บทที่10อิงแอบแนบชิด

1811 Words
มู่หรงเจี่ยนรู้สึกตัวขึ้นมายามเหม่า เขายังเหลือความอ่อนเพลียเล็กน้อย ทุกวันในยามเหม่ามู่หรงเจี่ยนต้องตื่นไปฝึกยุทธ์ เพียงแต่วันนี้ย่อมแตกต่างออกไปเพราะข้างกายเขามีสาวงามในอ้อมกอด เมื่อคืนหลี่ซวงเจี้ยงนอนหันหลังให้เขาไม่แม้แต่หันหน้ามา ทว่ายามนี้นางกลับนอนซุกตัวอยู่ในอกเขาราวกับลูกแมวน้อยหาความอบอุ่น มู่หรงเจี่ยนใช้นิ้วมือยาวไล้ไปตามกรอบหน้านางอย่างอ่อนโยนจากนั้นก็ค่อยลูบไล้องคาพยพบนใบหน้างามอย่างหลงใหลจ้องหน้านางอย่างไม่รู้เบื่อ ลูบซ้ำไปมาราวหนึ่งเค่อเขาก็ค่อย ๆ จุมพิตเบา ๆ ที่หน้าผากนูนงามไล้ลงมายังเปลือกตาทั้งสองข้างใช้จมูกของตนถูไถไปมากับจมูกโด่งเชิดรั้นของนางอย่างหยอกล้อ มู่หรงเจี่ยนแค่นเสียงฮึอย่างขัดใจแมวน้อยขี้เซาตัวนี้โดนเขาก่อกวนถึงขนาดนี้ยังไม่ตื่นอีก มู่หรงเจี่ยนหลุบตามองริมปากอิ่มแดงที่ยามนี้เผยอขึ้นเล็กน้อยคิดถึงยามนางส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว เอ่ยวาจาฉอเลาะหรือยามนางใช้มันเพื่อโต้เถียงกับเขาอย่างน่าชัง คิดได้ดังนั้นมู่หรงเจี่ยนก็ใช้นิ้วตนบีบปากเล็ก ๆ ราวกลีบดอกท้อนี้อย่างเพลิดเพลินเพราะยิ่งเขาออกแรงบีบเท่าไรมันก็ยิ่งแดงก่ำมากขึ้นเท่านั้น “อือ” หลี่ซวงเจี้ยงที่ยังคงนอนหลับอยู่นั้นเริ่มมุ่นคิ้วอย่างไม่ชอบใจครางฮึดฮัดในลำคออย่างหงุดหงิด มู่หรงเจี่ยนกลับหลุดหัวเราะออกมาแมวน้อยตัวนี้เริ่มรำคาญเขาเสียแล้ว แต่เมื่อได้เห็นนางรำคาญเขากลับยิ่งชอบใจใช้นิ้วของตนบดขยี้ปากเล็ก ๆ นั้นซ้ำไปมาอย่างแรง หากแต่แม่นางน้อยผู้นี้ทำในสิ่งที่มู่หรงเจี่ยนเองก็คาดไม่ถึง หลี่ซวงเจี้ยงถึงกับกล้าอ้าปากงับนิ้วเขา หนำซ้ำนางกล้ายังดูดเลียนิ้วเขาอีกด้วย! ลิ้นชมพูอ่อนนุ่มราวดอกอิงฮวาถูกแลบออกมาดูดเลียนิ้วเขา ส่วนตัวนางกำลังหลับตาพริ้มไล้เลียมันราวกับกำลังเลียน้ำตาลปั้นอย่างไรอย่างนั้น เสียงดูดเลียที่ดังข้างหูเหล่านั้นทำให้มู่หรงเจี่ยนคิดไปทางที่ดีไม่ได้เลย คล้ายกับขนกายลุกไปทั่วร่างแม้กระทั่งตรงส่วนนั้นของร่างกายเริ่มแข็งเกร็งยิ่งกว่าบุรุษทั่วไปที่เพิ่งตื่นนอนในยามเช้าเสียอีก ยามนี้ลำคอของเขาแห้งผากส่งสายตาลึกล้ำมองนางมากขึ้นเรื่อย ๆ ปล่อยให้นางดูดเลียนิ้วเขาไม่นาน มู่หรงเจี่ยนก็ถอนนิ้วมือออกจากปากนางก้มลงประกบปากน้อย ๆ นั้นทันที เพียงแต่หลี่ซวงเจี้ยงยังสะลึมสะลือขบฟันดื้อดึงไม่ยอมให้เขา รุกล้ำถึงภายในที่หวานฉ่ำ มู่หรงเจี่ยนจึงทำได้เพียงดูดดึงริมฝีปากของนางแทน เขาขบเม้มมันอยู่อย่างนั้นทั้งยังเพิ่มแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ มือสากใหญ่ฟาดเบา ๆ ไปที่บั้นนางเสียงดังเพียะสองสามที ยามนี้หลี่ซวงเจี้ยงย่อมตื่นเต็มตาแล้วแม้มู่หรงเจี่ยนจะยั้งแรงมือแล้วแต่เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์ย่อมมีแรงมากกว่าคนปกติ อีกทั้งนางยังมีร่างกายบอบบาง หลี่ซวงเจี้ยงเบิกตากว้างด้วยความเจ็บแสบ ทำได้เพียงส่งเสียงอู้อี้ในลำคอเพราะโดนเขาประกบปากเอาไว้ มู่หรงเจี่ยนเห็นนางตื่นแล้วก็ละจากริมฝีปากนาง ส่งเสียงทุ้มต่ำ “อืม..ตื่นแล้วหรือ” เขาหอบหายใจเล็กน้อยแล้วจึงส่งเสียง แหบแห้งต่อ “ช่วยข้าที.. ” ยังไม่ทันที่หลี่ซวงเจี้ยงจะถามว่าให้นางช่วยอะไร เขาก็กุมมือนางไปยังอวัยวะส่วนนั้นที่แข็งเกร็งชี้ตั้งผ่านเนื้อผ้าจนดูน่ากลัว หลี่ซวงเจี้ยงหน้าขึ้นสีแดงก่ำด้วยความอับอาย หากแต่มู่หรง- เจี่ยนหาสนใจไม่ เขาใช้สายตาวิงวอนขอให้ช่วยโดยใช้แท่งยาวผ่านเนื้อผ้าบางถูไถมือเล็กของนางไปมา เห็นหลี่ซวงเจี้ยงคิดจะยกมือหนีเขาก็รีบตรึงมือนางไว้คราวนี้ มู่หรงเจี่ยนไม่ยอมให้นางสัมผัสแท่งกายเพียงภายนอกอีกแล้วรีบปลดกางเกงตัวในจนความเป็นชายของเขาดีดผึ่งขึ้นมา หลี่ซวงเจี้ยงเห็นส่วนนั้นของมู่หรงเจี่ยนแล้วรีบเบือนหน้าหนี นางโอดครวญในใจ อ๋องสุนัขตื่นมาก็หนีไม่พ้นเรื่องใต้สะดือ! มู่หรงเจี่ยนจึงอดทนขบฟันหลอกล่อนาง “หากเจ้าช่วยข้า.. ข้าจะไม่สอดใส่เข้าไป..” หลี่ซวงเจี้ยงได้ยินดังนั้นจึงฝืนหันหน้ากลับมาอีกครั้ง นางใช้มือสั่นระริกลูบมันอย่างสะเปะสะปะ เริ่มจากค่อย ๆ ออกแรงขยับมือขึ้นลงช้า ๆ ก็ได้ยินเสียงครางต่ำจากเขาแล้ว บุรุษรูปร่างสูงใหญ่เช่นมู่หรงเจี่ยนย่อมมีความเป็นชายเช่นเดียวกับเรือนร่างของเขา..