เช้าวันจันทร์ ณ ถนนหน้าอาคาร สุทธาทร กรุ๊ป
ลลิน ในชุดสูทสีครีมที่ดูแพงและเรียบโก้ ยืนรอรถแท็กซี่อยู่หน้าป้ายรถเมล์ใกล้กับทางเข้าบริษัท แม้จะรู้สึกว่าการยืนรอรถไม่ใช่ภาพลักษณ์ที่เธอต้องการในวันแรก แต่เธอก็ต้องการให้ภาคิณรู้สึกเอ็นดูเธอเหมือนรุ่นน้องปีหนึ่งที่เขาเคยเอ็นดู
จู่ๆ รถสปอร์ตสีดำคันหรูที่ลลินจำได้ดี ก็ชะลอความเร็วลงและจอดเทียบข้างทาง
กระจกไฟฟ้าเลื่อนลง เผยให้เห็นใบหน้าคมคายของ ภาคิน สุทธาทร
"ลลิน! มาทำอะไรตรงนี้ครับ" ภาคินยิ้มกว้าง
"พี่ภาคินคะ!" ลลินแสร้งทำตาโตด้วยความประหลาดใจ
"ลินกำลังรอแท็กซี่อยู่ค่ะ แต่คงเรียกยากหน่อยตอนช่วงเร่งด่วน"
"จะรอทำไมล่ะ! ขึ้นมาสิ!" ภาคินเปิดประตูรถฝั่งผู้โดยสารให้
"นี่วันแรกของการทำงานนะ จะให้ผู้ช่วยคนเก่งของพี่มายืนตากแดดได้ยังไง ขึ้นมาเร็ว!"
ลลินยิ้มหวาน มองเข้าไปในรถที่เบาะหนังสะอาดสะอ้าน แผนไม่ได้วางไว้... แต่โอกาสมาถึงแล้ว "ขอบคุณนะคะพี่ภาคิน" เธอก้าวขึ้นนั่งในรถสปอร์ตคันหรูอย่างสง่างาม ในฐานะผู้โดยสารคนพิเศษ
เมื่อรถเคลื่อนตัวออกสู่ถนน ภาคิณเริ่มบทสนทนาด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
"แล้ว ลลิน มาทำงานยังไงครับเนี่ย? พี่เห็นยืนรอรถอยู่ ไม่ได้ขับรถมาเองเหรอ"
"ลินยังไม่มีรถส่วนตัวเลยค่ะพี่ภาคิณ ตั้งแต่ย้ายมาก็อาศัยแท็กซี่หรือรถไฟฟ้าไปก่อน" ลลินตอบด้วยน้ำเสียงเจือความลำบากใจเล็กน้อย
"อย่างนั้นไม่ได้หรอก! กว่าจะเรียกแท็กซี่ได้คงสายพอดี แถมตอนเย็นก็คงจะเหนื่อยแย่
งั้นเอาอย่างนี้นะ... ช่วงนี้ให้พี่รับส่งลลินมาทำงานก็แล้วกัน" ภาคิณเสนออย่างใจดี
ลลิน รีบทำสีหน้าเกรงใจทันที "ว้าย เกรงใจพี่ภาคิณแย่เลยค่ะ! ลินไม่อยากรบกวนเวลาส่วนตัวของพี่เลยนะคะ"
"ไม่รบกวนเลยครับ ออกจากบ้านพี่ก็ขับรถผ่านทางนี้อยู่แล้ว ถือว่าเป็นสวัสดิการของเลขาใหม่ก็ได้ครับ พี่ก็อยากให้เราไปทำงานอย่างสบายๆ"
ลลิน ยิ้มหวานในขณะที่ในใจเต้นรัว นี่คือโอกาสทองที่จะได้ใช้เวลาร่วมกันทุกเช้าเย็นโดยไม่ต้องออกแรง "ถ้าอย่างนั้น... ลินก็ต้องขอขอบคุณพี่ภาคิณล่วงหน้าเลยนะคะ"
ขณะที่เธอกำลังพูดถึงความเกรงใจ ลลินก็ใช้จังหวะที่ภาคิณหันไปมองกระจกข้างเพื่อดูทาง มือของเธอแอบถอดต่างหูทองคำขาวแบบห่วงเม็ดเล็กๆ ที่สวมอยู่ข้างเดียวออกมาอย่างรวดเร็ว โดยใช้มือบังสลับกับจังหวะที่มืออีกข้างทำทีเป็นยกขึ้นมาจัดปอยผมที่ใบหู
เธอทำทีเป็น ขยับตัวนั่งให้สบายขึ้น แล้วปล่อยให้ ต่างหู หลุดจากปลายนิ้วลงไป ในช่องเล็กๆกับร่องระหว่างรางเบาะกับพรมพื้นรถ ซึ่งเป็นจุดอับที่มองไม่เห็นจากเบาะคนขับ
ร่องรอยของผู้หญิงคนอื่นได้ถูกทิ้งไว้ในพื้นที่ส่วนตัวของเขาแล้ว ทั้งยังได้สิทธิ์ในการโดยสารรถคันนี้ทุกวันอย่างเป็นทางการและ การมาถึงบริษัทพร้อมกับรถของว่าที่รองประธานฯ เป็นการประกาศสถานะที่ชัดเจนที่สุดโดยที่เธอไม่ต้องพูดอะไรเลย
ลลินเอนหลังพิงเบาะหนังอย่างผ่อนคลาย แล้วแอบ เผยรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปาก ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจและชัยชนะ ดวงตาของเธอทอประกายวาววับเหมือนต่างหูที่เพิ่งถูกทิ้งไป เพราะทุกอย่างกำลังเป็นไปตามแผนที่เธอคิดไว้ล่วงหน้า
...
ภายในสำนักงานใหญ่ สุทธาทร กรุ๊ป - ชั้น 50
แทบจะทันทีที่ประตูลิฟต์ผู้บริหารปิดลง เสียงกระซิบกระซาบก็ดังเซ็งแซ่ไปทั่วแผนกเลขาฯ และทีมงาน
"นั่นใครน่ะ? คุณภาคินไปรับมาทำงานด้วยตัวเองเลยเหรอ?"
"สวยมากเลย ได้ข่าวว่าเกียรตินิยมจากญี่ปุ่นนะ"
"ต้องเป็นคนพิเศษแน่ๆ ไม่เคยมีพนักงานคนไหนได้รับเกียรติแบบนี้มาก่อนเลย"
...
ห้องทำงานรองประธานบริหาร
ภาคินดูมีความสุขกับการทำงานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาแทบจะกระโจนเข้าสู่หน้าที่ 'เทรนเนอร์เลขาคนใหม่' ด้วยความเต็มใจ
"ระบบนี้มันซับซ้อนหน่อยนะลิน" ภาคินพูดพลางเอียงตัวชี้ไปที่หน้าจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่
"แต่ถ้าเป็นลินล่ะก็ ชั่วโมงเดียวก็เก่งกว่าเลขาเก่าพี่แล้ว"
"จริงเหรอคะ" ลลินขยับเข้าไปใกล้จอคอมพิวเตอร์มากขึ้นเช่นกัน
"ลินจะพยายามเรียนรู้ให้ไวที่สุดค่ะ ไม่ทำให้พี่ภาคินเสียชื่อที่ชวนมาทำงานแน่นอน"
Flashback : ภาคินเคยเป็นคนติวหนังสือให้ลลินอย่างใกล้ชิดสมัยเรียน เวลาลลินทำความเข้าใจเรื่องยากๆ ได้เร็ว ภาคินจะเอามือยีผมเธออย่างเอ็นดูเสมอ ลลินรู้ดีว่าภาคินชื่นชมความเฉลียวฉลาดของเธอ และเธอจะใช้จุดนี้มามัดใจเขาอีกครั้ง
ภาคินโน้มตัวลงมาอธิบายการทำงานของโปรแกรมซอฟต์แวร์วิเคราะห์หุ้นตัวใหม่ของบริษัท ศีรษะของเขาเกือบจะชิดกับศีรษะของลลิน มือของเขายื่นไปจับเมาส์ แล้วลลินก็ยื่นมือไปวางซ้อนทับบนมือของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชี้จุดสำคัญบนหน้าจอ
มันเป็นภาพที่ดูใกล้ชิด จนคล้ายกับภาพในห้องส่วนตัวของคนรัก
[แอ๊ดดด]
ประตูห้องทำงานถูกเปิดออกช้าๆ โดยไม่มีการเคาะ
"พี่คินคะ พอดีพิมพ์ผ่านมาแถวนี้ เลยแวะเอาขนม..."
คำพูดของพิมพ์ลดาขาดหายไปในลำคอ ดวงตาของเธอจับจ้องไปยังภาพบาดตาตรงหน้า ภาพที่คู่หมั้นของเธอกำลังโน้มตัวลงไปใกล้ชิดสนิทสนมกับเลขาหน้าใหม่ ริมฝีปากของลลินอยู่ใกล้กับหูของภาคินจนเกินกว่าจะเป็นแค่การสอนงาน
พิมพ์ลดากำของในมือแน่นจนยับยู่ยี่ ความโกรธแล่นขึ้นสู่ใบหน้า แต่เธอได้ฝึกควบคุมอารมณ์มาอย่างดี ไม่ได้ ฉันจะโวยวายไม่ได้ ถ้าฉันโวยวาย ฉันก็จะดูเหมือนผู้หญิงขี้หึงที่ไร้เหตุผลเหมือนเมื่อวาน
พิมพ์ลดาจึงเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มแย้มทันที
"โอ๊ะ! ขอโทษค่ะ! พิมพ์คงเข้ามาขัดจังหวะการทำงานของพี่คินกับเลขาฯ คนเก่งนะคะ" เธอแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นความใกล้ชิดเมื่อครู่
"พิมพ์! พิมพ์มาได้ยังไงเนี่ย" ภาคินรีบผละออกจากลลินทันทีด้วยความตกใจและอึดอัด
"พอดีพี่กำลังสอนลินทำงานอยู่ค่ะ"
"เหรอจ๊ะ ดีจังเลยนะ" พิมพ์ลดายิ้มหวานเยือกเย็น
"พี่คินเก่งด้านนี้อยู่แล้วค่ะ ลินเป็นคนฉลาด พี่คินรู้จักลินมานานก็คงรู้ แค่ชั่วโมงเดียวก็คงคล่องแล้วล่ะเนอะ" การเน้นคำว่า
'รู้จักลินมานาน' ทำให้เกิดบรรยากาศที่ตึงเครียดทันที พิมพ์ลดากำลังประกาศความเป็นเจ้าของอย่างแนบเนียน
ภาคินพยายามกลบเกลื่อน "ใช่ๆ ลลินเรียนรู้เร็วมาก ไม่ต้องห่วงหรอกพิมพ์ เขาสบายมากอยู่แล้ว"
"ดีค่ะ... งั้นพิมพ์ไม่กวนแล้วนะคะ" พิมพ์ลดายิ้มให้ลลินอีกครั้ง รอยยิ้มที่ดูดีกว่าเมื่อวานหลายเท่า แต่ในดวงตาเต็มไปด้วยเพลิงแค้น
"ไว้เจอกันนะคะน้องลิน" พิมพ์ลดาเดินออกจากห้องไปอย่างสง่างามราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ทันทีที่ประตูห้องทำงานปิดลง
มือของพิมพ์ลดาก็กำแน่นจนเล็บจิกเนื้อ นังงูพิษ! มันจงใจอ่อยพี่คินต่อหน้าฉัน! ข่าวลือเป็นจริง! มันไม่ใช่แค่เลขา! มันเป็น 'พนักงานพิเศษ' ที่พี่คินไปรับมาด้วยตัวเอง!
พิมพ์ลดายืนพิงกำแพงด้านนอกห้องด้วยสีหน้าบูดบึ้ง ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งร้าย เธออยากได้ตำแหน่งคู่หมั้นของฉันนักใช่ไหม! ดี! ฉันจะจับตาดูแกทุกฝีก้าว... และหาเรื่องไล่แกออก... ภายในหนึ่งอาทิตย์!