วินาทีบอกเลิก

1581 Words
“กรี้ดดๆๆๆๆ เจา กรี๊ด!!” เสียงใบหม่อนกรีดร้องทันทีที่เห็นทุกอย่างในสายตา “แกๆๆ อ๊ายยยย” ชี้หน้าของผู้ชายอายุมากที่เธอเคยคิดว่าชู้ของอาเจาจะเป็นผู้หญิงแต่มันกลับไม่ใช่ เมื่ออีกฝ่ายเอียงหน้ามองเธอก็ถึงกับอึ้ง ‘อ้ะ…หล่อเป็นบ้า’ ใบหม่อนคิดและเงียบไปเพียงอึดใจ...นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันแน่ “บุกรุกบ้านคนอื่นหรือครับคุณผู้หญิง” ทิวไผ่ถาม เขาเห็นท่าทีของใบหม่อนที่ยืนบิดไปมาก็ถึงกับเอือมระอา ในความจับต้นชนปลายไม่ถูกนั้นเขาเห็นพลคนสนิทตีหน้านิ่งเข้ามาถามเหมือนกับรอ? “ขอโทษครับนาย...จับเธอส่งตำรวจเลยดีมั้ยครับ” พลที่รู้หน้าที่และรู้เห็นกับคนเป็นนายเดินเข้าไปพร้อมพูดขู่ ที่จริงแล้วเขานั่งเฝ้าคุณหนูส้มเช้งจับแมงปออยู่หน้าบ้านและรอเวลาให้ใบหม่อนเข้ามาอยู่แล้ว 'ซึ่งมันก็คือแผนที่เตรียมเอาไว้ก่อน' ใบหม่อนตกใจ “เปล่านะคะ..ฉันมาตามหาแฟน” ชี้ไปทางอาเจา “นั่นเจาแฟนฉันค่ะ” ความกลัวทำให้เธอต้องหาข้อแก้ตัวที่ทำให้เธอต้องมาในวันนี้ ซึ่งนั่นก็คือเรื่องการขอคืนดีกับอาเจา “หืม..” ทิวไผ่แสร้งทำหน้างง เขาก้มมองอาเจาพร้อมกับดึงแขนเล็กให้ลุกขึ้น ทางด้านส้มเช้งก็วิ่งมาจากหน้าบ้านเข้ามากอดเอวหม่าม๊าของตัวเองอย่างรู้งาน “ม๊าา..เป็นม๊าของส้มเช้งจะไปเป็นแฟนป้าได้ยังไงกัน” แบร่ๆ แล่บลิ้นใส่ใบหม่อน ใบหม่อนเกิดอาการวันแตก “หยุดนะนังเด็กบ้า..เมื่อกี้แกก็ทิ้งฉันไว้ที่ท่ารถไปครั้งนึงแล้วนะอย่ามาแล่บลิ้นปลิ้นตาใส่ฉัน” เท้าซะเอวจ้องเด็กน้อย อาเจาที่นึกขึ้นได้ว่านี่เป็นเรื่องของตัวเองจึงละทิ้งความอาย แย้งขึ้น “หยุดนะใบหม่อนอย่ามาก้าวร้าวใส่เด็กผมไม่ชอบ ส่วนเรื่องผมกับเธอ เราไม่ได้อยู่ด้วยกันนานแล้วนะและนี่ก็ไม่ใช่บ้านคุณ มันบ้านคุณไผ่เค้าจะมาเอะอะโวยวายแบบนี้ได้ยังไง” “หึ..บ้านคุณไผ่เค้า..บ้านเค้าแต่เจาก็มานั่งกอดจูบกับเค้าเนี่ยนะไหนบอกว่ามาทำงานไง..ทำงานนอนกับเค้าเหรอจะนอกใจฉันไปคว้าตาแก่บ้านนอกนี่ใช่มั้ย ฉันไม่ยอมนะนายเป็นผัวฉันจะทิ้งฉันไปเอาไอ่แก่นี่ได้ยังไง..ไอ้ชู้เกย์!!” ใบหม่อนเดือดจัด ความโกรธบังตาจนไม่รู้ตัวสักนิดว่าพูดอะไรออกไป ยิ่งภาพกอดจูบกันเมื่อครู่ก็ทำให้เธอเข้าใจได้ว่าชู้น่ะ...เป็นชายแก่กว่า! ทิวไผ่คิ้วกระตุก ในคำด่ามากมายที่เคยเจอมาคำว่า 'ไอ้แก่ ดูจะไม่เข้าท่าที่สุด' “ไอ้แก่เหรอ ไอ้ชู้เกย์เหรอ..หึหึ..พลลากตัวยัยเด็กนี่ออกไปทิ้งที่ไหนก็ได้ อย่าให้ได้กลับมาที่ไร่นี่อีก" หันกลับมาประจันหน้ากับแฟนเก่า? ของอาเจาก่อนจะย้ำคำ "ก็อย่างที่เธอเข้าใจนะ อาเจาเป็นของฉัน เพราะงั้นเธอก็เลิกมายุ่งกับเขาได้แล้วยัยผู้หญิงน่ารำคาญ..ก่อนหน้านั้นฉันไม่รู้หรอกนะว่าบอกเลิกกันรึยัง เอาเป็นว่าวันนี้รู้กันให้หมดนี่ล่ะว่าฉันจะพูดแทนเอง…อาเจาเลิกกับเธอแล้ว จบนะ!!” จับมือเจากับส้มเช้งเดินออกนอกบ้านไป "กรี๊ดดๆๆ อ๊ายยยๆๆๆ" ใบหม่อนโผเข้าหา แต่ด้านหลังกลับมีผู้ชายตัวใหญ่จับเธอเอาไว้พร้อมกับลากเธอขึ้นรถกระบะพาเธอออกไปทิ้งในตัวอำเภอ! 19.00น. สามคนพ่อแม่ลูก (ปลอมๆ) ขี่รถมอ’ ไซค์ซ้อนท้ายกันไปจนถึงตลาดสดที่อยู่ไม่ไกลจากไร่ทิวไผ่งามเท่าไหร่ “วันนี้ยังไม่ได้กินข้าวเย็นเลย อาเจาจะกลับไปทำกับข้าวอยู่มั้ย” ทิวไผ่เอ่ยถาม “ไม่ล่ะครับอารมณ์ผมไม่ดีเท่าไหร่” “ป๊าพาหม่าม๊าไปกินหมูกะทะดีมั้ยคะ” ส้มเช้งออกความเห็น “เอาสิ” ทิวไผ่จับมืออาเจาแล้วอุ้มส้มเช้งไว้ เดินข้ามถนนไปยังร้านหมูกระทะที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ภาพที่เห็นทำเอาหลายคนพากันอิจฉาตาร้อน บ้างก็ยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูป บ้างก็ซุบซิบกันอย่างเสียดายหนุ่มใหญ่ โสด หล่อ รวยที่ใครๆ ต่างก็พากันหมายปอง จวบจนทั้งสามคนพากันหายเข้าไปในร้าน “รับกี่ที่ดีครับคุณทิวไผ่” พนักงานเสิร์ฟประจำร้านเดินเข้ามาทักแขกรายใหญ่ “ผู้ใหญ่สองเด็กหนึ่ง” “ทางนี้ครับ” พนักงานเดินนำลูกค้าขึ้นไปบนชั้นสอง เป็นที่นั่งแบบแยกโซน มีฉากกั้นระหว่างพื้นที่แบบเป็นส่วนตัว “รับน้ำอะไรดีครับ” “เบียร์สดหนึ่ง น้ำส้มคั้นสองแก้ว น้ำเปล่าหนึ่งขวด” “รับหมูกะทะเป็นชุดใหญ่เหมือนเดิมนะครับ” เด็กพนักงานถาม “อืม..เราจะเอาอะไรเพิ่มไหม” หันไปถามอาเจาซึ่งก็เห็นอีกฝ่ายส่ายหน้า “เอาแค่นี้พอ” รอจนพนักงานเดินออกไป ทั้งสามคนก็เริ่มคุยกันเกี่ยวกับอดีตแฟนของอาเจา “ม๊าาา…อย่าไปสนใจป้าคนนั้นเลยค่ะ” ส้มเช้งกอดแขนว่าที่หม่าม๊า อาเจาได้แต่กอดอีกฝ่ายกลับ “ไม่สนได้ยังไงล่ะครับ..มาทำเรื่องไว้ขนาดนั้น” มองเลยไปยังทิวไผ่ “ผมขอโทษแทนใบหม่อนด้วยนะครับ” “ขอโทษทำไม..ยัยนั่นกับเราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วไม่ใช่เหรอ” จ้องอาเจา “รึยังอาลัยอาวรณ์” “ใครจะไปอาวรณ์ผู้หญิงแบบนั้นกันครับ..