วันทำงานวันสุดท้ายของพีชมน วันนี้เธอไม่ได้เข้าไปที่บริษัทเพราะว่าจะต้องออกมาดูแลความเรียบร้อยของห้องจัดเลี้ยงด้วยตัวเอง
หญิงสาวยืนดูทีมงานของออแกไนซ์เซอร์ ที่กำลังตกแต่งสถานที่จัดงานให้เป็นไปตามธีมที่ตกลงกันเอาไว้ จากนั้นก็ดูแลเครื่องดื่มที่นำมาจัดส่ง พร้อมกับอาหารจัดเลี้ยงที่ทยอยนำมาวางตามโต๊ะง โดยมีจารวีช่วยเหลือ
สักพักภาณุก็เดินเข้ามา เพื่อช่วยเตรียมงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของกวิน ที่จะเริ่มต้นในช่วงบ่ายสาม
“แขกส่วนใหญ่น่าจะมาช่วงเย็นๆ ช่วงบ่ายสามก็น่าจะน่าจะเป็นพวกนักธุรกิจที่เข้ามาเพื่อที่จะร่วมอวยพร และมอบของขวัญตามพิธี” เธอพูดกับภาณุขณะที่กำลังตรวจสอบความเรียบร้อย
“ครับ คุณกวินก็น่าจะมาถึงงานประมาณบ่ายสองถึงบ่ายสามไม่เกินนี้ครับ” ภาณุบอกแล้วมองการแต่งกายของเธอที่วันนี้แต่งกายในชุดทำงานปกติ
“แล้วคุณพีชไม่ไปเปลี่ยนชุดเหรอครับ นี่ก็จะบ่ายแล้ว”
“ไม่หรอกค่ะ” เธอตอบเพียงแค่นั้น อย่างไรก็ไม่ได้อยู่ร่วมงานอยู่แล้ว เธอไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชุดราตรีเรียบหรูอะไรทั้งนั้น
“จริงสิคะ คุณภาณุจะกลับเข้าไปที่บริษัทอีกหรือเปล่าคะ”
“ไม่แล้วครับ ผมมาช่วยคุณพีชดูแลความเรียบร้อยที่นี่แล้วก็จะอยู่ร่วมงานเลย”
“งั้นพีชขอฝากคุณภาณุกับคุณจารวีช่วยดูแลต่อเลยนะคะ ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้วล่ะค่ะ อาหารและเครื่องดื่มก็เรียบร้อยแล้ว เหลือแค่ออแกไนซ์เซอร์จัดเตรียมเวทีนิดหน่อยก็น่าจะเรียบร้อยแล้ว ฝากด้วยนะคะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นการเป็นงาน
“แล้วคุณพีชจะไปไหนเหรอคะ” จารวีถามด้วยความงุนงง
“จะไปเตรียมตัวมอบของขวัญวันเกิดให้คุณกวินค่ะ” หญิงสาวตอบด้วยรอยยิ้มที่ดูสงบนิ่ง แววตาของเธอไม่ได้ดูยินดีหรือตื่นเต้น แต่กลับดูสุขุมและเยือกเย็นผิดจากปกติที่ร่าเริงสดใสยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา
“ว่าแล้วเชียว วันเกิดคุณกวินทั้งทีคุณพีชจะพลาดได้ยังไง” ภาณุพูดขึ้น จารวีหันมามองด้วยตาสงสัย เธอได้ยินข่าวที่มีคนลือกันว่าเลขานุการสาวชื่นชอบผู้บริหารเกินกว่าเจ้านายลูกน้อง หรือจะเป็นความจริง
“ผมหมายถึงเลขานุการอย่างคุณพีชที่ทำงานใกล้ชิดกับคุณกวินมากที่สุด ถ้าไม่มอบของขวัญให้เจ้านายคงเป็นไปไม่ได้หรอก”
พีชมนเพียงยิ้มรับ ก่อนที่เธอจะมอบชาร์จตรวจงานให้แก่จาระวีและภาณุได้ดูแลต่อ ก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องจัดเลี้ยง ทิ้งหน้าที่เลขานุการในวันสุดท้ายของเธอไปโดยไม่มีอะไรติดค้างกันอีก
//////////
ที่บ้านตระกูลศรัทธานนท์ รถของพีชมนเลื่อนเข้าไปจอดในตัวบ้าน จากนั้นเธอก็เดินลงจากรถไปโดยมีแม่บ้านสาวออกมาต้อนรับ
“สวัสดีค่ะคุณพีช”
“สวัสดีค่ะพี่แพรว คุณย่ายังอยู่ในบ้านหรือเปล่าคะหรือว่าออกไปงานแล้ว”
“คุณย่าท่านเพิ่งแต่งตัวเสร็จค่ะ รอให้คุณกวินมารับไปที่งาน หรือว่าคุณพีชจะมารับคุณย่าคะ”
“เปล่าหรอกค่ะ พีชแค่มีเรื่องที่จะมาพูดกับคุณย่า” หญิงสาวตอบด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะเดินตามเข้าไป
ภายในบ้าน คุณย่าจันลานั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่น เมื่อเห็นว่ามีแขกมาพบก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ พีชมนเดินเข้าไปนั่งที่เก้าอี้เดี่ยวด้านขวามือคุณย่า จากนั้นก็ยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
“สวัสดีค่ะคุณย่า”
“หนูพีชมารับย่าแทนพ่อกวินหรือลูก”
“เปล่าค่ะ พีชแค่จะนำแหวนหมั้นมาคืน” หญิงสาวกล่าวพร้อมกับค่อยๆ เลื่อนตัวลงไปคุกเข่า แล้วขยับไปหาคุณย่าจันลา จากนั้นก็คืนแหวนหมั้นลงบนฝ่ามือของหญิงชรา ก่อนที่เธอจะก้มกราบที่ตัก
“พีชทำหน้าที่คู่หมั้นของตัวเองอย่างสุดความสามารถแล้วค่ะ แต่ว่าก็ไม่สามารถเอาชนะใจคุณกวินได้ พีชจึงอยากจะคืนอิสระให้เขา และคืนศักดิ์ศรีให้แก่ตัวเอง นับตั้งแต่วันนี้ไปพีชจะไม่เป็นคนที่เอาแต่วิ่งไล่ตามเขาอีกแล้ว” หญิงสาวกล่าวออกมาตามตรงและไม่อ้อม
คุณย่าจันลาไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึงเร็วขนาดนี้ และเธอก็ไม่รู้จะพูดอะไร เพราะทั้งหมดพีชมนได้พูดออกไปหมดแล้ว
“เอาละ ย่าจะรับแหวนมั่นนี้คืน” ย่าจันลากล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
จากที่พีชมนเคยเรียก ‘พี่กวิน’ เปลี่ยนเป็น ‘คุณกวิน’ ก็แสดงถึงการเว้นระยะห่างที่เกิดขึ้น เธอมองใบหน้าที่เด็ดเดี่ยวของหญิงสาวก็รู้แล้วว่าหลานชายของตนนั้นพลาดไปมากแค่ไหน
“พ่อกวินคงจะยิ้มจนปากฉีกไปถึงหูแล้วมั้ง” คุณย่าพูดประชดหลานชายออกมา
“พีชยังไม่ได้บอกคุณกวินค่ะ คิดว่าถึงจะบอกเขาก็คงไม่อยากรับฟังอะไร ที่พีชมาวันนี้ก็เพื่อที่จะเอาแหวนหมั้นมาคืนและคืนสถานะทุกอย่างให้กับคุณกวิน ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดให้กับเขา ของขวัญวันเกิดที่เขาต้องการจากพีชมากที่สุดคือการให้พีชออกไปจากชีวิตของเขา ตอนนี้พีชก็มอบให้เขาแล้วค่ะ หวังว่าเขาจะมีความสุขกับของขวัญที่พีชมอบให้” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาและใจหาย แต่ไม่ได้มีน้ำตาใดๆ
พอเธอตัดขาดจากเขาจริงๆ กลับรู้สึกว่าโล่งอกอย่างประหลาด แม้จะใจหายอยู่บ้าง แต่กลับไม่ได้รู้สึกเศร้าและเจ็บปวดอย่างที่คิดเอาไว้ก่อนหน้านี้
“ย่าต้องขอโทษด้วยนะที่ทำให้หนูเสียเวลามาเกือบสามปี”
“ไม่เป็นไรเลยค่ะคุณย่า ถือว่าสามปีนี้พีชได้ประสบการณ์จากตำแหน่งเลขานุการของคุณกวิน ได้เรียนรู้งานต่างๆ มาเยอะเลย”
“โธ่ แม่คุณ จนถึงตอนนี้แล้วก็ยังน่ารักกับย่าอีก เอาเถอะ ย่าเคารพการตัดสินใจของหนู แต่ย่าขอบอกเอาไว้เลยว่าแหวนวงนี้จะรอหนูกลับมาสวมมันอีกครั้ง ย่าบอกตามตรงว่าย่าไม่อยากเสียคนดีๆ อย่างหนูไปเลย ถ้าไม่ใช่เพราะหลานชายโง่เง่าของย่า ย่าคงได้หนูมาเป็นหลานสะใภ้แล้ว”
“พีชคงไม่มีวาสนานั้นค่ะ” หญิงสาวตอบพร้อมกับเงยหน้าขึ้นยิ้ม ย่าจันลาจับศอกของหญิงสาวดึงขึ้นมานั่งข้างๆ จากนั้นก็กอดปลอบใจหญิงสาว
พีชมนกอดคุณย่ากลับ พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา
ในตอนนั้นกวินก็มาถึง เขาเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น แล้วก็พูดขึ้นมาขัดบรรยากาศที่กำลังซาบซึ้งนั้น
“มาฟ้องอะไรคุณย่าอีก” น้ำเสียงนั้นพูดขึ้นมาห้วนๆ
พีชมนไม่ตอบ เธอผละออกจากคุณย่าแล้วไหว้ลา
“งั้นพีชขอตัวกลับไปก่อนนะคะคุณย่า”
“ไปเถอะลูก” หญิงชราพูดด้วยนร้ำเสียงที่ใจหาย
หญิงสาวไหว้ลาอีกครั้ง ก่อนที่จะเดินผ่านกวินไปโดยที่ไม่ได้พูดจาอะไรกับเขา ไม่แม้แต่จะมองหน้า คุณย่าจันลามองดูก็รู้แล้วว่าเธอเด็ดเดี่ยวมากแค่ไหน
จิตใจของผู้หญิงนั้นเวลารักก็รักมาก แต่เวลาที่คิดจะถอดใจจากความรักแล้วก็เด็ดขาดมากเช่นกัน
กวินมองเธอที่เดินผ่านหน้าเขาไปด้วยความหงุดหงิด
“เธอมาเป่าหูอะไรคุณย่าอีกครับ”
“เป่าหูเป่าหูอะไรกัน วันเกิดตัวเองแท้ๆ แทนที่จะคิดอะไรดีๆ หน่อย ไม่รู้เอาอะไรมาคิดในหัว” คุณย่าอดที่จะตำหนิไม่ได้ ในมือยังกำแหวนหมั้นของหลานชายเอาไว้
กวินนิ่งไป วันนี้วันเกิดเขา เขาไม่อยากที่จะให้อะไรมาทำให้จิตใจขุ่นมัว จึงรีบเปลี่ยนท่าทีทันที คิดว่าเธอคงมาเตรียมการบางอย่างกับคุณย่า เพื่อให้คุณย่าร่วมมือด้วย หรือไม่เธอก็คงจะเอาเรื่องที่เขาตำหนิและไม่สนใจเธอมาฟ้อง เพราะสองวันที่ผ่านมาเขาเพิ่งนึกได้ว่าเธอไม่เขียนโน้ตให้เขามาพร้อมกาแฟอย่างที่เคย
“ผมมารับคุณย่าไปที่งานครับ เตรียมพร้อมแล้วหรือยังครับ”
“พร้อมแล้ว” คุณย่าจะลาตอบเสียงเรียบ ก่อนที่จะหย่อนแหวนนั้นลงในช่องกระเป๋าถือของตนเอง
“ตกลงเธอมาทำอะไรที่บ้านของเราครับ” เขาถามผู้เป็นย่าขึ้นอีกครั้ง
“หนูพีชเขาเตรียมของขวัญเซอร์ไพรส์แกน่ะ เป็นของขวัญที่แกได้รับแล้วคงจะยิ้มหน้าบานไปทั้งวันเชียวแหละ” คุณย่าจันลาพูดประชดประชันด้วยท่าทีที่เหมือนจะน้อยใจหลานชายเล็กน้อย
‘ว่าแล้วเชียว ปีนี้คงเล่นใหญ่อีกเช่นเคย’ กวินส่ายหัวด้วยความเอือมระอา ไม่รู้ว่าวันเกิดของเขาปีนี้เธอจะเตรียมอะไรให้เขาอีก ลึกๆ ก็อยากรู้เหมือนกัน เซอร์ไพรซ์ที่ว่ามันจะทำให้เขายิ้มหรือทำให้อารมณ์เสียกันแน่
“แล้วคุณพ่อคุณแม่ล่ะครับ” เขาถามผู้เป็นย่าเมื่อเห็นว่าบุพการีทั้งสองไม่ได้อยู่ด้วยกัน
“สองคนนั้นออกไปตั้งแต่เช้ายังไม่กลับเข้ามาเลย สงสัยจะเตรียมของขวัญมาเซอร์ไพรส์ลูกชายของตัวเองละมั้ง” น้ำเสียงของผู้เป็นย่ายังคงฟังดูไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
กวินจึงไม่ได้ชวนคุณย่าพูดคุยต่อ เขาประคองหญิงชราไปที่รถ รอให้ถึงงานเขาจะถามเธอให้ชัดว่าเธอมาทำอะไรที่บ้านของเขากันแน่
************************