เรื่องไม่คาดฝัน

1080 Words
“ลืมตาขึ้นมาฟัง สิ่งที่แม่จะพูดมันสำคัญนะน้องเนตร” น้ำเสียงที่จริงจังทำให้ฉันไม่อาจดื้อดึงอีกต่อไป จำต้องฝืนลืมตาขึ้นมาอย่างขะมุกขะมัว “แม่มีเรื่องอะไรรีบ ๆ พูด เนตรจะได้นอนต่อ” คนฟังถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ เอื้อมกับพฤติกรรมการนอนของฉันเต็มที แต่ประโยคถัดมาที่แม่พูดทำประสาทสัมผัสทุกส่วนตื่นตัวทันที “แม่จะให้เนตรแต่งงาน” “หะ! แม่ว่าอะไรนะ?!” ฉันถามทวนอีกครั้งเผื่อหัวฝาด หรือมโนไปเองเพราะยังไม่ตื่นเต็มที่... “แม่จะให้เนตรแต่งงาน” คราวนี้แม่พูดช้า ๆ ชัด ๆ เน้นย้ำทุกคน จนฉันเข้าใจแจ่มแจ้ง เดี๋ยว ๆ อยู่ดี ๆ จะให้ลูกสาวแต่งงานกะทันหันเนี่ยนะ มันไม่เกินไปหน่อยหรือคะคุณนายโอบจิต ! “อะไรยังไงเนี่ยแม่ อธิบายมาเลย” ฉันมองผู้หญิงที่ขี้บ่นที่สุดในโลกด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เพราะพ่อเสียชีวิตตั้งแต่เด็ก แม่เลยเลี้ยงฉันมาด้วยตัวคนเดียว อย่างดีท่านก็แค่บ่นว่าเวลาเด็กดื้ออย่างฉันทำตัวมีปัญหา แต่ก็ไม่เคยบังคับ ท่านปล่อยให้ฉันคิดและตัดสินใจเอง ผิดบ้างถูกบ้างก็คอยนำทางกันไป แต่วันนี้มาบอกให้ฉันแต่งงาน...มันไม่ปกติเอาเสียเลย “น้องเนตรไปเที่ยวกลับดึก ๆ ดื่นทุกคืน ทำตัวสำมะเลเทเมา แม่กลัวสักวันเราจะท้องไม่มีพ่อ” อย่างที่แม่บอกนั่นแหละ ฉันเป็นพวกติดเที่ยว แต่ก็ไม่มีคืนไหนเลยที่ไม่กลับบ้าน! อีกอย่างเรื่องทงเรื่องท้องเนี่ย ฉันรู้วิธีป้องกันตัวเป็นอย่างดี โอกาสที่จะเกิดเรื่องแบบนั้นแทบจะเป็นศูนย์ ฉันพูดเรื่องนี้ไปเป็นร้อย ๆ ครั้งละ แม่ก็ยอมไม่เข้าใจ “แม่เลยจับลูกใส่ตะกร้าล้างน้ำ ว่างั้น?” เมื่อได้ยินประโยคประชดประชัน คุณนายโอบจิตก็มองดุฉันทางสายตาทันที คนแถวนี้เขารู้กันทั่วแหละ ว่าลูกสาวบ้านนี้เสเพลขนาดไหน ฉันเที่ยวแทบทุกคืนและมีไม่กี่คืนเท่านั้นที่ไม่เมา มันก็เหมือนกับการติดสมาร์ทโฟน บางคนไม่ได้เล่นแค่ไม่กี่ชั่วโมงแทบขาดใจ ฉันก็เหมือนกัน...ถ้าไม่ได้เที่ยวคงแดดิ้นตายแน่ ๆ ชีวิตคงเหี่ยวเฉาเหมือนต้นไม้ที่ขาดน้ำใกล้ตายมะรอมมะร่อ “จำน้ารัตน์ได้ไหม?” จำได้สิ น้ารัตน์เป็นเพื่อนสนิทแม่ที่คบกันมาตั้งแต่ยังเป็นสาว เมื่อก่อนน้าก็มาที่บ้านบ่อยนะ แต่ระยะหลัง ๆ เห็นว่าสุขภาพไม่ค่อยดีเลยไม่ค่อยออกจากบ้าน “ทำไมเหรอแม่” “วันนี้น้ารัตน์กับลูกชายจะมาทานข้าวเย็นที่บ้านเรา แล้วน้องเนตรก็ต้องไปอาบน้ำเตรียมตัวใส่ชุดเรียบร้อย ๆ มาคอยต้อนรับด้วย” แม้เน้นคำว่า ‘เรียบร้อย’ มาเป็นพิเศษ ก็ตอนนี้สไตล์การแต่งตัวของฉันมันตรงข้ามกับคำนั้นลิบลับ อย่างเช่นชุดนอนที่ใส่อยู่เนี่ย เป็นเสื้อสายเดี่ยวผ้าซาติสเนื้อบาง กับกางเกงขาสั้นมาก ๆ กึ่งแพนตี้เลยด้วยซ้ำ แล้วในตู้เสื้อผ้าตอนนี้ก็มีแต่แนวเซ็กซี่ทั้งนั้นเลย จะเอาเรียบร้อยได้ที่ไหนคุณนายแม่! แต่เดี๋ยวก่อนนะ นั่นไม่ใช่ประเด็นที่ควรกังวล การมาของน้ารัตน์ต่างหากที่สำคัญกว่า “น้าไม่ใช่แค่มาทานข้าวเฉย ๆ ใช่ไหมแม่?” คุณนายหันมายิ้มเมื่อได้ยินคำถาม กะไว้แล้ว ห่างหายไปหลายปีอยู่ดี ๆจะมาทานข้าว คงไม่ได้แค่มาเยี่ยมแน่ ๆ “ฉลาดมากลูกรัก น้าจะมาคุยเรื่องงานแต่งระหว่างลูกกับพ่อสิงห์” ลมหายใจขาดห้วงไปทันทีเมื่อได้ยินชื่อลูกชายของน้ารัตน์ เมื่อก่อนเขามาที่นี่บ่อยนะ ก็มาพร้อมกับแม่เขานั่นแหละ แต่มันก็แค่เรื่องในอดีต..... “ทำไมเร็วนักล่ะแม่ เนตรยังไม่ทันได้เตรียมตัวเลย” อยู่ดี ๆ ก็มาบอกว่าจะให้แต่งงาน อยู่ดี ๆ ก็มานัดทานข้าว แล้วมาบอกเอาตอนนี้ด้วย ! กะไม่ให้เวลาเตรียมใจบ้างเลยเหรอ “เร็วที่ไหนกัน แม่ปล่อยน้องเนตรเลอะเทอะมาหลายปีแล้วนะ” หลายปีที่ไหนกัน ก็แค่สามปีเองที่เริ่มเที่ยว! “เลื่อนไปก่อนได้ไหมแม่ บอกว่าเนตรป่วยก็ได้ อาทิตย์หน้าค่อยมาใหม่” ฉันเข้าไปออดอ้อนแม่ด้วยการเข้าไปซุบในอ้อมกอด คือเวลาโดนดุทีไรใช้ไม้นี้มักได้ผลทุกที แต่ครั้งนี้กลับผิดคาดแฮะ “ไม่ได้ ยิ่งแต่งเท่าไหร่ยิ่งดี จะไม่เลิกเป็นขี้ปากชาวบ้าน” ฉันรู้ว่าแม่อยากให้ใครสักคนมากำราบลูกสาวสุดดื้อให้ทำตัวเรียบร้อย คงคิดว่าหากฉันแต่งงานไปแล้วจะเลิกนิสัยเหลวไหลได้ หึ...แม่คิดผิดแล้วล่ะ “ก็ได้ ๆ เนตรจะไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วก็เตรียมเก็บเสื้อผ้าย้ายไปอยู่บ้านเขาเลยดีไหมแม่” ฉันหยอก ๆ ออกแนวประชดจนแม่หมั่นไส้มองตาเขียวปั๊ด แล้วก็ใช้นิ้วชี้ดันหน้าผากฉันจนเกือบหงายไปด้านหลัง “ไม่ต้องมาพูดมาก รีบ ๆ ไปอาบน้ำ อย่าลืมล่ะ แต่งตัวเรียบร้อย ๆ ด้วย” “ทราบแล้วค่ะ คุณนายแม่” ฉันคลายอ้อมแขนออกเพื่อปล่อยให้แม่ลุกขึ้นเดินออกไปนอกห้อง การแต่งงานสำหรับผู้หญิงถือเป็นเรื่องใหญ่ แต่ไม่ใช่สำหรับฉัน มันก็แค่....แค่การมีใครอีกคนเข้ามาในชีวิต แต่เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเพื่อใครนี่จริงไหม โดยเฉพาะกับการแต่งงานที่เป็นความต้องการของผู้ใหญ่ แน่นอนว่าไม่คัดค้านหรอก แม่ว่าไงก็ว่าตามกัน เพราะฉันมีวิธีจัดการกับเรื่องนี้แล้ว เอาล่ะ....เริ่มปฏิบัติการกลายร่างเป็นสาวใส! ฉันเดินไปหยุดยืนส่องสรีระแสนสวยที่หน้ากระจก ยกสองมือขึ้นขยุ้มผมที่ดัดปลายอ่อน ๆ ขึ้น อืม..สีชมพูพลาสเทลแซมม่วงอ่อนที่ปลายผม ฉันว่าดูเรียบร้อยน่ารักดีนะ แต่คุณน้าคงไม่คิดงั้น เลยต้องเปลี่ยนสีสักหน่อย ฉันลดมือลงข้างหนึ่งเอื้อมเปิดลิ้นชักเพื่อเลือกแว็กซ์เปลี่ยนสีผม ดีที่ซื้อสีน้ำตาลอ่อนติดไว้สองกระปุก จะได้ใช้ก็คราวนี้แหละ!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD