะยะ” “ไปซื้อของกันเถอะ มัวแต่คุยกันเดี๋ยวเราจะกลับถึงไร่ค่ำนะหย๋า” สุปรียาบอกเพื่อนทั้งสองที่เม้าท์กันสนุก จากนั้นก็ไปเดินซื้อของใช้และของแห้งไปให้พี่แตงที่เขียนมายาวเป็นหางว่าว “โอ้โห้ นี่พี่แตงแกซื้อไปขายเหรอหย๋าทำไมมันเยอะอย่างนี้ล่ะ” สุปรียาถามเพื่อนที่เห็นโพยของแม่ครัวที่สั่งซื้อของ “ก็มีหลายอย่างเอาไปให้แม่บี๋ที่โน่นด้วยนะ” สุปรียาก็เข้าใจเธอคิดว่าพี่แตงไม่น่าตุนเยอะขนาดนี้เพราะในอำเภอก็มีขายนี่ กว่าจะได้ของครบตามที่ต้องการก็บ่ายสามโมงแล้วจากนั้นทั้งหมดก็เรียกรถสามล้อตุ๊กๆไปส่งที่ร้านกาแฟของพงษ์พัฒน์ถึงไม่ไกลแต่ของเยอะจึงต้องเรียกรถไปส่งและรอพันแสงมารับ ลูเซียโนส่งลูกน้องมาเมืองไทยได้สี่ห้าวันแล้วเขาก็ตามมาเพื่อร่วมคุยกับเพื่อนและทีมงานก่อนจะเอาเข้าที่ประชุมและตกลงเซ็นสัญญาซื้อขายตามราคาที่เหมาะสมและไม่เอาเปรียบเจ้าของเดิมที่กำลังเดือดร้อนด้วย ไม่เหมือนบริษัทอื่นๆที่กดราคาเอาเปรียบเจ้าของเดิมที่กำลังเดือดร้อนซ้ำเติมจนหมดตัวจริงๆเลยก็มีเพราะเขาหาทางออกไม่ได้ “เฮ้อ,เรียบร้อยสักที” เฮนดริกพูดขณะที่เดินออกมาพร้อมกับลูเซียโนและนาตาลีที่ต้องเข้าประชุมด้วยกันทุกครั้งตามข้อตกลงแต่แรกที่เปิดบริษัทด้วยกัน “นาตไม่เห็นนายทำอะไรเลยนะเฮนดริก นอกจากส่งไลน์หาเมียน่ะ” เพื่อนสาวคนเดียวในกลุ่มแซวเฮนดริกที่มากรุงเทพแค่วันเดียวก็ทั้งโทรทั้งไลน์หาเมียตลอดเวลา “ตอนนี้เธอก็พูดได้นะนาต แต่เธอแต่งงานเมื่อไหร่ละก็ฉันว่าก็ไม่ต่างจากลิลลี่หรอกเชื่อเหอะ” เฮนดริกว่าเพื่อนสาวถึงแม้นาตาลีจะห้าวๆแต่ผู้หญิงก็คือผู้หญิงเป็นเพศที่เข้าใจยากที่สุด “ลูซช่วยนาตหน่อยสิเราพวกเดียวกันนะ” นาตาลีบอกลูเซียโนที่ยิ้มขำเพื่อนทั้งสองที่ชอบเหย้าแหย่กันพอลงมาถึงล็อบบี้ก็มีกลุ่มนักข่าวยืนอยู่กลุ่มใหญ่เพื่อรอสัมภาษณ์นักธุรกิจหนุ่มสาวทั้งสามคน “ฉันยกหน้าที่ให้นาตนะจัดการได้เลย” ลูเซียโนกับเฮนดริกยกหน้าที่สัมภาษณ์ให้เพื่อนสาวเพราะเป็นงานที่นาตาลีถนัด “สวัสดีค่ะ ขอสัมภาษณ์คุณลูเซียโน คุณเฮนดริก คุณนาตาลีได้มั้ยคะ” นักข่าวสาวสายเศรษฐกิจขอสัมภาษณ์นักธุรกิจอายุน้อยที่ประสบความสำเร็จทั้งสามคน “เชิญค่ะ ให้สิบนาทีนะคะพวกเรามีงานต่อต้องขอโทษไว้ล่วงหน้านะคะ” เมื่อได้รับอนุญาตให้สัมภาษณ์นักข่าวสาวก็ยิงคำถามแรกทันทีเพื่อจะได้ไม่เสียเวลา นักข่าว.. “วันนี้การเจรจาเป็นยังไงบ้างคะ? นาตาลี... “ทุกอย่างราบรื่นดีค่ะ ทางเราไม่ได้กดราคาหรือหวังผลกำไรมากกว่าช่วยเหลือให้เจ้าของเดิมได้ในสิ่งที่เหมาะสมและสมควรจะได้ค่ะ” นักข่าว.. “แต่เห็นทุกงานพวกคุณก็ฟันกำไรไปไม่น้อยนะครับ แล้วจะบอกว่าไม่ได้กดราคามันจะเป็นไปได้ยังไงครับ? นาตาลี.. “เราต้องปรับปรุงโครงสร้างทั้งหมดให้อยู่ในระบบปกติและคนที่มารับช่วงบริหารต่อเขาต้องรู้ว่าซื้อมาในราคานี้แล้วจะทำผลกำไรให้ได้มากกว่าที่ซื้อมา แล้วบริษัทของเรามีบุคลากรมืออาชีพดูแลและให้คำปรึกษาถ้าเจ้าของจะดำเนินกิจการต่อทางเราก็พร้อมจะร่วมทุนและนำทีมงานมาบริหารช่วยเหลือแต่ถ้าจะให้ทางเราเทคโอเวอร์ ก็จะอยู่ในราคาที่เหมาะสมไม่เอารัดเอาเปรียบแต่นอกเหนือจากเราปรับปรุงแล้วนั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราจะต้องทำกำไรให้บริษัทเพื่อเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้ทีมบริหารเพื่อต่อยอดต่อไปได้อีกค่ะ” นักข่าว.. “แล้วโรงแรมนี้ปรับปรุงโครงสร้างเสร็จแล้วจะมีการขายทอดตลาดมั้ยคะ? นาตาลี.. “ตอนนี้เรายังไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ค่ะเพราะเพิ่งจะตกลงกันได้ต้องรอดูค่ะว่าในอนาคตพวกเราจะบริหารกันเองหรือจะหาเจ้าของคนใหม่มาบริหารค่ะ” เธอตอบคำถามของนักข่าวที่ทั้งถามทั้งแขวะและบางคนก็เป็นคำถามไม่น่าฟังแต่เธอก็ตอบทุกคำถามจนหมดเวลา นักข่าว.. “ขอคำถามสุดท้ายนะครับ คุณนาตาลีกับคุณลูเซียโนคบกันมานานอย่างนี้แล้วเมื่อไหร่จะมีข่าวดีละครับ” นาตาลี.. “ยังไม่รู้ค่ะ เราต่างงานยุ่งทั้งคู่ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ค่ะ จริงมั้ยคะลูซ” “ใช่ครับ” ลูเซียโนตอบสั้นๆ ทุกคนเข้าใจว่าเขากับนาตาลีคบกันมีแต่คนสนิทเท่านั้นที่รู้ว่าพวกเขาเป็นเพื่อนกันจริงๆ แต่เวลานักข่าวถามทั้งคู่ก็จะแบ่งรับแบ่งสู้ไม่บอกว่าคบกันและไม่ปฏิเสธให้ทุกคนคิดกันเอง “นาตกับเพื่อนต้องขอตัวก่อนนะคะ ขอบคุณค่ะ” นาตาลียกมือไหว้นักข่าวตามมารยาทแล้วชวนเพื่อนทั้งสองฝ่าวงล้อมนักข่าวออกไปที่ลานจอดรถเพื่อไปทานอาหารกลางวันกัน “ไปร้านพี่หม่อมนะวาลิค” ชายหนุ่มบอกลูกน้องเพราะเขาอยากกินอาหารไทยแล้วเพื่อนสาวอย่างนาตาลีรู้ใจเขาดีและเฮรดริกก็ชอบกินอาหารไทยเหมือนกัน “ครับคุณลูซ” วาลิครับคำสั่งเขาก็ออกรถตามหลังเฮนดริกกับนาตาลีไปที่ร้านอาหารไทยซึ่งแฟนหนุ่มใหญ่ของนาตาลีเป็นเจ้าของ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD