"ไม่เห็นต้องนอนโรงแรมแพงขนาดนี้เลย แถมคุณยังต้องจ่ายค่าห้องอีกตั้งสองห้อง" พราวตะวันกอดอกหน้าบึ้งมองคนตัวสูงตรงหน้า
"เอาน่า แค่คืนเดียวเอง รีบขึ้นห้องเถอะเดี๋ยวจะดึกเอา" เพลิงดึงมือเรียวให้ลุกขึ้นและพาเดินตรงไปยังลิฟท์
"พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้านะ พราวจะรีบกลับไปหาพ่อ" เธอบอกเขา
"ทำตัวน่ารักๆสิ" เพลิงหันมาบอกคนตัวเล็กน่าเอ็นดูข้างกาย เธอยิ้มน้อยๆให้เขา
ชายหนุ่มพาพราวตะวันมาหยุดอยู่หน้าห้องๆหนึ่งเขาเปิดประตูห้องพักระดับวีไอพีและผายมือให้เธอเดินเข้าไปก่อนที่ตนจะแทรกตัวตามหลังเข้าไปอย่างแนบเนียน
"เดี๋ยว! คุณเข้ามาทำไมคะ?" คนตัวเล็กหันขวับมาหาเขาด้วยท่าทางตกใจ
"ก็...ผมไม่มีเงินจ่ายค่าห้องตั้งสองห้อง อีกอย่างถึงจะนอนห้องเดียวกันแต่เดี๋ยวผมจะนอนบนโซฟา ส่วนเตียงผมยกให้พราวคนเดียวเลย" เขารีบอธิบายเพราะเกรงว่าเธอจะโวยวายเสียก่อน
"ไม่โอเคเลย" เรียวปากบางเบะคว่ำเพราะถูกขัดใจ เธอมองเขาด้วยความหวาดระแวง
"ผมไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ถ้าพราวจะลองเปิดใจบ้างก็คงไม่เสียหายอะไร" เพลิงอยากตกลงกับเธอด้วยเหตุผล
"เปิดใจอะไร!" หญิงสาวขึ้นเสียงด้วยความตกใจและถอยหลังเข้าไปจนติดผนังห้องด้านใน
"โอเคๆ ไม่พูดเรื่องนี้แล้วก็ได้ ผมจะไปอาบน้ำแล้วรีบมานอน วันนี้เพลียทั้งวันเลย อ้อ! ห้ามหนีออกไปไหนเด็ดขาดเข้าใจหรือเปล่า" เพลิงพูดจบก็เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวและเดินเข้าห้องน้ำไป
"คนบ้า!" เธอสบถเบาๆพลางครุ่นคิดหาวิธีเอาตัวรอดถ้าหากเขาคิดจะทำมิดีมิร้ายเธอขึ้นมา
เวลาผ่านไปราวๆยี่สิบนาทีเพลิงเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพเปลือยท่านบน เขาใช้เพียงผ้าขนหนูผืนเดียวพันรอบกายไว้เท่านั้น
"ไปใส่เสื้อเดี๋ยวนี้เลยนะ!" พราวตะวันดุเพลิง เธอปิดหน้าปิดตาตัวเองไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง
"ก็ตัวยังไม่แห้งจะใส่เสื้อได้ยังไง เรานั่นแหละรีบเข้าไปอาบน้ำแล้วมานอน" เขาออกคำสั่ง ร่างบางเบือนหน้าหนีและรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทันทีเพราะไม่ต้องการสบตากับเขา
เพลิงหัวเราะน้อยๆพลางส่ายหน้าเบาๆให้กับความน่ารักน่าเอ็นดูของเด็กสาว
"คิดว่าจะรอดหรือยังไง หึหึ" เพลิงหัวเราะในลำคอและยิ้มกรุ้มกริ่มเมื่อนึกถึงเรื่องของเขาและเธอเมื่อคืน
"ทำไมต้องรู้สึกวาบหวิวขนาดนี้ด้วยวะ? อย่างกับเป็นวัยรุ่น" เขาพูดกับตัวเอง
ชายหนุ่มรูปร่างสูงกำยำในวัยสามสิบห้าปีทว่ายังดูอ่อนเยาว์ราวเด็กหนุ่มยืนมองตนเองอยู่หน้ากระจก เขาหยิบชุมคลุมมาสวมลวกๆก่อนจะเดินไปหยิบขวดไวน์และเดินไปนั่งที่เก้าอี้ติดริมระเบียงซึ่งถูกั้นด้วยกระจกบานใส ดวงตาคมมองออกไปรอบๆระเบียงก็เห็นวิวทิวทัศน์สวยงามแม้พายุจะกำลังกระหน่ำลงมาบดบัง
เวลาผ่านไปเนิ่นนานเสียจนเพลิงจำไม่ได้ว่าพราวตะวันใช้เวลาในห้องน้ำนานแค่ไหน แต่เพราะค่ำคืนนี้เขาจะไม่มีวันปล่อยเธอไปจึงยังคงจิบไวน์ใจเย็นนั่งฟังเสียงฝนอยู่นั่นเอง
"มานี่สิ" ร่างบางซึ่งอยู่ในชุดคลุมตัวหนาที่ทางโรงแรมจัดหาให้เดินเข้ามาหาเขาอย่างเชื่องช้า
"ไหนคุณบอกจะรีบนอนคะ" หญิงสาวยืนตรงหน้าเขาและถามออกไปเสียงเบาและอ่อนโยนกว่าทุกครั้งเพราะไม่อยากมีปัญหาทะเลาะกับเขาในเวลาเช่นนี้
"ผมคงนอนไม่หลับหรอกเพราะเรื่องเมื่อคืนมันยังคงค้างคาอยู่..." เพลิงถือวิสาสะดึงข้อมือเรียวเข้าหาตัวและรั้งเอวบางให้นั่งลงบนตักแกร่งของตน
"นี่คุณ! ปล่อยนะ!" พราวตะวันดิ้นขลักขลักในอ้อมแขนของเขา
"อยู่เฉยๆ ไม่ได้จะทำอะไรซะหน่อย" จมูกโด่งกดลงบนแก้มนวลแผ่วเบาเพื่อให้เธอรู้สึกโหยหาเขาบ้าง
"ทำแบบนี้ทำไมคะ ฉันอุตส่าห์ไม่บอกพ่อแล้วก็ไม่แจ้งความเพราะเห็นว่าคุณไม่ได้ตั้งใจ แต่ทำไมดูเหมือนคุณจะพยายามทำให้มันเกิดขึ้นอีก" เธอพูดกับเขาด้วยเหตุผล
"พราวไม่ต้องการผมอย่างที่ผมกำลังต้องการพราวบ้างเลยหรอ? ไหนๆพราวก็เป็นของผมแล้วนะ ทำไมเราถึงไม่ลองมีความสุขกันดูล่ะ" เขาไม่อยากขืนใจเธอจึงพยายามโน้มน้าว
"ไม่ค่ะ ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากมีอะไรกับผู้ชายที่ตัวเองไม่ได้รักหรอก" เธอบอกเขา แม้หญิงสาวจะอ่อนเดียงสาแต่ก็พอจะรู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด อีกอย่างพายัพเองก็พร่ำสอนเธอในเรื่องนี้มาเป็นอย่างดี
"คุณก็รู้ว่ายังไงก็หนีผมไม่รอด จะยอมดีๆหรือชอบความรุนแรง
"บ้ากาม! วันๆคงคิดแต่เรื่องพวกนั้น!" เธอกล่าวหาเขา ใบหน้าสวยหวานจิ้มลิ้มบึ้งตึงเพราะถูกเพลิงกอดรัดไว้แน่นจนแทบหายใจไม่ออก อยู่ๆก็เกิดความรู้สึกวาบหวามขึ้นอย่างบอกไม่ถูก รสจูบของเขาหอมหวานเกินกว่าที่เธอจะลืมได้แม้จะพยายามเกลียดเขาทว่าหัวใจกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ริมฝีปากหยักซุกไซ้ซอกคอขาวเพื่อสัมผัสกลิ่นหอมเหมือนดอกไม้ที่ติดตัวเธอตลอดเวลา เพลิงซุกไซ้ชุดคลุมของเธอจนหลุดลงมาอยู่ตรงต้นแขนเผยให้เห็นเต้านมขาวอวบอิ่มงดงามสะพรั่ง
"อย่าทำแบบนี้นะคะ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน" เธอพยายามตั้งสติโดยไม่ใช้อารมณ์ ใบหน้าหล่อเหลาและใบหูของเพลิงกลายเป็นสีแดงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอลล์และความโหยหิวในเนื้อหนังของพราวตะวันที่ดูเหมือนจะหวานฉ่ำเกินกว่าของหวานที่เขาเคยทาน
"เป็นสิ เป็นผัวเมียกันแล้วไม่รู้ตัวหรอ" หญิงสาวแทบสะอึกกับคำเรียกขานที่เขาพยายามยัดเยียดให้เธอ
"ไม่ใช่เสียหน่อย" เธอเถียง มือหนาขยับลงมายังสะโพกงอนงามของเธอ ชุดคลุมเจ้ากรรมถูกเพลิงกระชากออกจากเรือนกายอรชรเปลือยเปล่าอย่างง่ายดาย
"ว๊าย!" พราวตะวันยกมือขึ้นมาปิดยอดบัวตูมทั้งสองข้างของตนไว้ เพราะความที่มัวแต่ตกใจเธอจึงถูกเพลิงดึงขาเรียวขึ้นมาคร่อมร่างกำยำของเขาไว้ เต้านมสวยงดงามของหญิงสาวในวัยแรกแย้มจึงอยู่ในระดับใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มพอดี
เพลิงหยัดกายขึ้นจากพนักพิงเก้าอี้เพื่อนั่งตัวตรงและตะโบมดูดยอดบัวตูมฉ่ำน้ำของเธออย่างดูดดื่มในขณะที่วงแขนแข็งแรงโอบกอดเอวบางไว้แน่น
"อ่าส์ ปล่อย..." พราวตะวันครางออกมาโดยไม่รู้ตัว แก่นกายของเพลิงขยายตัวใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วจนหญิงสาวรับรู้ได้เพราะเธอกำลังนั่งทับมันอยู่
"ครางดังๆ" เพลิงถอนริมฝีปากออกจากยอดบัวตูมและกระชากชุดคลุมของตนเองออก สองหนุ่มสาวเนื้อแนบเนื้อไปทุกๆตารางนิ้วปราศจากสิ่งใดขวางกั้น