เพลย์บอยอ้อนรัก

ตอนที่ 1 ณ กรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา แม็ก คาร์ลอส ควงคู่ขาคนใหม่ออกงาน โชว์เครื่องเพชรขนาดใหญ่ ภายในงานมีแต่คนใหญ่คนโตระดับมหาเศรษฐีกันทั้งนั้น งานวันนี้ถูกจัดขึ้นอย่างสวยงาม หรูหราและยิ่งใหญ่ แม็ก คาร์ลอส หนุ่มหล่อรวย อายุน้อย เขาเป็นหนุ่มเจ้าสำราญเปลี่ยนผู้หญิงควงบ่อย เขาได้ฉายาเพลย์บอยตัวพ่อแห่งนิวยอร์ก เพราะความเจ้าชู้ที่ได้รับเชื้อมาจากผู้เป็นบิดาเต็มขั้น จึงทำให้ผู้เป็นแม่ทนไม่ได้กับความเจ้าชู้ของผู้เป็นพ่อ ท่านจึงตัดสินใจกลับไปอยู่ที่ประเทศไทยเมื่อสิบปีก่อน ตอนนั้นแม็กอายุได้ยี่สิบสองปี เพราะเขาโตเป็นผู้ใหญ่และเรียนจบในระดับหนึ่งแล้ว ผู้เป็นแม่เลยหมดห่วง ท่านกลับไปใช้ชีวิตที่สงบสุขที่ประเทศไทย ท่านเหงา เพราะไม่มีใคร คุณขวัญนภา เลยไปอุปการะเด็กที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า มาเลี้ยงเป็นลูกอีกหนึ่งคน ตอนนี้เด็กคนนั้นอายุได้ยี่สิบปีเต็มแล้ว และเมื่อสามปีก่อน คุณพ่อของแม็ก ก็ได้เสียชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุ หน้าที่และตำแหน่งงานทุกอย่างจึงตกอยู่กับลูกชายเพียงคนเดียว นั่นก็คือแม็ก แต่สมบัติทุกบาททุกสตางค์ที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ตกอยู่ที่ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแต่เพียงผู้เดียวก็คือ คุณขวัญนภาผู้เป็นมารดาของแม็กนั่นเอง ตั้งแต่ที่บิดาของแม็กเสียไป แม็กก็ได้เป็นคนมีหน้ามีตาทางสังคมแทนผู้เป็นบิดา เขาแสดงความสามารถให้กับหุ้นส่วนในบริษัทได้เห็น ใช้เวลาไม่ถึงปี ก็เป็นที่ยอมรับในความสามารถด้านการทำงาน และด้วยความเก่ง หล่อ และรวยขั้นเทพของเขานั้น ก็ทำให้มีสาวๆ มาตอมติดเรียกได้ว่าแค่กระดิกนิ้ว พวกนางก็สามารถขึ้นเตียงกับเขาได้แล้ว แม็กเป็นคนเบื่อง่าย เขาไม่ค่อยนิยมใช้ผู้หญิงซ้ำ ไม่เคยจริงจังกับคู่นอนคนไหน เขามักจะมีความสัมพันธ์กับคู่นอนแบบ ขึ้นเตียง...จ่ายเงิน...จบ! ภายในงานมีนักข่าวหลายสำนักพิมพ์ ทั้งในและต่างประเทศ ที่มาทำข่าวกันอย่างหนาแน่น นักข่าวส่วนใหญ่ที่มาทำข่าวในวันนี้ ตั้งใจจะมาทำข่าวสุดหล่อขวัญใจสาวๆ มากกว่ามาทำข่าวเรื่องเพชรซะอีก แม็กออกงานควงคู่ขาคนล่าสุดมาด้วย เนื่องจากเธอเป็นคนร้องตามอยากจะมาเอง เขาไม่ได้อยากให้มาด้วยสักเท่าไหร่ แต่เห็นว่าไม่ได้มีอะไรเสียหายเลยยอมให้เธอมา เป็นรางวัลที่เมื่อคืนนี้หญิงสาวทำให้เขาถูกใจ และแล้วข่าวของแม็กก็ได้เข้าหูคุณขวัญนภาอีกแล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแต่มันนับครั้งไม่ได้แล้วต่างหาก ท่านไม่ชอบให้ลูกชายของท่านเป็นคนมักง่ายแบบนี้ เห็นผู้หญิงเป็นแค่ของเล่น อย่างน้อยผู้หญิงพวกนั้นก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเพศแม่ ครั้งนี้ท่านตัดสินใจเด็ดขาด จะต้องจัดการอะไรสักอย่างกับเรื่องนี้สักทีแล้ว ขั้นเด็ดขาดเพื่อไม่ให้ลูกชายเพียงคนเดียวของท่าน ใช้ชีวิตกับผู้หญิงชั่วคราวพวกนั้นอีก... สามวันต่อมา คุณขวัญนภาเดินทางมาที่กรุงนิวยอร์ก เพื่อมาหาลูกชายเพียงคนเดียวของท่าน และตอนนี้ท่านก็ได้เข้ามานั่งรอลูกชายอยู่ภายในบ้านเรียบร้อยแล้ว "สวัสดีครับคุณแม่ มาหาผมถึงนี่แสดงว่าต้องคิดถึงผมมากแน่ๆ" แม็กเอ่ยทักผู้เป็นมารดาอย่างนึกกระหยิ่มในใจ เมื่อเขากลับมาจากทำงานในช่วงเย็นของวัน "ใช่แม่คิดถึงแก แล้วก็คิดถึงมากด้วย" แต่แววตาของคุณขวัญนภากลับตรงกันข้ามกับคำพูดอย่างสิ้นเชิง เพราะสีหน้าของคุณแม่ วันนี้ทำให้แม็ก เริ่มรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ แล้ว เพราะทุกครั้งที่คุณแม่มาหา ท่านก็มักจะพูดเรื่องเดิมๆ จนแม็กเบื่อ และครั้งนี้ก็คงจะพูดเรื่องเดิมอีก แต่สายตาและแววตาของท่านเด่นชัด ว่าครั้งนี้ท่านเอาจริง แม็กไม่เคยเห็นสีหน้าและแววตาของคุณแม่ของเขาแบบนี้มาก่อน "คุณแม่ทานอะไรมาหรือยังครับ มาทานอาหารให้ใจเย็นก่อนดีกว่านะครับ เดินทางมาไกลคงเหนื่อยแย่เลย" แม็กรีบพูดเอาใจคุณแม่ของเขาทันที เพราะนอกจากคุณแม่แล้ว แม็กก็ไม่ได้มีญาติที่ไหนอีก และเขาก็รักคุณแม่ของเขามาก แม็กเคยชวนคุณแม่กลับมาอยู่ด้วยกันที่นี่ แต่ท่านก็ไม่ยอมกลับมา เพราะท่านได้เปิดธุรกิจรีสอร์ตไว้ที่เมืองไทย และก็ต้องดูแลลูกสาวบุญธรรมที่ยังเรียนหนังสือไม่จบอีกด้วย แม็กยังไม่เคยเห็นหน้าตาของน้องสาวนอกไส้เลยสักครั้ง เพราะเขาไม่เคยไปเมืองไทยและก็ไม่ได้สนใจด้วย มีบางครั้งที่คุณขวัญนภาชวนลูกชายไปเที่ยวเมืองไทย แต่แม็กก็ยังหาเวลาไปไม่ได้เพราะด้วยงานเยอะ ที่ต้องแบกรับภาระหน้าที่เอาไว้มากพอสมควร "แม่กินไม่ลงหรอก เมื่อไหร่ลูกชายของแม่จะเลิกใช้ชีวิตไร้สาระแบบนั้นสักที แม่เบื่อพ่อของลูกมาคนหนึ่งแล้วนะ แม่ขอได้ไหม" แม็กเมื่อได้ยินคุณแม่พูดอย่างนี้ ก็อยากจะลุกเดินหนี เพราะเขาเชื่อว่าผู้หญิงกับผู้ชายเป็นของคู่กัน มันคือเรื่องธรรมชาติ คุณแม่ไม่เหนื่อยบ้างหรือไงพูดแต่เรื่องเดิมๆ "คุณแม่พูดเรื่องนี้อีกแล้วนะครับ คุณแม่ไม่เหนื่อยบ้างหรือครับ" แม็กทำท่าจะลุกเดินหนี "หยุดเดี๋ยวนี้นะตาแม็ก” ครั้งนี้คุณขวัญนภาเอาจริง ท่านจะไม่ยอมให้สิ่งที่ท่านพูด เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาของลูกชายอีกแล้ว และถ้าครั้งนี้ ถ้าลูกชายของท่านจะไม่ยอมก็ให้มันรู้แล้วรู้รอดไป! “คุณแม่พูดไปก็จะทำให้อารมณ์เสียกันเปล่าๆ เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะต้องหยุด” ใช่แล้ว!! เรื่องอะไรที่ผมจะต้องหยุดด้วย ผู้ชายกับผู้หญิงเป็นของคู่กัน แล้วผู้หญิงพวกนั้นก็เต็มใจ ผมไม่ได้ไปข่มขืนผู้หญิงพวกนั้นเสียหน่อย “แม่จะให้แกแต่งงาน!!!”