ตอนที่7 แค่..คล้ายๆ
ภายในห้องประชุมใหญ่ ทุกแผนกต่างเตรียมความพร้อมอย่างดีในการประชุมครั้งนี้ แม้จะรู้สึกเกร็งกันอยู่บ้างเวลาประชุมกับท่านประธานจอมเนี๊ยบอย่างลี่คุนเพราะแน่นอนว่า หากมีแผนกไหนหาข้อมูลและเตรียมพร้อมไม่ดี ต้องโดนลี่คุน ไล่ต้อนคำถามจนไปไม่เป็นเป็นแถวๆ สุดท้ายก็โดนลี่คุนดุ แถมโดนให้สรุปงานมาใหม่อีกรอบจนกว่าเขาจะพอใจ
ยิ่งโดยเฉพาะ หากเป็นงานที่สัมพันธ์กับตัวเลขแล้ว ไม่ว่าจะเป็นยอดขาย สถิติ หรือบัญชี คือจะผิดไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว
สำหรับลี่คุนแล้ว
ทุกอย่างความผิดพลาดต้องเป็นศูนย์!
การประชุมหฤโหดเริ่มขึ้นตั้งแต่บ่ายโมง ยันตอนนี้สี่โมงยังไม่เสร็จสิ้น หลายแผนกเริ่มปาดเหงื่อ ผิดกับแอร์ที่เย็นจัดของภายในห้อง แต่ยังไม่เท่าภายในใจของแต่ละคนที่ร้อนกว่า
ลี่คุนแทบจะไม่สังเกตเห็นเลยว่า ภายในห้องกว้างของห้องประชุม ที่มีบรรดาผู้จัดการและผู้ช่วยของแต่ละแผนกมากันครบ มีมารีอานั่งตัวลีบ อยู่ด้านหลังผู้จัดการของเธอ เธอคอยทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเตรียมความพร้อมในการพรีเซนต์ครั้งนี้ จะว่าไปงานนี้มารีอาก็แทบจะทำเองเตรียมเองเกือบซะทั้งหมด ส่วนผู้จัดการก็มีหน้าที่ แบบที่ชาวบ้านทั่วไปเรียก ‘เอาหน้า’ เธอถึงได้ต้องให้มารีอาเข้ามาทำหน้าที่ผู้ช่วย เพราะถ้าเกิดมีอะไรฉุกเฉินที่เธอตอบไม่ได้ เธอจะได้ให้มารีอาช่วยตอบแทน
และก็…เป็นอย่างที่คิดไม่ผิด
เมื่อลี่คุน ฟังการพรีเซนต์งานของผู้จัดการฝ่ายบัญชีบริหารจนจบ เขาไล่ต้อนคำถามรัวใส่ จนผู้จัดการอึกอักไปไม่เป็น เธอตอบคำถามตะกุกตะกักด้วยความตื่นเต้น ทั้งๆ ที่ท่องเตรียมพร้อมมาอย่างดี แต่..พอถึงเวลาเข้าจริงๆ เจอลี่คุนถามคำถามรายละเอียดแบบเจาะลึก ก็ได้แต่อึ้ง ทว่า…โชคดีที่มีมารีอาอยู่ข้างหลังคอยกระซิบตอบคำถามมาให้
แต่..ถึงอย่างนั้นก็ไม่พ้นสายตาของลี่คุน ที่มองเห็นการกระซิบกระซาบกันอยู่ข้างหลังอยู่ดี
“ผมว่า คุณไม่ต้องตอบคำถามผมแล้วก็ได้นะ” ลี่คุนเอ่ยเสียงเรียบ ทำเอาบรรยากาศในห้องประชุมเงียบกริบ เพราะรู้ว่าลี่คุนพูดแบบนี้คือเขาไม่พอใจมากแน่ๆ
“คือ ท่านประธานคะ ดิฉันอธิบายตัวเลขที่มาของตัวเลขนี้ได้นะคะ” ผู้จัดการยังไม่ละความพยายามในการตอบคำถาม
“ผมให้คุณหยุดพูดก็คือหยุดพูด ทำไมต้องพูดซ้ำ”
“คือ ท่านคะ”
“ผมจะให้คนข้างหลังคุณ ที่คอยบอกสคริปต์ให้คุณพูดแทน”
ผู้จัดการอ้าปากค้างก่อนหันไปมองมารีอา ที่ยิ้มแหยอยู่ด้านหลัง
-เกลียดจริงๆ คนบ้าอำนาจแบบนี้- มารีอาคิด แต่ภายในใจของเธอเดือดปุด นึกแอบโมโหในความเรื่องมากของเขา ทั้งๆ ที่เธอว่า เธอก็เตรียมงานมาค่อนข้างดี ผู้จัการของเธอก็ตอบได้ค่อนข้างดี แต่อีประธานบ้านี่ก็ถามโน่น-ถามนี่ ถามมากอยู่ได้
มารีอายิ้มกัดฟันโชว์ฟันขาว แม้ภายในใจจะลุกเป็นไฟแต่ก็ทำได้แค่ส่งรอยยิ้ม
“ว่าไงที่ผมถาม คุณ..คนนั้นนะ ชื่ออะไรนะ”
“มา มารีอาค่ะ” มารีอาตอบเสียงเบาไม่กล้าเงยหน้า แต่ลี่คุนถึงกับสะดุดกึก ที่เสียงของผู้หญิงคนนี้ทำไมช่างคล้ายหญิงสาวคนเมื่อคืน หรือว่า…!!
“คุณ!”
มารีอาเงยหน้าขึ้น ก่อนยกมือกระชับแว่น
“คะ??”
-คล้ายแต่ไม่ใช่- ลี่คุนคิด
ยิ่งมารีอาในสภาพเชยสุดขั้วแว่นหนาเตอะแบบนี้ ใครจะดูออกว่าเป็นผู้หญิงสวยSexyคนเมื่อคืน
เป็นไปไม่ได้!
เขามองมารีอาเพียงแวบเดียว ก่อนจะก้มหน้ามองไปที่เอกสาร แม้ภายในใจจะยอมรับว่าผู้หญิงคนนี้มีส่วนคล้ายก็จริง แต่ไม่กล้าสนใจมากเพราะรู้ว่าทุกสายตามองมาที่เขาอยู่
-คล้ายเหรอ? ไม่สิ! จะคล้ายได้ยังไง ผู้หญิงคนนี้ดูหน้าจืดๆ ใส่แว่นก็หนาเตอะ แถมยังสวมเสื้อผ้าตัวโคร่ง การแต่งตัวก็เรียกได้ว่า…..เฮ้อ….อดคิดถึงสาวน้อยนกหงส์หยก ที่ร้อนแรงเมื่อคืนไม่ได้เลย-
“คะ งั้นดิฉันจะอธิบายถึงที่มาของตัวเลขฝ่ายบริหารเกี่ยวกับงบประมาณบริษัท ในส่วนที่เราทำการประเมินแล้วพบว่าตัวเลขปี2564 กับปี2565 มีงบที่ควรเพิ่มขึ้นดังนี้คะ…..”
มารีอาร่ายยาวอย่างฉะฉาน นานเกือบสิบนาที
ผิดกับลี่คุนที่นั่งนิ่ง เพราะตอนนี้ใจเขามัวแต่ลอยไปไกล…คิดถึงเธอคนนั้น
ในขณะที่มารีอาอธิบายจบไปแล้ว ลี่คุนยังเอาแต่มองเอกสารตรงหน้า เธอได้แต่ขมวดคิ้วเมื่อเห็นเขาไม่ถามอะไรเธอเพิ่ม
“ท่านคะ ท่านมีความเห็นอย่างไรคะ”
“……”
“ท่านคะ ไม่ทราบว่าท่าน”
“……”
เสียงเริ่มอื้ออึง เพราะทุกคนคิดไปเองว่า ลี่คุนไม่พอใจแน่ๆ ถึงได้เงียบไปแบบนี้ แต่เปล่าเลย ที่เขานิ่งอยู่ในตอนนี้ เพราะเขาแทบไม่ได้ฟังที่มารีอาพูดเลยสักนิด
ความเงียบในสถานการณ์ที่น่าอึดอัด หลายคนพากันมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ทำสีหน้ากันไม่ถูก เพราะถ้าขืนลี่คุนยังไม่พอใจรายงานอยู่แบบนี้ แล้วการประชุมจะได้เสร็จสิ้นกันกี่โมง
ลี่คุน นิ่งไปพักใหญ่ จนรู้สึกตัวได้ว่า มีสายตาทุกคู่จับจ้องมองมาที่เขา
“ฮะแฮ่ม” เขารู้สึกเก้อ แต่ก็วางฟอร์ม
“งั้นวันนี้ พอแค่นี้ก่อน พรุ่งนี้ฝ่ายที่เหลือที่ยังไม่ได้พรีเซนต์มาประชุมกันต่อ อ้อ แล้วทุกฝ่าย ควรเตรียมความพร้อมให้มากกว่านี้กันด้วยนะ อย่าเอาตัวเลขมามั่วๆ ใส่ตัวเลขอะไรกันมาส่งๆ อะไรที่คิดว่าอธิบายที่ไปที่มาไม่ชัดเจนมารายงานผมใหม่” เขาลุกขึ้นยืนก่อนเอามือล้วงกระเป๋าเดินออกไป มีเลขาที่คอยเก็บ Notebook และเอกสารของท่านเดินตาม
“ไม่ได้ฟังเลยต่างหาก จะมาว่าฝ่ายเราเอาตัวเลขมามั่วๆ ได้ยังไง” มารีอาบ่นพึมพำเบาๆ ได้แต่มองตามลี่คุนที่เดินออกไปอย่างโมโห เขาเป็นคนให้เธอพูดอธิบายเองแท้ๆ แต่สุดท้ายก็ไม่เห็นจะฟังที่เธอพูดเลย
เมื่อเสร็จสิ้นประชุมแบบงงๆ ทุกคนพากันถอนหายใจอย่างโล่งอก ที่เสร็จสิ้นไปอีกวัน ก่อนที่แผนกที่ยังเหลือ จะทำหน้าเครียดกันต่อ ที่จะต้องมารายงานในที่ประชุมพรุ่งนี้อีกรอบ
“เห้อโล่ง” ผู้จัดการเดินเหนื่อยนำหน้ามารีอาออกไป “ขอบใจนะยัยมาร์ ทีหลังจดมาให้ละเอียดกว่านี้หน่อย ฉันจะได้ไม่หน้าแตกแบบวันนี้ เข้าใจไหม”
“หา….อ้อ ค่ะ ค่ะ” มารีอาตอบแบบงงๆ เธอก็ว่าทำมาละเอียดดีแล้วนะ แต่ไม่คิดว่าประธานบ้าอำนาจนั่น จะถามละเอียดมากกว่าที่เธอทำไว้
ตอนเลิกงาน มารีอาถึงกับเดินไปบ่นโอดโอยกับแอนนี่ เพื่อนรัก ระหว่างที่รอกลับบ้านพร้อมเพื่อน
“ประชุมเสร็จไวจังวันนี้ เป็นไงบ้างแก ตื่นเต้นดีไหมแก” แอนนี่ถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วงพร้อมเก็บข้าวของเพื่อเตรียมกลับบ้าน
“โอ๊ยยย…เสร็จกับผีนะสิ พรุ่งนี้มีประชุมต่ออีกจ้า หูยยย…วันนี้นะแก น่าอึดอัดมากกกก คนอะไรไม่รู้ นั่นไม่ดี นี่ไม่ได้ ความคิดของตัวเองต้องถูกต้องเป็นที่หนึ่ง ขนาดฉันเตรียมมาเป๊ะๆ เตรียมตรงนี้ ถามตรงนั้น เตรียมตรงนั้น ถามตรงนี้ โอ้ยยย…อยากจะกรี๊ด แล้วมีอีกนะแก เห็นฉันกระซิบบอกคำตอบผู้จัดการ มีเรียกฉันไปพูดแทนด้วยจ้า แล้วเป็นไงรู้เปล่า พอฉันลุกขึ้นพูด ไม่ฟัง! มันน่าโมโหไหม…มีอีกนะ…”
“ยัยมาร์”
“อย่าเพิ่งขัด ฉันยังพูดไม่จบ” มารีอา รีบยกมือขึ้นมาห้าม
“ยัยมาร์”
“แกฟังฉันก่อน นี่ มีอีกนะ นายประธานขี้เก๊กนั่น พอรู้ตัวว่าเหม่อไม่ได้ฟังที่ฉันพูด รีบจบการประชุมแก้เขินเลยวุ้ย”
“ยัยมาร์ หยุดพูดก่อน ข้างหลังแก” แอนนี่กัดฟันพูดเสียงเบาพลางขยิบตาให้มารีอาหันไปข้างหลัง
มารีอาหยุดชะงัก อ้าปากค้าง
เพราะมัวแต่ระบายความอัดอั้นพูดร่ายยาว ไม่ทันเอะใจ ว่าแอนนี่เพื่อนรัก พยายามเรียกชื่อเธอทำไมนักหนาสองสามรอบ
แต่…ตอนนี้เพิ่งเข้าใจสีหน้าเพื่อนที่ทำหน้าเจื่อนมองหน้าเธออยูู่ในตอนนี้
ข้-า-ง-ห-ลั-ง ของเธอคง ….
มารีอาค่อยๆ หันหลังกลับช้าๆ ก่อนรีบโค้งศีรษะก้มหน้าลงทันที เห็นแค่ปลายรองเท้าหนังสีดำมันเงาวับของคนตรงหน้า ก็รู้แล้วว่า
น่าจะเป็นประธานขี้เก๊กนั่น!! ที่เธอเพิ่งนินทาเขาอยู่แหมบๆ
“ที่ผมให้เลิกประชุมไว เพราะดูว่าพวกคุณคงจะเครียดและก็เหนื่อย ไม่ใช่เพราะไม่ได้ฟังคุณพูด เพราะฉะนั้นเลิกเอาความคิดไร้สาระของคุณ ไปพูดแบบไม่คิดแบบนี้อีก”
เสียงเรียบเชิงตำหนิ หยุดพูดตรงหน้ามารีอาเพียงครู่ ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้มารีอาแทบจะเข่าทรุด
“เมื่อกี้ ฉันเรียกชื่อแกตั้งหลายครั้ง” แอนนี่ตบบ่าเพื่อนเบาๆ
“แกอะ ทำไมไม่เรียกฉันให้เร็วกว่านี้ แง ..ฉันจะโดนหักเงินเดือนไหมเนี้ยะแก นินทาประธานบริษัทระยะเผาขน” มารีอาทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
“คงไม่มั้ง”
“งื้อ ทำไมช่วงนี้ฉันมีแต่เรื่องซวยๆ เนี่ย” มารีอาหันไปกอดขอกำลังใจจากแอนนี่ ที่ได้แต่กอดตอบพลางตบหลังเบาๆ เพื่อปลอบใจ
———————-