ตอนที่ 8 ประธานขี้เก๊ก
ลี่คุนเดินสีหน้าเคร่งขรึม ลงจากลิฟต์มายังลานจอดของผู้บริหาร เขาขึ้นมานั่งในรถทีี่มีคนขับรถเปิดประตูรอรับไว้เตรียมพร้อม ก่อนจะนึกฮึดฮัดโมโหอยู่ในใจ
ฮึ่ม!! ประธานขี้เก๊กงั้นหรอ!! ผู้หญิงคนนั้นช่างกล้าที่บังอาจมานินทาเขาแบบนี้!!
ไม่ทันที่ความสบอารมณ์จากการที่โดนพนักงานกล่าวถึงในทางไม่ดีจะหายไป เสียงโทรศัพท์จาก วศิน เพื่อนรักโทรเข้ามา ทำให้ลี่คุนกดรับสายอย่างอารมณ์ไม่ดีนัก
“มีอะไร!”
เสียงเคร่งขรึมจากปลายสาย ทำให้วศินชะงักไปชั่วครู่ด้วยความแปลกใจ
“เป็นไงอารมณ์ไม่ดีเหรอ ไอเคน เสียงเข้มใส่กูเชียว”
“เคนไหนของมึง กู ชื่อ คุน”
“เออๆ กูรู้ แต่กูเรียกมึง ว่า เคนมาจะ 5-6 ปีแล้วไม่ชินไงวะ”
“เออ ไม่ชิน ไม่ใช่ชื่อพ่อแม่ที่กูตั้งให้ ยังไงกูก็ไม่ชิน”
“เรื่องมากชิบ เห้อ เออช่างมัน เข้าเรื่องดีกว่า” เสียงวศินอารมณ์ดีขึ้นอย่างคนอยากรู้อยากเห็น “เออนี่ ไอเคน ไหนเล่าสิ เมื่อคืน มันเป็นไงมาไงวะ เห็นว่าคนของกู ที่เอาเสื้อผ้าไปให้มึงกับผู้หญิงคนนั้น บอกกูว่าไปยืนรอมึงตั้งแต่ตีสามกว่า ยันเช้า กว่ามึงจะเห็นข้อความจากไลน์กูแล้วเปิดประตูออกไปเอาชุด”
ลี่คุน พอเจอคำถามตรงๆ แบบนี้จากวศิน ทำให้เขาคลี่ยิ้มออกมา เมื่อนึกถึงเหตุการณ์แห่งความสุขเมื่อคืน จนแทบจะลืมเรื่องที่อารมณ์เสียก่อนหน้านี้ที่เกิดขึ้น
“เออ ก็แบบนั้นแหละ” ลี่คุนทำเสียงอ้อมแอ้มตอบ
“แบบนั้นแบบไหน อย่าบอกนะว่า…มึง!!” วศินตาโตไม่เชื่อหูตัวเอง ที่สำคัญไม่เชื่อว่าคนอย่างลี่คุน จะยอมมี One nintg stand กับผู้หญิงแปลกหน้า แต่จะว่าไป ผู้หญิงคนนั้นก็สวยมากจริงๆ แหละ ไม่แปลกที่คนอย่างลี่คุนจะหลงเสน่ห์
“เออ..ถามมาก ก็ตามที่มึงคิดนั่นแหละ” ลี่คุนตอบเลี่ยงๆ แต่น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสุข
“สุดยอด มึงแน่มาก เออ..แล้วเธอเป็นใครวะ ชื่ออะไร ทำงานที่ไหน ลูกเต้าเหล่าใคร” วศินยังไม่เลิกซักไซ้
“ไม่รู้”
“ห๊ะ มึงว่าอะไรนะ”
“ไม่รู้ ไม่รู้โว้ย กูตื่นมาเข้าไปอาบน้ำ พอออกมาเธอก็หายไปไหนไม่รู้แล้ว เธอชื่ออะไร เป็นใคร ยังไง กูก็ไม่รู้” ลี่คุนถอนหายใจ
“อ่าวววว ยังไงของมึงเนี่ยะ”
“มึงไม่ต้องอ้าว เดี๋ยวกูก็ต้องได้เจอเธออีก เพราะเมื่อคืนเธอลืมถอดแหวนวางไว้บนที่นอน กูดูแล้วน่าจะเป็นแหวนเพชรซะด้วย ราคาดูแล้วค่อนข้างสูง กูว่ายังไงเธอก็คงต้องตามหามัน”
“แกแน่ใจ”
“แน่ใจ เดี๋ยวกูจะลองไปที่ผับนั่นอีก เผื่อจะเจอเธออีกครั้งแล้วเอาแหวนไปคืนเธอ”
“แล้วมึงแน่ใจเหรอว่าจะเจอเธอที่นั่น”
“ไม่รู้ว่ะ แต่คิดว่าเธอคงต้องมาถามหาแหวนวงนี้กับคนที่นั่นแหละ”
“แล้วมึงไม่ถามเพื่อนของผู้หญิงคนนั้น คนที่ใส่ชุดแดงๆ ที่มากับเธอล่ะ เห็นมึงบอกเป็นพนักงานในบริษัทมึงไม่ใช่เหรอ”
“ก็ว่าจะถาม แต่..ดันไปเจอพนักงานกำลังพูดถึงกูในทางไม่ค่อยดีอยู่ เลยหมดอารมณ์ที่จะถาม”
“หึ หึ หึ มึงโดนพนักงานนินทา” วศินอดไม่ได้ที่จะขำเล็กๆ
“เออ มีการพูดถึงกู ว่ากูทั้งเรื่องมาก ทั้งขี้เก๊ก”
ลี่คุนอารมณ์เสียอีกรอบเมื่อนึกตอนโดนนินทาระยะเผาขน แทบอยากจะตวาดกลับ ยิ่งนึกที่เธอบอกว่าเขาเอาแต่เหม่อไม่ฟังเธอรายงาน เพราะมันทำให้เขาเสียหน้ามาก เพราะเขาดันเป็นอย่างนั้น อย่างที่เธอพูดจริงๆ
“ก็จริง พนักงานของมึงรู้จริง เพราะมึงเรื่องมากจริงๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“พอเลยหยุดหัวเราะ เลิกพูดเสียอารมณ์ ง่วงด้วยจะรีบไปนอน”
“เชี้ยยย ประธานลี่คุน บอกว่าง่วง ปกติมึงอึดจะตายไม่ใช่เหรอ ขนาดสอบอ่านหนังสือทั้งคืนมึงอยู่ได้ยันเช้า ดูท่าว่าเมื่อคืนมึงคงใช่พลังงานไปเยอะจริงๆ”
“พูดมากน่า”
“งั้นพรุ่งนี้ มึงก็เรียกพนักงานคนสวยของมึงมาถาม ว่าเธอคนนั้น เป็นใคร”
“ไม่อะ ไม่ถามล่ะ กูเปลี่ยนใจ พอนึกไปนึกมา กูไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับพนักงานบริษัท เกิดรู้ว่ากูสนใจเพื่อนของเธอ เดี๋ยวจะมางี่เง่าอะไรกับกูอีก”
“ยังไงวะ”
“ก็แบบมาล้อ มาแซวอะไรแบบนี้ กูไม่ชอบ เสียการปกครอง สู้กูไปทำความรู้จักกับผู้หญิงของกูข้างนอกด้วยตัวกูเอง สองต่อสองดีกว่า สบายใจ”
“เห๊อะ ผู้หญิงของมึง เนี่ยนะ พูดมาได้ เค้าเออออห่อหมกกับมึงแล้วเหรอ ไม่ใช่ว่าเขามีแฟนแล้วล่ะ”
“ไม่หรอก กูคิดว่ายัง” ลี่คุนยิ้ม แค่คิดถึงตอนที่ได้รู้ว่าเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ ยิ่งมั่นใจ ว่าเธอคงไม่มีใครแน่ๆ ยังไงเสียเขาต้องได้เจอเธออีกสักครั้ง
“เออ แล้วกูจะเอาใจช่วย”
“ไม่ใช่แค่เอาใจช่วย มึงต้องช่วยกู ถ้ากูไปเจอสองคนนั้นอีก มึงมีหน้าที่แยกคนที่เป็นพนักงานของกูให้ออกไป กูมาคิดๆ แล้วยังไม่อยากให้ใครรู้ ว่ากูจะจีบใคร จนกว่ากูจะมั่นใจ”
“เออ เออๆ งั้นกูไม่กวนมึงล่ะแค่นี้แหละ”
“เออ แค่นี้”
ลี่คุนวางสายจากวศิน ก่อนจะหยิบแหวนเพชรวงนั้นออกมาจากกระเป๋าอกเสื้อ เขาหมุนแหวนวงเล็กไปมาอยู่ที่นิ้ว เพ่งพินิจพิจารณาด้วยรอยยิ้ม
นึกถึงตอนที่สองมือประสานกัน มือที่นุ่มเล็กเรียวยาวนั่น ..ลี่คุนอยากจับมือนั้นไว้อีกสักครั้ง ยิ่งเสียงครางหวานของเธอเมื่อคืน ทำให้เขาหัวใจสั่นไหวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
~อยากเจอเธออีก นกหงส์หยกที่น่ารักของเขา~
——————-
ฮะ ฮะ ฮัดชิ้วววววว!!!
มารีอาจามลั่น ก่อนจะหยิบทิชชู่ขึ้นมาเช็ดจมูกและปาก
-ใครนินทาเนี่ย อย่าบอกนะว่าไอประธานขี้เก๊กบ่นเรื่องที่เธอนินทาเขาอยู่แน่ๆ -
เธอนึกในใจ ก่อนจะเข้ามาบ้านด้วยความเหนื่อยอ่อน พอพ้นประตูเข้ามาได้ แทบจะทิ้งตัวนอนลงบนโซฟาด้วยความง่วง ก่อนจะเห็นสายจากอนิรุตกระหน่ำโทรมาหาเธอสามสี่สาย
~น่ารำคาญชะมัด~ มารีอาเบ้ปาก ก่อนกดตัดสายแล้วรีบปิดเครื่องทันที ในตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์จะกดรับสายจากเขาเลยจริงๆ
นึกถึงตอนที่เขานอนกับผู้หญิงคนอื่น นอกใจเธอทั้งๆ ที่เธอเป็นคู่หมั้น นึกถึงคำดูถูกที่เขาเอ่ยถึงตอนอยู่กับผู้หญิงคนนั้น เธอได้แต่รู้สึกเจ็บใจอยู่ลึกๆ แต่..แปลกที่เธอไม่ได้เสียใจหรือฟูมฟายอะไรอย่างที่ควรจะเป็น หรือเป็นเพราะเธอเองก็ตอบไม่ได้ว่า จริงๆ แล้วเธอรักเขาหรือเปล่า
สุดท้าย..มารีอาก็อดคิดถึงเรื่องเมื่อคืนไม่ได้ ค่ำคืนที่เร่าร้อนกับชายแปลกหน้าคนนั้น มารีอารีบส่ายหัว เมื่อคิดไปถึงที่เรื่องน่าอาย
..เพราะความรู้สึกที่ยังหลงเหลืออยู่คือเธอเต็มใจและยินยอมพร้อมกายให้กับชายคนนั้น
-บ้าที่สุด มารีอา ทำไปได้ยังไง-
-แล้วจะทำยังไงกับ อนิรุต เธอเสียความบริสุทธิ์ไปแล้วด้วย-
-เห้อ ยังไงเสียเรื่องของอนิรุตกับเธอ คงไม่มีวันเป็นไปได้อีกแล้ว เพราะงั้นควรจะบอกถอนหมั้นให้เป็นเรื่องเป็นราว แค่..เอาแหวนหมั้นไปคืนซะก็จบ~
~ใช่..เอาแหวนคืน แล้วก็จบ!~
แต่..!!!
~วะ แหวน แหวนล่ะ~
มารีอาลุกขึ้นนั่งก่อนเอายกมือที่เคยมีแหวนหมั้นสวมอยู่ที่นิ้ว ขี้นมามอง..
“กรี๊ดดดดดดดดด แหวนหาย”
“หายไปไหน ถอดไว้ไหนกันนะ”
มารีอารื้อกระเป๋าขึ้นมาเทบนโต๊ะ ก่อนจะรีบใช้มือรื้อหา เมื่อไม่พบจึงวิ่งไปหาตามห้องน้ำทุกที่ที่คิดว่าเธออาจจะลืมถอดไว้แต่ก็ไม่พบ จึงรีบขึ้นไปค้นหาตามเตียงนอนและใต้หมอนที่ชอบนอนถอดไว้เป็นประจำ
ด้วยเพราะเป็นแหวนมรดกตกทอดที่คุณแม่อนิรุตให้มา มันจึงค่อนข้างจะหลวมกว่านิ้วของเธอนิดหน่อย บางครั้งเธอรู้สึกรำคาญ จึงมักจะถอดวางไว้ที่ใต้หมอนเสมอ
เมื่อแน่ใจว่าไม่พบแน่แล้ว มารีอาถึงกับทรุดตัวลงนั่งกับเตียง ก่อนจะพยายามนึกทบทวนไล่ลำดับ ถึงความน่าจะเป็นที่เธออาจจะถอนแหวนเอาไว้
“ใช่แล้ว เมื่อคืน ต้องเป็นเมื่อคืนแน่ๆ ถ้าลืมถอดแหวนไว้ที่โรงแรมนั่นเมื่อคืนล่ะ ผู้ชายคนนั้นอาบน้ำออกมาแต่งตัวก็น่าจะเห็น”
แต่จะทำยังไงได้ล่ะ แค่เลขห้องของโรงแรมเธอก็ไม่ทันสังเกต แถมไอหมอนั่นเป็นใครเธอก็ไม่รู้ จำได้แต่ว่าโรงแรมอะไร แต่ครั้นจะไปถามที่ฟร้อนต์ขอดูกล้องวงจรปิด ใครเขาจะให้เธอดู ถ้าเกิดดูแล้วเป็นเธอที่สมยอมเต็มใจมาล่ะ ไม่น่าอายแย่หรือ
จะปรึกษาแอนนี่ ก็รู้สึกอายกับเรื่องที่เกิดขึ้น
มารีอากุมขมับ ค่อยๆ ล้มตัวลงนอนอย่างหมดแรงเพราะคิดอะไรไม่ออก จนค่อยๆ เคลิ้มหลับไปในทันที
——————————