ไม่รู้อาเจาคนก่อนรักไปได้ยังไง” คำพูดหลังสุดเอ่ยออกมาเบาๆ แต่สองพ่อลูกก็ยังได้ยิน ‘อาเจาคนก่อน คืออะไร?' “พูดอะไรของเราน่ะ” ทิวไผ่ถามออกไปด้วยความสงสัย “เปล่าครับ” อาเจาไม่คิดที่จะอธิบายให้มากความจึงเฉไฉไปพูดเรื่องอื่น รอไม่ถึงสิบนาทีอาหารที่สั่งก็มาถึงพร้อมกับเตาปิ้งย่างตามด้วยอาหารสดๆ มาหน้าหลายตา จวบจนพนักงานเสิร์ฟนำเข้ามาจนหมด สองพ่อลูกก็รู้ว่าอาเจาไม่รู้จักหมูกระทะ “ส้มเช้งจะสอนม๊าเองนะคะ” สาวน้อยตัวอ้วนสาธิตวิธีการทำและน้ำจิ้ม ก่อนจะกินโชว์อย่างเอร็ดอร่อย การดื่มกินในตอนนี้เต็มไปด้วยความสุข บทสรุปของหมูกระทะที่ทำได้ไม่ยากก็คือ หากมีครั้งหน้า อาเจาสัญญาว่าเขาจะทำทานเองที่บ้าน ซึ่งทิวไผ่เองก็เห็นด้วยเพราะเขาเชื่อว่าอาหารที่อาเจาทำอร่อยทุกอย่าง ระหว่างทางกลับบ้าน อาเจาไม่ลืมที่จะบอกคนขับรถมอเตอร์ไซค์ (ส้มเช้งนั่งข้างหน้า ทิวไผ่ขับ อาเจาซ้อนท้าย) “ขอบคุณนะครับที่ช่วยเรื่องใบหม่อน” “ตอนแรกที่เขาโทรมา ถ้าไม่ชอบก็บอกเขาไปตรงๆ สิ” “เมื่อก่อนอาจจะชอบ..แต่ตอนนี้มันไม่ใช่..ช่างเถอะครับ” และเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายจะตามมาหาถึงที่นี่ ถ้าไม่ติดว่ามีส้มเช้งมาด้วยเขาคงจะรุกอาเจามากกว่านี้เพราะหลังจากที่รู้ใจตัวเองมาสักพักทิวไผ่ก็ทำได้เพียงแค่ยอมรับ ลูกสาวก็มีแล้วขาดก็แต่แม่ของลูก เขามองเส้นทางกลับบ้านผ่านลมพัดเย็นๆ ก็ได้บทสรุปกับตัวเอง ‘ก็เอาคนนี้ล่ะ’ ยิ่งส้มเช้งสนับสนุนก็ยิ่งเข้าทางทำอาหารก็เก่ง งานบ้านก็เก่ง รักลูกสาวเรา จะถามว่ากลัวโดนอาเจามั้ย..มันก็ต้องกลัวบ้าง แต่เท่าที่สังเกตคือทุกครั้งจะเป็นเขาที่รุกอาเจาก่อนเสมอและอีกฝ่ายดูท่าจะไม่ค่อยรู้เรื่องแบบนี้ด้วยซ้ำ “เราไม่ได้กลับบ้านมาเป็นเดือนแล้วนะ เสาร์อาทิตย์นี้ว่าไงจะกลับไหม” “ก็คิดว่าจะบอกคุณเหมือนกันนะครับเพราะว่าที่ไร่ก็เข้าที่เข้าทางแล้ว ผมว่าจะลาขึ้นดอยสักสองวัน” พร้อมบอกส้มเช้งที่ติดเขาแจ “เด็กอ้วนอยู่กับป๊าสองคนไม่เป็นไรเนาะ” “เป็นสิคะ…ส้มเช้งจะไปด้วย” แหงนหน้าขึ้นถามพ่อตัวเอง “ส้มเช้งกับป๊าต้องไปด้วยใช่มั้ยคะป๊า..เราจะไปบ้านหม่าม๊ากัน ป๊าจะได้ไปขอหม่าม๊าไง” อาเจาหน้าเหวออยู่ด้านหลัง ใบหน้าแดงก่ำฝ่าความมืด “พูดอะไรไปเรื่อยอีกแล้ว..ใครจะไปขอใครกันครับตัวยุ่ง” ทิวไผ่หัวเราะชอบใจ “ฉันจะไปส่ง ก็อย่างที่ส้มเช้งบอก..จะเข้าไปคุยกับพ่อแม่เราด้วยนั่นล่ะ” “คุยอะไรครับ..ผมบอกพ่อคำปันกับแม่แก้วแล้วนะว่ามาดูแลส้มเช้งให้คุณ” “ก็คุยเรื่องที่ฉันจูบเรา..ฉันก็ต้องรับผิดชอบสิ” แกล้งถามลูกสาวที่หัวเราะอยู่ด้านหน้า “ใช่มั้ยลูกรัก” “ค่าาา” ยิ้มแก้มพอง “สรุปเราไปขอม๊าวันเสาร์นะคะ…เย้ๆๆๆ” “คุณน่ะ..กลับบ้านเดี๋ยวเราต้องคุยกันนะครับ” กอดเอวเจ้าของไร่ไปสุดทางจวบจนถึงไร่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD