“กรี๊ดดดดดด นายจะทำบ้าอะไร”
“ในเมื่อพูดด้วยดีๆ ไม่ชอบ ก็ต้องใช้ไม้นี้แหละ”
“กะ...ก็ได้...บอกก็ได้...แต่ฉันมีข้อแม้” ว่าแล้วก็พยายามหาทางรอดให้ตัวเอง ก่อนที่ไอเดียบรรเจิดจะแล่นเข้ามาในหัวของเธอ “เล่นเกมกันถ้าฉันแพ้1ครั้ง ฉันจะตอบ1คำถาม”
“เกมอะไร คิดว่าฉันว่างมากถึงขั้นมาเล่นเกมไร้สาระกับเธอเหรอ” แน่นอนว่าใช่ เพราะบัดนี้ไอ้คนที่ทำขรึมได้มานั่งเล่นเกมเยลลี่พิษกับเธอที่กลางห้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“หลับตาสิ ฉันจะได้จิ้มว่าเยลลี่ของฉันมันอันไหน”
“ฟู่ว” เขาพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ ทำทีเป็นรำคาญทว่าสุดท้ายก็ทำตามและบ้าจี้มาเล่นด้วยอยู่ดี
“ห้ามลืมตานะ ฉันจะได้จิ้ม”
“เออ เร็วๆ เถอะน่า ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทนกับเธอ” จากนั้นเฟอร์ก็ตั้งกล้องแล้วจิ้มว่าของตัวเองสีไหน ซึ่งตัวที่เธอจิ้มคือสีเขียว เพราะเยลลี่สีเขียวคือสีที่เธอชอบที่สุด
“เสร็จแล้ว ตานาย”
“แล้วฉันจะรู้ได้ไงว่าเธอจะไม่โกงฉัน” เขาเลิกคิ้วแล้วมองเธอ ไม่ค่อยไว้ใจยัยนี่สักเท่าไหร่
“ว่าแล้วว่าต้องพูดงี้ นี่ไงตั้งกล้องไว้ค่อยวนมาดูว่าฉันโกงไหม”
“งั้นเอางี้ นอกจากแพ้แล้วต้องตอบคำถามฉัน คนแพ้ต้องดื่มด้วย” เขาเสนอ พร้อมกับเดินไปหยิบไวน์ขาวในตู้มาวางไว้แล้วเทลงไปในแก้วรอ
“ได้ดิ...อึก...” ตอบกลับพร้อมกับมองไปที่ไวน์ด้วยความอยาก
“กระดกเลยไหม ถ้าจะกลืนน้ำลายขนาดนี้” พะพายประชดประชันขึ้น
“เร็วๆ รีบจิ้ม” เธอเร่งเร้า แล้วเขาก็จิ้มไปที่สีเขียวอีกตัว เพราะเขาเองก็ชอบเยลลี่หมีสีเขียวเช่นกัน
“เลือกแล้ว” สิ้นคำของเขาเธอก็ลืมตา พร้อมกับเริ่มเกม
“ใครจะเริ่มกินก่อน” เธอถามแล้วมองดูเยลลี่เกือบสิบชิ้นที่อยู่ในจาน ซึ่งในจานมีสีเขียวแค่สองชิ้นเท่านั้น นอกนั้นก็เป็นสีอื่นคละๆ กันไป
“เธอเริ่ม!”
เธอพยักหน้าตอบรับแล้วเอื้อมมือไปหยิบเยลลี่สีเขียวที่เป็นของพะพายเข้าปากไป ส่วนคนที่นั่งมองก็ได้แต่ยกยิ้มกับตัวเอง ไม่คิดว่าเธอจะจบเกมง่ายขนาดนี้
“มีพิษ!” เขากล่าวแล้วหยิบแก้วไวน์ส่งให้เธอ
“อ๊ะ...ขี้โกงปะเนี่ย”
“ดูเอง” พยักหน้าไปที่โทรศัพท์มือถือที่อัดคลิปเอาไว้ ซึ่งก็เป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆ เพราะเธอดันเจอเยลลี่พิษของเขาตั้งแต่ตาแรกเลย
“จิ๊ มาเลือกสีเดียวกับฉันทำไมเนี่ย” บ่นกระปอดกระแปดพลางยกไวน์กระดกทีเดียวหมดแก้วราวกับคนกระหายน้ำ ถามว่าชอบไหม แน่นอนแหละว่าชอบอยู่แล้ว แต่ที่หงุดหงิดก็คือต้องตอบคำถามของเขานี่สิ
“ทำไมถึงได้มาอยู่ที่ห้องน้องสาวฉัน”
“คือ...ฉันโดนโรคจิตตาม...แล้วฟ้าสงสารก็เลยให้ฉันมาอยู่ที่นี่” เธอตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จไปตามคำสั่งของละอองฟ้าที่เคยเสนอให้เธอพูดแบบนี้
“แล้วน้องฉันไปไหน”
“อ๊ะ...คำถามเดียว...อย่ามาเนียน” เกือบหลุดปากตอบแล้ว แต่ลืมไปว่าเธอยังอยู่ในเกม ก็เลยเทเยลลี่หมีลงมาเพิ่มอีกตามด้วยเลือกเยลลี่ในรอบต่อไป ซึ่งรอบนี้เธอเลือกสีแดง ส่วนพะพายเลือกสีเขียวเช่นเดิม
แต่ใครจะไปรู้ว่ายัยเฟอร์จะเป็นผู้โชคร้ายตั้งแต่เริ่มเกมอีกตามเคย เพราะรอบนี้แม้จะมีเยลลี่สีเขียวมากกว่ารอบแรก ทว่าเธอกลับจิ้มถูกตัวซะด้วย ดันไปจิ้มโดนเยลลี่ของพะพายซะงั้น ก็เลยต้องดื่มไวน์ตามระเบียบ และมันทำให้เขารู้ว่าเธอชอบเยลลี่สีเขียว
“ตอบมาว่ายัยฟ้าไปไหน ทำไมไม่อยู่คอนโด”
“น้องนายไปตามจีบพี่ฉัน”
“ว่าไงนะ!! ยัยฟ้าเนี่ยนะตามจีบผู้ชาย พูดเป็นเล่นไป”
“อืม”
ด้วยเพราะยังมีคำถามมากมายที่เขาจะต้องรู้จากปากเธอให้ได้ จึงเล่นเกมต่อ และทุกครั้งราวกับฟ้าดินเป็นใจ เพราะเขาดันรู้ไต๋เธอและเลือกเยลลี่ที่คิดว่าเธอต้องกินแน่ๆ ซึ่งก็เป็นแบบนี้ทุกรอบ เพราะมีแค่เธอเท่านั้นที่แพ้ แถมตอนนี้จากที่ตอบคำถามของพะพาย ก็กลายเป็นนั่งร้องไห้เล่าปัญหาชีวิตของตัวเอง ไม่พอแค่นั้น ยังบอกความลับที่เธอและละอองฟ้าคุยกันจนหมดเปลือกโดยที่ไม่ต้องเล่นเกมต่อเลย กระดกไวน์อย่างเดียว
“เฮ้อ...มันใช่ไหมเนี่ย เสียเงินสามแสนมานั่งปลอบใจคนเมาเนี่ย”
หมับ!!
“นี่ นายฟังฉันอยู่หรือเปล่าเนี่ย” ฝ่ามือเล็กทั้งสองข้างคว้าหมับไปที่ใบหน้าของพะพายให้หันมามองหน้าเธอ ดวงตากลมโตเยิ้มไปด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่เธอดื่มเข้าไปค่อนข้างเยอะ และพยายามบังคับให้เขามองหน้าเธอที่กำลังระบายปัญหาชีวิตเรื่องเพื่อนของเธอตามที่เธอต้องการ
“เออ...ฟังอยู่...”
“ยัยนั่นเป็นเพื่อนคนเดียวของฉันเลยนะ แล้วดูสิ มาทำแบบนี้กับฉันได้ไง ฮึก...”
“ทำไมเธอไม่มีเพื่อนล่ะ”
“ฉันนิสัยเสียมั้ง เลยไม่มีใครอยากคบ” เธอตอบ ดวงตาที่ชุ่มไปด้วยน้ำตาเหม่อลอย พานนึกถึงสิ่งที่เคยทำกับเพื่อน ทั้งที่ทุกข์ สุขด้วยกันมาก็ตั้ง4ปี ทำไมถึงได้มาทำแบบนี้กับเธอได้ มองแล้วก็อดที่จะเห็นใจไม่ได้ และไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่มือหนาเอื้อมไปเช็ดน้ำตาออกให้เธอ
“ไม่หรอก คนเรามันก็มีทั้งดีและไม่ดีทั้งนั้น เธออาจจะสบายใจที่อยู่กับเพื่อนคนนี้ไง เลยเผยด้านไม่ดีออกมาโดยไม่รู้ตัว เมื่อไหร่ก็ตามที่เราอยู่กับใครแล้วสบายใจ เราจะเผลอนิสัยเสียออกมา”
“ฉันเอาแต่ใจ ฉันหัวสูง แต่นายเข้าใจไหมว่าฉันไม่เคยใช้ชีวิตแบบนี้ แล้วการที่ฉันทำแบบนี้มันก็ดึงเพื่อนเข้ามาหาฉัน ทุกคนให้ความสนใจฉัน แล้วฉันมีความสุข”
“แต่เธอจะโกหกคนอื่นตลอดไปไม่ได้ไง สักวันคนอื่นก็ต้องรู้ ว่าชีวิตหรูๆ ไฮโซที่เธอสร้างมันขึ้นมา มันไม่มีอยู่จริง ทำไมไม่ยอมรับความจริงไปเลย จะได้ไม่ต้องมาเหนื่อยสร้างเรื่อง”
“ก็เหนื่อยนะ แต่มีความสุข ฉันจะทำต่อ”
“งั้นเธอก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมา เมื่อไหร่ก็ตามที่ความจริงเปิดเผย สุดท้ายแล้วเธอจะไม่เหลือใครจริงๆ สักคน”
“แต่ฉันก็ไม่ได้ทำใครเดือดร้อนนี่”
“ไม่เดือดร้อนน่ะใช่ แต่ไม่มีใครชอบเรื่องโกหก”
“เฮ้อ...ไม่คุยด้วยแล้ว เหมือนคุยอยู่กับตาแก่เลย” ร่างเล็กกล่าวแล้วทำทีจะลุกขึ้นไปนอน เพราะตอนนี้ก็รู้สึกง่วงแล้ว แต่ทว่าขณะที่เธอกำลังจะลุกขึ้นความมึนเมาก็วิ่งเข้ามาเล่นงานเธออย่างจัง ทำให้เสียหลักล้มลง โชคดีที่พะพายเอาตัวเองมารับเธอไว้
แต่ด้วยความที่คนเมาอะ เลยทำให้เขาและเธอเสียหลักล้มไปทับกันเข้า แทนที่จะได้มองตากันอย่างโรแมนติกแล้วเคลิ้มจูบกันแบบในละครหลังข่าว ทว่ากลับไม่ใช่เลย เพราะความมึนเมาที่เล่นงานเธออย่างหนักมันทำให้ร่างที่โคลงเคลงไปมาเวียนหัว พร้อมกับ...
“อึก...อ้วก...”
แผละ!!
“อี๋!! ยัยหมากระเป๋า...ลุกออกไปเดี๋ยวนี้”
ปั่ก!!
“อ๊ะ”
ด้วยความรังเกียจร่างสูงจึงผลักร่างเล็กที่ทับอยู่บนตัวเขา แถมยังโก่งคออ้วกใส่เขาจนแทบหมดไส้หมดพุง จนร่างเล็กกระเด็นหงายท้องไปอยู่ที่พื้น พร้อมกับรีบถอดเสื้อที่เปื้อนอ้วกของเธอออกด้วยความขยะแขยง
“เชี่ยแม่ง เห็นแล้วจะอ้วกตามเลย” พะพายบ่นกับตัวเองอย่างหัวเสีย แล้วรีบไปจัดการซักเสื้อ โชคดีที่กางเกงไม่ได้เปื้อนอะไร
เมื่อล้างเนื้อล้างตัวเสร็จก็เดินออกมา เห็นสภาพเฟอร์ที่นอนเมาหัวราน้ำก็อดเวทนาไม่ได้ เลยจำใจเดินไปช้อนตัวเธอไปนอนที่เตียง ผู้หญิงอะไร เมาแล้วยังสวย แถมตัวเล็กยกง่ายอีก ข่มขืนเลยดีไหมเนี่ย เขาถามตัวเองในใจขณะที่อุ้มร่างของเธอไปที่เตียง พร้อมกับใช้สายตาพินิจพิจารณาเธอแทบตลอดทาง จนเกือบสะดุดขาตัวเองล้มอยู่หลายครั้ง มัวแต่มองเธอไม่มองทาง เกือบหัวฟาดพื้นตายคู่แล้ว