ตอนที่ 9 ช่วยสาวงาม

1842 Words
ตอนที่ 9 ช่วยสาวงาม คำพูดของท่านแม่ทัพหยางก่อนจากลาทำให้คนป่วยที่แสร้งป่วยทำให้นางคิดหนัก เขาหนีนางไปอีกแล้ว ดวงตากลมโตทอแสงหม่นหมองปนโศกเศร้าเสียใจ ใบหน้างามนี้ไร้ความรู้สึกราวกับว่ามันด้านชาไปแล้ว “ลี่จู เจ้าดูเขาสิทิ้งเจ้าไว้แล้วก็ทิ้งข้าอีกด้วย” คนตัวเล็กบ่นอุบอิบเข้าให้ ในอ้อมกอดของนางเจ้าลี่จูลูกแมวตัวสีขาวขดตัวนอนอยู่ในอ้อมกอดของท่านแม่ด้วยท่าทางช่างมีความสุขนัก มือเรียวงดงามค่อย ๆ ลูบไล้ขนฟู ๆ อย่างเบามือ เจ้าลี่จูดูเหมือนจะถูกใจนักหนามีท่านแม่เกาหลังให้นางอย่างสบายใจ เจ้าลี่จูตัวเล็กเป็นแมวตัวเมีย สีขาวขนฟูฟ่องงดงามทีเดียว ยามอยู่ในอ้อมแขนของท่านแม่ผิงอันเพียงแค่ครู่เดียว รับรู้ความอบอุ่นยิ่งนัก ทำให้เจ้าลูกแมวน้อยประสบเคราะห์ร้ายรู้สึกถึงความปลอดภัย จึงได้ขดตัวนอนซุกอยู่ในอ้อมกอดโดยที่ไม่ดิ้นหนี หากเจ้าลี่จูตอบได้ มันก็คงจะตอบว่าท่านแม่ใจเย็นเถิด ท่านพ่อไปทำงาน เจ้าแมวน้อยได้ยินเสียงของผิงอันน้ำเสียงนั้นหดหู่นัก หูของมันตั้งรอฟังคำพูดแต่ทว่ามันพูดโต้ตอบไม่ได้นี่สิ จึงทำได้แค่เพียงนอนอยู่ในอ้อมแขนที่อบอุ่น อาถงเดินกลับเข้ามาพร้อมกับสำรับอาหารหนึ่งชุด จู่ ๆ เจ้าลี่จูตัวเล็กก็ดิ้นรนคิดจะหนีเพียงแค่ได้กลิ่นอาหารที่แสนหอมชวนหิว “คุณหนูลูกแมวมาได้อย่างไรเจ้าคะ” อาถงตกใจยิ่งนักจู่ ๆ เจ้าลูกแมวตัวนี้ก็มานัวเนียพันแข้งพันขาท่าทางช่างออดอ้อนน่ารักไม่เบา “ท่านแม่ทัพนำมามอบให้ข้า” สิ้นเสียงหวาน เจ้าลูกแมวช่างอ้อน กระโดดขึ้นนั่งบนตักท่านแม่ สายตามองไปยังอาหารที่อาถงวางเอาไว้บนโต๊ะ ผิงอันหัวเราะคิกคัก เห็นท่าทางมีมารยาทของลี่จู นางจึงได้ยกมือขึ้นลูบหัวของมัน “ลี่จู เจ้าช่างน่ารักมีมารยาทยิ่ง เดี๋ยวแม่จะให้อาถงแกะปลาให้เจ้าดีหรือไม่” “ปลาหรือเจ้าคะ ในครัวไม่มีเลยมีเพียงแค่เนื้อไก่เจ้าค่ะ” อาถงรีบพูดขึ้น อีกอย่างนางนึกขึ้นได้ว่า พ่อบ้านเฟยจะนำมาปลามามอบให้ตอนเย็นนี่นา “รอพ่อบ้านเฟยดีหรือไม่เจ้าคะ ระหว่างนี้เจ้าแมวน้อยกินนมแพะไปก่อนดีหรือไม่” “เอาอย่างที่เจ้าว่าเถิด ตัวยังเล็กต้องกินนมเยอะ ๆ เข้าใจหรือไม่” เหมียว...เหมียว ลี่จูร้องทักทายหัวเล็ก ๆ นั่นถูไถเข้ากับหน้าอกนุ่มนิ่มของท่านแม่ ดีนะที่เป็นตัวเมียหากเป็นตัวผู้คงคิดว่าแมวน้อยกินเต้าหู้ผิงอันเป็นแน่ ผิงอันหัวเราะคิกคักร่าเริงสดใส หลงลืมไปแล้วว่าตนเองปวดขาด้วยเหตุใด แค่มีเจ้าลี่จูตัวน้อยทำให้นางเบิกบานใจยิ่ง นั่นเพราะอากาศหนาวเย็นนางมิคุ้นชิน จนปวดเข้าถึงกระดูกก็แค่นั้นเอง หยางเฟยเทียนควบม้ามาถึงจุดนัดหมาย คนของพวกเขาซ่อนตัวอยู่ในป่ารกทึบ แต่ละคนอำพรางกายสวมชุดดำแทบจะจำกันไม่ได้ มีเพียงแค่พู่ห้อยสีแดงเท่านั้น เกาเหวินเมื่อเห็นท่านแม่ทัพมา เขารีบร้อนเอ่ยแจ้งเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น “สตรีห้าคนถูกปิดปากซ่อนอยู่ขอรับจะให้พวกเราบุกเลยหรือไม่” เกาเหวินร้อนใจ เมื่อมองเห็นไกล ๆ เป็นหญิงสาวถูกมัดมือเดินกันแทบจะไร้เรี่ยวแรง สตรีพวกนี้เป็นคนแคว้นติดกัน ดูเหมือนจะถูกลักพาตัวมาแน่ “รอดูพวกมันก่อนว่าจะนำพวกนางไปที่ไหนกันแน่” หยางเฟยเทียนเอ่ยขึ้นจ้องมองไปยังกลุ่มชายเหล่านั้น แต่ละคนร่างกายใหญ่โตกำยำสีหน้านั่นดูอำมหิตไม่น้อย มีชายผู้หนึ่งคิดว่าเป็นหัวหน้าสวมหน้ากากอำพรางเอาไว้ นั่งอยู่บนม้าตัวใหญ่ ชี้มือชี้ไม้สั่งการไปหลายคำ ชายที่ถูกเพ่งเล็งเอาไว้ น้ำเสียงแข็งกระด้างเอ่ยกล่าวกับเหล่าผู้ติดตาม “ดูพวกนางให้ดี อย่าให้มีรอยขีดข่วน” คำสั่งแกมบังคับ หญิงสาวห้าคนนี้ถูกลักพาตัวมาคาดว่าคนเหล่านี้จะนำนางไปขายเป็นแน่ หญิงสาวรายหนึ่งถูกมัดมือ สีหน้าบูดบึ้ง ใบหน้ามีรอยคราบเปื้อนติดบนใบหน้า นางมิได้ร้องไห้โอดครวญหรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด ชายพวกนี้ลากพวกนางก็ทำได้แค่เพียงเดินตามมิได้โต้แย้งใด ๆ แววตาของนางสอดส่องสองข้างทาง หาหนทางลงมือ “พวกนางจะทำกำไรให้ข้าได้มากโข พวกเจ้าเองก็เช่นเดียวกัน” ชายสวมหน้ากากพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะเต็มไปด้วยความสุข ภาพของเงินกองอยู่เบื้องหน้าเขาแล้ว คาดว่าเพียงแค่ส่งหญิงสาวกลุ่มนี้เขาจะต้องได้เงินเป็นกอบเป็นกำแน่ ๆ สตรีเหล่านี้เป็นบุตรีขุนนางในอีกฝากฝั่งหนึ่ง กิริยามารยาทล้วนถูกอบรมสอนสั่งมาอย่างดี หากได้รับแขกยิ่งทำให้เหล่าลูกค้าติดอกติดใจเป็นแน่ แต่ละคนก็ล้วนงดงามสะโอดสะองกันทั้งนั้น เขาเห็นแล้วก็เกิดอยากจะจับสตรีสักคนมาอุ่นเตียงให้เขาเหลือเกิน “นี่” เสียงสตรีนางหนึ่งเอ่ยขึ้น “ข้าหิว” นางบอกสิ่งที่ต้องการเพื่อต้องการถ่วงเวลาให้คนของนางติดตามได้เร็ว แต่ก็แอบคิดว่าหิมะตกลงมาเช่นนี้ คนของนางจะมาช่วยนางทันหรือไม่ ความซวยของนางก็คือแอบหนีมาเดินเล่น จู่ ๆ ก็ถูกจับมา และยังดีที่ว่ามีคนของนางเห็นเข้า นางจึงส่งสัญญาให้ไปแจ้งพี่ชายให้มาช่วยเหลือ คนพวกนี้ฝีมือดีนัก นางเป็นสตรีมีวรยุทธ์เพียงแค่ปกป้องตนเองเท่านั้น ชายชุดดำกลุ่มนี้มีคนมากกว่านาง อีกอย่างตัวคนเดียวจะสู้ไหวได้อย่างไรกัน อะไรที่ยอมได้รักษาชีวิตได้นางก็ทำตามทั้งหมด ขอให้มีชีวิตรอดก็พอแล้ว “หิวก็รอ เดินอีกไม่กี่ก้าวก็ถึงที่พักแล้ว” ชายสวมหน้ากากพูดขึ้นมา เมื่อเห็นหญิงงามแววตาดูไม่ยอมจำนน เขาชอบนักสายตาเช่นนี้ย่อมยากปราบพยศนาง เขายกยิ้มขึ้นเล็กน้อยและจางหายไปอย่างทันท่วงทีเขาหยุดม้าเพื่อรอให้หญิงเหล่านี้เดินผ่าน เมื่อพบเป้าหมายคนงามที่เขาหมายมาดมั่นว่าจะปราบพยศนาง เขาช้อนตัวนางโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างบอบบางลอยหวือขึ้นมานั่งที่อานม้าของชายหนุ่มผู้สวมหน้ากากอำพรางเอาไว้ สายตาของเขาดูจาบจ้วงเล็กน้อย แปรเปลี่ยนเป็นแย้มยิ้มที่มุมปากอีกครั้งหนึ่ง “เจ้าสวยนัก ถึงที่พักข้าจะให้เจ้ามาอุ่นเตียงให้ข้า แลกกับการไม่ต้องถูกขายเป็นผู้หญิงของข้าเจ้าสนใจหรือไม่” ชายผู้นี้กระซิบกระซาบข้างใบหูของหญิงงาม นางแย้มยิ้มอย่างมีชั้นเชิงแพรวพราวเจ้าเล่ห์ “นายท่าน จะให้ข้าแค่อุ่นเตียงหรือ” นางพูดจาเสียงอ่อนหวานออดอ้อนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ท่าทางนั้นดูยั่วยวนยิ่งนัก ทว่านางรู้สึกขยะแขยงพวกนี้เหลือเกิน ยังไม่ถึงอึดใจมือที่มัดอยู่ก็ถูกชายผู้นี้คลายออกมา หญิงสาวมองหน้าของชายหนุ่ม นางใช้มารยาเล็กน้อย “นายท่าน ข้าร้อนยิ่งนักอยากจะอาบน้ำเหลือเกิน” อากาศหนาวจะตายแสร้งบอกว่าร้อนไร้เหตุผลสิ้นดี “ข้าร้อนกายเจ้าค่ะ นายท่านข้า...อยากอุ่นเตียงให้ท่านแล้ว” สตรีเจ้าเล่ห์ใช้ความอยากกระสันของชายหนุ่มมาแอบอ้าง ชายสวมหน้ากากคิดไม่ถึง เขาคงจะคิดน้อยไปเสียหน่อยเมื่อเห็นหญิงสาวรายนี้ ค่อย ๆ แหวกสาบเสื้อจนเห็นเนินหน้าอกอวบอิ่ม ทั้ง ๆ ที่อากาศหนาวเย็น ยามพูดคุยมักจะมีไอสีขาวลอยออกมาจากริมฝีปาก “เจ้าร้อนแรงนักอีกเดี๋ยวก็ถึงแล้ว