นั่นมันช่างใหญ่โตจนมือเล็ก ๆ ของนางแทบกุมไม่มิด “อือ.. อย่างนั้น..” จังหวะการชักรูดไม่ช้าไม่เร็วของนางทำมู่หรงเจี่ยนต้องสูดปากครางอย่างพึงพอใจ เพราะโดนคนที่พึงใจปรนเปรอแถมยังได้สบตากลมโตของนางไปพร้อมกันเขายิ่งเสียวสะท้านมากกว่าเดิม หลี่ซวงเจี้ยงนางเป็นคนหน้าบางนักยิ่งเห็นเขามองราวกลับจะกลืนนางลงท้องให้ได้แบบนี้นางก็ยิ่งกระดากอาย ด้วยความอยากรีบทำเรื่องอัปยศให้รีบแล้วเสร็จไป จึงชักรูดแก่นกายชายหนุ่มเร็วแรงกว่าเดิม มู่หรงเจี่ยนเสียวซ่านนัก เขายิ่งเกร็งบั้นเอวหนักขึ้นไปอีกทั่วทั้งท้องน้อยของตนร้อนระอุคิดแต่ว่านางมารน้อยแกล้งเขาแล้ว “เด็กดี อือ..ออกมือแรงอีกหน่อย... อืม แรงอีก” มู่หรงเจี่ยน ยามนี้ลมหายใจกระชั้นชิดเขาหอบประดุจวัว “อา..อย่างนั้น” หลี่ซวงเจี้ยงแทบทนฟังเสียงครางกระเส่าลามกของมู่หรงเจี่ยนไม่ได้รีบออกมือน้อยของตนรูดรั้งขึ้นลงอย่างแรงและเร็วอยู่นาน จนในที่สุดเขาก็เกร็งกระตุกปลดปล่อยธารรักออกมาล้นมือนางพร้อมครางต่ำอย่างสุขสม มือของหลี่ซวงเจี้ยงตอนนี้เหนียวเหนอะหนะไปหมดหนำซ้ำกว่าเขาจะปลดปล่อยก็ทำนางปวดข้อมือไปหมดแล้ว หลี่ซวงเจี้ยงน้ำตาคลอมองอวัยวะส่วนนั้นของเขาที่แม้จะปลดปล่อยออกมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่มันยังคงชี้ตั้งอยู่อย่างหวาดผวา มู่หรงเจี่ยนดึงนางมานอนตะแคงกอดหอบต่ำถูไถใบหน้าตนไปกับซอกคอขาวค่อย ๆ เลื่อนขึ้นขบเลียติ่งหูน้อย ๆ นาง “ซวงเจี้ยง..ช่วยข้าอีกคราเถิดนะ” พูดแล้วเขาก็กางขาของนางออกเล็กน้อยสอดลำรักไว้ที่ช่องว่างระหว่างขาแล้วกระซิบบอกนาง “อืม..เด็กดีไม่ต้องกลัวหนีบมันไว้แน่น ๆ” นางหน้าเห่อร้อนจะยกขาหนีก็ไม่ได้เพราะโดนเขากดไว้ไม่ให้ถอยห่าง อีกครั้งคนสารเลวผู้นี้ไม่ยอมให้นางหลับตา ยังบังคับให้นางมองขาถูไถท่อนลำกับหว่างขานาง ไหนจะเสียงเขาครางต่ำแหบแห้งดังคลอมาตามจังหวะที่ถูไถอีก ครั้งแล้วครั้งเล่ากว่ามู่หรงเจี่ยนจะเสร็จสมขาเนียนนุ่มดั่งเต้าหู้ของหลี่ซวงเจี้ยงก็โดนส่วนนั้นของเขาเสียดสีจนแดงทั้งยังถลอกปลอกเปิดทั้งยังเหนียวเหนอะหนะจากธารรักไปหมด หลี่ซวงเจี้ยงได้แต่โอดครวญ ตัวสารเลวมู่หรงเจี่ยน แม้กระทั่งมือทั้งสองข้างของนางกับหว่างขายังโดนเขาช่วงชิงความบริสุทธิ์ไป... หลี่ซวงเจี้ยงสะอื้นไห้ออกมาเพราะเจ็บแสบและอับอาย นางทุบอกเขาด้วยความโกรธเคืองไม่คิดสำรวมอะไรอีกแล้ว “ฮือ..คนเลวทำข้าปวดข้อมือมาก..แถมขาข้าก็ถลอกไปหมดแล้ว” มู่หรงเจี่ยนมองท่าทางร้องไห้งอแงเพราะความโกรธราวกับเด็กของนางทั้งก่นด่าเขาว่าคนเลวอย่างเอ็นดู มู่หรงเจี่ยนครุ่นคิดในใจ 'ตื่นมาก็คิดอยากเคี่ยวกรำนางแล้ว หรือตัวข้าเป็นคนสารเลวจริง ๆ ...' เขาตบหลังนางเบา ๆ คล้ายกับกำลังปลอบประโลมสักพักจึงเรียกคนยกน้ำร้อนเข้ามา มู่หรงเจี่ยนประคองร่างอ่อนปวกเปียกของหลี่ซวงเจี้ยงเช็ดเนื้อเช็ดตัวอย่างอ่อนโยน ทั้งยังนวดมือขวาของนางเพื่อคลายปวดแล้วจึงก้มหน้าทาขี้ผึ้งตรงหว่างขาให้นาง มู่หรงเจี่ยนก้มสำรวจดูก็พบว่าผิวนางช่างบอบบางนักแถมถลอกแดงอย่างที่นางว่าจริงด้วยคิดในใจครั้งหลังตนต้องพยายามยั้งแรงกว่านี้แล้ว หลังจากเช้าวันนั้นที่ได้ทำเรื่องน่าอับอายแล้ว ทั้งสองราวสนิทสนมขึ้นมามากกว่าเดิม เป็นเวลาเกือบอาทิตย์แล้วหลี่ซวงเจี้ยง อยู่ดูแลเขา หลี่ซวงเจี้ยงปรนนิบัติเขากินข้าวกินยาอย่างใจเย็นอ่อนโยน มีแต่ยามที่ต้องกินยาที่มู่หรงเจี่ยนจะอิดออดไม่ยอมง่าย ๆ ต้องลวนลามหาเศษหาเลยลอบกินเต้าหู้จากนางก่อนทุกครั้งจึงจะยอมกินยาได้ ทุกครั้งนางได้แต่ถลึงตาดุเขา แต่มู่หรงเจี่ยนย่อมไม่กลัวนาง เขายักคิ้วอมยิ้มน้อย ๆ มองหลี่ซวงเจี้ยงไม่นึกเกรงกลัวแต่อย่างใด ราวกับมองแมวน้อยขู่ ฟ่อ ฟ่อ เท่านั้น เมื่อได้คนงามมาปรนนิบัติ มู่หรงเจี่ยนย่อมหายดีแล้ว เขาจำได้ถึงเรื่องบางอย่างที่หลี่ซวงเจี้ยงเคยสัญญาไว้ว่าจะทำตอนเขาหายป่วย ยามนี้นางคิดกลับคำทำเป็นแสร้งเลอะเลือนไปเสียแล้ว มู่หรงเจี่ยนยอมรับว่าหงุดหงิดอยู่บ้าง แต่เพียงนึกถึงวันแรกที่เข้าหอกับนาง เขาไม่ได้ยั้งมือเลยสักนิดนางย่อมเข็ดขยาดกลัวจับใจ อีกทั้งยามนางปรนนิบัติดูแล เขาก็ได้นัวเนียกับนางจนพอใจ แม้จะไปไม่สุดดังหวัง แต่ก็ย่อมได้ปลดปล่อยสุขสมอารมณ์หมาย จึงไม่นับว่าเขานั้นขาดทุนอันใด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD