ตอนที่ 7 ส่งเสียเลี้ยงดู

1223 Words
โรงไฟฟ้า เพลิงพาพราวตะวันขับรถมาจอดบริเวณหน้าโรงไฟฟ้าของตนในช่วงบ่าย หญิงสาวมองเห็นบิดาซึ่งกำลังคุมงานอยู่กลางแจ้งก็นึกอยากเข้าไปช่วยอย่างที่เธอเคยทำมาจึงเปิดประตูลงจากรถ "ไอ้ธาร! ไปตามคุณพายัพมาพบฉันในห้องทำงานด้วย" เพลิงเดินเข้าไปในในโรงงานและตรงไปยังห้องทำงานโดยไม่สนใจพราวตะวันเพราะเขาต้องการคุยกับผู้เป็นบิดาของเธอเป็นการส่วนตัว "ไอ้ธาร" เขาเรียกลูกน้องที่กำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาหาตน "คุณพายัพกำลังเดินมาครับนาย" ธารรายงาน "มึงห้ามบอกพราวตะวันเด็ดขาดว่ากูเป็นใคร หรือถ้าจำเป็นต้องบอกก็ให้บอกว่าเป็นวิศวกรที่คุณทรงพลส่งมาคุมงาน เข้าใจหรือเปล่า?" ลูกน้องคนสนิทขมวดคิ้วสงสัยกับคำสั่งของเจ้านาย "เอ่อ...ได้ครับได้ แต่ว่าทำไม..." "มึงไม่จำเป็นต้องรู้" เพลิงพูดสวนขึ้น "คุณเพลิงมีเรื่องด่วนหรือเปล่าครับ" พายัพเดินเดินมาหาเพลิงด้วยความเร่งรีบ "เชิญที่ห้องทำงานดีกว่าครับ" เพลิงเดินนำหน้าพายัพไปยังห้องทำงานของตนด้วยสีหน้าจริงจัง "ผมอยากให้พราวตะวันมาลองทำงานกับผมสักเดือนก่อนที่เธอจะไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯครับ" ชายหนุ่มเป็นคนตรงไปตรงมาจึงไม่พูดอ้อมค้อม "มีเหตุผลอะไรหรือเปล่าครับ" พายัพรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมากที่เพลิงใส่ใจเรื่องบุตรสาวของเขามากเป็นพิเศษ "ผมเห็นแกเป็นเด็กดีและก็ดูฉลาดมาก อีกอย่างคือ...ผมเห็นว่าคุณเลี้ยงดูพราวตะวันมาเพียงลำพัง ผมจึงอยากสนับสนุนให้เธอได้เรียนมหาวิทยาลัยดีๆ และผมก็ยินดีส่งเสียเหมือนลูกสาวของผมเองครับ" เพลิงอยากไถ่โทษกับสิ่งที่เขาทำผิดพลาดลงไป "ผมก็คงต้องถามแกดูก่อนเหมือนเดิมแหละครับ" พายัพไม่เคยบังคับบุตรสาวมาก่อนไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม "อีกเรื่องที่ผมอยากขอร้อง คุณพายัพควรที่จะออกคำสั่งให้เธอทำตาม เพราะหากถามเธอคงไม่มีวันยอมมาแน่ๆ คุณก็น่าจะรู้จักนิสัยของคุณดี" เพลิงเตรียมคำพูดมาอย่างดี "เอาแบบนั้นเลยหรอครับ" พายัพจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเพลิงซึ่งดูเหมือนจะไม่กล้าสบตาเขามากนัก "ครับ อ้อ อีกเรื่อง ผมบอกเธอไปว่าผมเป็นวิศวกรไฟฟ้าเช่นเดียวกับคุณ เรื่องนี้ผมจะหาโอกาสบอกเธอด้วยตัวเองนะครับ" "เอาแบบนั้นก็ได้ครับ แต่ดูเหมือนยัยพราวคงรู้ว่าคุณเป็นใครก็คงคืนนี้ล่ะมั้งครับ" "ทำไมครับ" เพลิงขมวดคิ้วถาม "คืนนี้คนงานจะเลี้ยงต้อนรับคุณเพลิง ฤตินาฏวรนันท์น่ะสิครับ" พายัพเองก็เห็นด้วยกับคนอื่นๆ "ว้าว ขอบคุณครับ รู้สึกเป็นเกียรติที่สุดครับ" เพลิงยิ้มอ่อนให้พายัพทั้งที่กำลังเสียวสันหลังวาบ เขานึกภาพไม่ออกว่าถ้าหากเธอรู้ว่าเขาเป็นใครแล้วยังจะกล้าเถียงเขาทุกคำอยู่หรือเปล่า "ไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวไปทำงานต่อก่อนนะครับ" เพลิงพยักหน้าเบาๆ เขากวาดสายตามองหาพราวตะวันไปทั่วทว่ากลับไม่เจอจึงตัดสินใจเดินออกไปตามหาเธอ "ทำอะไรน่ะ" เพลิงเดินเข้ามาหาพราวตะวันซึ่งนั่งอยู่บนแคร่ใต้ต้นไม้ใกล้ๆกับลานจอดรถของโรงงาน "รอพ่อกลับบ้าน" เธอตอบเขาสั้นๆด้วยน้ำเสียงรำคาญที่เขายังจะอุตส่าห์เดินกลับมาหาเธออีก "พูดดีๆไม่เป็นหรือยังไง" เพลิงเดินเข้ามานั่งลงข้างๆคนตัวเล็ก "แล้วฉันพูดไม่ดีตรงไหน?" เธอหันขวับมาถามเขา "ตรงที่แทนตัวเองว่าฉัน พ่อเธอมาได้ยินระวังจะโดนดุ" เพลิงบอกไม่จริงจังนัก "แล้วคุณมีอะไรกับฉันอีก หมดธุระกันแล้วไม่ใช่หรอ" เธอขมวดคิ้วหน้ามุ่ย "ยังไม่หมด คืนนี้คนที่นี่จะมีงานเลี้ยงต้อนรับฉัน ก็เลยจะชวนให้เธอไปด้วยกัน" เพลิงบอก "ไม่ไป!" เด็กสาวปฏิเสธออกไปโดยไม่ต้องคิด "ต้องไป! ไม่งั้นพ่อเธอรู้เรื่องของเราแน่" เขายกเรื่องนี้ขึ้นมาต่อรองกับเธออีกครั้ง "นี่! นายมันใจร้ายที่สุด เมื่อไหร่จะเลิกยุ่งกับชีวิตฉันสักที ฮะ?" พราวตะวันตะคอกใส่เขา พายัพเห็นบุตรสาวนั่งคุยกับเพลิงอย่างออกรสก็รู้สึกแปลกใจ เขาตัดสินใจเดินเข้ามาหาสองหนุ่มสาวซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตนมากนัก "พราว! ทำไมพูดเสียงดังแบบนั้นล่ะลูก อย่าเสียมารยาทกับคุณเพลิงอีกรู้ตัวหรือเปล่า" บิดาออกคำสั่ง "ก็หนูอยากกลับบ้านนี่คะ ถ้าพ่อยังไม่กลับก็เอากุญแจรถมาแล้วเดี๋ยวตอนพ่อเลิกงานหนูจะกลับมารับ" เธอยื่นมือไปขอกุญแจรถจากบิดา "เดี๋ยวผมไปส่งพราวเองรับ" เพลิงขันอาสา "ไม่นะคะพ่อ" เธอค้าน "ขอบคุณครับคุณเพลิง" พายัพพยักหน้าเบาๆให้เจ้านายหนุ่ม "ถ้าให้เขาไปส่งหนูเดินกลับเองก็ได้" เธอหน้าบึ้งเหมือนเด็กเอาแต่ใจ "พราว คุณเพลิงเขาก็เปรียบเสมือนพ่อของพราวนะ เขาจะส่งเสียพราวให้ได้เรียนดีๆแล้วเราก็ต้องมาฝึกงานกับคุณเพลิงด้วยระหว่างที่รอไปเรียนที่กรุงเทพฯ" พายัพตัดสินใจบอกความจริงกับบุตรสาว "ทำไมต้องให้เขาส่งคะ ถ้าพ่อไม่มีเงินหนูยังไม่เรียนก็ได้" เธอยอมทิ้งความฝันหากต้องแลกกับการไม่ต้องเห็นหน้าเพลิง ชายหนุ่มที่เธอคิดว่าเธอเกลียดเขาที่สุด “ไม่ได้! ยังไงพราวก็ต้องเรียนต่อ ไม่มีข้อแม้” แม้พายัพจะตามใจบุตรสาวเป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อเวลาที่เขาจริงจังขึ้นมาก็ไม่มีใครหน้าไหนกล้าขัด “ไปขึ้นรถสิ” เพลิงบอกคนตัวเล็กตรงหน้าก่อนจะเดินไปรอที่รถ พราวตะวันยอมจำนนเพราะเป็นประกาศิตของผู้เป็นบิดา ระหว่างทาง “ฉันน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยหรอ ทำไมถึงไม่อยากเห็นหน้าฉัน” เพลิงหันมามองคนตัวเล็กสลับกับหันไปมองทางในขณะที่หญิงสาวเบือนหน้าออกไปทางกระจกรถเพื่อชมวิวทิวทัศน์ “ทำไมต้องมาส่งเสียฉันเรียนหนังสือและยังให้ฉันไปทำงานกับนายด้วย” เธอหันมาสบตาเขา “ก็ฉันทำผิดต่อเธอก็เลยอยากจะชดใช้ให้บ้าง เพราะการที่เธอเสียความบริสุทธิ์ให้ฉันแล้วทำยังไงมันก็ไม่มีทางเอาคืนมาได้ ฉันก็เลยอยากจะชดใช้ให้เธอทุกอย่างเท่าที่ฉันจะให้ได้” เพลิงเน้นย้ำเรื่องที่เธอเป็นของเขาแล้วทว่าหญิงสาวกลับรู้สึกโกรธที่เขาพูดถึงเรื่องนี้ราวกับว่ายังไม่สามารถยอมรับความจริงได้ “เมื่อไหร่นายจะลืมๆเรื่องนี้ไป” พราวตะวันหน้าแดงเป็นลูกตำลึงโดยที่ไม่รู้ตัวเมื่อเขาพูดเรื่องนี้ขึ้นมา “ใครจะไปลืมได้ลง หึหึ” เพลิงหัวเราะเบาๆในลำคอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD