แก่นกายของเพลิงซึ่งมีขนาดมหึมาเกินมาตรฐานทั่วไปของผู้ชายกำลังกระหายหิวเนื้อชิ้นนี้จนขาดสติไร้ความยับยั้งช่างใจ มือหนาจับลำแท่งร้อนที่ถูกโอบล้อมด้วยเส้นเลือดปูดถูไถขึ้นลงตามกลีบร่องที่ดูบอบบางราวกับเด็กน้อยแรกแย้มของพราวตะวัน
เสียงร่ำไห้ของหญิงสาวที่เขาคิดว่าเป็นเพียงวิธีปลุกปั่นอารมณ์ของตนดังขึ้นเรื่อยๆแข่งกับสายฝนที่กระหน่ำลงมาราวกับโกรธแค้นผืนแผ่นดินแห่งนี้
"ฮืออออ อะ! จะ เจ็บ! ปล่อยฉัน! กรี้ดดดดดดดดด" เสียงเล็กๆแค่นออกมาจากลำคอด้วยความยากลำบากและตามด้วยเสียงกรีดร้องเมื่อเพลิงซึ่งเป็นชายแปลกหน้ากำลังทำลายล้างเยื่อพรหมจรรย์ของเธอให้ขาดลงในที่สุด
"อ่าส์ แน่นชะมัด!" แก่นกายของเขาหยัดเข้าไปจนสุดปลายด้ามด้วยความยากเย็น ชายหนุ่มสัมผัสได้ถึงของเหลวแปลกๆที่ไหลซึมออกมา กลิ่นคาวเลือดบริสุทธิ์คละคลุ้งขึ้นผสมกับกลิ่นอายฝนจนเพลิงต้องหยุดการกระทำของตนเอง เขาหยัดตัวขึ้นตรงและเรียกสติตนเองกลับมาได้เมื่อเห็นเลือดสดๆไหลซึมจนติดไปทั่วแก่นกายของตน
"นี่มันอะไรกัน!?" เพลิงถอดแก่นกายของตนเองออกด้วยความตกใจ หญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงของเขาเป็นหญิงสาวพรหมจรรย์ที่เขาเพิ่งทำลายมันลงกับมือหรือนี่
"ฮืออออ แกข่มขืนฉัน! ไอ้คนเลว! ไอ้ชาติชั่ว! ฮือออออ" พราวตะวันร่ำไห้และดึงผ้าห่มมาคลุมตัวไว้เพราะความอับอายและหวาดกลัว
"เธอเป็นใคร! ทำไม..." ดวงตาคู่สวยคมของเพลิงเหลือบมองไปยังคราบเลือดสดที่ติดอยู่บนผ้าปูที่นอนของเขา
"ออกไป! ออกไป! ฮือออ" ร่างบางเขวี้ยงหมอนใส่เพลิงและยันกายขยับออกห่างจากเขาให้มากที่สุด
"ใจเย็นๆนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันคิดว่าเธอคือผู้หญิงที่ฉันให้ลูกน้องหามาให้" เพลิงพยายามจะอธิบาย
"กรี๊ดดดดด ออกไป!" เธอกรีดร้องเพราะเสียขวัญและสับสน ความคิดอันยุ่งเหยิงกำลังตีกันในหัวสมองของเธอจนแทบขาดสติและเอาแต่กรีดร้องออกมา
"ได้ๆ ออกไปก็ได้!" เพลิงคว้าผ้าเช็ดตัวมาพันรอบเอวของตนไว้และยอมเดินออกจากห้องนอนไป เขาล็อคประตูจากด้านนอกเพื่อไม่ให้เธอหนีไปและรอพูดคุยกับหญิงสาวเมื่อเธออารมณ์เย็นลงแล้ว
"บ้าชะมัด! นี่มันเรื่องอะไรกันวะ?" เพลิงสะบด มือหนากุมขมับทั้งสองข้างไว้เพราะความสับสน
"เด็กมัธยมหรือเปล่าก็ไม่รู้ ซวยแล้วกู!" เขากระวนกระวายใจจนอยากจะเข้าไปพูดกับเธอให้รู้เรื่องเสียตอนนี้
"ไอ้ธาร!" ชายหนุ่มสืบเท้ายาวเพื่อเดินไปหามือถือของตนซึ่งวางอยู่โต๊ะกลางบ้าน เขารีบล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมาและรีบต่อสายหาลูกน้องทันที ทว่า...
"ไม่มีสัญญาณ! บ้าชะมัด โธ่เอ๊ย!" ร่างสูงหงุดหงิดที่ไม่ได้ดั่งใจจึงเตะเก้าอี้ที่ขวางทางอยู่จนกระเด็นไปติดผนังด้วยความโมโห
'ปัง!'
พราวตะวันสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงดัง ร่างบางลุกขึ้นและคว้าเสื้อผ้ามาสวมใส่จนเรียบร้อยแม้จะเดินแทบไม่ไหวเพราะรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวไปทั่วบริเวณช่องท้องและจุดที่เพิ่งถูกเขาทำลายไปเมื่อครู่
"ฮือออออ ทำไงดี มันข่มขืนฉัน ฉันควรทำไงดี ฮืออออ" น้ำตาไหลอาบแก้มนวลบอบบางจนน่าสงสารจับใจ ร่างบางเดินหาทางออกทั่วบริเวณห้องแต่ดูเหมือนจะมีเพียงประตูทางเดียวเท่านั้น
"เอาก็เอาวะ!" มือเรียวเอื้อมไปผลักบานประตูหมายจะวิ่งหนีเขาออกไป แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดเพราะประตูถูกล็อคจากด้านนอก
"ไอ้คนเลว คิดหรอว่าจะทำร้ายคนอย่างพราวตะวันได้ฝ่ายเดียว ฉันจะแจ้งความที่แกทำร้ายขืนใจฉัน! ฉันจะทำให้แกติดคุกไปตลอดชีวิตเลยไอ้สารเลว! เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ!" หญิงสาวตัดสินใจตะโกนออกไปเพราะเธอจะไม่มีวันตกเป็นเหยื่อของเขาในที่สุด
"ปากดีนี่!" เพลิงได้ยินดังนั้นก็เปลี่ยนใจจากที่อยากจะรับผิดชอบในสิ่งที่เขาทำลงไปโดยไม่ได้ตั้งใจกลับกลายเป็นนึกหมั่นไส้คำพูดคำจาของเด็กเมื่อวานซืนอย่างเธอ
มือหนาไขกุญแจและเปิดประตูออกเพื่อเจรจากับเธอแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น
'ตุบ!'
"โอ๊ย!"
ท่อนขาของพราวตะวันกระแทกเข้ากลางหว่างขาของเพลิงอย่างแรงจนชายหนุ่มร้องเสียงหลงและก้มโค้งกายกำยำลงด้วยความเจ็บและจุกในเวลาเดียวกัน
"ยัยเด็กบ้า!" เขาแค่นเสียงออกมาพลางชี้หน้าคาดโทษเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มที่ยังคงเปื้อนคราบน้ำตาอยู่
"ฉันจำหน้าแกได้แล้ว! บอกมาว่าแกชื่ออะไรฉันจะไปแจ้งความ!" ร่างบางวิ่งไปคว้าไม้ซึ่งมีลักษณะคล้ายกระบองมาถือไว้ในมือและตั้งท่าเตรียมพร้อมจะฟาดเขาในทันทีที่เขาคิดจะสู้
"ก็ฉันบอกว่าไม่ได้ตั้งใจไง ฉันต้องการเจรจา ห้ามแจ้งความเด็ดขาด!" เพลิงต่อรองแม้จะยังคงรู้สึกจุกอยู่
"ไม่! คนเลวๆอย่างแกต้องติดคุกสถานเดียว! หน้าตาก็ดีแต่สันดานเลว แกเป็นโรคตจิตใช่มะ?" เธอด่าทอเขาตามที่คิดทุกอย่างจนเพลิงแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ในชีวิตของเขาไม่เคยยอมให้ใครมายืนด่าอยู่เช่นนี้มาก่อน
"หุบปากสักทีเถอะน่า เธอรู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร!" เขาอยากจะบอกเธอออกไปเพราะอยากจะจบเรื่องแต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล
"ต่อให้แกเป็นเทวดาหรือรวยล้นฟ้าฉันก็จะเอาเรื่องแกให้ถึงที่สุดเพราะแกข่มขืนฉัน!" เธอไม่ยอม ทันใดนั้นเสียงใครคนหนึ่งก็ดังขึ้น
"คุณเพลิงครับ" ธารเรียกเจ้านายหนุ่มในขณะที่เดินขึ้นบันไดมาหาเขาแต่ก็ต้องตกใจ
"ไอ้พราว! วางไม้ลงเดี๋ยวนี้นะ นี่คุณเพลิงเจ้านายพี่" ธารวิ่งเข้ามาแย่งไม้กระบองในมือเรียวของหญิงสาวไปถือไว้
"พี่ธาร!" พราวตะวันเรียกชื่อธารทำให้เพลิงหันขวับกลับมามองเธออีกครั้ง
"ไอ้พราว! แกมาทำอะไรที่นี่ บ้านที่ให้ช่วยไปดูไฟอยู่ลึกเข้าไปอีกหน่อยโน่น" ธารพูดจบก็หันไปเจ้านายหนุ่มด้วยสีหน้ารู้สึกผิดที่ทำในสิ่งที่เขาสั่งไม่ได้
"เอ่อ..." ดวงหน้าสวยหันไปสบตากับเพลิงและส่ายหน้าเบาๆเป็นการห้ามไม่ให้เขาพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
"มีเรื่องเข้าใจผิดนิดหน่อย" เพลิงหันไปบอกลูกน้องคนสนิท
"งั้นแกก็กลับไปได้แล้วพราว ฝนซาแล้วเดี๋ยวจะดึกเอา ส่วนเรื่องไฟเดี๋ยวพี่ไปดูเอง ขับรถดีๆล่ะ" ธารบอกเธอด้วยความเป็นห่วง เพลิงรู้สึกใจหายเมื่อเห็นเธอสะบัดหน้าหนีเขาและเดินลงบันไดบ้านไป