ไฟในหอพักดับลงทันทีที่น้ำปิดประตูห้อง
เสียง “ติ๊ก…ติ๊ก…” ของนาฬิกาในความมืดดังชัดเหมือนอยู่ในอกตัวเอง
น้ำกำลังจะควานหาโทรศัพท์ แต่ปลายประสาทกลับรับรู้อะไรบางอย่างได้ก่อน—
ความเย็นที่ไหลผ่านต้นคอเหมือนมีคนยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง
และแล้ว…เสียงกระซิบเบา ๆ ก็ดังขึ้นข้างหู
“น้ำ… เธอยังจำฉันไม่ได้เลยใช่ไหม”
เสียงนั้นนุ่ม อบอุ่น แต่สั่นไหวราวกับเก็บความคิดถึงไว้หลายร้อยปี
น้ำตัวแข็งทื่อ
“ใคร… ใครอยู่ตรงนั้น”
ความมืดค่อย ๆ รวมตัวเป็นเงาของผู้หญิงคนหนึ่ง
ชุดสีขาวจางเหมือนหมอก
ผมยาวสยาย และดวงตาที่มองมาด้วยความโหยหาแทบทำให้น้ำหายใจติดขัด
เธอไม่ใช่เงาที่มาหลอก
แต่เป็นเงาที่ “รอ” มานานมากแล้ว
ผู้หญิงคนนั้นยิ้มบาง ๆ ก่อนเอ่ยชื่อของตัวเอง
“ฉัน… เจ้าคุณ”
น้ำไม่รู้ทำไม หัวใจถึงเต้นแรงเหมือนเคยได้ยินชื่อนี้ที่ไหนมาก่อน
ทั้งที่เธอแน่ใจว่าชาตินี้ไม่เคยรู้จักใครชื่อแบบนี้เลย
เจ้าคุณมองหน้าเธอด้วยดวงตาที่เหมือนรู้จักน้ำมานับภพชาติ
ก่อนจะพูดด้วยเสียงที่แผ่วลงเหมือนจะร้องไห้
“ครั้งหนึ่ง…ทุกชาติ ฉันรอให้เธอจำฉันให้ได้”
“แต่ตอนนี้… น้ำยังลืมทับทิมอยู่ดี”
ชื่อ “ทับทิม” ทำให้น้ำสะท้านวาบ
เหมือนก้อนอะไรบางอย่างในใจถูกเขย่า
เหมือนความทรงจำที่เคยหายไปกำลังเคลื่อนไหวขึ้นมาจากส่วนลึกที่สุดของหัวใจ
แต่เธอจำไม่ได้
แม้เพียงเศษเสี้ยวเดียว
ในขณะที่เจ้าคุณ—หรือทับทิมในอดีตชาติ—
จ้องเธอเหมือนจ้องคนรักที่กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งหนึ่ง