ตอนที่5 วิศวกรหลงเด็ก

1201 Words
โรงพยาบาล "เจ้านายผมเป็นยังไงบ้างครับคุณหมอ" ธารเป็นห่วงเจ้านายหนุ่มจึงลุกพรวดพราดขึ้นและเดินไปหานายเเพทย์หนุ่มซึ่งกำลังเดินออกมาจากห้องพักฟื้น "คุณเพลิงสบายดีครับ ร่างกายแข็งแรงไม่ได้เป็นอะไรมากครับ น่าจะร่างกายอ่อนเพลียเพราะพักผ่อนน้อย ตอนนี้ผมให้น้ำเกลืออยู่คงต้องนอนที่โรงพยาบาลคืนนี้ พรุ่งนี้เดี๋ยวหมอจะมาเช็คอาการอีกทีถ้าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงก็กลับบ้านได้ครับ" นายแพทย์อรุณภพรู้สึกผิดจรรยาบรรณแพทย์อย่างเมื่อถูกเพื่อนสนิทอย่างเพลิงขอให้ช่วยเรื่องไม่เป็นเรื่องโดยการโกหกว่าป่วยเช่นนี้ "เอายังไงดีล่ะทีนี้ งานที่โรงงานก็ยังค้างอยู่อีกตั้งเยอะ" ธารหนักใจเพราะเขาต้องรับผิดชอบงานแทนเพลิงทั้งหมด "ผมจะให้พราวมาช่วยดูแลคุณเพลิงก็แล้วกัน เราจะได้ไปช่วยกันทำงานให้เสร็จๆ" พายัพพูดจบก็ต่อสายหาบุตรสาวทันที วันนี้พราวตะวันเป็นเด็กดียอมเชื่อฟังบิดาอย่างว่าง่ายเพราะไม่อยากนอนคิดฟุ้งซ่านเรื่องเมื่อคืนให้หงุดหงิดเอาเสียเปล่า ไม่ถึงยี่สิบนาทีพราวตะวันก็มาถึงโรงพยาบาลและเดินตรงมายังหมายเลขห้องตามที่บิดาบอก 'ก๊อกๆๆ' มือเรียวเปิดประตูเข้ามาก็เห็นผู้เป็นบิดาและธารยืนอยู่ ชายหนุ่มรูปงามที่นอนให้น้ำเกลืออยู่บนเตียงทำให้เธอแทบอยากแทรกแผ่นดินหนี "นาย!" มือเรียวชี้หน้าเพลิงโดยที่ไม่สนใจสายตาดุดันของพายัพและธาร "พราว! นั่นคุณเพลิงเจ้านายพ่อนะ!" พายัพกดมือบุตรสาวลงเพื่อให้หยุดชี้ไปยังเพลิง "แต่ไอ้บ้านี่มันโรคจิตนะคะ!" เธอไม่ยอม "พราว!" พายัพเอ็ดบุตรสาว "ไอ้พราว พี่คุณเพลิง ฤ..." "พอเถอะน่า!" เพลิงยังไม่ต้องการให้พราวตะวันรู้ว่าเขาเป็นใครจึงพูดแทรกขึ้นมา "ผมมีเรื่องต้องคุยกับพราวเป็นการส่วนตัว รบกวนคุณสองคนออกไปก่อนนะครับ" เพลิงหยัดกายลุกขึ้นและปลดกระปุกน้ำเกลือเพื่อเดินตรงมาหาร่างบาง "มีอะไรหรือเปล่าพราว!" พายัพสงสัยอะไรหลายอย่างในตัวเพลิงจึงถามบุตรสาวออกไป "เอ่อ ไม่มีอะไรหรอกค่ะพ่อ ที่พูดออกไปเมื่อกี้หนูแค่จำผิดคน พ่อกลับไปทำงานเถอะนะคะเดี๋ยวหนูจะช่วยดูแลเจ้านายของพ่อเองค่ะ" เธอยิ้มอ่อนให้ผู้เป็นบิดา "งั้นก็แล้วไป มีอะไรก็โทรหาพ่อได้ตลอดเลยนะ" พูดจบพายัพและธารก็เดินออกไปทันทีปล่อยให้สองหนุ่มสาวอยู่กันตามลำพัง "ถ้าไม่อยากให้พ่อเธอรู้เรื่องของเราก็อย่าดื้อกับฉัน!" เพลิงลุกขึ้นจากเตียงและเดินเข้ามาหาเธอ เขาถือวิสาสะกุมข้อมือเรียวไว้แน่นเพราะกลัวว่าเธอจะหนีออกไป "ปล่อยฉันนะ! อย่าคิดว่าเป็นเจ้านายของพ่อแล้วจะทำอะไรกับฉันก็ได้นะ!" เธอพยายามแกะมือเขาออก "ฉันไม่ได้เป็นเจ้านายของพ่อเธอ ฉันก็เป็นวิศวกรไฟฟ้าเหมือนพ่อเธอนั่นแหละ" เพลิงดึงร่างบางอรชรให้ขยับเข้าไปใกล้เตียงคนไข้ เขากดหัวไหล่เบาๆให้เธอนั่งลงอย่างง่ายดาย "คุณนั่นแหละที่ต้องนอนบนเตียง ฉันจะไปนั่งที่โซฟา" ร่างบางกำลังจะลุกขึ้นแต่ถูกเขาขวางไว้ "นี่เธอรู้ตัวเองหรือเปล่าเนี่ยว่าเรามีอะไรกันแล้ว?" เพลิงเห็นท่าทีไม่ยี่หระไร้ความเขินอายของพราวตะวันก็อดถามออกไปไม่ได้ "มีอะไรกันงั้นหรอ? ถ้านายบอกพ่อฉันหรือว่าบอกใครล่ะก็ฉันเอานายตายแน่" เธอขู่ฟ่อ อยู่ดีๆแก้มนวลก็กลายเป็นสีชมพูระเรื่ยโดยไม่รู้ตัว "อืม ฉันขอโทษก็แล้วกัน ฉันเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงอย่างว่าที่ไอ้ธารหามาให้" เพลิงรู้สึกผิด "นายนี่มัน! ไอ้โรคจิต หื่นกามถึงขั้นต้องหาผู้หญิงอย่างว่ามาบำรุงบำเรอ" เธอด่าทอเขา "ไม่รู้สิ แต่เมื่อคืนความรู้สึกของฉันก็ไม่ได้คิดว่าเธอเป็นผู้หญิงอย่างว่าเลยนะ" เพลิงรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ "แล้วยังไง ขอโทษแล้วมันก็ทดแทนสิ่งที่ฉันเสียไปไม่ได้!" ดวงตาคู่สวยน่ารักแดงก่ำและคลอไปด้วยน้ำตาจนเพลิงทำตัวไม่ถูก ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่ร้องไห้เพราะเสียตัวให้เขาอย่างที่เธอกำลังทำในตอนนี้ "แล้วจะให้ทำยังไงในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นไปแล้ว หรือจะให้เอาทำเมียต่อ?" เพลิงเชยคางมนให้เงยขึ้นมาสบตาเขา "ไอ้ทุเรศ! ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น แค่ไม่ต้องเจอกันอีกก็พอ!" คำพูดไร้เดียงสาของพราวตะวันสร้างความแปลกประหลาดในตัวเขา เพลิงรับรู้ได้ถึงความต้องการที่เธอทำให้เขาค้างคาตั้งแต่เมื่อคืนทว่ากลับรู้สึกผิดเสียมากกว่าเพราะเธอเป็นเพียงเด็กสาวไร้เดียงสาเท่านั้น "แต่ฉันทำงานกับพ่อเธอ คงเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะไม่เจอกัน" เพลิงจ้องมองคนตัวเล็กไม่วางตา "อีกเดือนกว่าฉันก็จะไปเรียนที่กรุงเทพฯแล้ว หวังว่าคงไม่ต้องพบเจอผู้ชายเฮงซวยอย่างคุณอีก!" เธอตะคอกใส่หน้าเขา "เด็กอายุแค่สิบแปดต้องปากดีขนาดนี้ด้วยหรอ?" เพลิงส่ายหน้าเบาๆให้กับความดื้อรั้นของเธอ "ถอยไป! ฉันจะไปนั่งที่โซฟา" มือเรียวดันแผงอกกว้างออกทว่าเขากลับไม่ยอมขยับ วงแขนกำยำทั้งสองข้างถือวิสาสะโอบรั้งรอบเอวบางไว้แนบชิดลำตัวของตน "ปล่อยนะ! จะทำบ้าอะไรอีก?" เธอดิ้นสุดแรงแต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย "จะว่าไปเธอก็เป็นเมียฉันแล้วนะ เพราะฉะนั้นฉันมีสิทธิ์จะกอดจะหอมหรือจูบเธอก็ได้" เพลิงก้มลงสูดดมกลิ่นแชมพูหอมละมุนจากปอยผมของเธอ "ไอ้บ้า! โรคจิต! ปล่อยนะ" ยิ่งดิ้นแรงเขายิ่งกอดรัดเธอแน่นขึ้นจนแทบหายใจไม่ออก "แรงดีนี่ ถ้าใช้งานบนเตียงน่าจะอึด" ยิ่งเธอด่าทอเขายิ่งอยากยั่วโมโห "ฉันเปลี่ยนใจแล้ว! ฉันจะฟ้องพ่อ ฉันจะไปให้หมอตรวจร่างกายเพื่อเอาร่องรอยที่แกทำกับฉันเมื่อคืนมาเป็นหลักฐานและฉันจะไปแจ้งความ!" เธอขู่เพราะอยากให้เขาปล่อยแต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล เรียวปากบอบบางช่างเจรจาและแสนร้ายกาจถูกเขาประกบจูบอย่างหนักหน่วงจนร่างบางเซถลาล้มลงบนเตียงคนป่วยอย่างง่ายดาย "อืม..." ปลายลิ้นอุ่นเบียดแทรกเข้าไปในโพรงปากนุ่มของเด็กสาวอย่างยากเย็นทว่าเมื่อได้สัมผัสแล้วกลับหอมหวานน่าเสน่หา เรียวปากหยักถอนจูบออกมาอย่างน่าเสียดายเมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้แผลงฤทธิ์แล้ว ท่าทางหวาดกลัวของพราวตะวันช่างน่าเอ็นดูจนทำให้เพลิงใจอ่อนและยอมถอยกลับไปนั่งที่โซฟาแต่โดยดี
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD