ตอนที่ 6 สาวสวยที่หายไป

1933 Words
ตอนที่ 6 สาวสวยที่หายไป ลี่คุน ออกมาจากห้องน้ำ ลำตัวยังคงมีหยดน้ำเกาะอยู่ตามที่แผงอก เขาสวมแค่ชุดคลุมสีขาว ในมือยังคงถือผ้าขนหนูผืนเล็กเดินเช็ดผมออกมา ตั้งใจว่าหลังจากอาบน้ำเสร็จเขาจะมาปลุกเธอให้ตื่น เพราะตัวเขาเองมีประชุมในเช้าของวันนี้ เมื่อเช้าที่เขาตื่นขึ้น เห็นเธอยังคงหลับด้วยท่าทางอ่อนเพลีย ก็รู้สึกสงสาร เพราะเมื่อคืนเขาเองก็ไม่ได้ระวังและไม่ได้ถนอมร่างกายของเธอเลยสักนิด เหมือนคนที่ได้เจอของถูกใจมา พอได้แล้วก็ไม่อยากปล่อยวาง ใบหน้าสวยของเธอซบลงที่อกอุ่นของเขา ลี่คุนยอมรับว่าเป็นอะไรที่รู้สึกดี...ดีมาก เขาบรรจงหอมที่หน้าผากเธออย่างนิ่มนวล ยิ่งเมื่อคืนได้รู้ว่า..เขาเป็นชายคนแรกของเธอ ความรู้สึกที่ได้ครอบครองผู้หญิงที่ถูกใจทำให้เขาไม่อยากจะปล่อยเธอ การเผลอไผลไปกับอารมณ์โดยไม่ได้ป้องกัน ทำให้เขาเผลอปล่อยในไปหลายต่อหลายครั้ง ยังไงเสียเขาก็ตั้งใจรับผิดชอบเธออยู่แล้ว เขาไม่ใช่ผู้ชายกะล่อนเสเพลทั่วไป ที่ชอบเที่ยวสนุกกับผู้หญิงไปวันๆ เสียเมื่อไหร่ เขาเป็นคนที่ชอบคนยาก ยิ่งถ้าหากเจอผู้หญิงเป็นฝ่ายเข้าหา เขายิ่ง Say No. เพราะคนอย่างเขาหากชอบใครแล้ว เขาชอบที่จะเป็นฝ่ายเข้าหาเองมากกว่า ชีวิตที่ผ่านมา ลี่คุน มัวแต่ทุ่มเทให้กับเรื่องเรียน และเรื่องงานเป็นสำคัญ เขาเป็นคนที่ตั้งใจสูง มุ่งมั่น เขาอยากเก่ง และอยากประสบความสำเร็จให้เหมือนพ่อกับพี่ชาย เพราะงั้นเขาจึงตั้งใจทำทุกอย่างด้วยความมุมานะอย่างเต็มที่ แต่สำหรับเรื่องผู้หญิง เขายอมรับว่านานๆที ที่จะได้เจอผู้หญิงที่ถูกใจแบบนี้ เธอดูมีเสน่ห์ สวยหวานและสดใส ทันทีที่เห็นเธอครั้งแรก เธอช่างเหมือนนางพญาหงส์ที่กำลังเดินเฉิดฉายสะกดสายตาเขา แต่พอแอบลอบมองเธอไปเรื่อยๆ เธอกลับเป็นเหมือนนกหงส์หยกตัวเล็กๆ ที่ดูแล้วช่างน่ารักสดใสและมีเสน่ห์มากกว่า ที่สำคัญจะว่าไป เธอช่างมีบุคลิกและท่าทางหน้าตาคล้ายกับคุณแม่ของเขา ‘มิลิน’ ผู้หญิงที่ดูสวยหวานและอ่อนโยน - ประโยคที่ว่า ผู้ชายมักจะชอบผู้หญิงที่มีความคล้ายแม่ตัวเอง เห็นจะจริงก็คราวนี้- ลี่คุน เดินอมยิ้ม คิดถึงความสุขที่ได้ตักตวงจากหญิงสาวเมื่อคืน ก่อนจะเดินออกมาถึงที่นอน ที่มีแต่ความว่างเปล่า.. ไม่เห็นหญิงสาวคนนั้น เธอหายไปไหนเสียแล้ว เขาก้มลงหยิบถุงเสื้อผ้าอีกถุงขึ้นมาดูที่วางตกอยู่ที่พื้น ก่อนมองไปรอบๆ พอจะเดาได้ว่าเธอคงรีบแต่งตัวและรีบออกไปในทันที เขายังไม่ทันรู้เลย..ว่าเธอชื่ออะไร เธอก็หายไปเสียแล้ว ลี่คุนมองนาฬิกาพบว่าสายมากโข เขาผู้ซึ่งได้ขึ้นชื่อว่าตรงต่อเวลาเป๊ะมากกับทุกเรื่อง ถึงกับต้องยกหูไปแจ้งเลขา ให้เลื่อนการประชุมเป็นบ่ายโมงเพราะว่าติดธุระด่วน นี่เรียกได้ว่าครั้งแรกของการทำงานที่เมืองไทยเลยก็ว่าได้ ที่เขาไม่รักษาเวลา จนลี่คุนต้องรีบแต่งตัวโดยทันที มัวแต่โอ้เอ้เพราะคิดถึงเธอคนนั้น เขาได้แต่ถอนหายใจ ที่เผลอให้ความสำคัญกับสิ่งอื่นก่อนเรื่องงาน ก่อนจะออกไปจากห้อง ลี่คุนเหลือบไปเห็น แหวนเพชรวงเล็กที่หล่นอยู่บนหัวนอน คง..เป็นของเธอคนนั้นสินะ เขายกยิ้มที่มุมปาก พร้อมกับหยิบมันขึ้นมาดู นิ้วมือเรียวยาวของชายหนุ่ม หมุนแหวนวงเล็กไปมา เชื่อว่า เขาต้องได้พบเธออีกเป็นแน่ —————- ที่บริษัท ห้องผู้จัดการฝ่ายบัญชีบริหาร “ขอโทษค่ะ ผู้จัดการ คือเมื่อเช้า มาร์ไม่ค่อยสบายเลยตื่นสาย” มารีอาหน้าแหย รีบโค้งคำนับขอโทษผู้จัดการ เพราะสายขนาดนี้ ยังไงแล้ว วันนี้เธอคงไม่ทันได้เข้าประชุมกับผู้จัดการด้วยแน่ๆ แต่..ตอนนี้ มันสิบโมงกว่าแล้วไม่ใช่เหรอ “อา..ทำไมผู้จัดการยังอยูตรงนี้คะ ไม่เข้าประชุมหรือคะ” มารีอาเงยหน้า ทำสีหน้าประหลาดใจพร้อมตั้งคำถามในสิ่งที่เธอสงสัย “โชคดีของเธอ มารีอา ท่านประธานติดธุระ ขอเลื่อนเป็นบ่ายโมง” ผู้จัดการเอ่ยเสียงเรียบ แม้ตอนเช้าจะอารมณ์เสียอยู่ไม่น้อย เพราะเธอ โทรติดต่อมารีอาก็ไม่ได้โทรศัพท์ของเธอถูกปิดเครื่องเอาไว้ อีกอย่างงานนี้ เธอตั้งใจจะมอบหมายให้มารีอาทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยพรีเซนต์งาน เพราะมารีอา เป็นคนเก่งและทำงานละเอียด ยิ่งถ้าการประชุมระดับนี้ กับท่านประธานคนนี้ ตัวเลขจะผิดพลาดไม่ได้เลยแม้แต่ 0% “ไปเถอะรีบไปเตรียมพร้อม อย่าให้ผิดพลาดได้เลยแม้แต่นิดเดียว” “ค่ะ ค่ะ ค่ะ รับทราบค่ะ มาร์เตรียมสรุปงานไว้ทั้งหมดเรียบร้อยค่ะ เหลือตรวจความพร้อมอีกรอบก็โอเคแล้วค่ะ” มารีอาขยับแว่นหนา พลางยิ้มกว้าง “แล้วนี่มันหนาวมากหรือไง ใส่เสื้อปิดกระดุมมายันคอ หายใจออกหรือไงกัน” ผู้จัดการ อดติงในความเชยของมารีอาไม่ได้ “อ้อ แหะ แหะ “มารีอาได้แต่ยิ้มแห้ง เธอชินแล้วกับการโดนกระแนะกระแหนเรื่องที่เธอเฉิ่มเชย เธอได้แต่หัวเราะแห้งแทนคำตอบ ก็เธอมาทำงานไม่ได้มาเดินแฟชั่นนี่นา มารีอาคิด ที่สำคัญที่วันนี้ ที่เธอต้องใส่เสื้อที่ปิดกระดุมสูงถึงคอมาแบบนี้นะเหรอ ก็เพราะอีตาคนเมื่อคืนสิ ไม่รู้รุนแรงมากจากไหน ดูดซะคอเธอเป็นจ้ำไปหมด แถมไม่ใช่แค่คอตรงอื่นๆ ก็ด้วย ตอนอาบน้ำ เธอเพิ่งสังเกตเห็น เรียกว่าทั้งเนินอก จ้ำแดงไปทั่ว ขนาดต้นขาด้านในยังไม่เว้น ไม่รู้ว่า..มันทำอะไรกับเธอบ้าง จำได้แค่ลางๆ ถึงเรือนร่างที่ดูแข็งแกร่งกำยำกับซิกแพคนั่นที่คร่อมร่างเธออยู่ … ที่สำคัญบางความรู้สึกลึกๆ …ทำไมถึงได้..รู้สึกดี “มาร์! มาร์! มารีอา!!” เสียงผู้จัดการดังขึ้น เรียกสติของมารีอา ที่กำลังเหม่อลอยคิดถึงเรื่องเมื่อคืน “อ๋า…ขา... อ้อ ค่ะ ค่ะ ค่ะ มาร์ออกไปทำงานก่อนนะคะ” มารีอาสะดุ้ง ก่อนยิ้มเจื่อนให้ผู้จัดการ รีบขอตัวออกไปทำงานในทันที เธอรีบเปิดคอมเพื่อเตรียมความพร้อมในการทำงาน ก่อนจะยกมือขึ้นมาหาวด้วยความง่วง อีกทั้งยังรู้สึกอ่อนเพลียๆ จากเหตุการณ์เมื่อคืนไม่หาย ไม่ทันไร แอนนี่ เพื่อนรักที่อยู่ฝ่ายการตลาด ก็เดินมาที่โต๊ะของมารีอา พร้อมเอากระเป๋าและโทรศัพท์ที่เธอลืมไว้เมื่อคืนมาให้ “หนีกลับบ้านได้ไง ยัยมาร์ อะนี่ของแก ดีนะกลับออกไปแบบนั้น โดยทิ้งของกองไว้ที่โต๊ะแล้วไม่หาย” แอนนี่บ่น พร้อมวางมือสองข้างท้าวไว้ที่โต๊ะของมารีอา “เออ..คือ คือว่า” มารีอาอึกอัก จะให้บอกได้ไงว่าเมา…เมามาก เมาจนเผลอไป one night stand กับชายแปลกหน้า “ช่างมันเถอะ ยัยมาร์ แกมาทำงานไหวก็ดีแล้ว ว่าแต่ทำไม แกไม่แต่งตัวแบบที่ฉันสอนเมื่อคืนล่ะ ดูดิแต่งตัวเป็นคุณป้าอีกแล้วแกเนี่ย แล้วดูซิ ใครเขาติดกระดุมกันสูงขนาดนี้ มา ฉันแกะให้” แอนนี่บ่นพลางยื่นมือจะปลดกระดุมให้ “ไม่ ไม่ ไม่ต้อง ไม่ต้อง แหะ แหะ ขอบคุณ ฉันชอบแบบนี้ “มารีอายิ้มแหย รีบยกมือห้าม ส่วนมืออีกข้างรีบยกมาปิดที่คอของตัวเอง ก็ถ้าเพื่อนเธอแกะกระดุมออกตอนนี้ ก็เห็นหมดอะดิ หลักฐานรอยจ้ำแดงเต็มคอขนาดนี้ “มันเชยอะแก วันนี้นานๆ ทีแกจะได้เข้าไปประชุมใหญ่กับผู้จัดการแกไม่ใช่เหรอ แต่งตัวสวยๆ หน่อยสิ เห้อ…งั้นเอานี่ ผ้าพันคอของฉัน” แอนนี่ปลดผ้าพันคอของเธอ มาผูกไว้ที่คอของมารีอาแทน พร้อมจัดแต่งให้เข้าที่สวยงาม เธอรู้ว่าเพื่อนเธอจริงๆ แล้วเป็นคนสวยคนหนึ่ง แค่ไม่ชอบแต่งตัว ไม่ชอบแต่งหน้า ทั้งๆ ที่บ้านมารีอาก็พอมีฐานะ หลังจากพ่อแม่ของเธอตายก็ทิ้งสมบัติเก่าเอาไว้มาก แต่มารีอาก็เลือกใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย หรือจะว่าไปบางทีแอนนี่ก็แยกไม่ออก ระหว่างงก กับ ง่าย ^^ มารีอาเป็นแบบไหน “ค่อยดูดีหน่อย” แอนนี่ยิ้ม “ว่าแต่อยู่ดีๆ ท่านประธาน เลื่อนประชุมได้ไงไม่รู้เนอะ ร้อยวันพันปีไม่เคยเลื่อนประชุมเลยนะ วันนี้มาแปลก สงสัย…” แอนนี่ทำสีหน้าเหมือนใช้ความคิด “สงสัย..สงสัยอะไรเหรอ เอ..หรือว่าท่านไม่สบาย ท่านอาจไม่สบายก็ได้นะแก ฉันว่า ท่านอะ ทำงานหนักเพราะเมื่อคืนขนาดฉันกลับไปแล้ว ฉันยังเห็นท่านประธานยังนั่งทำงานต่อ” มารีอาออกความเห็น นึกถึงตอนหัวค่ำก่อนที่เธอจะกลับบ้าน จนไปเจอท่านประธานก่อนกลับ แอนนี่ส่ายหัวเชิงปฏิเสธความคิดของมารีอา ก่อนก้มตัวลง พร้อมยกมือป้องปากพูดเสียงกระซิบเบาๆ “ยัยมาร์ จะว่าไป เมื่อคืนฉันเห็นคนคล้ายๆ ท่านที่ผับด้วยนะ แต่ไม่แน่ใจ” ก่อนยกตัวออกมา เพราะเห็นมารีอา เอาแต่ขำโดยที่เธอยังพูดไม่จบดี “บ้าอะสิ ยัยแอน คนบ้างานแบบนั้นอะนะ จะเที่ยวผับ เป็นไปไม่ได้ ฉันว่าแกตาฝาด” มารีอาหัวเราะ “เออ..แหมก็นะ ฉันก็ว่างั้น ไม่น่าเป็นไปได้ มองไกลๆ ก็แค่คล้ายๆ แต่คงไม่ใช่จริงๆ แหละ” “ใช่ ฉันว่าไม่มีทางเป็นไปได้” “แต่แก ผับนั้นต้องคนรวยระดับไฮโซเท่านั้นนะ ถึงเข้าได้ หรือไม่ ก็อาจเป็นท่านประธานจริงๆ ก็ได้นะ เพราะมีแต่คนระดับท่านเท่านั้นถึงจะเข้าไปได้” “แล้วแกกับฉัน เป็นพนักงานออฟฟิศธรรมดาเข้าไปได้ไง” มารีอาสวนทันควัน “อ้าวว ก็ฉันได้บัตรสมาชิก มาจากอีตาเจมส์ เจ้าของโรงงานที่ตามจีบฉันอยู่ไง แค่ไปคุยงานครั้งสองครั้ง เล่นตามจีบไม่เลิก คงอยากให้ฉันเป็นเมียน้อยมั้ง น่ารำคาญตื้ออยู่ได้ ทำเอาเมื่อคืนไม่สนุกเลย” แอนนี่ทำหน้าเซ็งเมื่อคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน แอนนี่ แม้บุคลิกภายนอก เธออาจจะเป็นคนดูสวยเปรี้ยว เหมือนจะเป็นคนง่ายๆ แต่ไม่ใช่ว่า ใครต่อใครจะได้เธอง่ายอย่างที่คิด เธอเป็น AE มือโปร คำพูดลูกล่อลูกชน และมีลูกเล่นพอตัวที่จะเอาตัวรอดได้ทุกครั้ง “เอาเหอะแกทำงานต่อไปเถอะ ไม่กวนละ ฉันไปทำงานก่อนแล้วกัน แค่จะเอากระเป๋ากับโทรศัพท์มาให้ คุยนานเลย” “เออ ไว้เจอกัน ทำงานก่อน” มารีอายิ้ม ก่อนก้มหน้าก้มตาทำงาน ———————-
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD