ตอนที่4 เพลิง-พายัพ

1133 Words
รุ่งสาง เพลิงคงยังนอนอยู่บนที่นอนซึ่งเปื้อนรอยเลือดพรหมจรรย์ของเด็กสาวที่ทำให้เขากระวนกระวายใจไม่ได้หลับได้นอนทั้งคืนจนกระทั่งตอนนี้ "บ้าชะมัด!" มือหนากุมศีรษะของตนไว้เพราะหนักเปลือกตาเกินกว่าจะลุกขึ้นไปทำงานได้ "คุณเพลิงครับ คุณเพลิง!" เสียงของธารซึ่งกำลังเรียกเขาอยู่ทำให้ชายหนุ่มต้องฝืนหยัดกายลุกขึ้นด้วยความเหน็ดเหนื่อยและอ่อนแรง "เออ! อีกสิบนาทีกูลงไป!" เพลิงตะโกนออกไปและเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเพื่อเข้าไปอาบน้ำ ภาพเปลือยเปล่าของเด็กสาวที่เขาถือตนว่าเป็นคนทำลายเยื่อพรหมจรรย์ของเธอยังคงผุดขึ้นมาในหัวสมองอย่างต่อเนื่อง "ยัยเด็กบ้า!" เขาสบถและเอื้อมมือไปเปิดฝักบัวเพื่อชำระล้างร่างกายก่อนจะออกไปเริ่มงานวันแรก บ้านของพราวตะวัน พราวตะวันยังคงนอนอยู่ในห้องนอนของตนเองในช่วงสาย ในทุกเช้าหญิงสาวมักจะตื่นแต่เช้าและออกไปดูงานกับผู้เป็นบิดาเป็นประจำทุกวันแต่วันนี้กลับผิดปกติ 'ก๊อกๆๆ' "พราว ทำไมวันนี้ยังไม่ตื่นล่ะลูก ไม่สบายหรือเปล่า" 'พายัพ' เดินมาเคาะประตูห้องนอนของบุตรสาว เขาเป็นวิศกรไฟฟ้าวัยสี่สิบปีซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวของพราวตะวันตลอดมา "เมื่อวานตากฝนเลยรู้สึกไม่สบายนิดหน่อยค่ะพ่อ" เธอตอบบิดาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า "งั้นก็พักผ่อนเยอะๆนะ วันนี้อากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนอย่าออกไปไหนล่ะ พ่อต้องรีบไปต้อนรับเจ้านายที่มาใหม่ก่อน" พายัพเลี้ยงดูบุตรสาวเพียงคนเดียวมาเป็นอย่างดี เขารู้สึกผิดเสมอมาที่ไม่สามารถรักษาสถานะครอบครัวของตนไว้ได้เพราะความเป็นเด็กอ่อนเดียงสา เมื่อสิบเก้าปีที่แล้วหลังจากที่เขาเรียนจบวิศวกรไฟฟ้า แพรวดาวแฟนสาวของเขาก็ตั้งท้องพราวตะวันในขณะที่ทั้งคู่ยังไม่พร้อม ครอบครัวมหาเศรษฐีของแพรวดาวไม่เคยรู้เรื่องการเกิดมาของพราวตะวันเลยแม้แต่คนเดียวเพราะเป็นความต้องการของเธอ พายัพโกรธจัดในเรื่องนี้จึงได้พาแก้วตาดวงใจของเขากลับมาเลี้ยงดูที่แม่ฮ่องสอนและประคบประหงมเธออย่างดีตลอดมาจนกระทั่ง... "ไอ้คนเลว! ฉันควรจะทำยังไงดี...ฮืออออ..." พราวตะวันร้องไห้ตลอดคืนจนหมอนเปียกไปหลายใบ เธอสับสนและเสียใจจนตอนนี้ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มทำอะไรก่อนเป็นอันดับแรกจึงได้แต่นอนร้องไห้เพื่อระบายความเจ็บปวด โรงไฟฟ้า "คุณเพลิงครับ นี่คือคุณพายัพเป็นวิศวะกรคนเก่งของพวกเรา ส่วนนี่คุณเพลิง ฤตินาฏวรนันท์ เจ้าของอาณาจักรการไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยครับ" ธารแนะนำตัวให้สองคนรู้จักกัน "น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันนะครับ ยินดีที่ได้ร่วมงานกับคนเก่งๆอย่างคุณพายัพครับ" เพลิงยิ้มให้ชายหนุ่มตรงหน้าที่แลดูอ่อนเยาว์และหล่อเหลาเสียจนเขายังต้องชิดซ้าย "โอย ไม่ใช่หรอกครับ คุณพายัพแกสี่สิบแล้ว อ้อ! คุณเพลิงจำเด็กสาวที่อยู่กับคุณเพลิงเมื่อคืนได้หรือเปล่าครับ นั่นแหละพราวตะวันลูกสาวของคุณพายัพครับ" ธารบอกเจ้านายหนุ่ม เพลิงแทบสำลักน้ำลายตนเองเมื่อได้ยินเช่นนั้น "ผมไม่เห็นทราบว่ายัยหนูอยูกับคุณเมื่อคืน" พายัพขมวดคิ้วมองเพลิงอย่างรอคำตอบ "อ๋อ เธอแค่มาช่วยดูไฟครับ พอดีเมื่อวานหัวค่ำผมติดธุระเลยไปตามลุงชิมจะให้มาดูไฟให้ แต่ไอ้พราวบอกว่าลุงชิมไปรับคุณพายัพอยู่ไอ้พราวเลยอาสามาดูให้" ธารอธิบาย "ไม่น่าล่ะพราวถึงบอกว่าเมื่อวานตากฝนวันนี้เลยนอนซมอยู่บ้านโน่น" พายัพส่ายหน้าเบาๆให้กับความดื้อรั้นของบุตรสาว "แล้วเธอเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ" เพลิงอดที่จะถามออกไปไม่ได้ ธารแปลกใจเพราะไม่คิดว่าเจ้านายหนุ่มจะใส่ใจเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ "เด็กหัวเเข็งดื้อนั้นแบบนั้นไม่ป่วบง่ายๆหรอกครับ" พายัพพูดถึงกิตติศัพท์ของบุตรสาวก็ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆและยิ้มออกมาเล็กน้อย "ไอ้พราวมันเป็นเด็กฉลาดครับ วิศวกรไฟฟ้านี่น่าจะเก่งกว่าพ่ออีกนะครับ คุณพายัพสอนเองกับมือแถมยังเลี้ยงแบบไข่ในหิน มดไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมเลยล่ะครับ" ธารสาธยายเรื่องของสองพ่อลูกยิ่งทำให้เพลิงจุกแน่นหน้าอกเพราะความละอายใจกับสิ่งที่เขาทำลงไปเมื่อคืน "ว่าแต่คุณเพลิงล่ะครับ ตอนนี้สภาพจิตใจดีขึ้นมามากแล้วใช่หรือเปล่าครับ" พายัพพอรู้ข่าวเรื่องหย่าร้างของเจ้านายมาบ้างแม้จะไม่เคยเจอกันเลยก็ตาม "ดีมากๆเลยครับ ผมไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรในเรื่องนี้มานานมากแล้ว" เขาเล่าให้พายัพฟัง "ดีแล้วครับ เปิดใจรับอะไรใหม่ๆแล้วคุณจะมีความสุขมากขึ้น" พายัพแนะนำ "ครับ อ้อ ว่าแต่คุณอายุสี่สิบแล้วลูกสาวของคุณอายุเท่าไหร่กันครับเนี่ย" เพลิงเหงื่อแตกแม้อากาศจะค่อนข้างเย็น "เดือนหน้าก็ครบสิบแปดแล้วครับ กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยปีหนึ่ง อีกเดือนกว่าก็จะเปิดเทอมแล้วครับ" พายัพตอบไปแม้จะสงสัยว่าทำไมเจ้านายหนุ่มถึงอยากรู้ "งั้นหรอครับ อ้อ เห็นบอกว่าเก่งให้ลองมาทำงานกับผมได้นะครับ ผมสนับสนุนคนเก่งและขยันทั้งเรื่องเรียนและเรื่องงานอยู่แล้วครับ" เพลิงหาช่องทางในการพบเด็กสาวอีกครั้ง เขาก็ไม่เข้าใจตนเองว่าทำไมถึงต้องการพบเธออีกครั้ง "เห็นทีว่าจะมาป่วนคุณเพลิงเอาเสียเปล่าๆ แต่เดี๋ยวผมถามแกให้นะครับว่าอยากมาหรือเปล่า" "ครับ ขอบคุณมากนะครับ" เพลิงหันมายิ้มให้พายัพเล็กน้อย "คุณเพลิงขอบคุณผมทำไมครับ ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณ" พายัพรู้สึกว่าชายหนุ่มมีอาการแปลกๆ "เอ่อ คือ...ผมรู้สึกอบอ้าวไปทั้งเนื้อทั้งตัวเหมือนจะเป็นลมยังไงไม่รู้ครับ" ชายหนุ่มแกะกระดุมเสื้อเม็ดบนสุดของตนออกเพื่อระบายความร้อน เปลือกตาของเขาค่อยๆปิดลง ร่างสูงเซถลาเกือบล้มลงไปกองกับพื้นหากพายัพประคองไว้ไม่ทัน ธารเห็นเจ้านายหนุ่มอาการไม่ดีจึงรีบวิ่งเข้ามาประคองอีกแรงและสั่งให้ลูกน้องออกรถเพื่อพาเขาไปโรงพยาบาล
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD