บทนำ

1360 Words
ผู้หญิงนั้นเปรียบเหมือนดั่งกุหลาบ ที่มีทั้งความสวย ความหอม และพิษสงรอบตัว จนคุณคาดไม่ถึง นิ้วมือเรียวยาวถูกแต่งแต้มด้วยยาทาเล็บสีแดงเลือดหมูกำลังกรีดกรายอยูบนแผ่นเสียงเพื่อสร้างจังหวะเพลงให้มันเร้าใจปลุกอะดินา ลีนของเหล่าผีเสื้อราตรีให้วาดลวดลายออกสเต็ปอย่างไม่มียั้ง ปลดปล่อยอารมณ์ไปตามท่วงทำนองที่สนุกสนานน่าหลงใหลดั่งมีเวทมนตร์…. “รอรถเมล์ไปป้ายหน้า แต่ถ้าอยากซู่ซ่ามาหา…แพรลีน” วู้ววว เสียงกรี๊ดกร๊าดดังขึ้นมาในหมู่นักเต้นเท้าไฟที่กำลังคึกคะนองอย่างหนักกับจังหวะเพลงที่มันทะลุทุกโสตประสาทของการรับฟัง ‘แพรลีน’ ดีเจสาวเจ้าของบอดี้เอสไลน์สุดฮอต กำลังยืนโยกไปตามจังหวะเพลงที่เล่นอย่างมืออาชีพ ใคร ๆ ต่างก็ยกให้เธอเป็นเซ็กซี่ขยี้ใจตัวแม่แห่งปี ไม่ว่าจะลีลาการเล่นแผ่นหรือลีลาการเต้นที่สุดยั่วยวน ทั้งหมดล้วนทำให้หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ต่างระทวยไปตาม ๆ กัน ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมวันที่เธอมาเปิดเพลงถึงมีหนุ่ม ๆ มาอยู่หน้าบู๊ทดีเจเสมอ ก็เพราะว่าเธอน่ะชอบนุ่งสั้นเป็นชีวิตจิตใจ หึ…ถ้าใส่ยาวกว่าคืบ อย่ามาเรียกว่า แพรลีน!! เรื่องงานอ่อยงานยั่วขอให้บอกเถอะ จัดเต็มตลอดค่ะ อย่างวันนี้ก็เช่นกัน ชุดแซ็กสีแดงเพลินสั้นแค่คืบทำให้หนุ่มที่เกาะอยู่หน้าบู๊ทเวทีต่างก็ชะเง้อชะแง้ มองขึ้นมาอย่างเปิดเผยมาก แต่ถึงจะชอบยั่วแค่ไหน ก็เซฟตัวเองตลอดนะคะ ไม่เคยมีสักครั้งที่จะลืมใส่บอดี้แพนช์ไว้ข้างใน ซึ่งเรื่องนี้ต่างทำให้พวกผู้ชายที่มายืนส่อง บ่นเสียดายไปตาม ๆ กัน แต๊ก ๆๆๆ เสียงส้นสูงสีดำ 3 นิ้วกระแทกลงพื้นด้วยความมั่นใจ ดีเจสาวสุดฮอตเดินมาที่ห้องน้ำเพื่อเช็คความมั่นใจก่อนจะไปทักทายหนุ่ม ๆ ที่มาเที่ยวในคืนนี้ ลิปสติกสีแดงสดถูกหยิบขึ้นมาวาดลงบนริมฝีปาก ไม่มีอะไรจะทำให้มั่นใจได้เท่าสีแดงอีกแล้ว เพราะสีแดงเป็นสีแห่งความเซ็กซี่และดูเป็นสาวมั่นสุด ๆ ซึ่งยอมรับเลยว่าเหมาะกับสาวแซ่บอย่างเธอมาก ๆ ถ้าช้อนต้องคู่กับส้อมละก็ แพรลีนก็คงเกิดมาคู่กับลิปสติกสีแดง…… “รู้มั้ยรอนานแค่ไหน กว่าจะได้กอดเธอ” แอลโจ หนุ่มสุดฮอตรูปหล่อพ่อรวยกำลังยืนกอดรัดฉันอยู่อย่างโหยหา บ้านของเขาทำธุรกิจจิวเวอร์รี่ ยิ่งเขาเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน แน่นอนว่าความเอาแต่ใจพุ่งเกิน 100% จริง ๆ แล้วฉันไม่ชอบคนเอาแต่ใจเท่าไหร่หรอก แต่แอลโจก็ดีตรงที่ตามใจฉันและอีกอย่างเขาก็หล่อมาก หน้าตาเหมือนไอดอลเกาหลียังไงอย่างนั้นเลย ด้วยส่วนสูง 180 ทำให้เขาดูเหมือนนายแบบที่หลุดออกมาจากในหนังสือ มีคนแบบนี้มาตามจีบถ้าฉันไม่เล่นด้วยคงเสียดายแย่…. “ไม่เอาน่า นายก็กอดฉันอยู่นี่ไง” ฉันตวัดมือขึ้นมา กอดรัดรอบคอของแอลโจไว้ เราสองคนกึ่งนั่งกึ่งยืนอยู่ที่โต๊ะหน้าบาร์เครื่องดื่ม มือไม้เขาเริ่มอยู่ไม่สุขค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามต้นแขนและแผ่นหลังของฉัน ใบหน้าของเราเริ่มใกล้ชิดกันขึ้นเรื่อย ๆ จมูกรู้สึกถึงสัมผัสที่แผ่วเบาของกันและกัน แต่ก็ค้างไว้แค่นี้แหละ ฉันรีบดีดตัวออกมาก่อนที่ปากของเราจะประกบกัน แน่นอนว่าดูจากสถานการณ์แล้วฉันกำลังยั่วยวนให้เขาตายใจ งานยั่วต้องมาค่ะถนัดนักแหละ แต่ก็แค่ ‘ยั่ว’ ละนะ เห็นฉันดูง่าย ๆ แต่ได้ยากนะคะบอกเลย บอกไปใครจะเชื่อว่าแม่เสือสายดาวยั่วอย่างฉัน จะไม่เคยจูบกับผู้ชายหน้าไหนมาก่อนในชีวิต! “เดี๋ยวฉันขอตัวไปเซย์ฮัลโหลบรรดาแฟนคลับก่อนนะ” ฉันยิ้มหวานให้แอลโจก่อนที่จะเดินแบบเชิด ๆ เริ่ด ๆ ไปบริหารเสน่ห์ใส่หนุ่ม ๆ ที่มาให้กำลังใจฉันอย่างล้นหลาม แค่ฉันเดินผ่าน พวกเขาก็ทำท่าเหมือนจะขาดใจตายซะให้ได้ เฮ้ออ โทษทีนะก็คนมันสวย…ช่วยไม่ได้ ใครจะว่าฉันเป็นยังไงฉันไม่เคยสนใจ ฉันรู้แค่ว่ามีความสุขกับการได้ทำให้พวกผู้ชายคลั่ง เหมือนตัวเองเป็นราชินีที่นั่งอยู่บนบันลังก์ มีเหล่านักรบทั้งหลายมาสยบอยู่แทบเท้า คืออารมณ์แบบนี้มันฟินจริง ๆ นะ ตลอดทั้งคืนฉันวิ่งวุ่นอยู่กับการ…จะเรียกว่าอะไรดีล่ะ อ่อยผู้ชายเหรอ? ก็คงจะไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ เพราะฉันก็ไม่ได้อ่อยเป็นเรื่องเป็นราวอะไร เอาเป็นว่าทักทายแบบเล่นหูเล่นตาละกัน ดูอ้อร้อน่ารักน่าชังกว่าคำว่า ‘อ่อย’ เป็นไหน ๆ คืนนี้ที่ผับ ZULIA คนเยอะเป็นพิเศษ อาจเพราะเป็นวันศุกร์แรกของเดือนด้วย ฉันเลยกลับช้ากว่าปกติ ถึงห้องปุ๊บลบเมคอัพเสร็จกว่าจะได้นอนก็เกือบตี 3 เข้าไปละ ความจริงฉันไม่ต้องกังวลเรื่องเวลาเลยถ้าหากว่าวันพรุ่งนี้ไม่มีนัดสอนพิเศษที่มหาวิทยาลัย ชีวิตปกติยามเช้าฉันก็เป็นนักศึกษาธรรมดาคนนึงนี่แหละ ฉันอยู่ปี 3 คณะนิเทศศาสตร์ ระหว่างที่ฉันเดินเข้ามาในคณะ ระหว่างทางก็เห็นคนอื่น ๆ ซุบซิบเรื่องเกี่ยวกับฉันตลอด ก็แน่นอนคนอย่างฉันใช่ว่าจะฮอตแต่ตอนกลางคืนซะที่ไหน ตอนกลางวันฉันก็จัดเต็มเหมือนกันค่ะ เสื้อนักศึกษาเข้ารูปพอดีตัวค่อนข้างฟิตเล็กน้อยกับกระโปรงสั้นแบบพอดี ๆ เผยให้เห็นเรียวขาเล็ก ๆ ไม่ทิ้งคอนเซ็ปต์สาวเซ็กซี่ แม้ว่าฉันจะเปรี้ยวขนาดไหน แต่ฉันให้เกียรติชุดสถาบันเสมอ ฉันรู้เลยว่าคนอื่น ๆ พูดถึงเรื่องฉันไม่ค่อยดีนัก แต่คนอย่างแพรลีนมีหรือจะสน เพราะไม่มีใครรู้จักฉันดีเท่ากับตัวฉันเอง ในเมื่อฉันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูด ๆ กัน ก็ไม่ควรที่จะเก็บมาใส่ใจ จริงมั้ย? “โอโห้ วันนี้นางแซ่บอีกแล้วค๊าเพื่อนสาว” ‘เนเน่’ เพื่อนสาวในร่างชายออกปากแซวตั้งแต่ฉันยังเดินมาไม่ถึงโต๊ะ เนเน่เป็นเพื่อนสนิทที่คบกันมาตั้งแต่ปี 1 ฉันเคยชวนนางไว้ตอนรับน้องก็เลยเป็นเพื่อนกันมาจนถึงวันนี้ “โอ้ยๆๆ ดูเมคอัพนางสิ เปรี้ยวเยี่ยวราดจริงจริ๊งแม่คุณ” “ถ้าไม่เปรี้ยวก็ไม่ใช่ ‘แพรลีน’ สิจ๊ะ” มารีนออกโรงแซวขึ้นมาบ้าง ทำเอาฉันอดหัวเราะไปกับสองคนนี้ไม่ได้เลย มารีน เป็นผู้หญิงที่ดูเหมือนจะเรียบร้อย ผมยาวเหยียบตรงสีดำสนิทรับกับใบหน้ารูปไข่ที่ไม่ค่อยแต่งแต้มสีสันนัก ให้ความรู้สึกว่าไร้เดียงสาดี น่าทะนุถนอม เห็นภายนอกเรียบร้อยแบบนี้ จริง ๆ แล้วเธอก็ไม่เบาเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นเหยี่ยวข่าวตัวยง ทุกเรื่องในมหาวิทยาลัยไม่เคยรอดพ้นสาวตาหล่อนได้หรอก ใครคบใคร ทิ้งใคร เลิกใคร นางรู้หมดค่ะ เพื่อนหาย แฟนมีชู้ คู่มีกิ๊ก มาจ้างนางได้หมด เรื่องสืบ ๆ ขอให้บอก สโลแกนประจำตัวนาง ‘เรื่องตัวเองไม่ยุ่ง มุ่งแต่เรื่องชาวบ้าน’ ฉันกับมารีนเพิ่งจะมาสนิทกันตอนปี 2 นี่เอง เรื่องของเรื่องคือมารีนตามสืบเรื่องของฉันมาตลอดตั้งแต่ฉันเข้าเรียนที่นี่ใหม่ ๆ เพราะความฮอตไปกระแทกตารุ่นพี่อดีตดาวคณะ เลยจ้างวานให้มารีนมาสืบเรื่องส่วนตัวฉัน ตอนแรกยัยนี่ก็เอาเรื่องฉันไปโพนทนาจนทั่วมหาวิทยาลัยจนฉันถูกตราหน้าว่า ‘บ้าผู้ชาย’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD