'คือเราเพิ่งรู้จักกัน เราให้ได้แค่ไอดีไลน์นะ'
'ไอดีไลน์คืออะไร? ให้เบอร์มาเลยไม่ได้รึไง?'
'ไม่รู้ล่ะ ยังไงเราก็ให้ได้แค่นี้จริงๆ'
'จะกลัวอะไรหนักหนา?'
'รึว่าจะไม่เอา?'
'เอา!'
...
..
.
21.36 น.
ปึ่ก!
"ให้ตาย..."
ฉันวางปากกาตัวเองที่กำลังจดงานลงบนโต๊ะเขียนหนังสือด้วยความหงุดหงิด งานที่ฉันพยายามทำมาเกือบชั่วโมงไม่เดินเลยเพราะในหัวของฉันในตอนนี้มีแต่เรื่องของเขา! และที่ทำให้ฉันคิดหนักมากกว่านั้นคือฉันดันให้ไลน์เขาไปนี่สิเจ้าตัวที่ถูกฉันปฎิเสธที่จะให้เบอร์ดูงงไปนิดและเหมือนเขาจะไม่รู้ว่าไลน์ที่คนทั้งประเทศเขามีกันนั้นเอาไว้ทำอะไร ฉันจึงตัดบทโดยการเขียนไอดีใส่ใบสลีปเซเว่นและหนีออกมา แต่ฉันจะไม่ให้อะไรไว้ให้เขาเลยก็ไม่ได้เพราะสายตาที่เจ้าตัวกำลังมองมาที่ฉันด้วยสายตาข่มขู่นั้นอ่ะมันกดดันจนฉันรู้สึกกลัว
"หยุดๆนอนๆ"
ฉันบอกตัวเองเบาๆก่อนจะปิดโคมไฟที่โต๊ธเขียนหนังสือตัวเองและเดินไปที่เตียงที่อยู่ไม่ไกลจากโต๊ะท่าไหร่นักพร้อมกับทิ้งตัวลงนอนทันที ที่นี้คือห้องนอนของฉันเองมันมีพื้นที่ที่พออยู่ไม่มีห้องน้ำในตัว และวันนี้เป็นวันที่ดีสำหรับฉันวันนึงเลยล่ะที่ทั้งสองแม่ลูกนั้นไม่อยู่บ้านทั้งคู่ทำให้คืนนี้ของฉันสงบถึงในใจฉันในตอนนี้จะไม่สงบก็ตาม
ติ๊ง!
"..."
ฉันเหลือบตามองโทรศัพท์ตัวเองที่มันดังขึ้นทันทีก่อนจะเอื้อมมือขึ้นมาหยิบมันมาดูช้าๆและพบว่ามันเป็นแจ้งเตือนการเพิ่มเพื่อนจากไอดีไลน์...หัวใจฉันกระตุกเบาๆพร้อมกับมือฉันที่ค่อยๆสไลด์หน้าจอปลดล็อค
ติ๊ง!
Trot >> นอนรึยัง?
ฟึ่บ!
ฉันดีดตัวขึ้นมานั่งทันทีที่เห็นข้อความที่เด้งขึ้นมาก่อนที่ฉันจะกดเข้าไปดูโปรและชื่อที่ปรากฎตอนนี้มันคือทร็อต เขาคนนั้นจริงๆฉันนิ่งอยู่นานอย่างทำอะไรไม่ถูกไม่รู้จะตอบเขาดีหรือไม่ดีจนมีข้อความใหม่เด้งขึ้นมา
Trot >> โทรหาได้ไหม?
Narm-Toey >> ไม่ได้ๆ จะนอนแล้ว
ฉันตอบกลับแทบจะทันทีที่ถูกเขาถามแบบนั้น ให้ไลน์แล้วมันต่างจากให้เบอร์ตรงไหนว่ะเนี้ยหนามเตยในเมื่อมันก็โทรหาได้อยู่ดี...ฉันยกมือขึ้นขยี้ผมตัวเองเบาๆก่อนจะเหลือบสายตาลงมองหน้าจอที่มันเด้งข้อความใหม่ขึ้นมาหลังจากฉันที่ส่งตอบไปหาเขาเกือบสองนาทีได้
Trot >>มันพิมพ์ลำบาก ไม่ถนัด
Narm-Toey >> แล้วจะโทรมาคุยอะไร?
Trot >> ให้โทรไม่ให้โทรบอกมาแค่นี้
ฉันเม้มปากเข้าหากันอย่างทำอะไรไม่ถูกทันทีที่ถูกถามกลับมาแบบนี้หลังจากรอเขาตอบกลับมานานนับนาที มันก็เป็นแค่ข้อความและไม่เห็นหน้าแต่ทำไมมันถึงดูคล้ายฉันกำลังถูกข่มขู่ไม่ต่างจากอยู่ต่อหน้าเขาลยล่ะ
Narm-Toey >> ก็ได้...
ติ๊ดๆๆ
เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ฉันดังขึ้นทันทีที่ฉันตอบไปแบบนั้นฉันมองมันอย่างชั่งใจก่อนจะค่อยๆสไลด์รับและยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหูช้าๆ
"ฮัลโหล..."
(ไลน์เข้ายากมากเลยรู้ไหม)
"...แต่นายก็ทำได้แล้วนิ แล้วก็โทรมาเป็นด้วยเล่นครั้งแรกจริงๆหรอ?"
(แม่ฉันสอนน่ะ)
ฉันถึงกับสตั้นไปเลยหลังจากที่โดนเสียงนิ่งเรียบจากปลายสายตอบมาแบบนี้...นี่เขาให้แม่ทำให้ งั้นมันก็แสดงว่าเรื่องนี้แม่เขาก็รู้บ้าเขานี่มันบ้ารึไง
(ให้เบอร์มาแต่แรกก็จบ เสียเวลาตั้งนานกว่าจะได้ยินเสียง)
"อย่าพูดตรงนักสิ!"
ฉันตอบกลับไปเบาๆพร้อมกับความรู้สึกร้อนวูบแปลกๆที่แก้มของตัวเองเมื่อทร็อตตอบกลับมาแบบนั้น มันตรงไป...ตรงจนฉันรู้สึกเขินเอาจริงๆ
(แล้วจะต้องพูดอ้อมทำไมในเมื่อผลลัพธ์มันก็จบที่อยากได้ยินเสียง?)
"เอาเถอะ...แล้วโทรมามีอะไร?"
(พรุ่งนี้เรียนเช้าไหม?)
"ก็เช้า..."
(อืม งั้นไปพร้อมกันเลย)
"ห๊ะ? บ้ารึไง"
(บ้าอะไร ก็จะไปส่ง?)
ฉันหลับตาลงแน่นพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบาๆ นี่เขาไม่เคยจีบใครจริงๆใช่ไหมถึงไม่รู้เลยว่าความสัมพันธ์แบบนี้มันควรจะเริ่มยังไง
"ทร็อต นายฟังฉันนะ...เราเพิ่งทำความรู้จักกันวันนี้ถึงนายจะมาร้านที่ฉันทำงานทุกวันก็เถอะแต่สรุปแล้วคือเราเพิ่งรู้จักกันวันนี้"
(...)
"และฉันก็ไม่ใช่คนที่จะไปกับคนที่เพิ่งรู้จักกันง่ายๆแบบนี้ เข้าใจไหม?"
(ฉันก็ไม่ได้บอกว่าเธอง่าย)
"ไม่ใช่ทร็อต!" ฉันยกมือขึ้นกุมหน้าผากตัวเองไว้เบาๆ นี่เขากับฉันคุยกันคนละภาษารึไงกันเนี้ย? "อย่างน้อยถ้านายจะจีบฉัน...นายควรเริ่มจากทำความรู้จักฉันก่อน"
(ก็ทำอยู่นี่ไง)
"โว๊ะ นายเข้าใจไหมว่าฉันไม่มั่นใจว่าตกลงที่นายเข้าหาฉันแบบนี้เพราะอะไร คนหน้าตาดีแถมยังดูยังไงก็ลูกคนรวยแบบนายจะมาจีบคนอย่างฉันที่ธรรมดาโคตรๆเนี้ย มันดูไม่ค่อยน่าเชื่อ"
(ก็เธอพิเศษไงหนามเตย ฉันเข้าหาเธอเพราะว่าเธอพิเศษสำหรับฉัน)
"..."
(แต่ถ้าเธอต้องการให้ฉันเข้าหาแบบช้าๆก็ได้ แต่เธอต้องรับปากกับฉันก่อน)
"รับปาก...รับปากอะไร?"
(รับปากว่าจะเปิดใจให้ฉันไง เพราะถ้าเธอไม่เปิดใจฉันจะทำทั้งหมดเพื่ออะไรล่ะ?)
"นายนี่...เป็นคนที่ทำอะไรต้องมีสิ่งตอบแทนสินะ"
(ก็ถ้าฉันไม่มีเป้าหมาย ฉันจะเริ่มมันได้ยังไงล่ะ?)
"..."
ฉันเผลอยิ้มออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ฉันไม่แน่ใจนักว่าฉันในตอนนี้กำลังยิ้มกับคำตอบมึนๆของเขาหรือนิสัยของเจ้าตัวกันแน่
(จะตอบตอนนี้หรือให้ฉันไปเอาคำตอบเอง?)
"ทำไมชอบเร่งจัง!"
(...)
ฉันส่ายหน้าไปมากับคนปลายสายช้าๆ และนิสัยอีกอย่างของเจ้าตัวคงเป็นนิสัยที่ชอบเร่งรัดที่จะเอาคำตอบจากคนอื่นสินะ ทร็อตที่เป็นคนตรงไปตรงมาแบบนี้มันทำให้ฉันทึ่งไปเลยล่ะจากที่เคยมองว่าเขาเป็นผู้ชายนิ่งๆที่ดูไม่ใจร้อนอะไร และมันก็ทำให้ฉันอยากจะรู้ต่อไปไม่ได้ว่าที่จริงเขาคนคนนี้มีนิสัยกี่อย่างกันแน่
"ก็ถ้าไม่ให้โอกาสจะให้ไลน์ไปทำไมล่ะ"
(...หึ)
"หัวเราะแบบนั้นทำไมกันฉันพูดอะไรผิด?"
(ก็พอใจไงก็เลยหัวเราะ)
"นั้นมันเค้นหัวเราะมากกว่าไหม?"
(หรอ...ถ้าเธอไม่ชอบฉันก็จะไม่ทำมันอีก)
"ก็เปล่า...ฉันก็แค่ไม่ชินน่ะ มันไม่ชิน"
(ไม่ต้องชินหรอก)
"ทำไมล่ะ?"
(เดียวมันไม่ตื่นเต้น...)
"...บางครั้งฉันก็รู้สึกกลัวนะ คงไม่ใช่มาล่อลวงฉันไปฆ่าใช่ไหม?"
ฉันถามออกไปตามความรู้สึกเพราะน้ำเสียงนิ่งๆของเขามันทำให้ฉันเริ่มกลัว
(ไม่ได้จะลวงไปฆ่า...แต่จะล่อให้มาตกหลุมรัก)
"..."
ฉันเม้มปากเข้าหากันทันทีที่เสียงนิ่งเรียบนั้นตอบกลับมาทีเล่นทีจริง คือ...ฉันต้องพยายามกลั้นตัวเองไม่ให้หัวเราะขนาดไหนอ่ะที่จะทนกับมุขแปลกๆของเจ้าตัวแบบนี้ได้
(มุขเมื่อกี้ไม่ได้หรอ...ฉันอุสาคิดมาตั้งนาน)
"ฮะๆ ก็ตลกดี..."
(นอนเถอะไม่กวนแล้ว)
"อืม...ไงก็ฝันดีนะ"
(อืม...ฝันดีนะหนามเตย)
ฉันค่อยๆลดโทรศัพท์ตัวเองออกจากหูช้าๆพร้อมกับมองหน้าจอตัวเองนิ่งด้วยใจที่กำลังเต้นแรงอย่างคุมไม่อยู่ มันก็ไม่ใช่ว่าฉันไม่เคยมีใครมาจีบนะ...แต่มันก็ต้องรู้สึกแปลกๆเป็นธรรมดาไหมหากโดนจีบตรงๆขนาดนี้ โอเคว่าเรารู้ว่าเขาจีบแต่ฉันกลับนึกหน้าเขาเวลาคุยอะไรแบบนี้ไม่ออกเลยจริงๆ แถมยังขอให้ฉันเปิดใจอะไรนั้นอีก เขาไม่ใช่คนที่หน้าตาธรรมเลยออกจะหล่อมากๆเสียด้วยซ้ำแต่กลับมาขออะไรแบบนี้กับคนธรรมดาๆแบบฉันเนี้ยมันทำให้ฉันคิดอะไรไม่ออกจริงๆ...เอาเป็นว่าวันนี้ฉันไม่รู้อะไรต่อแล้ว ค่อยดูวันต่อๆไปเถอะว่ามันจะเป็นยังไงต่อ
21/10/20xx
18.33 น.
กรุ๊งกริ่ง...
"ยินดีต้อนรับค่ะรับอะไรดีคะ ^^"
"อืม...มีอะไรแนะนำไหมครับ?"
"สำหรับวันนี้ทางเราแนะนำแตงโมปั่นค่ะ แตงโมสดๆจากไร่เลย ^^"
"งั้นเอาแก้วนึงครับ ^^"
"ส่วนพี่เอาบลูฮาวายนะครับน้องสาว ^^"
ฉันเหลือบสายตาขึ้นมองร่างสูงคุ้นตาตรงหน้าทันทีที่ได้ยินเสียงยียวนนั้นไม่ต่างจากพี่เก่งที่ตอนแรกไม่ได้หันมาสนอะไรแต่กลับหันมามองไตตั้ลทันทีที่ได้ยิน เขามองฉันยิ้มๆพร้อมกับคล้องคอผู้หญิงตัวเล็กๆที่เดินมาด้วยกัน
"กินอะไรดีครับ?"
"อืม วี่ขอเป็นโกโก้ปั่นแล้วกันอ่อเอาเค้กส้มด้วยนะ"
"ได้ยินแล้วนะ พี่คงไม่ต้องสั่งซ้ำ ^^"
"...ค่ะ รอสักครู่นะคะ"
ฉันตอบกลับเสียงนิ่งและพยายามไม่ทำหน้าตาไม่พอใจใส่ไตตั้ลเพราะครั้งนี้เขาไม่ได้เข้ามาคนเดียวแต่ยังไม่เพื่อนผู้ชายและคู่ควงเขาอีกคน ไตตั้ลหันกลับมายิ้มให้ฉันอีกครั้งก่อนจะพากันเดินไปนั่งโต๊ะติดกระจก
"เกลียดหน้ามันว่ะ วอนตีนคนซะเหลือเกิน!"
"เอาเถอะพี่เก่ง อย่างน้อยมันก็ไม่ได้มาขอเงินหนาม"
"ถ้าไล่ลูกค้าได้พี่จะไล่มันออกคนแรกเลย"
ฉันยิ้มออกมาอีกครั้งก่อนจะหันไปมองกลุ่มไตตั้ลอีกครั้งและเห็นว่ามันกำลังมองมาพอดี เจ้าตัวเหยียดยิ้มมุมปากส่งมาให้แต่ฉันกลับทำเป็นมองเลยผ่านไปอย่างเนียนๆ...ร้อยวันพันปีไม่เคยที่จะเข้าร้านอะไรแบบนี้แต่วันนี้กลับมานั่งแถมยังพาผู้หญิงและเพื่อนมาด้วย มันดูแปลกๆแต่คงไม่หรอก ฉันน่าจะคิดไปเอง
"ให้พี่เอาไปเสริฟแทนไหม?"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดียวหนามไปเอง"
ฉันตอบกลับทันทีที่พี่เก่งถามแบบนั้น เขามองฉันแวบนึงก่อนจะพยักหน้าช้าๆ พี่เก่งคงเป็นห่วงฉันล่ะเพราะเขาเป็นคนที่รู้จักฉันที่สุดและฉันก็นับถือพี่เก่งเป็นพี่คนนึงเลยก็ว่าได้ ฉันยิ้มออกมาบางๆก่อนจะยกเครื่องดื่มและเค้กขึ้นมาใส่ถาดตัวเองและเดินไปทางที่ไตตั้ลนั่งอยู่
"แตงโมปั่น บลูฮาวาย โกโก้ปั่นและเค้กส้มได้แล้วค่ะ...ขออนุญาติวางนะคะ"
"ครับ..."
ผู้ชายคนที่มากับไตตั้ลเอ่ยรับทันทีพร้อมกับมือเขาที่ยกขึ้นมาช่วยยกลงให้ฉันไปด้วย ก่อนที่ฉันจะได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆจากอีกคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม ฉันเหลือบตามองเขานิ่งๆอย่างไม่เข้าใจ
"นี่น้องสาวฉันชื่อหนามเตย และหนามเตยนี่ไอ้บอยเพื่อนฉัน"
ฉันขมวดคิ้วเข้าหากันช้าๆเมื่อจู่ไตตั้ลก็แนะนำเพื่อนตัวเองให้ฉันรู้จัก ฉันมองไปที่เพื่อนของไตตั้ลที่ยิ้มให้อยู่ด้วยใบหน้านิ่งเรียบก่อนจะยิ้มให้เขานิดๆเพื่อไม่ให้เสียมารยาท
"สวัสดีครับน้องหนามเตย ไอ้ไตตั้ลมันคุยเรื่องน้องให้พี่ฟังมาตั้งนานพี่เพิ่งเคยเห็นวันนี้ล่ะไม่น่าเชื่อว่ามึงจะมีน้องน่ารักแบบนี้ ^^"
"ใช่ไหม น้องกูน่ารักจริงๆล่ะ ^^"
"ฉันขอตัวนะคะ"
"จะรีบไปไหน..."
ปรื้น...
"...รถแม่งคุ้นๆไหม?"
"รถทร็อตไง ทร็อตพี่เจ้าของสนามแข่งที่ตั้ลไปอ่ะ!"
"ห๊ะ...พี่ไอ้วูฟ!?"
"ไม่เชื่อก็ดูสิ!"
ฉันมองไปที่นอกกระจกพร้อมกับร่างสูงที่เพิ่งจอดรถและถอดหมวกเสร็จ ทร็อตมองเข้ามาในร้านด้วยสายตานิ่งเรียบไม่ต่างจากทุกทีแต่ครั้งนี้มันกลับแปลกไปตรงที่เขามองผ่านทุกคนที่กำลังมองเขามาที่ฉันที่กำลังยืนอยู่ก่อนที่มุมปากนั้นจะค่อยๆยิ้มออกมานิดๆ
"มันยิ้มให้เธอหรอวี่?"
"บะบ้ารึไง ทร็อตจะยิ้มให้เราทำไมกัน?"
ฉันมองกลับเข้ามาภายในร้านอีกครั้งหลังจากถูกเสียงเหลมของผู้หญิงที่ชื่อวี่ดึงสติ ไตตั้ลเงยหน้าขึ้นมามองฉันก่อนจะมองไปที่ทร็อตอีกครั้งเจ้าตัวค่อยๆยิ้มออกมาก่อนจะหันกลับมาหาฉันอีกครั้ง
"รึทร็อตยิ้มให้เธอ?"
"...ฉันขอตัว"
ฉันตอบกลับอย่างรวดเร็วและเดินเลี่ยงออกมาจากโต๊ะของไตตั้ลทันทีก่อนที่เขาจะสงสัยอะไรไปมากกว่านี้ ฉันไม่อยากให้เขารู้เรื่องที่เกี่ยวกับฉันเพราะถ้าเขารู้...แม่ของเขาก็จะรู้ด้วย
กรุ๊งกริ๊ง
"ยินดีต้อนรับค่ะ รับอะไรดีคะ? ^^"
ฉันมองพี่โมที่เข้าประจำที่ทันทีที่เห็นว่าลูกค้าคนนี้คือใครก่อนจะมองทร็อตที่เพิ่งเดินเข้ามาแวบเดียวก่อนจะเดินเลี่ยงออกมาอีกทาง ฉันไม่รู้ว่าทร็อตทำหน้ายังไง แต่ฉันก็ไม่อยากให้ไตตั้ลรู้เหมือนกันว่าฉันกับเขารู้จักกัน...ทร็อตที่เป็นถึงพี่ชายของเจ้าของสนามแข่งที่ไตตั้ลไปบ่อยๆนั้นก็แปลว่าทร็อตนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ ฉันที่เดินเข้ามาหลังร้านยืนนิ่งอยู่กับที่อย่างทำอะไรไม่ถูกฉันจึงเดินไปที่อ่างและล้างแก้วที่ค้างไว้แทน อย่างน้อยที่ฉันไม่ออกไปหน้าร้านมันก็ไม่ใช่ว่าฉันกำลังอู้
"หนามเตย!"
"คะคะ?"
ฉันที่กำลังเหม่ออยู่สะดุ้งตกใจนิดๆพร้อมกับเงยหน้ามองพี่โมที่เดินเข้ามาที่หลังร้านและเรียกฉันซะเสียงดัง ฉันขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจพร้อมกับมองแก้วน้ำปั่นในมือเธออย่างไม่เข้าใจ
"ทำไมไม่รีบบอกว่าทร็อตกับเธอกำลังคุยกันอยู่!?"
"ห๊ะ อะไรของพี่โมเนี้ย?"
ฟึ่บ!
"นี่ไง ทร็อตสั่งน้ำให้เธอ!"
"คะ??" ฉันเบิกตากว้างอย่างไม่เข้าใจพร้อมกับมองแก้วในมือพี่โมอย่างไม่เชื่อสายตา...นี่ทร็อตสั่งน้ำให้ฉัน
"รับไปเลย พี่อ่อยมาตั้งนานก็ไม่บอกกันนกเลยเห็นไหมเนี้ย!"
"...ขอบคุณค่ะ"
"ไปขอบคุณเขานู้นน อ่อพี่เก่งฝากมาบอกว่าเลิกงานแล้วคุยกันด้วย!"
ฉันยกมือตัวเองขึ้นรับแก้วที่พี่โมยื่นมาตรงหน้าอย่างงงไม่หายก่อนจะเห็นว่ามันคือน้ำแตงโมปั่น ทร็อตสั่งน้ำแตงโมปั่นให้ฉันเนี้ยนะ ฉันค่อยๆยื่นหน้าเข้าไปในร้านและเห็นว่าเขากำลังนั่งเขียนอะไรอยู่และที่โต๊ะเขาก็มีแก้วอยู่เช่นกันแต่วันนี้เขาไม่ได้กินนมสดสตอเบอรี่ปั่นอย่างเคยแต่กับกินแตงโมปั่นแทน...ให้ตาย เขาเคยรู้สึกอะไรบ้างไหมเนี้ยย
"..."
ฉันมองแก้วในมือตัวเองอีกครั้งก่อนจะค่อยๆจรดปากตัวเองลงบนหลอดและดูดน้ำหวานๆนั้นช้าๆ มันก็อร่อยๆเหมือนอย่างเคยล่ะ...ก็อร่อยดี ฉันวางมันลงข้างๆอ่างก่อนจะเริ่มล้างแก้วอีกครั้ง พอก่อนเรื่องส่วนตัวอย่าเพิ่งขอทำงานก่อน
"หนามเตย!"
พรึ่บ...
ขาฉันที่กำลังจะก้าวออกมาช่วยงานหลังจากที่ล้างแก้วเสร็จชะงักไปนิดเมื่อได้ยินเสียงกวนๆของไตตั้ลที่ตะโกนเรียกชื่อฉันเสียงดังซะลั่นร้านลูกค้าที่กำลังนั่งกันอยู่หันมามองที่ฉันนิดๆไม่เว้นแม้แต่ทร็อตที่นั่งอยู่ เขานั่งห่างจากโต๊ะพวกไตตั้ลแค่สองโต๊ะมันจึงทำให้ฉันต้องเดินผ่านเขาไปด้วย ทร็อตเหลือบมองไปด้านหลังตัวเองนิดๆก่อนจะหันกลับมามองฉันที่กำลังเดินผ่านอีกรอบ ฉันพยายามจะไม่มองเขาและก้าวผ่านอย่างรวดเร็ว
"เรียกเบาๆก็ได้มั่ง"
"ก็กลัวไม่ได้ยินไง คนเยอะแล้วไม่สนใจลูกค้าเลยฉันเรียกตั้งนาน!"
"..." ฉันเม้มปากข้าหากันพร้อมกับมองไปที่ไตตั้นนิ่งๆเพราะไม่อยากจะทะเลาะกันในนี้
"แล้วมึงจะดุน้องมึงทำไมเนี้ยย อย่าไปสนไอ้ไตตั้ลเลยครับพวกพี่จะเรียกเก็บเงินน่ะ"
"ค่ะรอสักครู่นะคะเดียวไปเอาบิลแป๊บนึง"
"ครับ ^^"
ฉันมองไตตั้ลแวบนึงก่อนจะเดินกลับมาที่เคาน์เตอร์เพื่อเอาบิลไปให้เขา ดูก็รู้ว่ามันอยากจะหาเรื่องนี่ถ้าไม่ติดว่าในนี้มันในร้านฉันกับมันคงได้ด่ากันแน่อยู่ดีไม่ว่าดี ฉันเดินกลับมาอีกครั้งก่อนจะยื่นบิลไปให้เพื่อนของมัน
พรึ่บ!
"อ๊ะ!"
"โอ๊ะ พี่ขอโทษนะพี่ไม่ได้ตั้งใจ ^^"
"..."
ฉันขยับออกมาทันทีพร้อมกับชักมือกลับอย่างรวดเร็วเมื่อจู่ๆมือของเพื่อนไตตั้ลมันไม่ได้ยื่นมาเพื่อรับบิลเฉยๆแต่กับคว้ามือฉันไว้ด้วย ให้เด็กอนุบาลดูก็ดูออกว่ามันไม่ได้บังเอิญ แถมไตตั้ลมันยังมีหน้ามาหัวเราะฉันอีก
"หนามเตยมันไม่ถือสาหรอก มากกว่านี้มันก็ให้ได้"
"ไตตั้ล!"
"โอ๊ะ โทษๆพี่ลั่นน้องไม่โกรธพี่นะ ^^" ฉันกำมือเข้าหากันแน่นเมื่อถูกไอ้ไตตั้ลมันดูถูกแบบนี้ "แต่แกก็ไม่มีแฟนนี่...นี่ไงเพื่อนฉันมันสนใจแกน่ะ มันรวยนะไม่สนหน่อยหรอ?"
"555+ ไม่รวยมากหรอกครับ แต่ก็พอเลี้ยงน้องได้ ^^"
ครื้น!!!
ทั้งร้านเงียบไปทันทีที่ทร็อตลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่ตัวเอง เขาหันกลับมามองที่ไตตั้นด้วยสายตานิ่งเรียบแต่ฉันก็พอจะรู้ว่าตอนนี้เขากำลังไม่พอถึงขนาดไหน ฉันมองเขาที่กำลังจ้องตากันสลับไปมาอย่างทำอะไรไม่ถูก จะห้ามก็ไม่รู้จะต้องพูดยังไงแต่จะให้พวกเขามีเรื่องกันมันก็ใช่เรื่องและยิ่งฉันเป็นสาเหตุอีก...ให้ตายฉันควรจะทำยังไงกับสถานการณ์ในตอนนี้ดี!?
"มีปัญหาอะไรหรอครับ รึพวกผมพูดกันดังไปหรอ?"
ไตตั้ลถามขึ้นด้วยน้ำเสียงยียวนทันทีที่เห็นแบบนั้น แววตาฉันเริ่มตะหนักทันทีว่านี่มันในร้านแล้วยังลูกค้าคนอื่นที่กำลังมองมาอีกแต่จะให้ฉันพูดอะไรในตอนนี้ฉันก็กลัว กลัวสายตาของทร็อตในตอนนี้
"ไม่มีจะลุกขึ้นรึไง?"
"หึ...ผมแค่คุยกับน้องตัวเองแล้วคุณมายุ่งอะไร?"
"ผมก็ไม่อยากจะยุ่งหรอกนะ...แต่มันใช่หรอที่คุยกับน้องตัวเองด้วยคำต่ำๆแบบนั้น?"
"นี่มึง!"
"ไม่มีใครเขาพูดคำพวกนี้กันแล้วนะ ถ้าคนคนนั้นไม่ต่ำเหมือนคำพูดตัวเอง!"
"มึง!!"
"อย่านะ นี่มันในร้านหยุดบ้าได้แล้ว!"
ฉันจับแขนไตตั้ลไว้อย่างรวดเร็วเมื่อเขาจะวิ่งเข้าไปหาทร็อตที่ยืนอยู่ไม่ไกลจ้าตัวหันมามองฉันก่อนจะตวัดสายตาไปมองทร็อตอีกครั้ง
"มึงน่ะอย่าเสือก นี่น้องกู!"
พรึ่บ!
"ไตตั้ล!"
"กลับบ้าน งานไม่ต้องทำแม่งแล้ว!"
"บะบ้ารึไง ปล่อยฉันนะตั้ล!"
ฉันพยายามยื้อตัวเองไว้ทันทีที่จู่ๆไตตั้ลมันก็กระชากแขนฉันแล้วดึงให้ฉันเดินตามตัวเองออกไปข้างนอก พี่เก่งมองตามฉันและจะตามมาทันทีแต่ฉันห้ามไว้ก่อน ถึงฉันจะไม่อยากกลับไปกับมันแต่อย่างน้อยก็ดีกว่าจะให้มันพังร้าน
พรึ่บ!!
"แล้วถ้ากูจะเสือก กูต้องขออนุญาติพี่เหี้ยๆอย่างมึงด้วย?"
"นี่มึง!!"
"ทร็อต!"
ฉันมองมืออีกข้างตัวเองที่ถูกทร็อตจับไว้แน่นอย่างหนักใจ เขาสบสายตากับฉันก่อนจะตวัดสายตาตัวเองขึ้นมองไตตั้ลที่ยังกำมือฉันไว้ไม่ปล่อย มือข้างที่ไตตั้ลจับฉันไว้มันเจ็บมากเพราะแรงบีบต่างจากทร็อตที่ถึงเขาจะจับฉันไว้แน่นแต่ฉันกลับไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรเลย
"มึงเอาเวลามาเหี้ยใส่หนามเตยไปหาเงินมาจ่ายค่าพนันก่อนไหม?"
"มึง มึงมาเสือกอะไรกับเรื่องของกู!"
"กูจะเสือกทุกเรื่องที่เกี่ยวกับหนามเตย"
"เฮอะ! นี่มึงอย่าบอกนะว่ามึงชอบน้องกู!?"
"เออ!"
"..."
ไตตั้ลเบิกตากว้างทันทีที่ทร็อตยอมรับคำถามที่เขาถามอย่างไม่ลังเลอย่างไม่เชื่อสายตาก่อนที่สติมันจะกลับมาพร้อมกับเสียงหัวเราะเหยียดๆนั้น
ฟึ้บ!
"และต่อไปนี้อย่าให้กูเห็นมึงมาทำต่ำๆแบบนี้กับหนามเตยอีก เพราะมึงจะไม่ได้รับการละเว้นจากกูแบบนี้อีกเป็นครั้งที่สอง!"
ฉันที่ถูกทร็อตดึงเข้ามาหาตัวได้แต่ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก และไม่รู้ว่าทร็อตทำหน้ายังไงในตอนนี้เพราะฉันที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาจึงได้เห็นแค่สีหน้าของไตตั้ลที่กำลังมองมาที่ทร็อตเท่านั้นมันจึงทำให้ฉันเห็นว่าตอนนี้ขามีแววตาขลาดขนาดไหน
"หึ มึงอย่าคิดว่ามึงรวยแล้วมึงจะทำอะไรก็ได้"
"งั้นมึงอยากลองไหมล่ะว่าคนแบบกูทำอะไรได้บ้าง?"
น้ำเสียงดุดันของทร็อตถามขึ้นพร้อมกับขาของเขาที่ก้าวเข้าไปหาไตตั้ลอีกครั้ง ฉันยื้อมือเขาที่จับมือฉันไว้ทันทีพร้อมกับส่ายหน้าไปมาช้าๆเมื่อทร็อตหันกลับมามอง
"หึ ฝากไว้ก่อน!"
"..."
ไตตั้ลเอ่ยขึ้นเร็วๆก่อนจะรีบเดินออกไปพร้อมกับเพื่อนตัวเองที่มาด้วย แต่ถึงแบบนั้นมันก็ยังไม่วายหันมาทางทร็อตอีกครั้งและมองหน้าเขาด้วยสายตาแค้นๆ ฉันหลับตาลงช้าๆพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบาๆ
"ยังไงก็ขอบคุณนะ...และก็ขอโทษเรื่องไตตั้ลด้วย"
ฉันเอ่ยขึ้นเบาๆพร้อมกับละมือออกจากแขนเขาแต่ยังออกมาไม่มากทร็อตก็คว้ามือฉันไว้อีกครั้ง ฉันเงยหน้าขึ้นมองเขาเหมือนเขาที่กำลังมองมาที่ฉัน เราสบสายตากันนานนับนาทีมันนานจนทำให้หัวใจฉันเต้นแรง
"ยิ่งเห็นแบบนี้ยิ่งห่วงเลย"
"ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันชินแล้ว..."
"แต่ยังไงเธอก็เป็นผู้หญิง...แถมยังเป็นคนที่ฉันรักอีก"
ใจที่มันเต้นแรงมันยิ่งเต้นแรงมากกว่าเดิมเป็นสิบเท่าเมื่อคนตรงหน้าพูดตามที่ตัวเองคิดอีกแล้ว ทร็อตบีบมือฉันไว้แน่นพร้อมกับสบสายตากับแววตาที่กำลังสั่นไหวของฉันนิ่ง...สายตาเขามันทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นมันเหมือนความรู้สึกของการถูกปกป้องมันกลับมาหาฉันอีกครั้งหลังจากที่พ่อฉันเสีย เขาทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัย ปลอดภัยที่มีเขาอยู่ข้างๆและจับมือฉันไว้แบบนี้