ข้าจะมอบความสุขให้เจ้าจนลืมไม่ลง” เขาพูดขึ้นจากนั้นก็เร่งม้าออกไปท่ามกลางปุยหิมะร่วงหล่นลงมาบางเบาเท่านั้น หญิงสาวแต่ละคนแม้ว่าจะถูกมัดมือเอาไว้ พวกนางสวมชุดคลุมราคาแพงอีกด้วย เหล่าชายที่กำลังซุ่มดูเหตุการณ์นั้นต่างระแวดระวังตนเป็นอย่างดี ท่านแม่ทัพหยางสวมหน้ากากมนุษย์ปิดบังใบหน้าเป็นชายหน้าตาอัปลักษณ์ เกรงว่ากลัวอีกฝ่ายล่วงรู้ว่าเป็นผู้ใด เห็นม้าตัวใหญ่นั่นวิ่งออกไป ตัวเขาจึงได้เร่งตามไป คนที่เหลือก็ค่อย ๆ แอบซุ่มตามอยู่ห่าง ๆ มองทิศทางที่จะไปก็พบเห็นกับกระท่อมร้างอยู่กลางป่า เกาเหวินคิ้วกระตุกหลายครั้งคลายครา ท่านแม่ทัพอาการป่วยด้วยพิษร้ายยังไม่หายดี ยามนี้มิห่วงอาการยังฝืนร่างกายตนเองอีก เขาอดเป็นห่วงไม่ได้กลัวว่าจะพลาดพลั้งบาดเจ็บอีกหน ครั้นเมื่อถึงกระท่อมกลางป่า หญิงสาวนางนี้ถูกชายสวมหน้ากากกระทำตัวป่าเถื่อนทั้งล้วงทั้งจับนางท่ามกลางป่าเขามิอายสายตาผู้ใด “กลางป่าเช่นนี้จะมีใครเล่า” เขาพูดขึ้นมา มือหนาหยาบกร้านของเขาล้วงเข้ามาที่เนินอกสล้าง คีบติ่งเนื้อสีหวาน ทั้งขยำแล้วเค้นคลึงนางด้วยความหื่นกระหายหิว สาวงามมิได้ต่อว่าปล่อยให้ชายผู้นี้กินเต้าหู้มิคิดอันใด มือเรียวโอบกอดต้นคอของเขาเอาไว้ ริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้มทาบทับเข้าที่ชายหนุ่มเจ้าโจรราคะนี่เสีย คล้อยหลังเห็นว่าเขาไม่หวาดระแวงอันใดหญิงสามดึงปิ่นปักผมออกแทงเข้ามายังต้นคอของอีกฝ่าย หญิงสาวรายนี้ถูกชายสวมหน้ากากยกมือขึ้นหมายจะจัดการ ท่านแม่ทัพหยางชายอัปลักษณ์ เข้ามาช่วยได้ทันการเหมาะเจาะยิ่งนัก อาการบาดเจ็บที่มีอยู่ก่อนหน้าทำให้เขามีพละกำลังเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งสองต่อสู้กันอยู่พักใหญ่ต้นไม้กิ่งหักไปหลายต้น กระบี่วาววับของชายสวมหน้ากาก ฟาดฟันเข้าให้ที่ชายอัปลักษณ์ได้รับบาดเจ็บที่แขน สตรีน้อยนางนี้เร่งลงมือเข้าจู่โจมกลายเป็นว่าสองรุมหนึ่ง กว่าชายชุดดำจะยอมจำนนด้วยเนื้อตัวสะบักสะบอมอาบไปด้วยโลหิต หญิงสาวจับกุมชายสวมหน้ากากได้แล้วมัดมือปิดปากเขาเอาไปซ่อนไว้ในกระท่อม นางเดินออกมาดูบาดแผลให้ชายหนุ่มผู้นี้กลับไม่พบเสียแล้ว “ท่านเป็นใครกันแน่นะ สักวันข้าจะตอบแทนน้ำใจที่ช่วยเหลือข้า”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD